หลักการที่หนานซ่งยึดถือมาโดยตลอดก็คือ–ถ้าลงมือได้ก็จะไม่ชักช้า
กับน้องสาวตัวเองเธอยอมเสียน้ำลายสั่งสอน แต่กับคนนอก ใช้ฝ่ามือเธอยังขี้เกียจเลย กลัวว่าจะทำให้มือตัวเองเจ็บ
แล้วตอนนี้อารมณ์เธอไม่ดีพอดี แล้วมีคนมาขยี้อีก งั้นก็อย่าโทษที่เธอไม่เกรงใจ
เสียงดนตรีในงานบวกกับเสียงพูดคุยวุ่นวายมาก ตอนแรกจึงไม่ค่อยมีใครสนใจเหตุการณ์ตรงมุมนี้ แล้วดูเหมือนคุณหนูปากพล่อยพวกนี้เหมือนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงพากันกรี๊ดกร๊าดเสียงดังกัน
เพราะเสียงที่ดังเหมือนโทรโข่ง หนานซ่งที่เป็นคนไม่ชอบออกหน้ากลับกลายเป็นจุดเด่นของทั้งงาน สายตารอบด้านจ้องมองมา คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นก็พากับล้อมรอบเข้ามา
ผู้หญิงที่โดนไวน์สาดเต็มหน้า แล้วหัวเกือบได้แผล เป็นคนเดียวที่ไม่กรี๊ดกร๊าด เธออึ้งมาก แล้วกลืนไวน์ที่สาดมาที่ปาก พร้อมพูดติดๆขัดๆ “คุณ คุณเป็นใคร?”
คนที่มางานวันนี้ต้องเป็นคนใหญ่คนโตอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นดาราอย่างน้อยก็ต้องมีชื่อเสียงบ้าง แล้วเธอก็เป็นดาราที่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียง อยู่ในวงการบันเทิงมาสิบกว่าปี ต้องมีความสามารถในการสังเกตอยู่แล้ว
เธอตกใจมาก แต่พอเห็นหนานซ่ง ไม่ว่าจะเป็นชุดออกงานที่สั่งตัดโดยเฉพาะ แล้วก็สร้อยคอมรกตเขียวที่เธอใส่ นั่นเป็นสิ่งที่เธอถ่ายละครทั้งชีวิตก็อาจจะไม่ได้มา เธอจึงดูต่ำต้อยทันที
“แม้แต่ฉันก็ไม่รู้จัก แต่กล้านินทาฉันลับหลัง ฉันจะพูดว่าเธอไม่รู้เลยไม่กลัว หรือว่ากล้าหาญดีล่ะ?”
หนานซ่งเบามือให้แล้ว แก้วแตกกลางหัวเธอ จนเศษแก้วกระจายไปทั่ว แต่เธอกลับไม่ได้แผล
สำหรับผู้หญิง เธอทะนุถนอมอยู่แล้ว
ดาราหญิงกิ๊กก๊อกรีบนึกย้อน จึงคิดได้ว่า “คุณคือคุณหนู……คุณหนูใหญ่ตระกูลหนาน?”
พอพูดชื่อเธอออกมา ผู้คนที่ล้อมรอบอยู่จึงฮือฮากัน สายตาก็จ้องมองมาที่หนานซ่ง แล้วเอาชื่อที่เคยได้ยินบ่อยๆมารวมกับคนตรงหน้า วินาทีนี้เหมือนทุกคนใจตรงกัน……
ที่แท้คนนี้นี่เองที่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหนาน
ดูสวยสง่ากว่าใน……ข่าวลืออีก
เพื่อนสาวของดาราหญิงกิ๊กก๊อก บางคนก็เป็นดาราเนื้อหอมหน้าใหม่ในวงการบันเทิง บางคนก็เป็นผู้ดีที่ไม่ติดอันดับในเมืองหนาน ปกติเจอหนานหยาแล้วพูดคุยกันก็คิดว่าตัวเองรู้เรื่องตระกูลหนานมาไม่น้อย แต่คุณหนูใหญ่ตระกูลหนานหนานซ่ง สำหรับพวกเธอเป็นแค่คนในข่าวลือ
เมื่อก่อนบริษัทตระกูลหนานเป็นบริษัทใหญ่มากในเมืองหนาน ระดับมหาอำนาจเลยแหละ แต่กี่ปีนี้ก็ค่อยๆซบเซา บริษัทที่ใกล้จะล้มละลาย จะเกรงกลัวทายาทบริษัทแบบนี้ทำไม?
เน็ตไอดอลที่สนิทกับหนานหยาออกหน้าแทน แล้วตะคอกใส่หนานซ่ง “คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายคนอื่น? นี่เป็นงานเลี้ยงของนิตยสารจุดศูนย์ คุณกล้าสร้างเรื่องแบบนี้ ไม่กลัวตระกูลไป๋เหรอ? ฉันรู้จักกับคุณชายเจ็ดตระกูลไป๋ เชื่อไหมเดี๋ยวฉันจะให้เขาเรียกยามมาลากคุณออกไป?”
ส่วนสูงเน็ตไอดอลคนนี้ก็ไม่สูง แต่กลับเหิมเกริมมาก
พอเธอออกตัวก่อนแบบนี้ เพื่อนสาวคนอื่นๆจึงเริ่มมีความมั่นใจ แล้วพูดเสริม “ใช่ อยู่ๆก็สาดไวน์ใส่คนอื่นแบบนี้ ทำไมคุณหนูใหญ่ตระกูลหนานถึงไร้มารยาทขนาดนี้?”
วินาทีนั้น เหมือนจะรุมตบหนานซ่งอย่างนั้น จึงเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาได้ยินตอนที่กลุ่มผู้หญิงพูดนินทา เพราะฉะนั้นตอนที่หนานซ่งไปจัดการพวกเขาสองคนจึงไม่ได้ห้าม แต่ตอนนี้เห็นว่าหนานซ่งกำลังจะโดนรังแก ถึงเวลาที่พวกเขาต้องออกโรงแล้ว
เพิ่งขยับฝีเท้าก้าวเดินไป จึงเห็นหนานซ่งขว้างแก้วไวน์มาจากพนักงานเสิร์ฟมาสองแก้ว แล้วสาดไปทางผู้หญิงปากพล่อยพวกนั้นอย่างไม่กะพริบตา กระทำความ”ไร้มารยาท”ให้ถึงที่สุด!
พอสาดไวน์เสร็จ สีหน้าหนานซ่งก็นิ่งเฉย มองพวกเธออย่างเย็นชา ท่าทางดูสูงส่ง สง่างดงามมาก
ทำท่าทีที่ว่า “ก็ฉันจะสาดพวกแก พวกแกจะทำอะไรฉันได้?”
“อะไรกัน? เกิดเรื่องอะไรกัน?”
ไป๋ลู่ยวี๋กับไป๋ยีถิงที่กำลังต้อนรับแขกอยู่ได้ยินเสียงเหตุการณ์ตรงนี้ จึงรีบเดินมาหา ไป๋ชีรีบแหวกผู้คนมาจึงเห็นหนานซ่งที่เป็นจุดเด่น ในใจจึงเกร็งทันที แต่พอเห็นเธอปลอดภัยดี ใจค่อยสงบลง
“คุณชายเจ็ดขา~” พอเน็ตไอดอลคนนั้นเห็นไป๋ลู่ยวี๋มาแล้ว จึงมีที่พึ่งพิงสักที แล้วเอนไปซบเขาอย่างน่าสงสาร
ไป๋ลู่ยวี๋รีบห้ามเธอไว้ “อย่าอย่าอย่า สกปรก อย่ามาใกล้”
วันนี้เน็ตไอดอลคนนี้ใส่ชุดกระโปรงสีขาว โดนหนานซ่งสาดไวน์ใส่ เหมือนโดนสาดเลือดอย่างนั้น ดูแล้วน่ากลัวมาก
เธอทำตัวน่าสงสาร แล้วพูดออดอ้อน แล้วชี้ด่าหนานซ่ง “เพราะผู้หญิงคนนี้ เราเพื่อนสาวก็แค่พูดคุยกัน อยู่ๆเขาก็มาสาดไวน์ใส่พวกเรา! คุณชายเจ็ด ประธานไป๋ เขามาก่อเรื่องที่นี่เหมือนมาหักหน้าพวกคุณเลย รีบไล่เขาออกไปเถอะค่ะ!”
ยวี่จิ้นเหวินเดินมาหา แล้วหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นมาจากพนักงาน พร้อมยื่นให้หนานซ่ง “มือสกปรก เช็ดมือก่อน”
ที่มือหนานซ่งเละไวน์ กำลังเหนียวเลย จึงไม่ได้ปฏิเสธผ้าขนหนูที่ยวี่จิ้นเหวินยื่นให้ รับผ้ามา แล้วเช็ดมืออย่างผู้ดี นิ้วมือเรียวยาวขาวๆทั้งสองข้างจึงสว่างเป็นประกายภายใต้แสงไฟ
การกระทำที่ยวี่จิ้นเหวินยื่นผ้าขนหนูไปให้ แล้วก็การกระทำที่หนานซ่งเช็ดมือ งานเลี้ยงที่วุ่นวายกลับสงบลงไปหลายวินาที
ฟู่ยวี่ยืนดูอยู่ไม่ไกลมาก จิบไวน์แดง แล้วมุมปากก็เลิกขึ้น ดูคู่สามีภรรยาเก่าคู่นี้สิ ทำเรื่องที่จะให้คนอื่นโมโหจนอกแตกตายได้ใจตรงกันจริงๆ
ดาราหญิงกิ๊กก๊อกกับเน็ตไอดอลจอมปลอม เหมือนโมโหจนจะเป็นลมเพราะการกระทำของทั้งสอง
“คุณชายเจ็ดขา~” เน็ตไอดอลจอมปลอมออดอ้อนต่อ
ไป๋ลู่ยวี๋รู้สึกรังเกียจการกระทำของเธอ แล้วขนลุกซู่ทั้งตัว
หนานซ่งเช็ดมือเสร็จ จึงเหลือบมองไปที่ไป๋ลู่ยวี๋ “คุณชายไป๋ชี มีแฟนเป็นเน็ตไอดอลตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมไม่แนะนำให้ฉันรู้จักเลย? ถ้าฉันรู้ว่าเป็นพี่สะใภ้ในอนาคต ยังไงฉันก็ต้องเกรงใจเธอแน่นอน”
เธอพูดประชด คำว่า”คุณชายไป๋ชี”ทำให้ไป๋ลู่ยวี๋ตั้งรับไม่ไหว พอพูดคำว่า”พี่สะใภ้”ออกมาอีก ยิ่งทำให้เขาขนลุกมากกว่าเดิม
“อย่าพูดไปเรื่อย พี่สะใภ้อะไรล่ะ ฉันไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ!”
“เหรอ?”
หนานซ่งหัวเราะหึ “ฉันเห็นว่าเขาเอาแต่เรียกคุณชายเจ็ดคะคุณชายเจ็ดขา ดูสนิทสนมกันมาก แล้วยังบอกอีกว่าจะให้นายไล่ฉันออกไป”
จากนั้นเธอก็หันไปพูดกับไป๋ยีถิง “ขอโทษนะคะคุณอา หนูทนไม่ไหวแล้วทำลายงานเลี้ยงของคุณอา หนูไปก่อนดีกว่า ไว้วันอื่นจะไปขอโทษที่ตระกูลไป๋นะคะ”
หนานซ่งไม่มีอารมณ์อยู่ต่อ หันหลังจะเดินไป แต่กลับโดนไป๋ยีถิงห้ามไว้
ไป๋ยีถิงเตะไป๋ลู่ยวี๋แรงๆ แล้วมองเขาตาโต “อะไรกัน?”
ไป๋ลู่ยวี๋งงมาก “ผมไม่รู้จักเขา!”
เน็ตไอดอลหน้าแตกเสียงดัง แล้วยังจะมาออดอ้อนอีก ไป๋ชีจึงเรียกยามมาไล่ผู้หญิงที่ก่อเรื่องพวกนี้ออกไป กล้ามาสร้างปัญหาในที่ของเขา ยังกล้ารังแกน้องสาวเขาอีก สิ้นคิดจริงๆ!
ผู้หญิงที่โดนไวน์สาดถูกไล่ออกไปนอกโรงแรม พวกเธอยังตั้งไม่สติไม่ได้เลยว่า เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมคนที่ถูกไล่ออกมาเป็นพวกเธอ? แต่ไม่ใช่คุณหนูหนานคนนั้น?