สอนรักอดีตภรรยา 30 เธอคือมือโปรคนนั้น!

ตอนที่ 30 เธอคือมือโปรคนนั้น!

เป็นเพื่อน?

หนานซ่งยิ้มมุมปาก แล้วใช้นิ้วแตะศีรษะ “อือ……ขอให้ฉันคิดดูก่อน ปีนี้คุณชายฟู่อายุยี่สิบเจ็ด เป็นลูกชายคนเล็กของเถ้าแก่ฟู่ มีสายเลือดของชาวโรมานี ทายาทตระกูลฟู่ถูกฝึกอย่างเข้มงวดตั้งแต่เด็ก มีแต่คุณชายฟู่ที่มีความรักความเอ็นดูถาโถม เถ้าแก่ฟู่เลี้ยงดูด้วยตัวเอง แล้วถ่ายทอดวิชาให้ ตอนคุณอายุเก้าขวบ คุณเคยโดนลักพาตัว แล้วเกือบจะเอาตัวไม่รอด เถ้าแก่ฟู่ใช้อำนาจของทั้งตระกูลมาช่วยคุณ แล้วคุณก็กลับมาอย่างปลอดภัย หลังจากนั้น พี่ชายทั้งเจ็ดคนของคุณ เสียชีวิตบ้าง บาดเจ็บบ้าง หลบหนีบ้าง”

ฟู่ยวี่ยิ้มเอ่ย “คุณเคยสืบเรื่องของผม? ถ้าอย่างนี้ ดูเหมือนว่าคุณก็สนใจผมเหมือนกัน”

ขณะพูดเขาก็ขยับเข้าใกล้หนานซ่ง หนานซ่งจึงเอ่ยต่อว่า “คุณเสียตัวตอนอายุสิบหก กับผู้หญิงผิวขาวที่โตกว่าคุณห้าปี แล้วคบแต่คุณหนูตอนอายุสิบเจ็ดสิบแปด พออายุสิบแปดแล้ว คุณก็เริ่มเสเพล แล้วกลายมาเป็น”ฟู่เจ้าชู้” เปลี่ยนผู้หญิงเดือนละคน เปลี่ยนมากกว่าเสื้อผ้าอีก โตมาจนตอนนี้ ผู้หญิงที่เคยคบถึงร้อยคนแล้วมั้งคะ มีประสบการณ์มากจริงๆ ฉันล่ะ เป็นคนที่เท่าไหร่ของคุณ?”

“ฟู่เจ้าชู้ คุณเป็นคนตั้งชื่อให้ผมเหรอ?” ฟู่ยวี่เหมือนไม่เข้าใจคำพูดเสียดสีของเธอ เท้าคางแล้วยิ้มเอ่ย “ผมชอบมาก”

หนานซ่งเห็นท่าทางเจ้าชู้ของฟู่ยวี่ คิดไม่ออกจริงๆว่าคนแบบนี้เป็นเพื่อนกับยวี่จิ้นเหวินได้ยังไง คนหนึ่งเจ้าชู้ อีกคนก็หักห้ามตัวเอง หรือว่าความสัมพันธ์ของผู้ชายเป็นแบบทดแทนกัน?

“ดูเหมือนว่าคุณจะฟังภาษาคนไม่เข้าใจ งั้นฉันก็จะพูดตรงๆ ฉันไม่สนใจคุณ”

หนานซ่งคิดไอเดียให้เขา “เป็นถึงเจ้าชายเพลย์บอย คุณควรจะไปหาคนที่ชอบเล่นเกมความรักกับคุณ อย่างเจ้าหญิงสำส่อนโจ๋เซวียน เหมาะสมกันมาก”

“โอ๊ย ผมไม่เหมือนโจ๋เซวียน ถึงแม้ผมจะเจ้าชู้ แต่ผมก็เลือกเป็น” ฟู่ยวี่รู้สึกว่าตัวเองโดนดูถูก

หนานซ่งขำ “ไม่ต่างอะไรกัน อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง แล้วคิดว่าฉันพูดชมคุณเลย”

ฟู่ยวี่ก็เป็นคนตรงๆ “ประวัติของผมโชกโชนจริง แต่ถึงแม้จะเป็นเจ้าชายเพลย์บอย แต่ก็มีวันที่เก็บใจ เมื่อก่อนที่ผมเอาแต่เปลี่ยน ก็เพราะไม่เจอคนที่เหมาะกับตัวเอง แต่ตั้งแต่ที่เจอคุณ ผมก็สามารถเก็บใจได้”

“คุณพูดแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนสินะ แต่เสียดายค่ะคุณชายฟู่ ฉันเป็นผู้หญิงที่เคยหย่า ไม่ใช่ผู้หญิงใสซื่อ”

“หย่าแล้วยังไงครับ ผมไม่แคร์”

ฟู่ยวี่ใจกว้างเหมือนทะเลจริงๆ ที่สามารถรับได้ทุกอย่าง “ใครจะไม่เคยมีอดีตล่ะ? แล้วที่คุณแต่งงานกับไอ้ยวี่มาสามปี ทำอะไรกันคงไม่กี่ครั้งหรอก”

หนานซ่งไม่เข้าใจ “ทำอะไร?”

ฟู่ยวี่มองเธออย่างประหลาดใจ แล้วยกมือขึ้นมา “แปะ” “แปะ” “แปะ” ตบมือสามครั้ง

หนานซ่ง : “……”

ได้ ต่อกรไม่ชนะ แถมยังโดนดักทางอีก

คุณหนูใหญ่ตระกูลหนานที่โมโหถีบฟู่ยวี่อย่างไม่เกรงใจเลย

ไม่ใช่แค่ถีบไปขาของฟู่ยวี่ แต่กลับถีบไปถึงดวงใจของเขาด้วย เขาหัวเราะเยาะเย้ย “คิดไม่ถึงจริงๆ คุณหนูใหญ่ตระกูลหนานยังเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ ไอ้ยวี่ก็เกินไปจริงๆ แค่ให้มอง แต่ไม่ให้กิน”

คำพูดลามกต่อๆกัน อย่าพูดถึงหนานซ่งเลย กู้เหิงกับผู้ช่วยอีกสองคนก็ทนไม่ฟังไหวแล้ว อยากจะรีบไล่เขาลงไป!

ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูน่ารัก เขารู้สึกเหมือนเก็บสมบัติที่ล้ำค่าได้ แล้วแอบเยาะเย้ยยวี่จิ้นเหวินในใจ

ไอ้ยวี่ สมบัติล้ำค่าขนาดนี้แกไม่รู้จักใช้ ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน

ถ้าอย่างนี้ เพื่อนก็จะไม่เกรงใจแล้ว

……

ออกมาจากคฤหาสน์เก่า ยวี่จิ้นเหวินก็กลับไปที่บ้านตัวเอง

ทั้งคฤหาสน์มีตัวหนังสือมงคลสีแดงแปะเต็มไปหมด ขัดตาจริงๆ ยวี่จิ้นเหวินรีบสั่งให้พ่อบ้านพาคนมาฉีกออก แล้วให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม

ในโทรศัพท์ก็มีสายที่ไม่ได้รับหลายสาย บางสายเป็นของโจ๋เซวียน ยวี่จิ้นเหวินไม่สนใจ จึงปิดเครื่องทันที

เขาถอดเสื้อคลุมนอกออกมาพาดไว้ที่แขน แล้วเดินไปที่ห้องหนังสือ ฝีเท้าหยุดชะงัก แล้วเปิดประตูห้องนอนหลัก กลิ่นหอมดอกกุหลาบก็หายไปพร้อมผู้หญิงคนนั้น กลิ่นจางลงมาก

ตราประทับดอกกุหลาบยังวางอยู่บนหัวเตียง เขาหยิบขึ้นมา แล้วสำรวจตราประทับนี้อีกครั้ง จึงเห็นรอยสีแดงข้างล่างซึมเข้าไปไม่น้อยแล้ว ตัวอักษรที่สลัก”ตราประทับของยวี่จิ้นเหวิน”ก็แตกต่าง สลักเป็นอักษรเหว่ย

เขาหยิบการ์ดที่หนานซ่งทิ้งไว้ อักษรบนนั้นเหมือนกับบนตราประทับเป๊ะเลย หรือว่าตราประทับนี้เธอเป็นคนแกะสลักเองกับมือ?

เธอเอาฝีมือแกะสลักมาจากไหน?

ยวี่จิ้นเหวินแอบส่ายหน้า คิดว่าหนานซ่งต้องจ้างให้คนลอกเลียนแบบสลักตามลายมือเธอ แต่ก็ดูออกว่าเธอใช้ใจกับของขวัญชิ้นนี้มากแค่ไหน

เขาเก็บตราประทับกับการ์ด แล้วไปที่ห้องนอนตัวเอง เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วแขวนเสื้อ ในตู้เสื้อผ้าก็มีของขวัญกล่องเล็กใหญ่มากมาย เขาจึงนึกขึ้นได้ นี่เหมือนจะเป็นของขวัญที่หนานซ่งเคยให้เขา

นอกจากวันตรุษจีน เขาไม่ค่อยใส่ใจเทศกาลอื่น แต่ภรรยาเก่าของเขากลับดูใส่ใจทุกเทศกาล

ทั้งวันวาเลนไทน์ ไวท์วาเลนไทน์ ครบรอบแต่งงาน แล้วก็วันเกิดเขา จะได้รับของขวัญจากเธอตลอด แรกๆก็ให้เขาต่อหน้า หลังๆมาเห็นเขาโยนไว้ข้างๆอย่างไม่สนใจ เธอจึงให้เหอจ้าวช่วยเอามาให้ ไม่ก็เอามาวางไว้ในตู้เสื้อผ้าของเขา

ของขวัญไม่ใหญ่โต บางครั้งเป็นเนกไท บางครั้งเป็นปากกา หรืออาจจะเป็นกระดุม แต่เขาไม่เคยให้อะไรเธอเลย

เขาที่เป็นสามี ทำหน้าที่ได้ไม่ดีเลย

ยวี่จิ้นเหวินเปลี่ยนชุดอยู่บ้านสบายๆ แล้วมาทำงานที่ห้องหนังสือ เปิดโน้ตบุ๊ก แล้วมองกวาดตัวหนังสือบนอีเมล แต่กลับดูอะไรไม่เข้าเลย

เขาปิดโน้ตบุ๊กอย่างหงุดหงิด แล้วจุดบุหรี่ พอสูบไปสองครั้ง ก็ขยี้ทิ้ง

จากนั้นจึงเปิดโน้ตบุ๊กอีกครั้ง เขาพิมพ์ชื่อ”หนานซ่ง” นิ้วมือเคาะไปมาบนแป้นพิมพ์ สายตาลึกลับ แววตามุ่งมั่นมาก

ฟู่ยวี่ไม่ยอมช่วยเขา งั้นเขาก็จะเช็กเอง!

เขาต้องรู้ให้ได้ เมื่อสามปีก่อนเป็นเพราะอะไร เธอถึงปลอมตัวเป็นพยาบาลแล้วมาข้างตัวเขา แล้วยอมปิดบังตัวเองเพื่อแต่งงานกับเขา!

แล้วเพราะอะไร คุณหนูตระกูลร่ำรวยอย่างเธอ กลับยอมมาเป็นแม่ศรีเรือนที่อ่อนโยน?

ผู้ช่วยกู้เหิงกำลังใช้โน้ตบุ๊กทำงานอยู่บนรถ อยู่ๆหน้าจอก็แจ้งเตือนภัย เขากดคลิก แล้วรายงานหนานซ่ง “บอสหนานครับ มีคนอยากจะแฮกข้อมูลของคุณครับ”

หนานซ่งผลักฟู่ยวี่ออก แล้วรับโน้ตบุ๊กของกู้เหิงมา จากนั้นก็เคาะแป้นพิมพ์ มีคนจ้องเล็งเธอจริงๆ

สีหน้าเธอเข้มขรึม นิ้วมือวางอยู่บนแป้นพิมพ์ แล้วโค้ดต่างๆก็แสดงขึ้นบนหน้าจอโน้ตบุ๊ก รวดเร็วจนมองไม่ทัน

ฟู่ยวี่ดูอยู่ข้างๆ ทั้งแววตา สีหน้ามีแต่ความตกใจ

เขารู้ว่าข้างตัวหนานซ่งมีแฮกเกอร์มือโปร แต่คาดไม่ถึงเลยว่า เธอต่างหากที่เป็นมือโปรคนนั้น!

Options

not work with dark mode
Reset