สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1590 กล่าวตามความจริง

ตอนที่ 1590 กล่าวตามความจริง

ตอนที่ 1590 กล่าวตามความจริง

……….

เริ่นซื่อมองไปทางฉากกั้นแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวต่อ

“ต้าเยี่ยนผิดอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ จักรพรรดินีต้าโจวทรงรักและห่วงใยชาวบ้าน จักรพรรดิต้าเยี่ยนของกระหม่อมก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นก่อนกระหม่อมออกเดินทางมาที่นี่ฝ่าบาทและผู้สำเร็จราชการของกระหม่อมบอกว่าขอเพียงต้าโจวยอมยุติสงครามในครั้งนี้…ต้าเยี่ยนยินดีตกเป็นเมืองขึ้นของต้าโจว ยินดีมอบบรรณาการให้ทุกปี ขอเพียงชาวบ้านไม่ต้องเดือดร้อนเพราะสงครามพ่ะย่ะค่ะ”

เริ่นซื่อเจี๋ยกล่าวพลางเดินไปข้างหน้า จากนั้นหยิบสาสน์อีกฉบับออกมาชูขึ้นเหนือศีรษะ

“นี่คือสาสน์ที่กระหม่อมแก้ไขใหม่ระหว่างที่เดินทางมาพบจักรพรรดินีต้าโจว ประทับตราของฝ่าบาทและผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเรียบร้อยแล้ว เชิญฝ่าบาททอดพระเนตรพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางไป๋ชิงเหยียน

เสนาบดีกรมการคลังเห็นเริ่นซื่อเจี๋ยหยิบสาสน์ฉบับให้ออกมาจึงรีบเก็บสาสน์เดิมลงและถอยหลังไปสองสามเก้า เขาได้แต่ถอนหายใจอยู่ในใจ

ในที่สุด…ต้าเยี่ยนก็เดินมาจนถึงขั้นนี้จนได้

ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ นางเดาว่าหากมู่หรงลี่ยอมลงให้ต้าโจวจนถึงขั้นยอมตกเป็นเมืองขึ้นของต้าโจวก็แสดงว่าต้าโจวอาจขอได้มากกว่านี้

ดูเหมือนว่ามู่หรงลี่ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดได้แล้ว

ไม่นานไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น

“เรารู้จักเริ่นเซียนเซิงมาหลายปีแล้ว เราคิดว่าเริ่นเซียนเซิงเป็นคนเงียบขรึมมาโดยตลอด นึกไม่ถึงเลยว่าเริ่นเซียนเซิงจะมีวาทศิลป์ถึงเพียงนี้”

เว่ยจงเห็นไป๋ชิงเหยียนไม่มีท่าทีอยากดูสาสน์ของต้าเยี่ยนจึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่ข้างกายของหญิงสาว

“กระหม่อมเป็นคนวาจาเงอะงะ จะมีวาทศิลป์ได้เช่นใดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมแค่ทูลตามความจริงเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

เริ่นซื่อเจี๋ยก้มหน้าต่ำด้วยท่าทีนอบน้อมยิ่งกว่าเดิม

“เราคงไม่ดูสาสน์ของต้าเยี่ยนแล้ว!”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ไม่ได้จงใจสร้างความลำบากใจให้เริ่นซื่อเจี๋ยแต่อย่างใด ทว่า ถ้อยคำของนางทำให้คนฟังรู้สึกเสียดายมาก

“ก่อนหน้านี้เรายอมตกลงเรื่องการเดิมพันแคว้นกับจักรพรรดิต้าเยี่ยนแล้ว ทว่า ดูจากต้าเยี่ยนในตอนนี้…เขาแทบดูแลเมืองหลวงของต้าเยี่ยนไม่ไหวด้วยซ้ำ จะเดิมพันแคว้นกับเราต่อได้เช่นใด”

เริ่นซื่อเจี๋ยก้มหน้ามองชายชุดของตัวเอง ก่อนมาที่นี่เขาเดาไว้แล้วว่าผลลัพธ์อาจกลายเป็นเช่นนี้ดังนั้นเขาจึงขอเข้าพบมู่หรงลี่และมู่หรงเหยี่ยนตามลำพัง

“ผลลัพธ์ของการเดิมพันมิใช่การตกเป็นเมืองขึ้นและมอบบรรณาการให้อีกแคว้น ทว่า คือการรวมเป็นหนึ่งกับอีกแคว้น! เสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนอยู่ในวันลงนามในสัญญาด้วย ท่านคงยังจำได้”

เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกเสนาบดีกรมการคลังจึงรีบโค้งกายคำนับ

“ตอนนี้จักรพรรดิต้าเยี่ยนแทบดูแลเมืองหลวงของต้าเยี่ยนไม่ไหวด้วยซ้ำ เขา…คงไม่อาจเอาชนะต้าโจวได้!”

ไป๋ชิงเหยียนมองเริ่นซื่อเจี๋ยผ่านฉากกั้

“ให้จักรพรรดิต้าเยี่ยนยอมแพ้ให้กับต้าโจว ยอมรวมเป็นหนึ่งกับต้าโจวเถิด!”

เสนาบดีกรมการคลังต้าเยี่ยนเบิกตาโพลง เขารีบหยัดกายตรงพลางกล่าวขึ้นทันที

“ยังไม่ถึงกำหนดเวลา…”

“เสนาบดีกรมการคลัง!”

ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวขัดคำของเสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยน เขาลุกขึ้นยืนพลางกล่าวยิ้มๆ

“หากต้าเยี่ยนตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าโจว เหตุใดต้าโจวต้องเดิมพันแคว้นกับรัฐบรรณาการของตัวเองด้วย!”

เสนาบดีกรมการคลังหน้าซีดเผือด ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้ ทว่า เขาแค่อยากหาโอกาสให้ต้าเยี่ยนเท่านั้น

“ตอนที่สองแคว้นทำสัญญาเดิมพันกัน กองทัพของต้าโจวจ่อประชิดชายแดนของต้าเยี่ยน ต้าเยี่ยนถูกดาบของต้าโจวจ่ออยู่ที่คอ พวกเจ้าขอโอกาสจากพวกเรา พวกเราก็ให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว! ครั้งนี้ซีเหลียงไม่ได้เข้ามาวุ่นวาย ต้าโจวของพวกเราดักกองทัพใหญ่ของต้าเยี่ยนไว้ในต้าโจว นำกองทัพยอดฝีมือที่มากกว่าครั้งที่แล้วเกือบหนึ่งเท่ามายังต้าเยี่ยน ต้าโจวทุกคนพร้อมที่จะทำลายต้าเยี่ยนให้ดับสูญ!”

ไป๋ชิงเจวี๋ยเดินไปหยุดอยู่ข้างกายเสนาบดีกรมการคลัง จากนั้นมองไปทางเสนาบดีกรมการคลังที่กำลังโค้งคำนับมาทางเขา

“ต้าเยี่ยนยังมีสิ่งใดมาต่อรองกับต้าโจวอีก เจ้าคิดว่านอกจากใช้เรื่องความรักที่จักรพรรดินีของพวกเรามีต่อชาวบ้านแล้ว ต้าเยี่ยนของพวกเจ้ายังมีข้ออ้างอื่นอีกอย่างนั้นหรือ”

แผ่นหลังของเสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนชื้นไปด้วยเหงื่อ เดิมทีต้าเยี่ยนก็เป็นฝ่ายผิดอยู่แล้ว ยิ่งได้ยินจงกั๋วอ๋องไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวเช่นนี้ต้าเยี่ยนก็ยิ่งดูแย่ขึ้นทันที

เดิมทีเขาคิดว่าผู้ที่วาจาร้ายกาจที่สุดในต้าโจวคือหลิ่วหรูซื่อ เขาไม่คิดเลยว่าจงกั๋วอ๋องผู้นี้จะไม่ด้อยไปกว่าหลิ่วหรูซื่อสักนิด

“เราให้ทางเลือกต้าเยี่ยนสองทาง”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้นช้าๆ

“ทางแรก…ยอมรวมเป็นหนึ่งกับต้าโจว เราจะยอมรับขุนนางในราชสำนักต้าเยี่ยนและดูแลจักรพรรดิต้าเยี่ยนเป็นอย่างดี ทว่า ต้าโจวไม่มีอ๋องต่างเมืองแล้ว ต้าเยี่ยนก็ย่อมต้องทำเช่นนั้นเหมือนกัน! จักรพรรดิต้าเยี่ยนของพวกเจ้าต้องเป็นคนบอกกับอ๋องเหล่านั้นเอง ส่วนทางเลือกที่สอง…ต้าโจวจะยกทัพบุกทำลายล้างต้าเยี่ยน!”

ต้าเยี่ยนไม่มีทางเลือกแล้ว

“เราให้เวลาพวกเจ้าสิบสามวันในการส่งข่าวกลับไปยังเมืองหลวง ระหว่างนี้เราจะให้กองทัพของเราหยุดสงครามลงชั่วคราว อีกทั้งจะส่งคนไปบอกให้กองทัพใหญ่อีกสามกองทัพของต้าโจวหยุดการโจมตีเช่นเดียวกัน หากเราไม่ได้รับคำตอบภายในสิบสามวัน ต่อให้ต้าเยี่ยนจะส่งผู้ใดมาอีกก็ไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น”

เสนาบดีกรมการคลัง เริ่นซื่อเจี๋ยและหงหลู่ซื่อชิงที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดแม้แต่คำเดียวเดินออกมาจากกระโจมด้วยใบหน้าเคร่งเครียดและเป็นกังวล

หากแค่เรื่องตกเป็นของต้าโจว เริ่นซื่อเจี๋ยที่คุยกับมู่หรงลี่ก่อนมาที่นี่เรื่องนี้เรียบร้อยแล้วสามารถตัดสินใจได้ทันที

ทว่า จักรพรรดินีต้าโจวยังขอให้ต้าเยี่ยนกำจัดอำนาจของอ๋องต่างๆ ด้วย เรื่องนี้คงยากแล้ว

“ให้คนส่งจดหมายไปให้ฝ่าบาทและผู้สำเร็จราชการ”

เริ่นซื่อเจี๋ยถอนหายใจยาวออกมา

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อในกระโจม

“เสี่ยวซื่อ เจ้าจงไล่ตามพี่ชายห้าและพี่หญิงรองของเจ้าให้ทันก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปถึงเมืองของจี๋อันอ๋อง ให้พวกเขาหยุดการเคลื่อนนับตั้งแต่วันนี้ไปสิบสามวัน ระหว่างนี้ให้พวกเขาคอยระวังจี๋อันอ๋องไว้ให้ดี หากจี๋อันอ๋องมีความเคลื่อนไหวใดๆ ให้พวกเขาจัดการโดยไม่ต้องออมมือทันที”

“ต้องให้คนส่งข่าวบอกพี่ชายสามและเสี่ยวอู่หรือไม่ขอรับ”

ไป๋ชิงเจวี๋ยเอ่ยถาม

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า

“ไม่จำเป็น ให้พวกเขาเดินทางตามกำหนดการเดิม หากจี๋อันอ๋องรู้ว่าต้าโจวจะกำจัดอำนาจของอ๋องพวกเขาต้องแสดงตัวออกมาเองแน่นอน”

เซียวหรงเหยี่ยนอยู่ที่เมืองหลวง หากเขารับรู้เงื่อนไขของนางเขาต้องเข้าใจนางอย่างแน่นอน

หากต้าเยี่ยนยอมตกเป็นของต้าโจวตอนนี้ หากนางไม่กำจัดอำนาจของพวกอ๋องต่างเมือง วันหน้าพวกเขาต้องกลายเป็นภัยแน่นอน

ไป๋ชิงเหยียนไม่ใช่คนชอบปล่อยภัยไว้ข้างตัว ดังนั้นนางควรถือโอกาสนี้กำจัดอำนาจของอ๋องเหล่านั้นให้สิ้นซาก

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วง ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า จากนั้นโค้งกายให้พี่สาว

“ข้าจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืนลูบศีรษะของน้องสาวเบาๆ

“พาคนไปมากหน่อย ระวังตัวด้วย”

เมื่อเห็นไป๋จิ่นจื้อเดินออกไปจากกระโจมแล้วไป๋ชิงเจวี๋ยจึงเอ่ยถามไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา

“พี่หญิงใหญ่จะไม่บอกเสี่ยวซื่อเรื่องหลู่หยวนเผิงจริงๆ หรือขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดแน่น จากนั้นส่ายหน้าน้อยๆ

“อย่าเพิ่งบอกนางเลย รอให้สงครามจบลงก่อน ไม่ว่าอย่างใดนางก็ต้องรู้ ตอนนี้อย่าเพิ่งให้นางเสียสมาธิดีกว่า”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงหันไปมองไป๋ชิงเจวี๋ย จากนั้นกล่าวต่อ

“ให้คนนำสาสน์รบไปให้แคว้นเทียนเฟิ่ง บอกพวกเขาว่าพี่รู้เรื่องที่เขาสมรู้ร่วมคิดกับอ๋องต่างเมืองของต้าเยี่ยนแล้ว ต้าเยี่ยนยอมตกเป็นของต้าโจวแล้ว”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset