สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ 6 เคสที่ 3 ปอบ

ตอนที่ 6 เคสที่ 3 ปอบ

“ประธานคะ!”

“หือ?”

ขณะกำลังตรวจความเรียบร้อยของเอกสารอยู่ในห้องสภา พลอยก็ตะโกน

…ก็ไม่รู้ว่าจะตะโกนทำไมเหมือนกัน อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ ถึงโต๊ะรับแขกที่เธอนั่งจะอยู่กลางห้องก็เถอะ แต่โต๊ะประธานของผมก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่เลยนะ

พลอยกวักมือเรียกผมให้ไปที่โต๊ะรับแขก ซึ่งข้างๆก็มีดิวนั่งอยู่พร้อมด้วยลูกเจี๊ยบบนไหล่ …ก็ภาพเดิมๆล่ะนะ

ผมเดินไปหา

“มีอะไร?”

“คืองี้ค่ะประธาน ขนมไว้ใช้รับแขกหมดแล้วล่ะค่ะ”

เมื่อพลอยว่าเช่นนั้น ผมก็ก้มลงมองโต๊ะ 

ขนมที่ซื้อไว้รับรองแขกที่ตั้งไว้สำหรับใช้ประจำวันหมดเกลี้ยง 

ผมไปเช็กที่ตู้เก็บของก็พบว่าหมดเช่นกัน

“ฉันพึ่งซื้อเข้ามาใหม่ตอนต้นอาทิตย์ไม่ใช่เรอะ? พึ่งจะวันพุธเอง หายไปไหนหมด?”

อีกอย่าง สัปดาห์นี้ก็ไม่มีแขกมาเยอะเสียด้วย แถมบางคนก็ไม่ได้ชอบกินขนมถูกๆที่ซื้อจากร้านของชำซะด้วยสิ 

คิดยังไงก็ไม่น่าจะหมดเร็วขนาดนี้

“…ขอโทษ”

จู่ๆก็ได้ยินเสียงขอโทษ

ผมหันไปมอง ก็พบเด็กสาวที่ตั้งแต่เปิดเรื่องก็พูดแต่ ง่ำๆ กำลังทำสีหน้ารู้สึกผิด

“ดิว? ว่าแต่ขอโทษทำไมเนี่ย?”

“…คือฉัน …กินหมดเอง”

“หมายถึงที่อยู่ในตู้ด้วยเหรอ?”

ดิวพยักหน้ารับคำพูด

ผมถอนหายใจพลางกุมศีรษะ

…ดิวเป็น ‘ผีปอบ’ ที่ตามตำนานหรือเรื่องเล่านั้น จะชอบกินเครื่องในมนุษย์ 

แต่เพราะในปัจจุบัน การทำเช่นนั้นจะผิดกฎหมาย ทั้งกฎหมายสำหรับผีและสำหรับมนุษย์ …แต่อย่างหลังน่าจะโดนเรื่องฆาตกรรมมากกว่า

ดิวไม่เคยกินเครื่องในมนุษย์มาก่อน แต่ความหิวที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของปอบ ก็ทำให้เธอต้องหาของเข้าปากตลอดเวลา

แม้จะไม่เคยกินเครื่องในมนุษย์ แต่บางครั้งบางเวลาก็ไม่อาจข่มสัญชาตญาณเอาไว้ได้ ลูกเจี๊ยบที่เลี้ยงไว้ก็เพื่อการนั้นนั่นแหละ…

อ๋อ ไม่ใช่เลี้ยงไว้กินหรอกนะ แค่ในเวลาที่สัญชาตญาณพุ่งขึ้นสูง เธอจะกินขนมพร้อมกับนั่งมองลูกเจี๊ยบไปด้วย 

น่าจะช่วยในเรื่องจิตนาการว่ากำลังกินเครื่องในของสิ่งมีชีวิตเป็นๆอยู่กระมัง? คิดว่านะ…

“จิ๊บ!”

นี่แกกำลังทักทายใครอยู่กันหา? อย่าพึ่งขัดได้มั้ยเนี่ย?

…ผมทราบดีว่าดิวจะประสบกับสภาพร่างกายที่ต้องหิวตลอดเวลา ซึ่งเธอก็จะกินขนมในการประทังความอยาก

ตามปกติเธอจะเอาขนมมาเองตลอด ไม่เคยรบกวนของของสภา

ที่กำลังเกิดตอนนี้จึงค่อนข้างน่าแปลกใจ ดิวก็รู้ตัวอยู่แล้วด้วยว่าตัวเองมีสภาพร่างกายแบบไหน ดังนั้นผมจึงไม่เคยเจอครั้งที่กินขนมรับแขกของสภาเกลี้ยงแบบนี้มาก่อน

ฉะนั้น ก็น่าจะต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง…

“…ฉันจะไปซื้อมาคืน”

“ไอ้ซื้อมาคืนน่ะมันก็ต้องซื้ออยู่แล้ว แต่ยังไงก็อยากรู้เหตุผลล่ะนะ”

“…หิว”

 

อืม เหตุผลสมกับเป็นปอบสุดๆ ขอคารวะเลยที่ทำให้ผมเข้าใจได้ในคำคำเดียว

จะบ้าเรอะ?

“ไม่ๆ หิวน่ะรู้แล้ว แต่ปกติเธอไม่เคยกินขนมของสภาเลยไม่ใช่เหรอ?”

“งือ…”

ดิวคอตกอย่างน่าสงสาร

“นี่ประธานคะ ไปถามเรื่องละเอียดอ่อนแบบนั้นกับเด็กผู้หญิงได้ไงค่ะเนี่ย?”

จู่ๆพลอยก็แทรกมาเช่นนั้นจนผมสงสัย

“ละเอียดอ่อน?”

“ใช่ค่ะ ถึงฉันจะรู้เหตุผลแล้วก็ตาม แต่ก็เพราะดิวมาบอกเป็นการส่วนตัว แต่ประธานไปถามตรงๆแบบไร้มารยาทได้ยังไงกันคะ?”

“เดี๋ยวนะ คนที่ตะโกนบอกว่าขนมรับแขกหมดมันก็เธอไม่ใช่เหรอ?”

“หน้าที่แจ้งข่าวภายในสภาก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของรองประธานนี่คะ? หรือจะให้ฉันนั่งเงียบๆเหมือนไม่มีตัวตนกันล่ะ?”

“ที่ฉันจะสื่อไม่ได้หมายความว่างั้นสักหน่อย…”

ผมบ่นพึมพำ

พลอยก็หันไปหาดิวและพยักหน้าให้กันเล็กน้อย

“ดิวเธอทำกระเป๋าตังค์หายน่ะค่ะ”

“ไม่เห็นจะละเอียดอ่อนตรงไหนเลยนี่!”

ดิวก็อยู่มอห้าเหมือนผมไม่ใช่เรอะ? ไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ ทำอีท่าไหนถึงหายได้ล่ะเนี่ย?

“ประธานไม่เคยทำกระเป๋าตังค์หายไม่เข้าใจหรอกค่ะ”

…ก็ไม่เข้าใจจริงๆล่ะนะ แต่เป็นไม่เข้าใจว่ากำลังพูดอะไรอยู่ต่างหาก

และที่ผมไม่เคยทำกระเป๋าตังค์หายมันก็จริงอยู่หรอก แต่จะว่าไงดีล่ะ เหมือนโดนเบี่ยงประเด็นไงไม่รู้สิ

ผมปัดมือ

“เออๆ …แต่ถึงยังไงก็ต้องซื้อมาคืนด้วยล่ะ”

“…อือ …รู้แล้ว”

ดิวทำเสียงจ๋อยก่อนเงยหน้าขึ้นและสบตากับผม

“…แต่ …ขอเป็นอาทิตย์หน้าได้มั้ย? คริสโตเฟอร์”

“ทำไมต้องอาทิตย์หน้าด้วย? ถ้าจะผัดวันประกันพรุ่งฉันไม่ยอมหรอกนะ …แล้วก็บอกให้เรียกว่าประธานไงเล่า”

ถ้าต้องรอถึงอาทิตย์หน้าล่ะก็ ผมก็จะซื้อมาเติมอยู่แล้ว ที่ผมกลัวคือไม่มีขนมไว้รับแขกในสัปดาห์นี้ต่างหาก

ดิวจิ้มนิ้วชี้ชนกันไปมา

“…คุณแม่ …ให้เงินสำหรับใช้ทั้งอาทิตย์น่ะ”

อ๋อ อย่างเร็วสุดที่จะซื้อมาคืนได้ก็เลยเป็นอาทิตย์หน้าสินะ แล้วพอไม่มีเงินก็เลยต้องมากินขนมในสภาไปโดยปริยาย

ผมก็ไม่ได้ขี้งกหรอก ยังไงขนมในสภาก็งบของสภาทั้งนั้น ถ้าดิวเดือดร้อนก็กินได้แหละ เพราะอย่างไรเธอก็ไม่ได้กินของสภาตลอดอยู่แล้ว…

แต่แย่เลยแฮะ …ต่อให้ไม่นับวันนี้ก็ยังเหลืออีกตั้งสองวัน ถ้าไม่มีขนมไว้รับแขกจนมีใครเอาไปบอกต่อล่ะก็ มีหวังชื่อเสียงสภานักเรียนได้ดิ่งลงเหวแน่

“เอาไงดีล่ะเนี่ย?”

“แค่ไม่มีขนมรับแขกวันสองวันไม่มีใครว่าหรอกค่ะ”

“เธอก็คิดตื้นไปมั้ง? นี่สภานักเรียนเลยนะ?”

“ประธานต่างหากล่ะคิดลึกไป มีกฎข้อไหนบอกว่าสภานักเรียนต้องมีขนมตลอดล่ะคะ?”

“ถึงงั้นก็เถอะ…”

รู้สึกรับไม่ได้ไงชอบกล ถ้าสภาจะไม่มีความพร้อมในด้านต่างๆ

คงเป็นผมที่คิดมากไปจริงๆนั่นแหละ …ในกรณีนี้ผมก็ควรต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองสินะ?

เพราะถ้าให้ถามสมาชิกคนอื่นในสภา ก็คงมีแต่คนบอกว่าขนมรับแขกไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ต่อให้เป็นพี่ต้นก็คงว่าอย่างนั้นเช่นกัน

เอาล่ะ ถ้าปัญหาอยู่ที่ตัวเรา งั้นก็…

ขณะกำลังจะพูด ดิวก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“…แต่ถ้าคริสโตเฟอร์ไม่ยอม …ฉันจะไปยืมเงินเพื่อนมาก่อน”

“นี่เธอเห็นฉันเป็นคนใจจืดใจดำขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ผมถอนหายใจพลางหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมา 

และหยิบแบงก์ร้อยให้ไปสามใบ ดิวก็มองด้วยความประหลาดใจ

“ยืมของฉันก่อนก็ได้ ไว้อาทิตย์หน้าค่อยคืน”

“……”

“เป็นไรไป? ฉันไม่ถือหรอก แค่เอามาคืนก็พอ”

“…เปล่า …แค่จะบอกว่าไม่พอเฉยๆ”

“มันจะไม่พอได้ไงเล่า? นั่นก็เท่ากับที่ฉันซื้อของมาเติมเลยนะ?”

สามร้อยคือจำนวนที่ผมซื้อขนมเพื่อใช้รับแขกในสภาทั้งสัปดาห์ ถึงดิวจะกินที่สำรองไปทั้งหมดก็ตาม แต่ยังไงก็ไม่น่าจะเกินสามร้อยบาทนี่แน่ๆ

ดิวเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ

“…ขอยืมสำหรับใช้กินด้วยสิ”

“ได้คืบจะเอาสอบเชียวนะ…จะเอาเท่าไหร่?”

คงกะยืมไว้ใช้สำหรับกินในช่วงวันที่เหลือของสัปดาห์นี้ด้วยสินะ เพราะกว่าดิวจะได้เงินจากแม่อีกครั้งก็สัปดาห์หน้าโน่นเลย

ให้ตายสิ ไม่ใช่ที่กู้ยืมเงินสักหน่อย 

แต่บ่นไปก็ไม่ได้อะไร อีกนัยหนึ่งก็ถือว่าช่วยเพื่อนล่ะนะ 

ดิวชูสองนิ้วให้ผม ไม่ใช่โพสท่าถ่ายรูปแต่อย่างใด

“อีกสองร้อยสินะ? รวมเป็นห้าร้อย…”

“…ไม่ใช่ …ขออีกสองพัน”

“จะกินเยอะไปแล้วนะว้อย!!”

“งือ…”

ดิวหยีตาพลางก้มศีรษะ

พลอยก็ทำสายตาตำหนิ

“อย่าตะโกนสิคะ ประธาน”

“ไม่ให้ตะโกนได้ไงเล่า!? สองพันเพื่อใช้กับแค่วันพฤหัสกับศุกร์เนี่ยนะ? เป็นสุลต่านมาจากไหนกัน!?”

“ปอบไงคะปอบ ค่าอาหารต่อวันของดิวกับพวกเราก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว”

“…แต่นั่นมันตกวันละพันเลยนะ”

“ก็ถึงได้บอกไงคะ ว่าให้ประธานหัดรู้ความเป็นไปของสมาชิกในชมรมบ้าง ดิวเป็นถึงเลขานุการเลยนะคะ?”

เรื่องตำแหน่งไม่เกี่ยวเท่าไหร่

แต่ผมก็ควรจะรู้จริงๆนั่นแหละ ผมแทบไม่ทราบเลยว่าสมาชิกในสภาใช้ชีวิตกันแบบไหน

ยังไงที่นี่ก็เป็นโรงเรียนสำหรับสิ่งมีชีวิตลี้ลับ ทุกตนย่อมมีความปัจเจก ดังนั้นถ้าไม่ศึกษาไว้ให้ดี ก็อาจจะพลาดในเรื่องที่ไม่ควรพลาดในภายภาคหน้า…

ถึงจะอยู่ไทยได้หลายปี แต่ก็ยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยแฮะ 

นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมมาเป็นประธานนักเรียนเพื่อช่วยเหล่านักเรียนที่ประสบปัญหา

เมื่อไตร่ตรองได้แบบนั้น

“โอเคๆ อาทิตย์หน้าคืนให้ครบด้วยล่ะ”

ผมยื่นแบงก์พันสองใบให้ดิว

เธอรับเอาไว้ด้วยสีหน้าดีใจ …คิดว่างั้นนะ ดิวเป็นคนหน้านิ่งๆด้วยสิ

“…ฉันจะเอามาคืน …แต่คริสโตเฟอร์จะมีเงินใช้เหรอ?”

นั่นสินะ ถึงดิวจะเป็นเด็กสาวที่ใช้เงินกับค่าอาหารวันละพัน แต่ก็น่าจะรู้ว่านั่นเป็นจำนวนที่เยอะไม่ใช่น้อยสำหรับคนปกติ

“ไม่ต้องห่วง ฉันพกเงินเยอะ…”

“ที่เป็นสุลต่านมันประธานมากกว่ามั้งคะ? นี่พกเงินมาโรงเรียนวันละกี่หมื่นกันล่ะเนี่ย?”

ยัยผีนางรำนี่จะแทรกให้ได้ทุกคำพูดของผมเลยใช่มั้ยเนี่ย…

ผมตอบกลับอย่างจำใจ

“เท่าที่จำเป็น…ก็ไม่รู้จะมีเหตุต้องใช้ตอนไหน …อย่างเช่นตอนนี้ไง”

“ขอฉันดูกระเป๋าตังค์หน่อยค่ะ”

“มีสิทธิ์อะไรหา?”

“อืม…ในฐานะรองประธานไงคะ?”

“เก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ทำกับคนอื่นเถอะ”

“ใจร้ายมากค่ะ”

พลอยตอบด้วยเสียงเคืองๆ แต่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม

“ถ้าเธอขยันทำงานให้มากกว่านี้ล่ะก็ ฉันจะให้ดูแล้วกัน”

“นี่คิดว่าเงินในกระเป๋าคุณสำคัญกับฉันขนาดนั้นเลยหรอคะ?”

“งั้นก็อย่าขอดูแต่แรกสิโว้ย!”

ให้ตายเถอะ พอโดนแบบนั้นก็เหมือนผมสำคัญตัวผิดไปเลยน่ะสิ 

แสบมากเลยนะ…

พลอยจัดชฎาให้เข้าที่ ถ้ามันจะเลื่อนบ่อยขนาดนั้นก็ไม่ต้องใส่ก็ได้มั้ง?

พร้อมเอ่ยด้วยเสียงใสๆ

“เอาไว้พวกเราสนิทกันมากกว่านี้แล้วกันค่ะ”

“นี่ฉันกับเธอยังไม่สนิทกันอีกเรอะ?”

“ประธานอยากสนิทสนมกับฉันหรอคะ?”

“ไม่ๆ ถ้าว่าตามรูปการณ์ คนยังไม่สนิทกันเขาไม่เถียงกันขนาดนี้หรอก”

“แหมๆ อย่าเอามาตรฐานคนต่างชาติมาเทียบกับฉันสิคะ อย่างพวกเราก็เป็นแค่ประธานกับรองประธานเท่านั้นค่ะ”

“เฮ้อ เอาไงก็เอา …จะไปไหนน่ะ? ดิว”

ผมละสายตาจากพลอยและหันมาทางดิวที่ลุกขึ้น

“โธ่ ประธานนี่ล่ะก็…”

พลอยบ่นอุบอิบ

ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าที่พลอยย่นริมฝีปากเหมือนกำลังงอน 

แต่ผมก็ไม่สนใจอยู่ดี

“…จะไปซื้อมาคืน”

ดิวว่าเช่นนั้นพร้อมเดินไปทางประตู 

ลูกเจี๊ยบที่เกาะอยู่บนไหล่เป็นประจำก็ทำท่าเหมือนกำลังสนุก เป็นนกที่ฉลาดเกินไปจนผิดสังเกตเลยล่ะ คิดว่ากำลังจะไปเดินเล่นอยู่หรือไงนั่น?

ลืมบอกไป เจ้านี่ชื่อ ‘เจี๊ยบ’ …สิ้นคิดดีใช่มั้ยล่ะ?

“งั้นเหรอ”

ผมตอบรับสั้นๆ

แต่แล้วดิวกลับยืนค้างอยู่หน้าประตู

“ไม่ไปหรือไง?”

“…คริสโตเฟอร์ไปเป็นเพื่อนได้มั้ย?”

“แค่ร้านของชำเอง คุณป้าเขาไม่กัดหรอกน่า”

“…คุณป้าชอบชวนคุยน่ะ”

ลืมคิดไปเลย ปกติดิวจะซื้อขนมมาจากเซเว่นตั้งแต่ช่วงเช้าและเอามาทิ้งไว้ที่ห้องสภา สำหรับกินตอนเย็น 

แต่นี่เป็นเรื่องฉุกละหุกที่ต้องไปซื้อมาคืนทันที จึงจำเป็นต้องไปที่ร้านของชำแทน

ดิวเป็นเด็กสาวที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา สื่อสารกับคนอื่นไม่เก่ง เลยไม่ค่อยถูกโรคกับคุณป้าอารมณ์ดีที่ชอบพูดคุยกับลูกค้า

สำหรับผมที่เป็นประธานก็ไม่ค่อยมีปัญหาแนวๆนั้นเท่าไหร่ 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจหัวอกคนอื่น

“ก็ได้… พลอย ฝากเฝ้าห้องด้วยล่ะ”

“จะทิ้งฉันไปกับผู้หญิงคนอื่นก็เชิญเลยค่ะ!”

“ไม่ต้องมาแสดงเป็นแฟนสาวขี้งอนเลยนะเฟ้ย ฉันไม่หลงกลหรอก”

“มองทันกลลวงของมนุษย์ได้แบบนี้ สมแล้วที่เป็นซาตานค่ะ”

“เธอไม่ใช่มนุษย์สักหน่อย”

เป็นผีนางรำต่างหาก

พลอยคลี่ยิ้มบางๆ

“รับทราบค่ะ ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินจะรีบติดต่อไปนะคะ”

“ตามนั้น ยังไงวันนี้สามคนนั้นก็ไม่อยู่ด้วยนี่นะ”

พี่ต้นไปช่วยนักเรียนตามเคย ส่วนพี่น้ำกับสไปรท์ไปเช็กความเรียบร้อยอุปกรณ์โรงยิม

อย่างน้อยก็ไม่ได้อู้กันสักคน น่ายินดี น่ายินดี..

“รีบไปกันเถอะ ดิว”

“…อือ”

“จุ๊บจิ๊บ!”

และผมกับดิวก็ออกจากห้องสภา …อ้อ มีเจี๊ยบตามมาด้วยอีกหนึ่ง

+   +

…ร้อยวันพันปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ที่พูดนั่นไม่ได้หมายถึงการมาเดินอยู่กับดิวสองคนหลังเลิกเรียนหรอก มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดกว่านั้นเยอะเลย

นั่นคือ ร้านของชำของคุณป้าอารมณ์ดีคนนั้นดันปิดนี่สิ

ผมกับดิวเหม่อมองไปที่ร้านของคุณป้าอย่างไม่เชื่อสายตา ส่วนเจี๊ยบก็มองด้วยแววตาประมาณนั้นเช่นกัน

“วันนี้คงต้องช่างไปก่อนล่ะนะ เธอค่อยซื้อมาคืนพรุ่งนี้แล้วกัน …หือ ดิว?”

“อะ…อะ…อะ…”

“ดิว? ฮัลโหล?”

ดวงตาของดิวกรอกไปมาพร้อมทั้งปากสั่นเหมือนกำลังโกรธ 

และจู่ๆ เจี๊ยบก็เปลี่ยนมาเกาะที่ไหล่ผมแทน

จังหวะเดียวกันที่ผมถูกแรงเหนือมนุษย์ของเด็กสาวดึงคอเสื้ออย่างแรง

“คะ คริสโตเฟอร์…!”

“บอกให้เรียกว่าประธานไง! เป็นอะไรของเธอเนี่ย!?”

“เซเว่น!”

“หะ?”

“พาฉันไปเซเว่นเดี๋ยวนี้!”

“ก็บอกว่าให้ซื้อมาคืนพรุ่งนี้แทนไงเล่า!”

ท่าทีอย่างกับคนลงแดง ขอทีเถอะ…ผมก็ไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการขนาดนั้นซะหน่อย ถ้ามันไม่ได้จริงๆก็เป็นพรุ่งนี้ก็ได้

ที่อยากให้ห้องชมรมเตรียมพร้อมมันก็แค่มุมมองผมเท่านั้น แต่ในกรณีที่มีแขกมาจริงๆ แค่บอกว่าไม่มีขนมเสิร์ฟก็คงได้แหละมั้ง? และคนที่มาขอให้ช่วยส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเรื่องมากด้วย อย่างเลวสุดก็แค่น่าหมั่นไส้เหมือนเจ้ากุมารทองนั่นเท่านั้นเอง

โครกคราก…!

“หะ…หิว”

เสียงท้องดังจนน่าตกใจเลยล่ะ นี่หิวขนาดนั้นเลยเรอะ?

“…ฉันหิว”

บอกรอบแรกก็เข้าใจแล้วน่า แสดงว่าที่ออกอาการแปลกๆไม่ใช่ว่ากลัวไม่มีขนมไว้รับแขกสินะ?

ยัยนี่ก็แค่หิวเท่านั้นเอง

ก็ปอบนี่นะ ว่าแต่ที่กินของสภาหมดเมื่อกี้ยังไม่พออีกเรอะ?

โรงอาหารก็ปิดไปตั้งแต่กลางวัน ช่วงเย็นแบบนี้ร้านที่เปิดก็เหลือแค่ร้านขายของชำของคุณป้า

ดังนั้นถ้าคุณป้าปิดร้าน จะเรียกว่าที่โรงเรียนไม่มีร้านอื่นเหลืออีกแล้วก็ไม่ผิด

ระยะห่างระหว่างโรงเรียนกับเซเว่นก็ไกลอยู่นะ สำหรับผมถ้าแวะไปที่นั่นและกลับบ้าน ยังเร็วกว่ากลับมาที่โรงเรียนอีกรอบเลยด้วย

“…กลับไปที่สภากันก่อ…”

พูดยังไม่ทันจะจบ

ในพริบตาเดียว ที่รู้สึกถึงลมกรรโชกพุ่งมาข้างศีรษะ

“เฮ้ย!?”

ผมเอี้ยวคอหลบอัตโนมัติ สิ่งที่เข้าคุกคามเมื่อครู่คือฝ่ามือของดิว

จะบอกว่าหลบได้ก็ไม่เชิง …เพราะสิ่งที่ดิวต้องการจะคว้าไปไม่ใช่ผมตั้งแต่แรก

“จิ๊บ!?”

เจ้าลูกเจี๊ยบร้องตกใจขณะโดนดิวกำด้วยฝ่ามือจนเหลือโผล่มาแค่ศีรษะ

อ๋อ ที่ย้ายมาที่ไหล่ผมแทนเพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้สินะ…

“อ้า…”

“จิ๊บ! จิ๊บ! จิ๊บบ!!”

ผมมองภาพที่ดิวกำลังยัดเจี๊ยบเข้าปาก พร้อมกับเจี๊ยบที่ส่งเสียงร้องพร้อมส่งสายตามาทางผมอย่างน่าเวทนา

ถ้าไม่ช่วย …ผมคงได้เห็นภาพบาดตาที่ปอบกินลูกเจี๊ยบจนเลือดสาดแน่

ไม่ค่อยจะอยากใช้เท่าไหร่เลยแฮะ…แต่ทำไงได้ล่ะ

ผมลำบากใจเช่นนั้น ก่อนที่วงเวทดาวหกแฉกจะก่อเกิดที่ริมฝีปาก

 

“…ด้วยนามแห่งข้า …จงรับฟังแต่โดยดี ‘หลับไปซะ’”

 

เพียงถ้อยคำสิ้นสุด เด็กสาวปอบตรงหน้าที่กำลังพลุกพล่านด้วยสัญชาตญาณและกำลังจะกินลูกเจี๊ยบที่เลี้ยงไว้มาหลายปีก็หมดสติลงทันที

ผมช้อนตัวเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะล้มลงพื้น ไม่ลืมที่จะเอาเจี๊ยบออกมาจากมือดิวด้วย

ผมบอกกับเจี๊ยบด้วยริมฝีปากที่วงเวทพึ่งสลายไป

“เกือบโดนกินแล้วนะแก”

“จิ๊บ…”

ดูทรงน่าจะฟังภาษามนุษย์ออกจริงๆนั่นแหละ ฉลาดผิดกับที่เป็นลูกเจี๊ยบจริงๆ

ไม่รู้หรอกว่าระหว่างดิวกับเจี๊ยบเป็นไงมาไงถึงได้มาอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าผมเป็นลูกเจี๊ยบคงไม่อยากอยู่กับผีปอบหรอก

ผมปล่อยเจี๊ยบไว้บนไหล่และใช้สองมืออุ้มดิวขึ้นมาด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิง …ตัวเบากว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ…

…เริ่มจะสงสัยแล้วสิว่าทำไมดิวทั้งตัวเล็กทั้งตัวเบา ทั้งๆที่ปริมาณการกินก็ไม่ใช่น้อยๆ

คงเป็นอีกหนึ่งความพิศวงของภูตผีสินะ?

ระหว่างทางกลับห้องสภา

“นี่เจี๊ยบ”

“จิ๊บ?”

“แกรู้จักเรื่องนกกระเรียนแทนคุณรึเปล่า?”

“จิ๊บ???”

คงไม่รู้จักหรอกมั้ง? นั่นเป็นตำนานหรือนิทานที่ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากประเทศไทยด้วยสิ

เอาเถอะ จะหวังให้ลูกเจี๊ยบตัวเท่าฝ่ามือมาตอบแทนบุญคุณก็ดูจะฝืนไปหน่อย 

ช่างมันก็แล้วกัน

 

…และแล้วก็กลับมาถึงห้องสภา ดิวที่อยู่ในอ้อมอกก็ได้สติพอดี

ริมฝีปากเล็กๆค่อยๆอ้าออกอย่างช้าๆ 

เธอขยี้ตา

“…คริสโตเฟอร์?”

“ตื่นแล้วเรอะ?”

“…เกิดอะไรขึ้น?”

“อยากรู้จริงเหรอ?”

“อืม…ไม่ดีกว่า”

ดิวก็น่าจะพอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อเกิดมาเป็นปอบตั้งแต่แรก คุณสมบัติทางร่างกายหรือจะเรียกว่าความสามารถพิเศษก็ได้ น่าจะพอให้อนุมานได้ว่าทำไมตัวเองถึงได้หมดสติ…

…ไม่งั้นก็แค่ขี้เกียจจะสนใจเฉยๆ

ผมเปิดประตูสภา

ไม่มีแขก ที่เห็นอยู่ในห้องคือผีนางรำตำแหน่งรองประธานตามเดิม ส่วนคนอื่นๆอีกสามคนก็ออกไปทำหน้าที่

ชฎาบนศีรษะเด็กสาวสั่นไหวเล็กน้อย

“กลับมาแล้วเหรอคะ ทั้งสองคน”

“อ่า”

“…อืม”

พลอยยิ้มแย้มพลางจ้องมอง

“ทำไมประธานถึงอุ้มดิวอยู่กันคะ?”

เออ นั่นสิ

ว่าแล้วดิวก็บอกให้ผมปล่อย พร้อมเดินไปนั่งที่โต๊ะรับแขกตามเดิม

“มีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยน่ะ …ส่วนขนมรับแขก ก็ให้ดิวซื้อมาคืนพรุ่งนี้แทน…”

สายตาผมพลันหันไปบนโต๊ะรับแขกอย่างประหลาดใจ

ที่อยู่บนโต๊ะคือถุงพลาสติกหลายต่อหลายใบ ถึงกระนั้น จำนวนถุงขนมที่อัดกันแน่นเอี๊ยดก็ล้นออกมาจนผมที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูก็ยังมองเห็น

“พลอย เธอซื้อมาเหรอ?”

“อ๋อ นี่เหรอคะ? ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันอยู่ที่ห้องสภาไม่ได้ออกไปไหนเลย”

“โห…ผีนางรำเสกของขึ้นมาได้เองหรอกเหรอเนี่ย…”

“ไม่ใช่ค่ะ!!”

โดนปฎิเสธเสียงแข็งมาซะงั้น ก็ผมไม่รู้นี่นา

“ถ้าไม่ได้เสกขึ้นมา แล้วมาจากไหนล่ะนั่น?”

“เมื่อกี้พี่ต้นแวะมาน่ะค่ะ นี่เป็นขนมที่ได้จากนักเรียนที่ไปช่วย”

ได้กลับมาเยอะไปรึเปล่า? นี่พี่ต้นเขาช่วยไปกี่ร้อยคนกัน?

“และก็ขอตัวกลับไปแล้วน่ะค่ะ เห็นบอกว่ามีธุระที่บ้าน”

“งั้นเหรอ…เดี๋ยวไว้ค่อยไปขอบคุณพี่เขาทีหลัง อย่างน้อยตอนนี้ก็คงไม่ต้องห่วงเรื่องขนมรับแขกไปอีกสักพักล่ะนะ”

นอกจากจะทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ยังเอาของที่ได้มาไว้สภาอีก เรียกว่าเป็นรุ่นพี่และสมาชิกสภาที่ดีจนน่าเอารูปไปใส่กรอบแขวนไว้ที่ผนังห้องเลยล่ะ

“…งือ”

ดิวมองของที่อยู่บนโต๊ะ น้ำลายไหลยืด

ก็คงจะหิวอยู่นั่นล่ะ ไม่งั้นคงไม่ถึงขนาดจะกินเจี๊ยบก่อนหน้านี้หรอก แถมยังแทบจะกระชากตัวผมให้พาไปเซเว่นด้วย

“…ขอกินได้มั้ย? …เดี๋ยวพรุ่งนี้ซื้อมาคืน”

“จะกินก็ได้อยู่หรอก แต่มันเป็นของที่นักเรียนให้มาเพราะพี่ต้นไปช่วย …จะกินกันเองก็กระไรอยู่ ควรเก็บไว้ใช้รับแขกมากกว่า”

“งือ…”

ดิวคอตกอีกรอบ

ควรโทรไปถามความเห็นพี่ต้นดีมั้ยนะ?

ขณะผมกำลังล้วงกระเป๋าหยิบมือถือขึ้นมานั่นเอง…

“ไม่ต้องห่วงค่ะ”

พลอยเอื้อมลงไปหยิบถุงขนมที่วางอยู่ข้างๆโซฟา และยื่นให้ดิว

“อันนี้พี่ต้นฝากมาให้ดิวโดยเฉพาะเลยค่ะ เห็นบอกว่าใช้เงินตัวเองซื้อด้วย”

“…ขอบ”

“ไว้ไปขอบคุณพี่ต้นเองแล้วกันค่ะ”

ดิวพยักหน้าให้คำพูดของพลอยก่อนที่จะลงมือกินของที่อยู่ในถุงทันที

ผมกระเถิบมาที่ด้านหลังพลอย

“…นี่พลอย”

“กระซิบใกล้จังเลยนะคะ?”

ก็หล่อนนั่งอยู่ไม่ใช่เรอะ? ถ้าไม่เอี้ยวตัวลงมาจะเรียกว่ากระซิบได้ไงเล่า

“พี่ต้นกับดิวมีความสัมพันธ์กันยังไงเนี่ย?”

“ก็แค่รุ่นพี่รุ่นน้องนี่คะ?”

“เหรอ…”

“แต่ฉันก็แปลกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าจะถึงขนาดซื้อมาให้ดิวเป็นการส่วนตัวแบบนี้…”

“ฉันก็สงสัยเรื่องนั้นนั่นแหละ เอาเถอะ…คงไม่มีอะไรหรอก พี่ต้นเขานิสัยดีราวเทพบุตรอยู่แล้วด้วย”

“แตกต่างจากประธานลิบลับเลยค่ะ”

“ใช่เรื่องต้องพูดกันต่อหน้ามั้ยฮึ?”

ทันใดนั้น ผมก็ได้ยินเสียงกระพือปีกจากบนหัวไหล่ 

…นี่แกยังอยู่อีกเรอะ?

“จิ๊บ!”

วินาทีถัดมา เจี๊ยบก็พุ่งถลาไปบนไหล่พลอย พร้อมใช้จะงอยปากเล็กๆแทงใบหน้า

“อะ!? ว้าย! ทำอะไรของเธอเนี่ย!?”

“จิ๊บ!!”

พลอยพยายามใช้มือปัดเจี๊ยบที่กำลังเข้าโจมตี 

ส่วนเจ้าของลูกเจี๊ยบก็นั่งกินขนมอย่างไม่สนสี่สนแปดอะไรทั้งสิ้น

“ประธานก็ช่วยห้ามหน่อยสิคะ!?”

“ฉันควบคุมลูกเจี๊ยบไม่ได้สักหน่อย โทษทีนะ”

ถึงผมจะมีวาจาที่สามารถสั่งการมนุษย์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ใช้กับสัตว์ไม่ได้ 

และที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็คือเจี๊ยบกำลังโจมตีพลอยอย่างเมามันส์ เพราะเมื่อครู่เธอพูดจาว่าร้ายผม…งั้นมั้ง? น่าจะใช่แหละ

งี้นี่เอง ถึงไม่ใช่นกกระเรียนก็แทนคุณได้สินะ? อืมๆ ต้องจำไว้ซะแล้วสิ

“ประธานยิ้มทำไมคะเนี่ย!?”

“จิ๊บ!!!”

…พรุ่งนี้ซื้ออาหารนกมาฝากมันหน่อยดีกว่า

ผมคิดเช่นนั้นพลางหัวเราะเบาๆ

เคสที่ 3 (ปอบ) /จบ

สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ

สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ

Score 10
Status: Completed
คริสโตเฟอร์ ลูกชายของซาตาน ผู้ที่ลงมายังภพมนุษย์และศึกษาอยู่ในโรงเรียนสำหรับภูติผี ...หะ? ว่าไงนะ? โรงเรียนที่ว่านั่น เจ้าลูกชายซาตานเป็นประธานนักเรียนด้วยอย่างงั้นเหรอ!? แล้วยังงี้คริสโตเฟอร์ที่ต้องมานั่งแก้ปัญหาหนักอกหนักใจของวัยรุ่นเชื้อสาย 'ผีไทย' จะทำยังไงเนี่ย!?

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset