สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ 90 เคสที่ 43 เข้าใจผิด

ตอนที่ 90 เคสที่ 43 เข้าใจผิด

“มีอะไรจะพูดมั้ย? น้ำ”

“นายต่างหากล่ะ อยู่ๆเป็นอะไรถึงได้มายืนเก๊กพูดแบบนั้นกันยะ?”

…เนื่องจากการประเมินอันแสนวุ่นวายได้จบลงอย่างสวยงามเรียบร้อย ถึงจะเห็นว่าพวกสาขาสองจะยังไม่กลับก็เถอะ แต่ก็เรียกว่าสถานการณ์ของสภากลับมาเป็นปกติ

ศาลาพักใจปิดทำการ เอ็มให้เหตุผลว่า ในเมื่อคริสโตเฟอร์ได้เป็นประธานแล้ว จะเปิดศาลาต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้น…ต่อจากนี้คงจะมีลูกเคสเข้ามาอย่างที่ควรจะเป็น

และนี่ก็คงเรียกได้ว่าเป็นวันแรกอย่างเป็นทางการ ที่สมาชิกสภามาอยู่กันพร้อมหน้า แบบ…พร้อมหน้าจริงๆ

ผม พลอย ดิว สไปรท์ พี่น้ำ พี่ต้น เรย์ …ส่วนหมิงหมิงก็นานๆมาที ส่วนเจี๊ยบก็ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ

ยังไม่ทันจะเริ่มทำสักเคส แต่ทันทีที่พี่น้ำมาถึงห้องสภา พี่ต้นก็ถามไปแบบนั้นทันที

เอาล่ะ นั่งฟังต่ออีกหน่อยดีกว่า ไม่ต้องไปรีบห้ามหรอก

“กับน้องสไปรท์น่ะ เข้าใจได้ โดนเอ็มเลือกให้ไปอยู่ศาลา …แต่เธอน่ะจงใจ ไม่ปรึกษาน้องประธานก่อนเลยสักคำ”

“โตๆกันแล้วนะ ไม่เห็นต้องไปขอคำอนุญาตใครก่อนสักหน่อย?”

“อย่างเธอเนี่ยนะโต? โตแต่ตัวมากกว่า”

“หะ หา…? ช่วงนี้แค่กินเยอะนิดเดียวเอง!”

เหมือนพี่น้ำกับพี่ต้นจะคุยไปคนละประเด็นไงชอบกล

“ไม่ใช่น้า! พี่โต้น! พี่น้ำแค่อยู่ในวัยเจริญเติบโตเลยหน้าอกใหญ่ขึ้นเฉยๆเอ๊ง!!!”

ส่วนยัยสไปรท์ก็ไปร่วมวงด้วยทำไมก็ไม่รู้ แถมยังลากไปอีกประเด็นจนเห็นแล้วอยากเอาส้นเท้าก่ายหน้าผาก

“พะ พี่ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น…”

“พี่ต้นทะลึ่งอะ! ไม่มีใครจะห้ามเลยเหยอ!?”

“พอแล้วสไปรท์ พี่ต้นไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นสักหน่อย กลับมานั่งที่เถอะ”

เรย์ถอนหายใจพลางเข้าไปหิ้วปีกสไปรท์กลับมาที่โซฟา

“เลย์ก็ไม่ห้ามเหยอ!? พี่ต้นทะลึ่งนะ!”

“คนที่ในหัวมีแต่เรื่องทะลึ่งมันเธอต่างหาก เฮ้อ…ติดมาจากเชอรี่หรือไงนะ”

หลังจากสไปรท์กลับมา บุคลิกน่าเอ็นดูที่เห็นในศาลาพักใจก็ราวกับเป็นเรื่องโกหก… ตอนนี้ก็เป็นสไปรท์ตามปกติ

จากที่ถามไป สไปรท์จะให้คำตอบประมาณ ‘อยู่ที่โน่นเหมือนมีอะไรสักอย่างดลใจให้จริงจังงะ?’ …นั่นแหละ ฟังแล้วไม่เข้าใจเลยสักนิด

แต่ก็ดี ผมชอบสไปรท์ที่บ้าๆบอๆแบบนี้มากกว่า ถ้าให้พูดน่ะนะ

พี่ต้นรอจนเรย์ลากสไปรท์ออกไป ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึมและพูดกับพี่น้ำต่อ

“จะมีเหตุผลอะไรไม่รู้ แต่ไปขอโทษน้องประธานก่อน”

“หว๋าย โมโหอะไรของนายเนี่ย??? ยังไงก็ต้องมีสองคนไปศาลาอยู่แล้ว จะมีฉันด้วยมันแปลกตรงไหน?”

“ตรงที่เธอไปแบบจงใจนั่นแหละ”

“ขอโทษนะค้า น้องคริส~”

ผมแค่พยักหน้าให้พี่น้ำเบาๆ แหม…เกิดพูดอะไรไปตอนนี้ สมมุติพี่ต้นเลิกเค้นคอพี่น้ำขึ้นมาก็แย่กันพอดี เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมพี่น้ำถึงไปเข้ากับศาลาพักใจแต่แรก

พี่น้ำเอามือไขว้หลัง

“พอใจมั้ย? ต้น”

“เออ อย่างเธอฉันคงหวังได้แค่นี้”

“เดี๋ยวๆ คนที่โกรธควรเป็นน้องคริสไม่ใช่นายสักหน่อย!”

“ได้ข่าวว่าตอนอยู่ศาลาทำงานดีด้วยนี่?”

“อ๊ะ…”

พอเห็นช่องทาง พี่ต้นก็ซัดต่อทันที

“ผิดกันกลับตอนอยู่สภา โดดงานเป็นว่าเล่น ให้ช่วยอะไรก็ไม่ช่วย แบบนี้มันถือว่าหักหน้าน้องประธาน ถ้าไม่มีเหตุผลดีๆให้ยอมรับฉันโกรธจริงๆด้วย”

“นี่ยังไม่โกรธเหรอ!?”

“อ่า”

อืม…ได้มาเห็นพี่ต้นตอนโมโหนี่ก็แปลกตาน่าดู ปกติจะเป็นรุ่นพี่ที่น่าเคารพและพูดจาเป็นกันเองกับรุ่นน้องแท้ๆ พอคู่สนทนาเป็นพี่น้ำ แถมยังทำผิดมาด้วย ก็ไม่ไว้หน้าเลยแฮะ

ผมไม่อยากโดนสายตาแบบนั้นจ้องเท่าไหร่ เอาเป็นว่าต่อจากนี้พยายามไม่ทำให้พี่ต้นโกรธดีฟ่า

“พี่ต้นตอนโกรธน่ากลัวจังนะคะ?”

“เธอก็คิดเหมือนกันสินะ?”

พลอยพยักหน้าเบาๆ ว่าแต่ทำไมหล่อนมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะเนี่ย? ไม่ไปนั่งโซฟากับพวกน้องๆแบบทุกทีเรอะ?

“…พี่ต้นไม่ได้โกรธสักหน่อย”

ดิวเคี้ยวขนมตุ้ยๆพูดมาแบบนั้น แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้อีกคนล่ะเฮ้ย?

“หมายความว่าไง? ดูไงก็โกรธอยู่ชัดๆ”

“…ไม่รู้สิ”

งั้นตูก็ไม่รู้เหมือนกัน

บรรยากาศในสภามาคุขึ้นเรื่อยๆ แต่มันจะมีอยู่หน่อนึงที่พยายามจะทำให้เสียบรรยากาศ หรือที่เรียกว่าไม่ดูตาม้าตาเรือ ดีหน่อยที่มีเรย์ห้ามไว้…

“อู้อี้!”

โดนอุดปากไปแล้วด้วย

พี่น้ำเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ค่าๆ แค่อยากรู้ว่าทำไมฉันถึงไปช่วยเอ็มก็พอสินะ?”

“ใช่ ขอเป็นเหตุผลดีๆด้วย”

“เรื่องนั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณแต่ละคน โอ๊ะ? ลืมไป นายจะคิดอะไรก็เรื่องของนายนี่นา? ถ้าน้องคริสไม่โกรธก็พอแล้วนี่~”

ว่าแล้วพี่น้ำก็เดินผ่านพี่ต้นมาทั้งแบบนั้น แถมยังเอาไหล่กระแทกจนพี่ต้นเดาะลิ้นไม่สบอารมณ์ ท่าทีอย่างกับนักเลง หมายถึงพี่น้ำอะนะ…

“สวัสดีค่ะ น้องคริส”

“ดีครับ”

“พี่มารายงานเกี่ยวกับการเป็นไส้ศึกที่ศาลาพักใจค่ะ…”

ขณะที่คนอื่นในสภาอ้าปากค้าง เหมือนกำลังคิดว่า ‘อะไรกัน? ทั้งหมดเป็นแผนของประธานงั้นเหรอ!?’ ผมรีบยกมือห้าม

“หยุดทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้แล้ว ผมไม่ได้สั่งให้พี่ทำอะไรสักหน่อย”

“ว้า ช่วยตามน้ำหน่อยก็ไม่ได้ น้องคริสนี่น้า~”

พี่น้ำกำลังจะพูด แต่ก็หันไปพูดกับสองสาวข้างตัวผมก่อน

“แล้วน้องพลอยกับน้องดิวมายืนทำอะไรตรงนี้ล่ะคะเนี่ย? ไม่ไปนั่งกับพวกน้องๆที่โซฟาเหมือนทุกทีเหรอ?”

“พี่น้ำไม่เข้าสภานี่คะ…รู้ได้ไงว่าปกติหนูนั่งตรงไหน…”

“ก็แหม อย่างน้องพลอยคงไม่กล้ามานั่งหรือยืนข้างๆน้องคริสนี่นา!”

เพียงเท่านั้น พลอยก็ไปหยิบเก้าอี้สำรองจากห้องเก็บของและนั่งลงข้างผมอย่างแรง

“ใครบอกหนูไม่กล้ากันคะ!?”

นี่หล่อนกำลังอยากเอาชนะเรื่องอะไรอยู่เนี่ย?

“จ้าๆ ส่วนน้องดิวก็…น้องคริสไม่ให้วางขนมที่อื่นนอกจากโซฟา เลยพอเดาได้น่ะ”

“…อือ”

ดิวตอบสั้นๆ และเดินเอื่อยๆกลับไปนั่งโซฟา

พี่น้ำกอดอก

“น้องคริสพอเดาเหตุผลที่พี่ไปอยู่กับน้องเอ็มได้รึเปล่า?”

“เดาว่าเป็นเรื่องไร้สาระครับ”

“ผิดจ้าผิด ไม่ไร้สาระสักหน่อย”

“งั้นช่วยบอกมาหน่อย”

“กำลังจะบอกอยู่นี่ไง ว่าแต่…ทำไมน้องคริสถึงดูไม่ค่อยโมโหเท่าไหร่เลยล่ะ? ขนาดต้นยังโมโหขนาดนั้นเลยแท้ๆ”

เธอป้ายนิ้วไปทางพี่ต้นที่ยืนจ้องมาทางนี้

ผมตอบไปว่า

“เวลามีคนนึงในสภาร้อน ก็ต้องมีอีกคนเย็นใช่มั้ยล่ะครับ? อีกอย่าง ในเมื่อผมค่อนข้างมั่นใจว่ายังไงก็เป็นเรื่องไร้สาระแน่ๆ เอาจริงคือไม่ค่อยมีอารมณ์จะโกรธเท่าไหร่ แค่สงสัยมากกว่า”

“เข้าใจเลยค่ะ เข้าใจเลย …ที่จริงพี่มีเรื่องจะปรึกษาน้องคริสนิดหน่อย พอดีรู้สึกเหมือนโดนเบี้ยวค่าจ้างน่ะ”

“ค่าจ้าง?”

เมื่อผมถามกลับ พี่น้ำก็ยื่นกระดาษฟิล์มใบเล็กๆมาก่อนที่จะขยายความสิ่งนั้นให้ฟัง

“นี่คือรูปถ่ายค่ะ”

“อ่าหะ?”

ผมนำมาพิจารณา ก่อนจะเพ่งมองแล้วก็ประหลาดใจ

“…ไปเอามาจากไหน?”

พอถามเสียงแข็งไปแบบนั้น พลอยก็ยื่นหน้ามาดูด้วยเช่นกัน

“นี่รูปถ่ายเหรอคะ? แต่ดิฉันมองไม่เห็นอะไรเลยนะคะ?”

“คงงั้นแหละ เจ้านี่มีพื้นเพจากภพอื่น ตกใจเหมือนกันที่ยังคงสภาพไว้ได้ แต่คนภพนี้มองไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมดหรอก…”

เดาว่าเอ็มคงให้เจ้านี่เป็นค่าจ้างพี่น้ำนั่นแหละ ส่วนเรื่องที่พี่น้ำจะขอคำปรึกษาก็คงจะเป็น…

“น้องเอ็มบอกพี่ว่าถ้ายอมไปทำงานศาลา จะให้รูปถ่ายของน้องคริสสมัยเด็ก แต่ก็อย่างที่เห็นว่าถึงได้มาแล้วก็มองไม่เห็นอะไรเลย น้องคริสพอจะช่วยซ่อมหรือไปเจรจากับเอ็มได้รึเปล่าคะ?”

รูปถ่ายในมือ คือรูปถ่ายสมัยเด็กของผม …ผมเคยเจอกับเอ็มตอนเด็กก็จริง แต่ไม่รู้ว่าไอ้บ้านั่นเอาจังหวะไหนถ่ายเก็บไว้

และยังเอามาล่อพี่น้ำอีกต่างหาก

“แล้วทำไมของแลกเปลี่ยนถึงได้เป็นรูปผมไปได้ล่ะเนี่ย…”

“พี่อยากเห็นน้องคริสตอนวัยกำลังน่ารักนี่คะ?”

โคตรจะไร้สาระ

ผมเก็บรูปลงเก๊ะลิ้นชัก พี่น้ำพยายามจะดึงแย่งกลับแต่ไม่ทันแล้ว ไหนๆก็เป็นรูปถ่ายส่วนตัวที่โดนเอามาใช้อย่างไม่เป็นธรรม เพราะงั้นขอยึดถาวร

พี่น้ำทำหน้าเซ็งๆก่อนผายมือ

“ก็ได้ๆ ยังไงก็มองไม่เห็นอยู่แล้วด้วย แต่ช่วยไปบอกเอ็มให้หน่อยได้มั้ย? พอดีรู้สึกเหมือนโดนโกงยังไงชอบกลค่ะ”

อย่างเอ็มมันไม่โกงใครหรอก เรียกว่าโดนเหลี่ยมเข้าเต็มๆมากกว่า ไม่มีทางที่เจ้านั่นจะไม่รู้ว่ารูปถ่ายมีปัญหากับคนภพนี้ยังไง แต่ยังเอามาเสนอกับพี่น้ำทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว

ต่อให้ผมไปช่วยพูดให้ เอ็มก็คงหาทางตอบให้ผมจนมุมอยู่ดี

อีกอย่างก็…

“สรุปพี่น้ำไปช่วยเอ็มในช่วงที่สภากำลังลำบากอย่างเต็มใจ เหตุผลเพราะรูปถ่ายบ้าๆบอๆนี่อะนะครับ?”

“ถูกต้อง!!!”

ภูมิใจจริงนะหล่อน

พี่ต้นเดินมาพร้อมลูบต้นคอถอนหายใจ

“ถ้าของแค่นั้นล่ะก็…เธอขอน้องประธานตรงๆก็ได้นี่”

“จริงด้วย! นานๆทีนายก็ฉลาดเหมือนกันนะ!”

พี่ต้นหรี่ตามองเหมือนอยากจะสวนไปว่า ‘ฉลาดกว่าเธอแล้วกัน’

ผมปัดมือ

“ที่จริงก็ไม่ใช่ของต้องปิดบังหรอกครับ มนุษย์ก็ชอบแลกรูปสมัยเด็กให้ดูกันอยู่แล้ว”

“เหมือนที่เปลี่ยนโปรไฟล์ตัวเองตอนวันเด็กใช่เป่า?”

“ใช่ๆ แบบนั้นแหละ”

ผมชี้นิ้วให้สไปรท์ที่ช่วยพูดให้เข้าใจถ่องแท้

และพูดต่อไปอีก

“แต่พอดีผมไม่มีรูปสมัยเด็กเก็บไว้น่ะสิ ต่อให้มีก็เป็นของประเภทเดียวกับรูปถ่ายของเอ็มอยู่ดี มนุษย์มองไม่เห็นหรอก”

“วุ่นวายจังนะคะ ชาวนรกสวรรค์เนี่ย”

“อย่างน้อยก็ไม่ต้องใส่ชฎามาเรียนทุกวันเหมือนเธอแล้วกัน”

“ค่ะๆ ประชดกันเข้าไป”

ผมกับพลอยหลุดประเด็นกันไปใหญ่ พี่น้ำจึงดึงกลับเข้าเรื่องเดิม

“น้องคริสจะไปคุยกับน้องเอ็มให้พี่มั้ยคะ?”

“ไม่ได้จะปัดความรับผิดชอบหรอกนะครับ แต่ทำไมพี่ไม่ไปเองล่ะ? เคยทำงานด้วยกันก็น่าจะสนิทกันสิ?”

“อืม…ว่าไงดีล่ะ ถึงน้องเอ็มจะค่อนข้างเป็นมิตรก็เถอะ…แต่พี่มีความรู้สึกไม่อยากไปเซ้าซี้น้องเขาเท่าไหร่”

“เลยมาเซ้าซี้กับผมแทนสินะ…”

“ดีใจมั้ยล่ะ?”

อยากให้ตอบจริงๆเหรอ?

กลัวว่าตอบไปแล้วจะมองหน้ากันไม่ติดนี่สิ รูดซิบปากไว้ดีกว่าแฮะ

“น้องเอ็มนี่ก็น้า…เป็นเทวทูตแท้ๆ ไม่น่ามาหลอกกันเลย~”

พี่น้ำถอนหายใจอีกรอบ

พี่ต้นก็ถอนหายใจเช่นกัน

“ที่ยอมให้หลอกมันเธอต่างหาก ทำอะไรไม่ปรึกษาคนอื่นสักคำ”

“อ้าว? หายโกรธแล้วเหรอ?”

“? ฉันก็ไม่ได้โกรธสักหน่อย”

ดูเหมือนพี่ต้นจะยอมเข้าใจเหตุผลของพี่น้ำแล้วล่ะนะ ไม่ก็ปลงเกินกว่าจะเก็บมาใส่ใจ ว่าแต่…ก่อนหน้านี้พี่ต้นไม่ได้โกรธหรอกเหรอนั่น? ทำไมดิวถึงมองออกกันนะ?

ผมมองพี่น้ำ

“ไว้เจอแล้วจะลองบ่นให้แล้วกันครับ”

“ขอบคุณนะ อีกอย่าง…ถ้าให้เด็กผู้ชายรุ่นเดียวกันไปคุยน่าจะเข้าใจกันง่ายกว่าด้วย ถ้าให้พี่ไปคุยมีหวังโดนมองว่าเป็นรุ่นพี่ไปเค้นคอรุ่นน้องเอา”

อย่างคุณพี่เค้นคอใครไม่ไหวหรอก ยิ่งกับเอ็มด้วยแล้ว

…ว่าแต่ เด็กผู้ชายรุ่นเดียวกันนี่หมายความว่าไงฮึ?

ผมฉงนออกทางสีหน้าจนพลอยเอ่ย

“ประธาน? เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

“นี่อย่าบอกนะว่าพวกเธอไม่รู้???”

“““หะ???”””

อธิบายด้วยปากก็วุ่นวาย ผมเลยพาสมาชิกสภาบุกไปศาลาพักใจที่อยู่ห้องข้างๆทันที ถึงจะปิดทำการไปแล้ว แต่เอ็มกับอีกสองคนก็น่าจะอยู่กันนั่นแหละ…

 

ระหว่างที่สมาชิกสภาพากันสงสัยว่าผมอยากทำอะไรกันแน่ ก็มาถึงศาลาพักใจ

เมื่อเปิดประตู เอ็มเผยสีหน้าประหลาดใจ

“โอ๊ะ? มากันพร้อมหน้าเลยนะครับ? อ๊ะๆ ไม่ได้จะบอกว่ารออยู่แล้วหรอกนะ ครั้งนี้ค่อนข้างแปลกใจเลยล่ะ ผมทำอะไรผิดรึเปล่า?”

พล่ามอะไรไม่หยุดจนรำคาญหู ผมพยายามเข้าเรื่อง

“โทษที รอบนี้มาเพราะมีเรื่องที่น่าจะสำคัญที่คนอื่นมองตกไป เลยมาช่วยให้เข้าใจตรงกัน”

“หมายถึงของรางวัลที่ผมให้พี่น้ำไปเหรอ? แหม…ผมไม่ได้โกหกสักหน่อย นั่นก็รูปถ่ายของคริสโตเฟอร์สมัยเด็กจริงๆนะ? ถ้าทำให้ลำบากใจ ผมก็ขอโทษด้วย”

ผมเดินรุดไปหา เอ็มที่เห็นดังนั้นก็เอียงคอ

ผมเงยคางพูด

“ลุกขึ้นหน่อย”

“ทำไมอยู่ๆมาสั่งกันล่ะเนี่ย?”

“เออน่ะ”

ถึงจะอิดออด สุดท้ายเอ็มก็ลุกขึ้น ผมจึงลากแขนมันมาหาสมาชิกสภาที่อยู่บริเวณหน้าประตู โดยที่เชอรี่กับชบาซึ่งนั่งอยู่มุมห้องก็ออกอาการสงสัยไม่แพ้กัน

“คริสโตเฟอร์จะทำอะไรน่ะ? ผมเริ่มจะกลัวๆแล้วนะ?”

ผมไม่สนใจคำพูดของมัน ก่อนจะบอกกับทุกคน

“รู้ใช่มั้ยว่าไอ้เทวทูตนี่เป็น‘ผู้หญิง’?”

““““““““หะ…?””””””””

งงเป็นไก่ตาแตกกันทั้งคณะ ตูจะบ้า นี่มองกันไม่ออกจริงดิ? เดี๋ยวๆ แล้วทำไมพวกสาขาสองถึงทำหน้างงกันด้วยล่ะนั่น?

“พลอย มานี่หน่อยซิ”

“อ๊ะ ค่ะค่ะ!”

พลอยขมวดคิ้วสงสัย ผมจับข้อมือพลอย ดึงมือเธอไปแตะบริเวณหน้าอกของเอ็ม

“คริสโตเฟอร์!?”

“จะเขินอะไรเล่า ผู้หญิงด้วยกันไม่ใช่เรอะ?”

“ตะ แต่ว่า!?”

พลอยลูบๆคลำๆ จนเอ็มแสดงสีหน้าเขินอาย

“อืม…เป็นกล้ามหน้าอกที่นุ่มนิ่มจังเลยนะคะ?”

“กล้ามบ้านเธอนิ่มหรือไงหา? นี่มันหน้าอกผู้หญิงต่างหาก?”

“แต่คุณเอ็มเขาแทนตัวเองว่า ‘ผม’ เลยนะคะ! แถมหน้าตาก็หล่อกว่าประธานตั้งหลายเท่า แล้วเขาจะเป็นผู้หญิงไปได้ยังไงคะ!?”

พลอยตะโกนเถียงขาดใจ จับไปขนาดนั้นยังไม่รู้อีกเหรอ…แล้วไอ้หล่อกว่าผมตั้งหลายเท่านี่หมายความว่าไงหา?

พี่น้ำเข้ามาร่วมวง

“ขอคิดไปเองว่าอนุญาตแล้วละกันเนอะ? ไหนๆ ขอพี่ลองบ้างซิ~”

แปลกดีที่ไอ้บ้านี่ไม่ขัดขืนเลยสักนิด ถ้าเอ็งสมยอมแบบนี้ตูก็ไม่ช่วยห้ามนะเฮ้ย

“เหมือนจะพันผ้าทับไว้นะคะ? แต่จากสัมผัสแล้ว ยังไงก็ไม่ใช่กล้ามอกแน่ค่ะน้องพลอย”

“งะ งั้นเหรอคะ…”

“แต่น้องคริสคะ? เอ็มเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ?”

ไม่แปลกใจที่ทำไมคนประเทศนี้ถึงได้กล้าทำละครที่ให้ผู้หญิงมาแปะหนวดพลางพูดเจ้าฮะ เจ้าฮะแล้วมีคนดู โง่กันสุดๆ

“ลองถามมันตรงๆดูสิ”

เอ็มไม่โกหก ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีคนรู้เพราะรูปลักษณ์ภายนอกมันเหมือนผู้ชายเสียจนไม่มีใครถามมากกว่า

พลอยจ้องหน้าเอ็ม

“คุณเอ็มเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคะ!?”

ยัยนี่จะใส่อารมณ์กับคำถามเกินไปมั้ย

เอ็มหลบสายตาตอบเสียงค่อย

“ผะ…ผู้หญิงครับ”

นั่นไงเล่า โกหกไม่ได้จริงด้วย

“ไม่ได้ยินเลยค่ะ!”

เมื่อโดนจี้ใส่แบบนั้น เอ็มก็ปัดมือพี่น้ำที่ยังไม่หยุดลูบสักทีพร้อมพูดเสียงเรียบๆ

“พะ เพศสภาพมันก็แค่ข้อกำหนดของภพมนุษย์เท่านั้นแหละครับ กับผมที่เป็นเทวทูต อันที่จริงใช้แนวคิดแบบนั้นบอกไม่ได้หรอกครับ”

“ต*แหล เทวทูตไม่ใช่ซาตานนะว้อย มีเพศเดียวต่างหาก”

“พูดแรงไปแล้วนะ!”

“เพราะแกเอาแต่บ่ายเบี่ยงไปเรื่อยนั่นแหละ ไม่อยากทำงี้หรอก…แต่อย่างแกคงไม่คิดอะไร…”

ผมจับกระดุมเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตอีกฝ่าย ขณะกำลังปลดกระดุมเม็ดนั้นนั่นเอง ที่เอ็มรู้ทันทีว่าผมจะทำอะไร

ลำแสงสีทองสว่างวาบที่ข้างแก้ม

พริบตาต่อจากนั้น หมัดที่แฝงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์ชกมายังใบหน้าเต็มแรงจนคอแทบหัก

ผมกระเด็นกระแทกจนกำแพงศาลาพักใจร้าว อย่างกับที่เห็นการ์ตูน …แต่ไม่หรอก ไอ้บ้านี่ต่อยมาเต็มแรงแบบกะเอาให้ตายเลยต่างหาก

เอ็มยกแขนบังหน้าอกด้วยใบหน้าแดงแจ๋

“อยู่ๆมาถอดกันได้ไงเนี่ย!? ผมไม่ใช่หุ่นลองเสื้อส่วนตัวของนายนะ!!!?”

“คิดว่าฉันอยากทำหรือไง? แกก็ช่วยบอกลูกน้องฉันไปตรงๆสักทีได้มั้ย? จะได้หายสงสัยกันสักที”

“โรคจิต!”

เอ้า โดนด่าเฉย

ผมปัดมือ

“เฮ้ยๆ เป็นเทวทูตอย่าด่าคนอื่นดิ แล้วเผื่อไม่รู้นะ ฉันไม่มีกิเลศกับตัวมนุษย์คนไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเพศอะไรก็ตาม”

“พูดมาแต่ละคำ!!! ผมทนไม่ไหวแล้วนะ!!!”

เอ็มเร่งพรให้ปลุกคลุมทั่วร่าง เอ…พึ่งเคยเห็นมันโกรธขนาดนี้นะเนี่ย? นี่เราทำผิดขนาดนั้นเลยเหรอ?

แต่ถ้าอยากวัดกันซักตั้งก็จัดให้ ผมไม่ปล่อยให้โดนต่อยเฉยๆหรอก!

เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็เร่งคำสาป ในศาลาจึงเกิดเป็นภาพที่ราวกับสวรรค์และนรกจะบรรจบ…

เรย์ที่เห็นดังนั้นก็พูดทันที

“พะ พวกเรารีบกลับสภากันเถอะ เชอรี่กับพี่ชบาก็มาด้วยกันก่อนดีกว่า…ไม่สิ มาเถอะ ถ้าอยู่ล่ะตายแน่”

ไม่มีใครค้านเรย์สักคำ 

พวกเขาพากันเดินออกจากศาลาพักใจด้วยสีหน้ากังวลอย่างสุดซึ้ง

“ผมจะปัดเป่าให้กลับนรกเลยคอยดู! คริสโตเฟอร์!!!”

“เออ! อยากวัดกับแกสักตั้งมานานแล้ว! เอ็ม!!!”

จากนั้นคงไม่ต้องบอกว่าวินาศสันตะโรขนาดไหน แน่นอนว่าโดนครูใหญ่สมศักดิ์เรียกไปตักเตือนยกใหญ่ สุดท้ายศาลาพักใจพังยับ จนต้องปิดซ่อมแซมอย่างไม่มีกำหนด ไม่เห็นเป็นไร ยังไงก็ไม่ได้เปิดทำการอยู่แล้ว

แต่ที่จริงไม่ต้องด่ากันมากก็ได้ ควรขอบคุณผมมากกว่าที่ยั้งมือให้ความเสียหายอยู่แค่ในศาลาพักใจน่ะ นี่ซาตานกับเทวทูตตีกันเลยน่า

ขอบคุณซะสิ?

เคสที่ 43 เข้าใจผิด /จบ

สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ

สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ

Score 10
Status: Completed
คริสโตเฟอร์ ลูกชายของซาตาน ผู้ที่ลงมายังภพมนุษย์และศึกษาอยู่ในโรงเรียนสำหรับภูติผี ...หะ? ว่าไงนะ? โรงเรียนที่ว่านั่น เจ้าลูกชายซาตานเป็นประธานนักเรียนด้วยอย่างงั้นเหรอ!? แล้วยังงี้คริสโตเฟอร์ที่ต้องมานั่งแก้ปัญหาหนักอกหนักใจของวัยรุ่นเชื้อสาย 'ผีไทย' จะทำยังไงเนี่ย!?

Options

not work with dark mode
Reset