สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 859 แผนของอาชิ่ง!

บทที่ 859 แผนของอาชิ่ง!

บทที่ 859 แผนของอาชิ่ง!

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด กลัวไปก็เปล่าประโยชน์

ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเข้ามายังภูเขาผี พวกเขารู้ดีว่าวันหนึ่งสงครามภายนอกจะต้องแพร่กระจายมาถึงที่นี่

พวกเขาไม่กลัวการทำศึก ถึงตัวตายก็ไม่ยอมก้มหัวให้พวกแคว้นจิ้นเป็นอันขาด!

ซ่างกวานชิ่งและถังเย่ว์ซานจึงเดินทางกลับไปที่หมู่บ้าน

ส่วนกู้เจียวก็กลับไปที่ถ้ำเพื่อไปเฝ้าเซวียนหยวนฉี

เขาปกป้องผู้อื่นมาเกือบตลอดชีวิต และนี่อาจเป็นครั้งแรกที่มีคนมาคอยปกป้องเขาแทน

กู้เจียวนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ เขา มองดูเขาอย่างลึกซึ้ง พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา “พยายามนึกให้ได้นะ เซวียนหยวนฉี”

ถังเย่ว์ซานไม่ได้หลับอีกเลยหลังจากกลับมา เขายืนอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านพร้อมกับคันธนูขนาดใหญ่บนหลังของเขา จ้องมองไปยังทิศทางของป่า

ยามฟ้ารุ่งสาง มีสายสืบวิ่งเข้ามาพร้อมกับรายงาน “กองทัพแคว้นจิ้นออกเดินทางแล้วขอรับ! พวกเขามุ่งหน้าไปทางกุ่ยซาน!”

ซ่างกวานชิ่งถามทันที “มากันเยอะแค่ไหน”

“สองหมื่นนายขอรับ”

คิ้วของซ่างกวานชิ่งขมวดเข้าหากันในทันที

เป็นตัวเลขที่เขาคาดไม่ถึง

ดูท่ากงซุนอวี่จะคิดเยอะน่าดู ถึงได้ส่งกองกำลังสองหมื่นนายมาเพื่อปราบทหารโจรในเขาที่มีจำนวนแค่สามร้อยคน

“ห้ามจุดไฟตอนเช้า แล้วทำตามแผนที่วางไว้” ซ่างกวานชิ่งออกคำสั่ง

“ขอรับ!” จากนั้นสายสืบก็วิ่งกลับเข้าไปในป่า

ถังเย่ว์ซานเดินเข้ามาพร้อมกับถาม “พวกแคว้นจิ้นกำลังมาใช่ไหม”

สีหน้าของซ่างกวานชิ่งไม่สงบเหมือนกับเมื่อคืนนี้

“กองกำลังทหารสองหมื่นนาย” เขาเอ่ย

ถังเย่ว์ซานถลึงตาทันที “ว่าไงนะ สะ… สอง สองหมื่นนายรึ กงซุนอวี่เป็นบ้าไปแล้วหรือ! กับแค่ภูเขาผีถึงกับต้องใช้ทหารสองหมื่นนายเชียวรึ!”

ซ่างกวานชิ่งจึงกล่าว “ปู่ของกงซุนอวี่เคยถูกสังหารที่นี่ คงมีความแค้นกับภูเขาผีเป็นการส่วนตัว และใช่…กงซุนอวี่เป็นบ้าอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ นั่นแหละ”

ถังเย่ว์ซานถามต่อ “มีทางหนีทีไล่ไหม ด้านหลังของหลังเขาเป็นพื้นที่อะไร”

ซ่างกวานชิ่ง “เป็นทะเลสาบสุดลูกหูลูกตา”

ก็แปลว่าไม่มีทางหนีสินะ

“แล้วทิศตะวันออกกับทิศตะวันตกล่ะ” ถังเย่ว์ซานถามต่อ

ซ่างกวานชิ่ง “พ้นเขาไปก็เป็นทะเลสาบเหมือนกัน มีเรือไม่พอด้วยสิ”

“แล้ว…” ถังเย่ว์ซานเริ่มสัมผัสได้ว่าสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก

“อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนน่า ภูเขาผีไม่ได้แย่ขนาดนั้น แม้ว่าเราอาจจะเอาชนะกองทัพสองหมื่นนายของแคว้นจิ้นได้ยากมาก แต่เราจะปลอดภัยหากกองทัพจากวังหลวงมายึดเมืองผู่คืน”

ถังเย่ว์ซานมองอีกฝ่ายด้วยสายตาประหลาดใจอยู่พัดหนึ่ง ก่อนจะตระหนักได้ว่าเขาหมายความเช่นนั้นจริงๆ

เขาลั่นระฆังเมืองถึงสามครั้ง

และไม่นานหลังจากที่ระฆังดังขึ้น ชาวบ้านก็เริ่มทยอยกันออกมาเพื่อเตรียมเดินทาง

ถังเย่ว์ซานตกตะลึงกับภาพที่เห็น “เดี๋ยวนะ เร็วขนาดนี้เลยหรือ”

ซ่างกวานชิ่งพึงพอใจกับปฏิกิริยาของถังเย่ว์ซานเป็นอย่างมาก “ข้าเตรียมการไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

ไม่อย่างนั้นเมื่อคืนพวกชาวบ้านจะอยู่กันถึงดึกๆ ดื่นๆ ด้วยเหตุใด

ทันทีที่กองทัพแคว้นจิ้นเข้าไปในภูเขา เขาก็เปิดแผนฉุกเฉินทันที แม้ว่าจะเร็วกว่าที่คาดไว้สองสามวัน แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคอย่างใด

“ข้าไปข้างหน้านะ” ถังเย่ว์ซานกล่าว

“ไม่ต้องหรอก เจ้ารับหน้าที่ปกป้องชาวบ้านดีกว่า พวกทหารกองหน้าอีกสักพักก็คงแยกย้ายกันแล้ว”

ช่วงกลางวันหาใช่เวลาของภูเขาผีไม่ ในเมื่อเอาชนะไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ควรให้ฝ่ายเราเสียเปรียบไปมากกว่านี้

ถังเย่ว์ซานมองซ่างกวานชิ่งด้วยความประหลาดใจ เด็กคนนี้มีความกล้าหาญและความน่าเชื่อถืออยู่ในตัว เขายังเด็กมาก แต่เขาเป็นคนใจเย็น กล้าหาญ และมีไหวพริบ แต่ไม่ใช่คนหัวรุนแรง

นี่เขาหลอนไปเองหรือไม่นะ

ไยจู่ๆ เขาคิดถึงเหล่าเซียวขึ้นมาเฉยเลยล่ะ

ที่บ่อน้ำโบราณในหมู่บ้าน มีกลไกลับซ่อนอยู่ เมื่อเปิดออก จะเกิดรูที่ผนังบ่อ

ซ่างกวานชิ่งสั่งให้ทหารที่ชำนาญทางเป็นคนนำแถว จากนั้นจึงอพยพชาวบ้านเข้าไปในเส้นทางทีละคน

สิ่งที่ทำให้ถังเย่ว์ซานตกใจก็คือ ชาวบ้านที่นี่มีทั้งคนแก่และเด็กจำนวนมาก ทว่าพวกเขากลับไม่งอแงหรือแสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่นิด

พวกเขาทุกคนล้วนเชื่อฟังและทำตามแผนของซ่างกวานชิ่งเป็นอย่างดี

นี่คือความไว้วางใจอย่างไม่มีเงื่อนไข

ถังเย่ว์ซานอดนึกถึงเซวียนผิงโหวไม่ได้เลย

ดูเผินๆ เขาอาจดูเป็นคนไม่เอาจริงเอาจัง แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน จิตใจและความคิดของผู้คนก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเขา

เมื่อก่อนถังเย่ว์ซานยอมรับว่าเขาเคยเหม็นขี้หน้าเซวียนผิงโหว ส่วนเจ้าเด็กคนนี้ อันที่จริง ยังไม่เคยเห็นหน้าเลยแฮะ…

“ถึงคราวท่านแล้ว จอมพลถัง” ซ่างกวานชิ่งหันมาเอ่ยกับเขา

ถังเย่ว์ซานถึงกับสะดุ้ง

ช้าก่อน! เขาจำได้ว่าเขาไม่เคยแนะนำตัวว่าตัวเองเป็นจอมพลมาก่อนเลยนะ!

…หรือแม่เด็กนั่นเป็นคนพูด

อืม ต้องใช่แน่ๆ

ไม่มีทางที่เด็กคนนี้จะรู้จักเขาหรอก!

แล้วพวกเขาก็เข้าไปในทางเดินบ่อน้ำโบราณ แม้ทางเข้าดูเล็ก แต่ก็ไม่แคบเกินไป ขนาดถังเย่ว์ซานผู้ที่มีร่างอ้วนท้วนยังสามารถคลานเข้าไปข้างในโดยไม่รู้สึกแออัด

และยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ ทางก็ยิ่งกว้างขึ้น

“พวกทหารยังอยู่ข้างหลังรึ” ถังเย่ว์ซานถาม

ซ่างกวานชิ่งที่กำลังย่อตัวเดินอยู่ก็หันมาตอบ “อื้ม พวกเขาจะตามมาทีหลัง”

ถังเย่ว์ซาน “แล้วหลังจากนั้นล่ะ“

ซ่างกวานชิ่ง “หลังจากนั้น ทางเข้านี้ก็จะถูกปิดตาย”

เท่ากับว่าพวกชาวบ้านจะต้องละทิ้งหมู่บ้านแห่งนี้ไป ตราบใดที่ผู้คนยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีความหวังที่จะสร้างบ้านของพวกเขาขึ้นมาใหม่

ไม่รู้ว่าทางนี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ยิ่งเดินทางก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนพวกเขาสามารถเดินตัวตรงๆ ไม่ต้องก้มได้แล้ว

เชิงเทียนบนผนังทางเดินถูกจุดขึ้น แสงไฟส่องสะท้อนไปที่ใบหน้าของทุกคน

ขณะที่ถังเย่ว์ซานกำลังเดินตามเขาไปอย่างไม่เร่งรีบ จู่ๆ ก็เกิดนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงถาม “จะว่าไปแล้ว ในป่าที่มีสงครามไปเมื่อวานก็มีทางลับแบบนี้เหมือนกันใช่ไหม ถ้าเกิดพวกแคว้นจิ้นมาเจอเข้าล่ะ”

ซ่างกวานชิ่งนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจ “ถ้าเป็นเช่นนั้น คงลำบากแน่นอน”

เซี่ยสิงโจวนำกองทัพจำนวนสองหมื่นนายเข้ามาที่ภูเขาผี โดยมีผู้อาวุโสลู่และลูกศิษย์ของเขาอีกสองคนตามมาด้วย

เซี่ยสิงโจวและพรรคพวกเดินทางด้วยม้า ขณะที่ทหารคนอื่นๆ เดินเท้า

ไม่ใช่ว่าพวกเขาเสียดายกำลังทหารม้า แต่เป็นเพราะสภาพภูมิประเทศของภูเขาผีไม่เหมาะที่จะใช้ทหารม้า

“นี่ก็ครึ่งวันแล้ว ตรวจไม่พบอะไรบ้างเลยรึ” เซี่ยสิงโถวถาม “ผู้อาวุโสลู่ ท่านแน่ใจหรือว่าเมื่อวานนี้เรารบกันที่นี่”

ผู้อาวุโสตอบกลับอย่างนิ่งเรียบ “แน่ใจสิ และข้ามั่นใจด้วยว่าในป่าแห่งนี้จะต้องมีกลไกลับอย่างแน่นอน”

“แต่นี่พวกเราก็หากันตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะเจออะไรเลย”

“ท่านนายพลขอรับ!”

ทหารคนหนึ่งที่นอนราบอยู่บนพื้นดินก็ตะโกน “ตรงนี้มีทางลับอยู่ขอรับ!”

เซี่ยสิงโจวจึงรีบควบม้าเข้าไปใกล้ๆ และเห็นว่าทหารคนเมื่อกี้ได้ลงไปในทางลับเป็นที่เรียบร้อน

จากนั้นไม่นาน ทหารคนเดิมก็กลับมาพร้อมกับสภาพสะบักสะบอม พร้อมกับถือโครงกระดูกมือขึ้นมาพลางเอ่ย “มีทางลับที่เชื่อมไปยังหลายๆ แห่งขอรับ พวกมันต้องอยู่ในนี้กันแน่ๆ ขอรับ!”

เซี่ยสิงโจวออกคำสั่งทันที “ส่งพลทหารลงไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”

“ขอรับ!”

พอนึกถึงศึกเมื่อวานนี้ที่ทหารอีกฝ่ายใช้ทางลับนี้ล่อลวงพวกเขาจนสามารถเอาชนะกองทัพห้าร้อยนายของแคว้นจิ้นได้

ในที่สุดพวกเขาได้ค้นพบคำตอบ ทั้งโครงกระดูกที่แตกออกมาจากพื้นดิน ต้นไม้ที่มีเลือดออก และซากศพนก ทั้งหมดล้วนเป็นกลไกที่อยู่ในนี้!

ไอ้พวกเจ้าเล่ห์เพทุบาย!

“ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะสิ้นสุดแล้วสินะ” เซี่ยสิงโจวเอ่ยเบาๆ

แต่ไม่ทันไร หลังจากที่เขาพูดจบไม่นาน ก็มีเสียงระเบิดร้ายแรงดังขึ้นจากใต้พื้น จนพื้นดินเกิดสั่นสะเทือนครู่หนึ่ง และตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน!

เซี่ยสิงโจวเริ่มหน้าเสีย “เกิดอะไรขึ้น! ตอบข้ามาเดี๋ยวนี้!”

คำตอบที่ได้กลับมีแต่เสียงร้องโหยหวน

“ถึงได้บอกว่าคงลำบากน่าดูอย่างไรเล่า” ช่างกวานชิ่งกล่าว “หากกลไกถูกปิดตายลง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจรอดออกไปได้ อีกทั้งยังเป็นการตัดขาดทางเข้าหมู่บ้านไปโดยถาวรอีกด้วย”

“โห” ถังเย่ว์ซานได้แต่อ้าปากค้าง

เป็นเหมือนที่เขาว่ากันจริงๆ

เรียนหนังสือร้อยเล่มก็ไม่เท่ากับออกมาเจอโลกภายนอกจริงๆ ไม่คิดเลยว่าการมาแคว้นเยียนครั้งนี้เขาได้เรียนรู้อะไรไปเยอะเลย

ใช้วิธีนี้รับมือกับสงครามก็ได้ด้วยหรือนี่

ถังเย่ว์ซานมองเด็กหนุ่มด้วยแววตาเลื่อมใส “เจ้าขุดทางเยอะขนาดนั้นได้อย่างไร แถมยังทำกับดักไว้ตั้งมากมายแบบนี้อีก”

ซ่างกวานชิ่งตอบ “ไม่ใช่ฝีมือข้าหรอก อุโมงค์ลับพวกนี้มันอยู่ของมันตั้งนานแล้ว ข้าแค่เข้ามาสำรวจว่าจะใช้งานมันอย่างไรดีก็เท่านั้น”

เขาก็แค่ทำตามตำราของราชาผีก็เท่านั้น!

และแน่นอนว่าเขาไม่มีทางพูดเรื่องนี้ออกไป

หลังจากทหารคนสุดท้ายเข้ามาในทางลับ ปากทางเข้าก็ถูกปิดตายด้วยก้อนหินขนาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย

หลังจากพวกเขาเดินไปได้สักพัก ก็มาถึงถ้ำใต้ดินตามธรรมชาติ

ถ้ำนี้มีขนาดใหญ่ และมีลำธารไหลผ่าน

ชาวบ้านและเหล่าทหารต่างพากันนั่งพัก

ที่นี่มีแหล่งน้ำที่ไม่มีวันหมดและทุกคนก็เตรียมอาหารแห้งไว้เพียงพอ ต่อให้ต้องอยู่ที่นี่ไปอีกหนึ่งเดือนก็ไม่มีปัญหา

หากเขาไม่ได้เห็นมันด้วยตาของเขาเอง ถังเย่ว์ซานก็คงไม่เชื่อว่าจะมีสถานที่มหัศจรรย์เช่นนี้หลงเหลืออยู่

ใครกันนะที่เป็นคนขุดทาง

แล้วทำไปเพื่ออะไร

ถังเย่ว์ซานถามต่อ “พวกทหารแคว้นจิ้นจะหาพวกเราเจอหรือไม่”

“ไม่มีทางหรอก” ซ่างกวานชิ่งอธิบาย “ข้าแอบเอาเรือไปตั้งไว้ที่ทะเลสาบในเขาตงซานแล้ว และทำให้ดูเหมือนว่ามีร่องรอยของการหลบหนี พวกเขาน่าจะคิดว่าพวกเราออกเรือหนีกันไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

“เป็นแบบนี้นี่เอง เจ้าถึงได้สั่งให้ทุกคนห้ามจุดไฟ” ไม่อย่างนั้นพวกแคว้นจิ้นอาจรู้ว่าเมื่อคืนพวกเขายังอยู่ที่หมู่บ้าน และอาจจะยังเดินเรือออกไปได้ไม่ไกล

แต่ถ้าหลบหนีข้ามคืน ก็ไม่น่าแปลกใจถ้าไม่เห็นเรือในทะเลสาบ

แผนของเจ้าตัวน้อยนี้ละเอียดถี่ถ้วนจริงๆ เซวียนผิงโหว ข้าเจอผู้ชายที่ฉลาดแกมโกงเหมือนกับเจ้าแล้ว!

ไว้ข้าจะพาเขากลับไป แล้วให้เขาเป็นลูกบุญธรรมของข้า แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!

ถังเย่ว์ซานถามต่อ “แล้วที่หลังเขา…”

“เจ้าก็เพิ่งไปมานี่ อีกอย่าง ที่ซ่อนของราชาผีอยู่ลึกมาก พวกแคว้นจิ้นหาไม่เจอหรอก” ซ่างกวานชิ่งตอบ

ก็จริงของเขา

แปลว่าตอนนี้พวกเขาต้องรออยู่ที่นี่ไปก่อน

รอให้พวกทหารแคว้นจิ้นยอมถอยทัพ หรือไม่ก็รอทหารจักรวรรดิเข้ามาปราบและขับไล่ให้พวกมันถอยทัพ

ซึ่งอย่างหลังดูท่าจะเป็นไปได้มากกว่า

เหล่าเซียวเอ๋ย ข้าติดอยู่ในภูเขาผี เจ้าต้องรีบมาไล่พวกมันออกไปเร็วๆ นะ

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สามีข้าคือขุนนางใหญ่ ชื่อภาษาอังกฤษ : The Grand Secretary's Pampered Wife ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง(偏方方) ในอนาคตเขาจะได้เป็น 'ขุนนางใหญ่' อย่างนั้น 'เจ้' คนนี้จะประคอง 'สามี' คนนี้ ให้ไปถึงฝั่งฝันนั้นเอง! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม! จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้จียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เชียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ เพราะบุญคุณเชียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ แต่พราะ "ฝันบอกเหตุ' ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนหม่ได้รู้ว่าเขี้ยวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ยทั้งหลายเพื่อประคองเขาชื้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

Options

not work with dark mode
Reset