สอนรักอดีตภรรยา 28 ทำไมเธอถึงแต่งงานกับฉัน?

ตอนที่ 28 ทำไมเธอถึงแต่งงานกับฉัน?

พอหนานซ่งบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง โดยเฉพาะตอนที่พูดคำว่า”หนานหนิงซง”ออกมา สีหน้าของทุกคนจึงเปลี่ยนไปทันที

คุณท่านยวี่สองถึงขั้นตกใจจนลุกขึ้นมา “อะไรนะ? หนานหนิงซงคือพ่อเธอ?!”

ยวี่จิ้นเหวินก็ขมวดคิ้ว

ถึงแม้หนานหนิงซงจะเสียชีวิตไปสามปีแล้ว แต่ชื่อเสียงของเขายังโด่งดังอยู่ ก็เหมือนคำว่า……

ถึงแม้คนจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่บนโลกนี้ยังมีตำนานของเขาอยู่

หนานหนิงซงเป็นอัจฉริยะในวงการธุรกิจ

เขาเป็นคนสร้างบริษัทตระกูลหนานตอนนั้นใช้เวลาแค่ครึ่งนี้ก็กลายเป็นมหาอำนาจในเมืองหนานแล้ว หนึ่งปีหลังจากนั้นแบรนด์จิวเวลรี่ของบริษัทก็เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ สองปีหลังจากนั้นก็สามารถแข่งขันกับแบรนด์จิวเวลรี่บริษัทยวี่กรุ๊ปได้แล้ว สามปีหลังจากนั้นก็เอาชนะยวี่กรุ๊ป แล้วได้รับสิทธิพิเศษจากบริษัทDTค้าเพชร สี่ปีหลังจากนั้นก็โค่นยวี่กรุ๊ปได้ แล้วกลายเป็นแบรนด์ค้าเพชรของบริษัทRGอินเตอร์เนชันแนล แล้วกลายเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปแล้ว

เดิมคิดว่าหนานหนิงซงจะผ่อนกำลังลง แล้วสร้างความมั่นคง แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเขากลับใช้โอกาสนี้ แล้วทำให้ธุรกิจใหญ่โตขึ้น ทั้งโครงการบ้าน โรงแรม โรงภาพยนตร์ แล้วก็ร้านอาหารมีแต่โฆษณาของบริษัทตระกูลหนาน บริษัทตระกูลหนานมีโชคช่วย จึงกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของบริษัทยวี่กรุ๊ป

บริษัทตระกูลหนานเข้ารอบบริษัทชั้นนำห้าร้อยอันดับแรกของประเทศ แล้วหนานหนิงซงได้ขึ้นอันดับนิตยสารฟอบส์ด้วย

ตอนนั้น คุณท่านยวี่สองกับสาม เป็นคนที่แพ้ให้กับหนานหนิงซง ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่อยู่แล้ว แต่พอเอ่ยถึง พวกเขาก็ยังคงติดใจอยู่ดี

หนานซ่งพยักหน้า เธอรู้ว่าบริษัทตระกูลหนานกับบริษัทยวี่กรุ๊ปเป็นคู่แข่งกัน สามปีก่อนที่เธอปิดบังตัวตนแล้วแต่งงานกับยวี่จิ้นเหวิน ก็เพราะกลัวว่าพวกเขาจะไม่ตกลง

“ในเมื่อเธอเป็นลูกสาวตระกูลหนาน ทำไมต้องแต่งเข้าตระกูลยวี่ของเรา? เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”

พอคุณท่านสองพูดถึงตระกูลหนาน จึงใจเย็นไม่ได้ เพราะหนานหนิงซงเป็นรอยด่างในใจเขา เป็นหนามในใจเขามาหลายปี เผชิญกับลูกสาวของเขา จึงไม่เป็นมิตรกับหนานซ่งด้วย

“เจ้าสอง เสียงเบาหน่อย โวยวายทำไม?”

เถ้าแก่ยวี่พูดตำหนิลูกชายตัวเอง มองหนานซ่ง สีหน้าก็อ่อนโยนขึ้น “เสี่ยวซ่ง ไม่ต้องกลัว ค่อยๆพูด”

กับข้อสงสัยของนายท่านยวี่สอง หนานซ่งอยากเถียงกลับมาก แต่เถ้าแก่นายหญิงดีกับเธอมาก เป็นผู้ใหญ่ที่เธอเคารพ เธอจึงไม่เสียมารยาทต่อหน้าพวกท่าน

เสียงเธอนุ่มนวลขึ้น แล้วอธิบายง่ายๆว่า “หนูรู้ว่าทั้งสองตระกูลเป็นคู่แข่งกัน แล้วเคยแข่งขันกันทางธุรกิจมาไม่น้อย สุดท้ายก็สงบศึก แล้วใช้แม่น้ำหลานแบ่งเขตการค้า ตระกูลยวี่ครองทางเหนือ ตระกูลหนานครองทางใต้ แล้วไม่ก้าวก่ายกันอีก”

หนานซ่งเห็นเถ้าแก่พยักหน้า จึงเอ่ยต่อว่า “สามปีก่อนคุณพ่อคุณแม่ของหนูเสีย หนูได้รับคำสั่งอย่างกะทันหัน ให้รับช่วงบริษัทตระกูลหนาน แต่เพราะความขัดแย้งในตระกูล หนูจึงถอยออกมาก่อน กี่ปีนี้บริษัทตระกูลหนานอยู่ในมือของอาสองแล้วก็อาสาม บริษัทขาดทุน จนเกือบจะล้มละลาย ถ้าน้าสองสงสัยว่าที่หนูแต่งเข้าตระกูลยวี่มีจุดประสงค์อื่น ก็สมเหตุสมผล แต่ว่าถ้าหนูคิดไม่ดีจริง จะปล่อยให้บริษัทตระกูลหนานซบเซาขนาดนี้ได้ยังไงคะ? สามปีที่ผ่านมา หนูอยู่ตระกูลยวี่อย่างสงบปากสงบคำ ไม่เชื่อลองถามอาจิ้นได้ค่ะ”

สายตาของเธอมองไปทางยวี่จิ้นเหวิน ยวี่จิ้นเหวินกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

ไม่รอให้เขาตั้งสติได้ก่อน หนานซ่งก็หันกลับไปแล้ว เหมือนสายตาเมื่อกี้เป็นแค่มองมาทางเขาอย่างไม่ใส่ใจ

เผชิญกับสายตาของคนทั้งตระกูล ยวี่จิ้นเหวินตอบ”อื้อ”เสียงเบา ถือว่าเป็นพยานให้หนานซ่ง

แต่ความจริง ตั้งแต่วันที่หนานซ่งไปจากตระกูลยวี่โดยที่ไม่เอาอะไรไปเลย เขาก็เคยสงสัยเธอ ทำไมถึงมีผู้หญิงที่ไม่เอาเงินสิบล้านล่ะ?

แล้วเธอก็เป็นแม่ศรีเรือนในบ้านมาสามปี ไม่มีงานของตัวเอง

ไม่เธอมีศักดิ์ศรีจริง ก็คือเธอไม่ขาดเงินนี้จริงๆ

แต่ดูจากตอนนี้  เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหนาน เติบโตมาอย่างสุขสบาย ต้องมีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว แล้วไม่ขาดเงินด้วย ไม่งั้นจะทุ่มเงินหลายพันล้านพยุงบริษัทตระกูลหนานให้กลับมาได้ยังไง?

แต่มีบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ หนานซ่งก็ไม่ได้อธิบายด้วย นั่นก็คือ……

ทำไมเธอถึงแต่งงานกับเขา?

ความจริงไม่ต้องให้ยวี่จิ้นเหวินเป็นพยานให้ กี่ปีนี้คนทั้งตระกูลยวี่ก็เห็นอยู่กับตา ดูแลสามี ปรนนิบัติแม่ยาย เคารพผู้ใหญ่ เธอเป็นลูกสะใภ้ที่กตัญญูมาก

เถ้าแก่ยวี่กับนายหญิงยวี่ก็ไม่ได้รังเกียจเธอเพราะเธอเป็นลูกสาวตระกูลหนาน

เรียกหนานซ่งมาตรงหน้า แล้วเถ้าแก่ก็เอ่ยว่า “เสี่ยวซ่ง หลานอย่าใส่ใจคุณน้าเลย เพราะเขาเคยแพ้ให้พ่อหลานก็เลยไม่พอใจ ไม่ใช่ไม่ชอบหลาน เรื่องของทั้งสองตระกูลผ่านไปนานแล้ว การแข่งขันทางธุรกิจถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา อย่าใส่ใจเลย”

นายหญิงจับมือหนานซ่งไว้ แล้วเอ่ยอย่างมีเมตตา “เสี่ยวซ่งของเราเป็นคนยังไงเราทุกคนรู้ดี หลายปีที่ผ่านมาหลานสร้างความสุขให้เรามามาก ในเมื่อกลับมาแล้วก็ไม่ต้องไปอีก อยู่ต่อเถอะ เรายังเป็นครอบครัวเดียวกัน อาจิ้น หลานว่าใช่ไหม?”

ท่านทั้งสองพยายามรั้งไว้ แล้วก็แอบเชียร์หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวิน ยวี่ฟานยินกับยวี่เจ๋ออวี่ก็ช่วยเสริม พยายามส่งสายตาให้ยวี่จิ้นเหวิน

ยวี่เฟิ่งเจียวกลับทำตรงๆ แล้วผลักลูกชายตัวเอง ให้ยวี่จิ้นเหวินไปอยู่ตรงหน้าหนานซ่ง

ยวี่จิ้นเหวินโดนคุณแม่ผลัก ไม่ทันตั้งตัวจึงเดินก้าวไปข้างหน้าหลายก้าว แล้วเกือบจะชนหนานซ่ง เหมือนตุ๊กตาล้มลุกที่พยายามพยุงตัวเอง

หนานซ่งยิ้มมองเขาอย่างตลก ไม่คิดจะยื่นมือไปพยุงเขาเลย

พอโดนทุกคนเชียร์กัน ใบหน้าของยวี่จิ้นเหวินจึงมีความทุลักทุเล จนอยากจะอาละวาด แต่ไม่รู้ทำไม เผชิญกับสายตาของหนานซ่ง เขาจึงไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา เหมือนเป็นใบ้อย่างนั้น

ทำไมตอนนี้ผู้หญิงคนนี้มองเขา เหมือนกำลังมองสัตว์ตัวเล็กๆ?

สถานการณ์แบบนี้หนานซ่งไม่ใช่เจอครั้งแรก สามปีที่ผ่านมา คนทั้งตระกูลพยายามเชียร์เธอกับยวี่จิ้นเหวิน แต่ความรักไม่ใช่เรื่องที่บังคับกันได้

ความรักที่ฝืนใจไม่หวานหรอก เธอลิ้มลองความขมมามากพอแล้ว

“คุณตาคุณยาย คุณแม่ หนูกับอาจิ้นหย่ากันแล้ว ขั้นตอนการหย่าต่างๆวันนี้ก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ต่างคนต่างใช้ชีวิตเถอะค่ะ”

หนานซ่งยิ้มอ่อน “ที่วันนี้หนูกลับมา ก็เพื่อจะบอกลาทุกคน แล้วก็ขอบคุณที่ดูแลหนูมาสามปี อีกหน่อยถ้าเจอกันคงต้องเปลี่ยนคำเรียกแล้ว ถ้าคิดถึงหนู หนูก็ยินดีต้อนรับทุกคนมาเที่ยวที่เมืองหนานค่ะ ถึงฤดูดอกกุหลาบแล้ว กำลังบานสวยเลยค่ะ”

ยวี่จิ้นเหวินยืนอยู่กลางสายฝน มองทุกคนโบกมือลาหนานซ่งเงียบๆ แล้วเอ่ยว่า “เดี๋ยวผมไปส่งเธอ”

เขากางร่ม แล้วเดินออกจากคฤหาสน์พร้อมหนานซ่ง ระหว่างทางไม่ได้พูดคุยกัน

ท่ามกลางสายฝนกลิ่นหอมดอกกุหลาบบนตัวเธอยิ่งชัดเจนมากขึ้น แล้วลอยนวลอยู่ที่จมูกเขา จนทำให้เขานึกถึงตราประทับดอกกุหลาบที่เธอให้เขา แล้วก็ดอกกุหลาบในคฤหาสน์ตระกูลยวี่ที่ยังไม่เบ่งบาน

รถที่มารับหนานซ่งจอดรออยู่หน้าคฤหาสน์แล้ว สามคันจอดเรียงต่อกัน

ผู้ช่วยกู้เหิงพาผู้ช่วยชายสองหญิงสองยืนกางร่มรออยู่ พอหนานซ่งออกมาปุ๊บ กู้เหิงจึงรีบเดินไปต้อนรับ ผู้ช่วยอีกคนก็เดินมาเปิดประตู แล้วยืนรออยู่ข้างๆ

“ขอบใจนะ ลาก่อน” หนานซ่งขอบคุณอย่างเป็นมารยาท แล้วโบกมือลายวี่จิ้นเหวิน

ตอนที่เธอกำลังจะก้าวขึ้นรถ ยวี่จิ้นเหวินก็เอ่ยถามอย่างกะทันหันว่า “ฉันถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม?”

หนานซ่งหยุดฝีเท้า แล้วหันกลับมา

ยวี่จิ้นเหวินกลืนน้ำลาย “เธอ……ทำไมตอนนั้นถึงแต่งงานกับฉัน?”

“นายเป็นคนเลือกไม่ใช่เหรอ?” หนานซ่งเอ่ยตอบอย่างเรียบนิ่ง

ยวี่จิ้นเหวินอึ้งนิ่ง แล้วนึกย้อนได้ ตอนนั้นเขาเป็นคนชี้เลือกหนานซ่งจากกลุ่มแพทย์พยาบาล “เธอแล้วกัน”

เขาเป็นคนเลือกเธอเอง แล้วเขาก็เป็นคนที่……ทอดทิ้งเธอด้วย

Options

not work with dark mode
Reset