ในห้องสูท ฟู่ยวี่ส่องกระจกในห้องอาบน้ำแล้วแตะมุมปากที่เขียวช้ำของตัวเอง จากนั้นก็โอดครวญเสียงเบา
“เราสองคนไม่ได้เจอกันมาตั้งกี่ปี เจอหน้ากันก็ชกฉันแบบนี้ สมควรเหรอ?”
เขามองผู้ชายใบหน้าเยือกเย็น ที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างโกรธเคือง
ยวี่จิ้นเหวินเม้มปากเงียบ ตอนนี้ในหัวเขามีแต่ท่าทางของหนานซ่งเมื่อกี้ ภาพเหตุการณ์เอาแต่ฉายในหัวเขา คำพูดทุกคำพูดของเธอก็วนเวียนอยู่ที่ข้างหู
ท่าทางที่ดูสง่าดูชิลล์ แล้วก็คำพูดเสียดสีพวกนั้น คือลู่หนานซ่งจริงๆเหรอ?
เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความสงสัย
ฟู่ยวี่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา แล้วจุดบุหรี่ จากนั้นก็บ่นต่อ “เมื่อคืนเพิ่งโดนผู้หญิงของแกตบ เช้านี้เจอหมัดของแกอีก ฉันนี่ซวยจริงๆ ฉันว่า พวกแกสองสามีภรรยานี่อำมหิตจริงๆ เหมาะสมกันมาก เอาล่ะปัญหาก็คือ ทำไมอยู่ดีๆ แกถึงหย่า?”
ยวี่จิ้นเหวินเงยหน้าขึ้น แล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ภรรยาเก่า”
เขากำลังแก้คำที่เขาพูดว่า”พวกแกสองสามีภรรยา”
ฟู่ยวี่เกือบจะสำลักบุหรี่ แล้วเลิกคิ้วมองยวี่จิ้นเหวิน “แคร์ภรรยาเก่าขนาดนี้? ฉันแค่บอกว่าเขาอยู่เมืองหนาน ก็รีบมาทั้งคืนเลย? นี่เพื่อน ปากแกไม่ค่อยตรงกับใจเลยว่ะ”
ยวี่จิ้นเหวิขมวดคิ้ว ไม่สนใจคำพูดหยอกล้อของเขา แล้วเอ่ยเสียงเข้มว่า “อย่าพูดมาก ลู่หนานซ่งเป็นใครกันแน่?”
“ลู่หนานซ่งอะไร เขาสกุลหนานชื่อซ่ง ลู่หนานซ่งชื่อนี่เป็นแค่ชื่อปลอม”
ฟู่ยวี่เปิดไวน์ขวดหนึ่ง แล้วเทออกมาสองแก้ว สบตากับสายตาที่เยือกเย็นของยวี่จิ้นเหวิน มุมปากเขาจึงเลิกขึ้น แล้วรู้สึกสงสารเพื่อนที่โดนหลอกมาสามปี จึงทำใจบอกเขาว่า “เขาเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหนาน หนานซ่ง”
“หนานซ่ง”ชื่อนี้เหมือนเป็นระเบิด แล้วระเบิดเสียงดังข้างหูยวี่จิ้นเหวิน จนสติเขากระเจิง
เอารายละเอียดกับความสงสัยต่างๆของกี่วันนี้มารวมกันเป็นเส้นตรง คนที่อยู่ๆก็หายตัวไป แล้วอยู่ๆก็โผล่มา สุดท้ายก็รวมเป็นคนเดียวกัน
หนานซ่ง นี่สินะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ
……
ตื่นมาแล้วเจอสามีเก่าตั้งแต่เช้า อารมณ์ของหนานซ่งจึงซับซ้อนมาก
แล้วพอมาเจอฉินเจียงหยวนที่ห้องทำงานอีก อารมณ์ของเธอจึงแย่ไปกว่าเดิม โดยเฉพาะฉินเจียงหยวนยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเธอ แล้วยิ้มเรียกว่า”เสี่ยวซ่ง”อีก
ขนลุกซู่ทั้งตัว ขนลุกเพราะขยะแขยง
สีหน้าหนานซ่งเย็นชา แล้วหันไปถาม “ใครเป็นคนปล่อยเขาเข้ามา?”
“ขอโทษครับประธานหนาน พวกผมไม่ระวังเอง ผมจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”
ฉินเจียงหยวนเห็นว่าจะทำจริง จึงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ พร้อมฉีกยิ้มเดินไปหาหนานซ่ง “อะไรเนี่ยเสี่ยวซ่ง ฉันเพิ่งมาเธอก็จะไล่ฉันไปเลยเหรอ”
น้ำเสียงของเขาทะเล้น ผู้ชายตัวใหญ่ขนาดนี้กลับพูดอ้อนเหมือนผู้หญิง ไม่รู้เพราะว่าหนานซ่งไม่ชอบวิธีนี้หรือเปล่า หนานซ่งไม่มีความคิดอื่นเลย นอกจากอยากจะลากตัวเขาออกไป
ไม่เจอกันสามปี ผู้ชายคนนี้ยิ่งขยะแขยงมากกว่าเดิม
เห็นฉินเจียงหยวนก้าวเดินมาตรงหน้าเธอ หนานซ่งจึงขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ไปไกลๆจากฉัน อย่าทำให้ตัวฉันสกปรก”
ฉินเจียงหยวนโดนเธอเหน็บแนมว่าขยะแขยง สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที
เขาเป็นถึงคุณชายบริษัทตระกูลฉิน ตอนนี้เป็นถึงประธานแล้วด้วย มีสาวๆมากมายอยากจะมาอยู่ในอ้อมกอดเขา อยากจะสยบใต้เท้าเขา มีแค่หนานซ่งที่ไม่แยแสเขาเลย
แต่หลายปีที่ผ่านมาเขาเบื่อผู้หญิงใสๆอย่างหนานหยาแล้ว อยากจะแทะคนหัวดื้ออย่างหนานซ่งแทน!
เขายืนห่างจากหนานซ่งสามก้าว แล้วจ้องมองใบหน้าที่งดงามของเธอ รู้สึกรื่นรมย์ใจ จนอดกลืนน้ำลายไม่ได้
ตระกูลฉินกับตระกูลหนานเป็นพันธมิตรกัน พวกเขาก็ถือว่าโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ตระกูลหนานมีลูกสาวสามคน ซึ่งหน้าตาหนานซ่งสวยที่สุด เป็นคนสวยตั้งแต่เด็กเลย
เขาว่ากันว่าหน้าตาผู้หญิงจะเปลี่ยนราวฟ้ากับเหว หน้าตาดีตอนเด็กโตมาอาจจะไม่สวยก็ได้ แต่หนานซ่งไม่ใช่แค่สวย แต่กลับสวยมากกว่าเดิมอีก แก้มอวบๆตอนเด็กหายไป ตอนเด็กหน้าตาน่ารักมาก เรือนร่างก็เซ็กซี่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีความเย้ายวนใจเพิ่มขึ้นไปอีก แค่มองเฉยๆ ก็ทำให้ฉินเจียงหยวนใจสั่นแล้ว รู้สึกอยากจะตะครุบ แล้วกลืนกินลงไปทั้งตัว!
“เสี่ยวซ่ง ฉันรู้ว่าเธอเข้าใจฉันผิด ที่ฉันมาวันนี้ ก็เพราะอยากจะมาอธิบายเรื่องตอนนั้นกับเธอ”
ฉินเจียงหยวนเอ่ยอย่างจริงจัง สีหน้าเข้มงวด โดยเฉพาะตอนที่ยามขึ้นมาแล้ว เขายิ่งแสดงสีหน้าจริงจังกว่าเดิม “ฉันพูดความจริงนะ! เรื่องตอนนั้น หนานหยาเป็นคนวางแผนเอง แล้วมาหลอกให้ฉันทำ!”
หนานซ่งมองเขาอย่างเย็นชา รู้ว่าปากสกปรกแบบนี้ไม่มีเรื่องดีหรอก แต่พอได้ยินว่าเขาโยนความผิดไปให้หนานหยา เธอจึงอยากฟังว่าเขาจะพูดอะไรอีก
เธอโบกมือให้ยามกับผู้ช่วย “พวกคุณออกไปก่อน”
จากนั้นจึงนั่งลงบนโซฟา “ฉันให้เวลาแกห้านาที แล้วพูดทุกอย่างให้เคลียร์”
ฉินเจียงหยวนกำลังจะนั่งลงที่โซฟา หนานซ่งจึงส่งสายตาแหลมคมไปหา “อนุญาตให้แกนั่งเหรอ?”
สะโพกเขาจึงหยุดชะงักกลางอากาศ ฉินเจียงหยวนที่หน้าเสียหันมองหนานซ่งที่ใบหน้าเย็นชา บอกตัวเองว่าถ้าอยากกินก็ต้องทน ต้องค่อยๆเอาใจผู้หญิง
“ได้ได้ได้ ฉันยืนก็ได้”
ฉินเจียงหยวนจัดเสื้อผ้า แล้วยืนตรงอยู่ตรงหน้าหนานซ่ง เตรียมคำพูดหวานๆมาเต็มปาก “เสี่ยวซ่ง ไม่เจอกันสามปี ฉันคิดถึงเธอมากเลย……”
“อย่าพูดอะไรไร้สาระ ฉันไม่ชอบฟัง”
หนานซ่งหยิบโทรศัพท์ออกมาตั้งเวลา แล้ววางไว้ข้างๆ “แกยังมีเวลาอีกสี่นาทีครึ่ง”
การตั้งเวลาจะทำให้คนรู้สึกลนลาน ฉินเจียงหยวนกลืนน้ำลาย แล้วกลืนคำพูดหวานๆลงท้องไปให้หมด จากนั้นก็ยกเอาคำพูดแก้ตัวให้ตัวเองออกมาพูด
“สามปีก่อน หนานหยาเป็นคนมายั่วฉันก่อน! เธออาจจะไม่รู้ น้องสาวที่ดูใสซื่อของเธอ อิจฉาเธอมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา หรือตำแหน่งคุณหนูใหญ่ตระกูลหนานของเธอ เขาอิจฉาหมด แน่นอน สิ่งที่เขาอิจฉามากที่สุดเลยก็คือความรักที่ฉันมีต่อเธอ……พูดง่ายๆ เขาใช้ความรักมาอ้าง ให้ฉันหลอกเธอมาปีนเขา บอกว่าจะสารภาพเรื่องที่เขาแอบชอบฉันต่อหน้าเธอ แล้วจะแย่งกับเธออย่างยุติธรรม”
พูดถึงตรงนี้ ฉินเจียงหยวนจึงถอนหายใจ “โทษที่ฉันใจอ่อนเอง เห็นว่าเขาน่าสงสาร ก็เลยตอบตกลงคำขอไร้สาระของเขา แต่เธอต้องเชื่อใจนะ คนที่ฉันรักคือเธอ! ที่ฉันตกลงเขา ก็เพราะอยากจะบอกเขาต่อหน้าเธอว่า ฉันฉินเจียงหยวนจะรักแค่คนคนเดียว ก็คือเธอหนานซ่ง! แต่ใครจะรู้ จิตใจหนานหยาจะอำมหิตขนาดนั้น เขาใช้โทรศัพท์ของฉันส่งข้อความหาเธอ นัดเธอออกมาปีนเขา ความจริงอยากจะฆ่าเธอต่างหาก วันนั้นที่ฉันไม่ได้ไป ก็เพราะโดนเขาวางยาสลบ รอฉันตื่นมา ก็รู้ข่าวที่เธอเสียชีวิตแล้ว”
ขอบตาเขาแดง แล้วเดินมาหาหนานซ่ง นั่งลงตรงหน้าเธอ แล้วจับมือเธอขึ้นมา
“เสี่ยวซ่ง สวรรค์มีตา เธอยังมีชีวิตอยู่ แล้วกลับมาหาฉันอย่างปลอดภัย เรามาเริ่มต้นใหม่ ได้ไหม?”