หลังเกาหย่าเหวินออกมาจากบ้านพักของอวี้หนานเฉิงก็ได้ไปนั่งในรถของพี่เลี้ยง
“ขับรถ”
รถได้ขับออกจากบ้านพักวิลล่าระดับไฮเอนด์ ในรถก็ได้มีเสียงของคนขับดังขึ้นมา
“พี่เหวิน สถานการณ์ไม่มีอะไรผิดปกติ ใครจะไปรู้ว่าผู้จัดการโรงแรมจะงี่เง่าแบบนี้”
“ไม่เป็นไร” สีหน้าของเกาหย่าเหวินดูชั่วร้าย
“ถ้ามันถูกทุบจนตายจริงๆ มันจะจัดการเรื่องต่างๆได้ยากขึ้น เอาแบบนี้ ทำให้หนานเฉิงรู้สึกกลัวขึ้นมาหน่อย ถ้าทำแบบนั้นเขาจะได้ไปคิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะแต่งงานใหม่”
“แล้วเด็กคนนั้น…”
“ตอนนี้อย่าเพิ่งไปยุ่งกับเขา โอกาสหน้ายังมีอยู่”
เกาหย่าเหวินก้มศีรษะลงและเหลือบมองเล็บนิ้วที่ประดับด้วยเพชรแวววาว ท่าทางของเธอดูสบายๆ
“สองวันนี้ฉันจะไปโรงแรมหน่อย บอกผู้ช่วยคนใหม่ว่าให้เตรียมของที่เด็กๆชอบมาให้เยอะหน่อย แล้วฉันจะเอาไปด้วย”
“โอเค”
“…”
——
เซิ่งอันหรานตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เธอขยับแขนที่ชาของเธอเล็กน้อย แต่ก็ยังมีอาการปวดอย่างรุนแรง ตอนที่ปวดเธอมีเหงื่อออกมาเยอะมาก หลังจากที่ลืมตาขึ้น
เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นภาพสีขาวอยู่ตรงหน้าเธอ
“หม่าม้า! ตื่นแล้วเหรอ?”
เสียงที่เอ่อนโยนและคุ้นเคยได้ดังมาจากหูของเธอ เซิ่งเสี่ยวซิงนอนอยู่ที่ข้างเตียงพร้อมกับจับมือที่เจ็บของเธอไว้ ตาของเธอก็ได้แดงขึ้น “หม่าม้า ตกใจหมดเลย”
เซิ่งอันหรานตกตะลึงและพยายามคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น จากนั้นก็จำได้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บหลังจากช่วยชีวิตคนคนหนึ่ง แน่นอนว่าที่นี่คงเป็นโรงพยาบาลแน่นอน
แต่ทำไมลูกสาวถึงอยู่ที่นี่ด้วย?
“ซิงซิงน้อย ทำไมถึงได้มาที่นี่? แม่หลับไปนานเลยเหรอ?”
“อย่าพูดถึงเลย!” ซิงซิงน้อยปาดน้ำตา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “คนเขาอุตส่าห์จะไปเซอร์ไพรส์ที่โรงแรม แต่ทันทีที่ไปถึงที่นั่น ก็ได้ยินมาว่าหม่าม้าไปโรงพยาบาล ทำให้ตกใจแทบตาย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซิ่งอันหราน ก็รู้สึกซาบซึ้งและขอโทษ “ขอโทษนะที่หม่าม้าทำให้ลูกเป็นห่วง”
“จะไม่เป็นห่วงได้ไง? แม่สอนให้จัดการเรื่องของตัวเองก่อน แล้วค่อยไปจัดการคนอื่นเสมอ แม่ทำไปเพื่อช่วยชีวิตคน แล้วถ้ามันถูกหัวชึ้นมาล่ะจะทำยังไง?”
ซิงซิงน้อย ทำหน้าบึ้ง “หนูยังอยากให้แม่คอยสอนหนูอยู่! ถ้าแม่ทิ้งหนูไว้จะทำยังไงล่ะ?”
เดิมทีเซิ่งอันหรานรู้สึกประทับใจมาก แต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ลำคอของเธอก็ดูเหมือนจะหายใจไม่ออก จ้องมองอย่างเงียบๆ ไปที่หญิงสาวนั้น เธอทนเจ็บเพื่อที่จะยกมือของเธอขึ้นและก็ได้เขี่ยไปที่จมูกของเธอหนึ่งที
“เด็กบ้านี่ เลี้ยงเธอมานี่มันเปล่าประโยชน์จริงๆ”
“เลี้ยงหนูมาสิมันถึงจะไม่เปล่าประโยชน์!” ซิงซิงน้อยได้พูดออกไปแล้วมองดูเธอพร้อมกับกำลังจับไปที่แขนของตัวเอง“จะไปหาลูกสาวอย่างหนุได้จากที่ไหนอีก เด็กสาวที่อายุห้าขวบก็เริ่มที่จะทำอาหาร ล้างจานและทำงานบ้าน?”
“ใช่ใช่ใช่ หนูเก่งมาก แม่หวังพึ่งหนูเลี้ยงดูอยู่” เซิ่งอันหรานขี้เกียจเกินกว่าที่จะโต้เถียงกับเธอ
เด็กหญิงคนนี้มีลิ้นยาวราวสามนิ้ว มีคารมคมคายตั้งแต่ยังเด็กและเมื่อโต้เถียงกับเธอยังไงก็ตกหลุมพรางของเธออยุ่ดี
ขณะที่พูดอยู่ก็มีเสียงเคาะประตู
“เข้ามาสิ” เซิ่งอันหรานมองอย่างงงๆ ไปที่ประตู
“คุณเซิ่ง” ผู้มาเยี่ยมเป็นชายวัยกลางคน เซิ่งอันหรานจำได้ว่าเขาดูเหมือนพ่อบ้านที่ดูแลเด็กน้อยน่ารักคนนั้น ในขณะนั้นในมือของเขาก็มีถุงอาหารขนาดใหญ่สองถุง เขาเดินเข้าไปด้วยความเคารพ
“อันนี้เป็นของที่คุณชาย* เตรียมไว้ให้ครับ กระดูกของคุณเซิ่งได้รับบาดเจ็บ สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูก นายน้อยของผม* ก็ยังฝากผมมาขอบคุณเซิ่งด้วยครับ เขาจะต้องไปส่งคุณชายน้อย* กลับบ้าน ก็เลยไม่ได้รอให้คุณเซิ่งตื่นก่อน ขออภัยด้วยครับ”