สอนรักอดีตภรรยา 17 ความจริงกระจ่าง

ตอนที่ 17 ความจริงกระจ่าง

 

ยวี่จิ้นเหวินนั่งอยู่ข้างเตียงห้องนอนหลัก ดูวิดีโอที่ฟู่ยวี่ส่งมา เป็นภาพกล้องวงจรที่เขาแฮกมาได้

ในคลิปวิดีโอแสงสีแสบตา เสียงดนตรีก็วุ่นวาย ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบที่ที่วุ่นวายแบบนี้ที่สุด แต่ก็ยังอดทนดูต่อ

ในวิดีโอมีเงาของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้น ผู้หญิงคนนั้นเป็นจุดเด่นของทั้งงาน เธอใส่ชุดใส่เดี่ยวสีแดงที่เซ็กซี่ สวมรองเท้าส้นสูงสีทอง แล้วเคลื่อนไหวร่างกายไปมาตามเสียงดนตรีท่ามกลางเวทีเต้น เหมือนนางฟ้าที่ได้รับอิสระ ท่าทางก็ดูชิลล์มาก ไม่สามารถปิดบังความเย้ายวนใจได้เลย ผิวที่ขาวสว่างพอโดนแสงไฟส่องก็สะท้อนเป็นประกาย ใบหน้าหันข้างเล็กน้อย ใบหน้าช่างสวยงามเหลือเกิน

ลู่หนานซ่ง!

พอเห็นใบหน้าของเธอชัดเจนแล้ว ยวี่จิ้นเหวินก็เกือบจะกระโดดขึ้นมาจากเตียง แววตาก็เบิกโตขึ้น

คือเธอ แต่ก็ไม่เหมือนเธอ

ภรรยาของเขา เป็นผู้หญิงสวยที่อ่อนโยนใสซื่อ จะเย้ายวนขนาดนี้ได้ยังไง พูดว่าเป็น”ปีศาจ”ก็ไม่เกินไปเลย!

ยวี่จิ้นเหวินจ้องวิดีโออย่างไม่กะพริบตา ดูท่าทางของผู้หญิงคนนี้ เขาอยากจะบอกตัวเองว่าไม่ใช่เธอ แต่ถึงแม้เธอจะแต่งหน้าเข้มขนาดนี้ ก็ปิดบังไฝใต้ตาข้างขวาของเธอไม่ได้

คือเธอแน่นอน!

วินาทีต่อมา เขาจึงเห็นเพื่อนรักตัวเองเคลื่อนร่างกายเข้าไปหา ฝ่ามือยังลูบไล้จากเอวแล้วลงไปที่สะโพกเธอด้วย……

แววตาของยวี่จิ้นเหวินมืดมน แล้วถือโทรศัพท์ไว้แน่น จนอดกัดฟันไม่ได้ : ไอ้นี่กล้าลวนลามผู้หญิงของเขา ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม?

ในหัวเพิ่งมีความคิดนี้แว็บเข้ามา จึงเห็นผู้หญิงที่เกือบจะถูกลวนลามจับข้อมือฟู่ยวี่ไว้แล้วทุ่มไหล่เขาลงที่พื้น จากนั้นฝ่ามือก็ฟาดลงไป ท่าทางเด็ดขาด ดูเท่มาก!

แววตาของยวี่จิ้นเหวินเบิกกว้างอีกครั้ง

จากนั้นในโทรศัพท์ก็มีเสียงของฟู่ยวี่ดังออกมา “แกเห็นแล้วใช่ไหมว่าภรรยาเก่าแกทำร้ายฉันยังไง ไหล่ฉันตอนนี้ยังเจ็บอยู่เลย ฝีมือขนาดนี้แกเป็นคนสอนใช่ไหม……”

ยวี่จิ้นเหวินนั่งไม่นิ่งอีกต่อไป แล้วเดินตรงออกไปข้างนอก พร้อมเอ่ยกับโทรศัพท์เสียงเข้ม “ส่งที่อยู่มาให้ฉัน”

ในระหว่างทางที่ไปเมืองหนาน ยวี่จิ้นเหวินดูคลิปวิดีโอซ้ำแล้วซ้ำอีก แววตาก็มืดมน นี่สินะธาตุแท้ของเธอ ความอ่อนโยนเป็นแม่ศรีเรือนเป็นเรื่องปลอมสินะ!

แต่เธอปลอมตัวได้สำเร็จมาก แต่งงานสามปี เขายังไม่เคยรู้ธาตุแท้ของเธอเลย

เธอเป็นคนยังไงกันแน่?

ฟู่ยวี่บอกว่าคุณชายชีเมืองหนานบอกว่าเธอเป็น”น้องสาว” แต่ทุกคนรู้ว่าทายาทตระกูลไป๋ไม่มีผู้หญิง หรือว่า……เธอเป็นคนรักของไป๋ชี

ความคิดนี้ ทำให้ใบหน้าที่เย็นชาของยวี่จิ้นเหวินมีความเยือกเย็น บรรยากาศรอบตัวก็เริ่มอึมครึม

เขาอยากจะดูว่า เธอคิดจะทำอะไรกันแน่

……

หนานซ่งนอนจนฟ้าสว่าง ลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกปวดหัวมาก เหมือนเพิ่งโดนช้างเหยียบมาอย่างนั้น

“ตื่นแล้วเหรอ?”

ไป๋ชีปรากฏตัวที่หัวเตียง แล้วยื่นนมสดมาให้ “ดื่มนมสดให้กระเพาะรู้สึกสบายก่อน”

หนานซ่งที่ขมวดคิ้วรับนมสดมา พออ้าปากพูดเสียงก็ยังแหบแห้ง “ฉันอยู่ที่นายได้ยังไง?”

“ยังจะให้พูดอีกเหรอ เธอเมาเละขนาดนั้น ดึกมากแล้วเลยไม่ให้เธอกลับไป”

ไป๋ชีกินมื้อเช้าที่โต๊ะอยู่ เห็นน้องสาวบีบจมูกแล้วดื่มนมเหมือนดื่มยาเข้าปาก จึงยิ้มมองเธอ “ตั้งแต่เด็กจนโตไม่ชอบกินนม หนานซ่งดื่มนมเสร็จแล้วจึงรีบไปบ้วนปาก กระเพาะรู้สึกสบายขึ้น เห็นกระโปรงที่ยับยู่ยี่บนตัว จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นส่งข้อความหาผู้ช่วย จากนั้นก็ก้าวเดินไปที่ห้องอาบน้ำ “ฉันอาบน้ำก่อนนะ”

“เธอยังจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไร?” ไป๋ชีที่อยู่ข้างหลังเอ่ยถามเธออย่างเรียบนิ่ง

ฝีเท้าของหนานซ่งหยุดชะงัก หันกลับมา แล้วพยายามนึกย้อน “เหมือนว่าฉันกำลังเต้นอยู่ แล้วเกือบจะโดนลวนลาม แล้วฉันก็ทุ่มไหล่เขาด้วย แถมยังตบหน้าเขาอีก ใช่ไหม?”

“อื้อ หลังจากนั้นล่ะ?”

“หลังจากนั้น……จำไม่ได้แล้ว ลืมทุกอย่างหลังจากตอนนั้น”

ไป๋ชีจิบกาแฟ แล้วมองน้องสาวตาขวาง “เธอยังอ้วกใส่เขาในลิฟต์อีก”

“อ๋อ” หนานซ่งไม่รู้สึกผิดอะไรเลย “ถือว่าเขาซวยเอง”

จากนั้นก็ก้าวเดินไปข้างหน้าสองก้าว อยู่ๆหนานซ่งก็รู้สึกถึงความผิดปกติ จึงหยุดแล้วหันกลับไป “เขา ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไรหรอกมั้ง?”

ไป๋ชีใช้ผ้าเช็ดมุมปาก “ยังพอได้ คุณชายน้อยตระกูลฟู่ที่เมืองหรง ฟู่ยวี่”

“ตระกูลฟู่เมืองหรง? ตระกูลอิทธิพลมืดที่ร่ำลือกันเหรอ?” หนานซ่งขมวดคิ้ว

ไป๋ชี “ยินดีด้วย เธอตอบถูก”

หนานซ่งขมวดคิ้วอีกครั้ง จากนั้นก็โบกมือเอ่ยว่า “ไม่สนหรอก ใครให้เขามาหาเรื่องฉันล่ะ ถ้าไม่ได้จริงๆก็ให้พี่สองช่วยสิ”

มืดกินมืด ไม่แน่หรอกว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ

ไป๋ชีมองแผ่นหลังน้องสาวเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำอย่างไม่สนใจ ทำอะไรกับน้องสาวที่ชอบก่อเรื่องแต่ไม่สนใจไม่ได้เลยจริงๆ เหมือนกลับไปตอนเด็กที่เธอก่อเรื่องได้ตามใจชอบแล้วพวกเขาก็ตามเก็บกวาดให้เธอ

ความรู้สึกแบบนี้ ก็ดีเหมือนกัน

……

พอหนานซ่งอาบน้ำอุ่นเสร็จแล้ว ก็รู้สึกสบายตัวไม่น้อย เพิ่งเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เหล่าผู้ช่วยก็มาถึงพอดี

ผู้ช่วยสองคนในชีวิตประจำวันถือกระเป๋าเล็กใหญ่เข้ามา แล้ววางเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ กระเป๋าตรงหน้าเธอ แล้วรอให้บอสเลือก

หนานซ่งนั่งดื่มกาแฟอยู่บนโซฟา แล้วให้สไตล์ลิสทำผมให้อยู่ จากนั้นก็ชี้เลือก “อันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้”

เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วออกมาจากห้องสูท หนานซ่งไม่ได้ขึ้นลิฟต์ แต่กลับเดินเลี้ยวไปที่ห้องสูทหมายเลขเจ็ดเจ็ด จากนั้นก็เคาะประตูเป็นมารยาท “ก๊อก ก๊อกก๊อก”

ประตูเปิดจากข้างใน จึงเห็นใบหน้าที่ยังสะลึมสะลือไม่ตื่น หน้าตาผู้ชายก็ดูดี ทั้งเนื้อทั้งตัวใส่แค่กางเกงในตัวเดียว สามารถมองเห็นหุ่นที่เพอร์เฟคทั้งตัว แค่ดูก็รู้ว่าเข้าฟิตเนสบ่อยแน่นอน

หนานซ่งมองกวาดผ่านๆ ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร เพราะหุ่นแบบนี้สามปีที่ผ่านมาเธอเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ฟู่ยวี่ถูกรบกวนฝันหวานรู้สึกไม่สบอารมณ์มาก แต่พอเห็นใบหน้าของเธอ กลับตื่นทันที พร้อมยกดวงตาเจ้าเสน่ห์ที่มีขี้ตาติดขึ้นมา “นี่เป็นเจ้าแมวป่าน้อยเมื่อคืนไม่ใช่เหรอครับ? เช้าขนาดนี้ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

“ได้ข่าวว่าเมื่อคืนฉันอ้วกใส่คุณ นี่เป็นเสื้อผ้าที่ชดใช้ให้คุณค่ะ”

หนานซ่งโยนเสื้อสูทตัวใหม่ไปให้เขา “คุณลวนลามฉันแล้วฉันก็ตบคุณ ฉันอ้วกใส่คุณแล้วชดใช้เสื้อผ้าให้คุณ ถือว่าเราหายกันนะคะ?”

ฟู่ยวี่พยักหน้า “จะพูดอย่างนี้ก็ได้”

“โอเคค่ะ ถ้าไม่พอใจจริงๆ มาหาฉันได้ตลอดค่ะ” จากนั้นหนานซ่งก็หันหลังเดินไป

ฟู่ยวี่อิงอยู่ที่ประตู แล้วถามอย่างมีเลศนัยว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร จะไปหาคุณยังไงครับ?”

หนานซ่งตอบชื่อตัวเองไป โดยที่ไม่หันกลับมา “บริษัทตระกูลหนาน หนานซ่งค่ะ”

ฟู่ยวี่มองแผ่นหลังของเธอเดินจากไป ดูสูงส่งเหมือนหงส์ฟ้า ดวงตาเจ้าเสน่ห์กะพริบไปมา ที่แท้เธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลหนานที่”ฟื้นคืนชีพ”ในข่าวงั้นเหรอ

คราวนี้เพื่อนรักซวยแน่

มุมปากฟู่ยวี่เลิกขึ้น แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา “แกถึงหรือยัง? คนเพิ่งไปเมื่อกี้”

ห้องโถงชั้นหนึ่งในบาร์ซุ่ยอวิน เช้าขนาดนี้ในบาร์ไม่มีคนอะไร มีแค่เงาที่เย็นชานั่งอยู่ที่นั่งตรงกลาง สายตาก็จ้องมองไปที่ลิฟต์ตัวที่หนึ่ง รอใครบางคนปรากฏตัวอยู่

ห้าวินาทีหลังจากนั้น ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออก

ยวี่จิ้นเหวินเงยหน้าขึ้น จึงเห็นผู้หญิงเซ็กซี่ที่ใช่ชุดกระโปรงหนัง แล้วสวมสูทนอกสีแดงเดินออกมา ผมสั้นที่ดูชิลล์เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงาม แล้วไหปลาร้าก็สะดุดตามากด้วย

ตอนที่เธอเดินเหมือนสร้างลมได้เอง ต่างหูเพชรข้างหูก็แกว่งไปมาเล็กน้อย เหมือนกระดิ่งลมอย่างนั้น ซึ่งรับกับใบหน้าที่เย็นชาของเธอได้ดี

ตอนที่หนานซ่งเพิ่งเดินออกมาจากลิฟต์ เธอก็เห็นใบหน้าเย็นชาที่คุ้นเคยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนกัน

สายตาของทั้งสอง สบตากันอย่างแม่นยำ

Options

not work with dark mode
Reset