สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1520 ฟ้ากำหนดอายุขัย

ตอนที่ 1520 ฟ้ากำหนดอายุขัย

ตอนที่ 1519 สูงศักดิ์

เมืองของต้าเยี่ยนที่มีโรคระบาดรุนแรงที่สุดอยู่ติดกับเมืองของต้าเยี่ยนซึ่งอยู่ในการปกครองของต้าโจวมาก

ตอนนี้โรคระบาดกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น คนของราชวงศ์ควรเดินทางไปปลอบขวัญชาวบ้านจริงๆ จักรพรรดินีต้าโจวเดินทางไปปลอบขวัญชาวบ้านด้วยตัวเอง ทว่า หากต้าเยี่ยนส่งอาลี่ไป…เซียวหรงเหยี่ยนไม่วางใจจริงๆ

อีกอย่างเขาอยากให้อาลี่แบกรับหน้าที่ทุกอย่างได้ด้วยตัวเองตอนที่เขาไม่อยู่ ไม่อยากให้อาลี่เอาแต่พึ่งพาเขา ที่เขาให้เยว่สือไปบอกถ้อยคำเหล่านั้นกับอาลี่เป็นเพราะเขาอดสงสารหลานชายของตัวเองไม่ได้

ต่อจากนี้เซียวหรงเหยี่ยนจะไม่มีทางปล่อยให้ไทเฮามีโอกาสส่งข่าวใดๆ ให้อาลี่อีกต่อไป หากอาลี่สูญเสียมารดาไปตอนนี้แล้วเขายังจากอาลี่มาโดยไม่ร่ำลาอีก ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นจะปวดใจมากเพียงใด

ตอนที่อาลี่โค้งกายคำนับเขาทั้งน้ำตา เขารู้สึกสงสารอาลี่มาก

เมื่อออกมาจากวังหลวงเซียวหรงเหยี่ยนยืนเอามือไพล่หลังมองดูท้องฟ้าที่กำลังมืดมิดลง แววตาของเขานิ่งขรึมลงเช่นเดียวกัน

เมื่อขึ้นไปบนรถม้าเซียวหรงเหยี่ยนหลับตาหมุนแหวนปานจื่อซึ่งสวมอยู่ที่นิ้วโป้งของตัวเองอย่างใช้ความคิด ไม่นานจึงสั่งให้คนบังคับรถม้าเลี้ยวรถม้าเข้าไปในซอยเปลี่ยว ชายหนุ่มสั่งให้องครักษ์ทุกคนจากไปแล้วกล่าวขึ้น “กวนอิ่ง…”

“กวนอิ่งอยู่นี่ขอรับ!”

กวนอิ่งเคยเป็นองครักษ์ของมู่หรงอวี้พี่ชายของเซียวหรงเหยี่ยนมาก่อนเช่นเดียวกับผิงอี้ ทว่า กวนอิ่งคือองครักษ์ลับ ส่วนผิงอี้คือองครักษ์ที่เปิดเผยตัวตน ก่อนมู่หรงอวี้จากไปเขาสั่งให้องครักษ์ทั้งสองคนนี้ไปคอยรับใช้เซียวหรงเหยี่ยนแทน

เซียวหรงเหยี่ยนแหวกม่านสีควันบุหรี่ของรถม้าออก จากนั้นก้มหน้ามองกวนอิ่งซึ่งคุกเข่าอยู่ข้างรถม้า “เจ้าจงตามติดไทเฮาไม่ว่าอาลี่จะให้ไทเฮาประทับอยู่ในวังหลวงต่อหรือส่งนางไปยังตำหนักพักผ่อน ดูแลอย่าให้นางเป็นอันตรายถึงชีวิต ทว่า ห้ามให้นางส่งข่าวใดๆ ไปยังฝ่าบาทอีกเด็ดขาด หากผู้ใดกล้านำคำหรือของประจำตัวไทเฮาไปให้ฝ่าบาทจงสังหารทิ้งทันที”

“กวนอิ่งรับบัญชาขอรับ!”

“ใช้ยาที่ไทเฮาเคยใช้กับฝ่าบาทกับนาง ให้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่รู้เรื่องราวทุกอย่างแต่ร่างกายกลับไม่มีแรงลุกจากเตียง ความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้แม้แต่ร่างกายของตัวเองดูบ้าง” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวถ้อยคำนี้ออกมาด้วยเสียงราบเรียบจนจับความรู้สึกไม่ได้

“ขอรับ!”

“ไปได้” เซียวหรงเหยี่ยนลดม่านรถม้าลง จากนั้นหลับตาลงอีกครั้ง

เขาเคยเคารพนับถือ เคยตามใจไทเฮาของต้าเยี่ยนเพราะเห็นแก่พี่ชายของตัวเอง…

อาลี่ใจอ่อนกับไทเฮาเพราะตัดสัมพันธ์แม่ลูกไม่ลง…

ทว่า ความใจอ่อนและการตามใจของพวกเขาเกือบทำให้เกิดเรื่องใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้ ครั้งแรกต้าเยี่ยนผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับใต้หล้าจนอาเป่าคลอดลูกก่อนกำหนด ลูกสาวของเขา…ร่างกายอ่อนแอเพราะเรื่องนี้ หากสวรรค์ไม่ช่วยคุ้มครอง…ป่านนี้เขาคงไม่ได้เห็นหน้าอาเป่ากับลูกๆ แล้ว!

ครั้งนี้ไทเฮาเกือบทำให้ชาวบ้านบริสุทธิ์มากมายจบชีวิตลงเพราะความอยากเอาชนะของนาง นางทำผิดต่อศรัทธาแรกเริ่มในการเดิมพันแคว้นครั้งนี้

เซียวหรงเหยี่ยนเคยผิดหวังในตัวไทเฮา ทว่า เขายังเรียกนางว่าพี่สะใภ้

ตอนนี้ไทเฮาถูกอำนาจครอบงำ นางทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ นางทอดทิ้งแม้แต่ชาวบ้านต้าเยี่ยนที่เคยร่วมทุกข์กับพวกเขาตอนที่พวกเขายากลำบากที่สุด สิ่งนี้ทำให้เซียวหรงเหยี่ยนหมดหวังในตัวไทเฮาแล้ว

ความโลภของคนไม่มีที่สิ้นสุด หากพวกเขายังปล่อยให้ไทเฮาทำตามใจตัวเองต่อไป ครั้งนี้นางวางยาให้อาลี่ลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ ครั้งหน้า…นางอาจวางยาพิษอาลี่จนอาลี่ต้องจบชีวิตลงก็ได้!

เหมือนกับที่บิดาของเขาเคยทำ!

เซียวหรงเหยี่ยนกำมือที่วางอยู่บนหน้าตักแน่นจนนิ้วมือขาวซีด

เขาจะไม่มีวันปล่อยให้อาลี่มีชะตากรรมเดียวกับพี่ชายของเขาแน่!

กลุ่มของไป๋ชิงเหยียนใกล้เดินทางถึงเมืองตงกวนแล้ว พวกนางรวบรวมยาและสมุนไพรได้พอสมควรแล้ว พรุ่งนี้เช้าไป๋ชิงเหยียนจะพาทหาร หมอและยารักษาโรคเดินทางไปยังเขตแดนของต้าเยี่ยน

ตอนนี้หลูผิงกำลังให้คนช่วยหมอเตรียมผ้าปิดหน้าซึ่งชุบยาป้องกันโรคระบาดเรียบร้อย

ไป๋ชิงเจวี๋ยและหมอหงกำลังอธิบายเรื่องการป้องกันตัวเองจากโรคระบาดและวิธีจัดการกับโรคระบาดเมื่อติดเชื้อหากเดินทางเข้าไปในแคว้นต้าเยี่ยนให้ทหารทุกคนฟังเพื่อให้ทหารทุกคนคลายกังวล

ตอนที่โจมตีแคว้นต้าเหลียงไป๋ชิงเหยียนพากองทัพต้าโจวไปด้วย กองทัพผิงอันคือหนึ่งในนั้นดังนั้นพวกเขาจึงพอมีประสบการณ์เรื่องโรคระบาดอยู่บ้าง นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ไป๋ชิงเหยียนเลือกพากองทัพผิงอันมาด้วยแทนที่จะเลือกกองทัพไป๋

ไป๋ชิงเหยียนนั่งอ่านจดหมายที่ไป๋ชิงอวี๋น้องชายแท้ๆ ของนางส่งมาให้อยู่ใต้แสงไฟ

ไป๋ชิงอวี๋กล่าวว่าเขาจะเดินทางเข้าไปในต้าเยี่ยนเพื่อปลอบขวัญชาวบ้านด้วยตัวเอง ชาวบ้านที่อยู่ในเขตการปกครองของต้าโจวจะได้มีกำลังใจและหวาดกลัวน้อยลง เนื้อหาในจดหมายเต็มไปด้วยความเป็นห่วงไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงอวี๋รับปากว่าจะจัดการเรื่องโรคระบาดให้ดีที่สุด

ไป๋ชิงเหยียนอ่านจดหมายลายมือของน้องชายด้วยแววตาอบอุ่นอ่อนโยน จากนั้นหยิบพู่กันขึ้นเขียนจดหมายตอบไป๋ชิงอวี๋ นางสั่งให้เหว่ยซู่ขี่ม้าเร็วนำจดหมายไปมอบให้ไป๋ชิงอวี๋ นางใช้ผ้าขนหนูร้อนที่เว่ยจงยื่นให้เช็ดมือจนสะอาด จากนั้นกล่าวกับเหว่ยซู่ “ส่งจดหมายให้ถึงมือเจิ้นกั๋วอ๋อง บอกว่าให้เขาส่งคนนำยาและสมุนไพรเข้าไปในต้าเยี่ยน จากนั้นให้เขารีบเดินทางกลับเมืองหลวงทันที นี่คือคำสั่ง!”

“ขอรับ” เหว่ยซู่รับจดหมายและเดินออกไปจากกระโจมใหญ่

เมื่อเห็นเว่ยจงกำลังเตรียมอาหารให้ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น “เว่ยจงเจ้าลำบากมาทั้งทางแล้ว รีบไปพักผ่อนเถิด”

“รับใช้ฝ่าบาทคือหน้าที่ของบ่าว บ่าวไม่ลำบากพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงไม่รู้สึกว่าตัวเองลำบาก เขากลับคิดว่าไป๋ชิงเหยียนลำบากมากกว่า เว่ยจงคุกเข่าลงด้านข้างพลางยื่นถาดที่มีตะเกียบวางอยู่ให้ไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาทรีบเสวยเถิดพ่ะย่ะค่ะ บ่าวให้คนนำไปอุ่นสองรอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เว่ยจงกล่าวจบเซียวรั่วเจียงก็เดินเข้ามาพอดี ชายหนุ่มทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น “คุณหนูใหญ่ ซีไหวอ๋องขอเข้าพบขอรับ…”

ไป๋ชิงเหยียนรับตะเกียบมาจากเว่ยจง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ตามมาทั้งทาง ในที่สุดก็ยอมปรากฏตัวเสียที เชิญเข้ามาได้…”

“ขอรับ” เซียวรั่วเจียงออกไปเชิญคนเข้ามาด้านใน

ไม่นานซีไหวอ๋องจึงเดินตามเซียวรั่วเจียงเข้ามาด้านใน

ซีไหวอ๋องเห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งรับประทานอาหารอยู่ใต้แสงไฟตั้งแต่ยังไม่ทันเดินเข้าไปในกระโจม แสงไฟส่องกระทบใบหน้างดงามของหญิงสาว อาจเป็นเพราะหญิงสาวเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่เล็ก แผ่นหลังของนางจึงเหยียดตรง เห็นได้ชัดว่าเป็นคนทะนง มารยาทบนโต๊ะอาหารของนางไม่มีที่ติ ภาพตรงหน้าที่ซีไหวอ๋องเห็นงดงามราวกับภาพวาด

อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานซีไหวอ๋องจึงรู้สึกว่าใบหน้าที่งดงามของไป๋ชิงเหยียนงดงามมากกว่าเดิมหลายเท่า ช่างเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่งดงามน่าตราตรึงยิ่งนัก

ซีไหวอ๋องมองไป๋ชิงเหยียนอย่างตกอยู่ในภวังค์

เขาเคยตะลึงกับความงามของไป๋ชิงเหยียนตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้านาง ในความงดงามอ่อนโยนของหญิงสาวแฝงไปด้วยความองอาจสง่างามราวกับพลังในมหาสมุทร เขาไม่เคยพบเจอคนที่มีบารมีสองแบบอยู่ในร่างเช่นนี้มาก่อน เมื่อพบ…เขารู้สึกว่าความงดงามของไป๋ชิงเหยียนแฝงไปด้วยบารมีสูงศักดิ์ที่ผู้อื่นไม่กล้าล่วงเกิน

“ซีไหวอ๋องยังไม่ได้ทานอาหารใช่หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าสบตาดวงตาดำขลับของซีไหวอ๋อง จากนั้นยกยิ้มมุมปากสื่อให้เว่ยจงนำอาหารมาให้ซีไหวอ๋อง

“คารวะจักรพรรดินีต้าโจว…” ซีไหวอ๋องได้สติจึงโค้งกายทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน

ตอนที่ 1520 ฟ้ากำหนดอายุขัย

“สหายเก่าพบหน้ากัน ซีไหวอ๋องไม่ต้องมากพิธี นั่งลงเถิด”

ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปาก

“วันนี้มีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงยังไม่ได้ทานอาหาร เสียมารยาทแล้ว”

“ฝ่าบาททรงมีงานต้องจัดการมากมายจนไม่มีเวลาเสวยอาหาร ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงสละเวลาพบกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”

ซีไหวอ๋องกล่าวพอเป็นพิธีกับไป๋ชิงเหยียนจบจึงนั่งลง เขาโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง

“ฝ่าบาท ในเมื่อทรงตรัสว่าพวกเราคือสหายเก่า เช่นนั้นกระหม่อมไม่เกรงใจแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอบังอาจเรียกฝ่าบาทว่าน้องสะใภ้ น้องสะใภ้…ความจริงข้ามาที่นี่เพราะหลานชายของข้า”

ต่อให้ซีไหวอ๋องไม่กล่าวไป๋ชิงเหยียนก็พอเดาได้

“ก่อนหน้านี้ข้าไปตามหาเขาที่เมืองหลวงของต้าโจว ข้ารู้ว่าเขากลายเป็นองครักษ์ของจวนเจิ้นกั๋วอ๋อง เหมือนว่า…”

ซีไหวอ๋องเม้มปากแน่น ไม่นานจึงกล่าวขึ้น

“เหมือนว่าเขาต้องการหาโอกาสเข้าใกล้ผู้สำเร็จราชการและไทเฮาของต้าเยี่ยนเพื่อสังหารพวกเขา หลานชายของข้าเคยเป็นจักรพรรดิของแคว้นเว่ยมาก่อน ต่อมาแคว้นเว่ยถูกต้าเยี่ยนทำลายจนดับสูญหลานชายข้าจึงโกรธแค้นมาก หวังว่าน้องสะใภ้จะเข้าใจ ที่ข้ามาบอกความจริงน้องสะใภ้เรื่องนี้เพราะต้องการพาเขากลับไปก่อนที่เขาจะสร้างปัญหาใหญ่ให้ต้าโจว”

ไป๋ชิงเหยียนไม่คิดบอกซีไหวอ๋องเรื่องที่ท่าป๋าเย่าอยู่ที่ตงอี๋ หญิงสาวจึงแสร้งทำเป็นเอ่ยถามอย่างไม่รู

“จักรพรรดิเว่ยอยู่ที่จวนไป๋อย่างนั้นหรือ”

ซีไหวอ๋องไม่ปิดบังไป๋ชิงเหยียน

“เขาแฝงตัวเข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วอ๋อง ข้าเคยพบเขาครั้งหนึ่ง ต่อมาเด็กนั่นกลับหายตัวไปที่ใดก็ไม่รู้ ข้ารู้ว่าเด็กนั่นคอนติดตามรับใช้อิงฮุ่ยจวิน ต่อมาเมื่อรู้ว่าอิงฮุ่ยจวินตามมาหาน้องสะใภ้ที่ชายฝั่งทะเลข้าจึงเดินทางตามมายังแคว้นเก่าของต้าเหลียง จากนั้นข้าได้ยินว่าอิงฮุ่ยจวินคุ้มกันร่างของหานเฉิงอ๋องเดินทางกลับเมืองหลวงไปแล้ว ทว่า น้องสะใภ้จะเดินทางไปยังแคว้นต้าเยี่ยน ข้าคิดว่าเด็กนั่นต้องตามขบวนของน้องสะใภ้มาแน่จึงรีบขี่ม้าตามมา น้องสะใภ้ได้โปรดเห็นแก่ที่ข้าเป็นสหายของหรงเหยี่ยนอนุญาตให้ข้าพาตัวเขากลับไปด้วยเถิด มิเช่นนั้นเขาอาจสร้างปัญหาใหญ่ให้น้องสะใภ้เมื่อเดินทางไปถึงต้าเยี่ยนได้!”

“จักรพรรดิเว่ยอายุยังน้อย…”

ไป๋ชิงเหยียนยกชาขึ้นจิบพลางขมวดคิ้วแน่น นางหันไปถามเว่ยจง

“ข้างกายน้องหญิงเจ็ดมีองครักษ์ที่อายุน้อยขนาดนั้นบ้างหรือไม่”

เว่ยจงเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม

“ทูลฝ่าบาท เดิมทีอิงฮุ่ยจวินมีองครักษ์ที่อายุเท่านั้นอยู่คนหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ทว่า ตอนที่ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้อิงฮุ่ยจวินคุ้มกันร่างของหานเฉิงอ๋องกลับเมืองหลวงไปพร้อมกับแม่ทัพเฉิงและกองทัพไป๋ได้ยินว่าองครักษ์ผู้นั้นอยากตามมาคุ้มกันฝ่าบาท ดูเหมือนว่าเขาจะทะเลาะกับอิงฮุ่ยจวินอย่างรุนแรง จากนั้นจากไปโดยไม่ร่ำลาพ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้อิงฮุ่ยจวินขอให้จงกั๋วอ๋องช่วยตามหาเขา หากพบเขาระหว่างทางไปต้าเยี่ยนให้ช่วยดูแลเขาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เว่ยจงหันไปก้มศีรษะให้ซีไหวอ๋องที่กำลังมองมาทางเขาน้อยๆ

“ทว่า จงกั๋วอ๋องยังหาตัวเขาไม่พบเลยพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นหันไปทางซีไหวอ๋อง

“ตอนนี้ต้าเยี่ยนปิดแคว้นไม่ให้กองทัพต้าโจวเข้าไปในต้าเยี่ยน พวกเขาคงไม่อนุญาตให้จักรพรรดิเว่ยเข้าไปเช่นเดียวกัน ระหว่างทางข้าจะให้คนคอยตามหาเขาไปด้วย หากพบตัวเขาข้าจะให้คนพาเขาไปส่งให้ซีไหวอ๋องแน่นอน”

ซีไหวอ๋องได้เช่นยินเช่นนี้จึงถอนหายใจออกมา เขาเอนกายพิงที่พิงด้านหลังพลางขมวดคิ้วแน่น

“อาเย่าคือสายเลือดเพียงคนเดียวของพี่ชายข้า ข้าทำผิดต่อพี่ชาย ข้ายังมีชีวิตอยู่แท้ๆ ทว่า กลับดูแลอาเย่าไม่ได้”

เว่ยจงเหลือบมองไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยชาขึ้นจิบยิ้มๆ ไม่ได้เอ่ยปลอบเขาจึงยืนนิ่งอยู่ด้านข้างเช่นเดียวกัน

“ตั้งแต่ที่แคว้นเว่ยดับสูญลง ข้าใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย เมื่อก่อนข้ามีสหายมากมาย ทว่า เมื่อข้าเกิดเรื่องขึ้นถึงได้รู้ว่าหรงเหยี่ยนคือสหายที่แท้จริง หากเขายังอยู่…คงพอช่วยคลายความกังวลให้ข้าได้บ้าง” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ซีไหวอ๋องจึงนึกได้ว่าไป๋ชิงเหยียนคือภรรยาของเซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวคือคนที่เสียใจที่สุดกับการจากไปของเซียวหรงเหยี่ยน ทว่า เขากลับกล่าวเรื่องที่ทำให้หญิงสาวเสียใจเพียงเพราะตัวเองอารมณ์ไม่ดีออกมาเช่นนี้ เขารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที

“ได้ยินว่าน้องสะใภ้ได้ลูกแฝดชายหญิง หากหรงเหยี่ยนรู้เขาต้องดีใจมากแน่นอน!”

ซีไหวอ๋องกล่าวพลางล้วงป้ายหยกสองชิ้นออกมาจากอก จากนั้นส่งให้เว่ยจง

“นี่คือป้ายหยกที่ข้าใช้หยกที่หรงเหยี่ยนเคยมอบให้ข้าก่อนหน้านี้ให้คนนำไปแกะสลักตอนที่รู้ว่าเจ้าคลอดลูกฝาแฝดออกมา หวังว่าหลานสาวและหลานชายของข้าจะมีชีวิตที่สงบสุขและปลอดภัย ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะสงคราม ได้อยู่กับน้องสะใภ้ไปตอลดชีวิต”

นี่คือคำอวยพรจากใจจริงของซีไหวอ๋อง เมื่อแคว้นของเขาดับสูญลงเขาจึงรู้ว่าการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวเป็นเรื่องยากลำบากเพียงใด

ไป๋ชิงเหยียนรับรู้ความหวังดีของซีไหวอ๋อง นางรับหยกจากเว่ยจงมาพิจารณา ไม่เพียงเป็นหยกชั้นดีเท่านั้น การแกะสลักยังประณีตมากอีกด้วย หยกที่แกะสลักเป็นมังกรและหงส์สมจริงราวกับมันมีชีวิตอยู่จริงๆ

“ซีไหวอ๋องมีน้ำใจแล้ว ข้าขอบคุณท่านแทนลูกๆ ของข้าด้วย”

ไป๋ชิงเหยียนรับหยกไว้ด้วยรอยยิ้ม

“ข้าจะให้คนช่วยออกตามหาจักรพรรดิเว่ยอีกแรง”

“ขอบใจน้องสะใภ้มาก”

ซีไหวอ๋องยกเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมดจอก

“หากหรงเหยี่ยนยังอยู่…คงดี”

ไป๋ชิงเหยียนเห็นดวงตาของซีไหวอ๋องแดงก่ำเพราะเสียใจกับการจากไปของเซียวหรงเหยี่ยนจริงๆ นางก้มหน้าลงอย่างไม่รู้จะปลอบเขาเช่นไรดี

“น้องสะใภ้ ตอนนี้เจ้าคือจักรพรรดินีของต้าโจว ทว่า เจ้ากลับไม่แต่งตั้งภัสดาคนใหม่ขึ้นแทนที่หรงเหยี่ยนเสียทีแสดงว่าเจ้ายังลืมหรงเหยี่ยนไม่ได้เหมือนกันใช่หรือไม่! หากหรงเหยี่ยนรับรู้เรื่องนี้เขาคงรู้ว่าเขารักคนไม่ผิดจริงๆ”

ซีไหวอ๋องหัวเราะออกมาน้อยๆ

“ข้าอิจฉาความรักของพวกเจ้าจริงๆ”

ไม่เหมือนเขา ปกติภรรยาและอนุต่างบอกว่ารักเขามากกว่าชีวิตของตัวเอง ทว่า เมื่อเขาเกิดเรื่อง…คนเหล่านั้นต่างหนีหายไปหมดสิ้น

สวรรค์เป็นคนกำหนดชะตาและอายุขัยของมนุษย์ หากเขาได้มีความรักเหมือนที่ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนมี ต่อให้ตายไปเขาก็ไม่เสียดายสิ่งใดแล้ว!

“ซีไหวอ๋องยังหนุ่ม หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล…”

ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนเคย

“วันหน้าท่านต้องพบสตรีที่เป็นเนื้อคู่ของท่านแน่ ท่านไม่ต้องรีบร้อนไป”

ซีไหวอ๋องได้ยินจึงรีบโบกมือ

“ช่างเถิด คนไร้บ้านอย่างข้าจะไปคิดเรื่องความรักได้อย่างใดกัน เป็นการทำลายอนาคตของสตรีเสียเปล่าๆ ข้าแค่อยากดูแลอาเย่าแทนพี่ชายของข้า ได้เห็นเขาแต่งงานมีครอบครัวก็พอใจแล้ว”

ซีไหวอ๋องกล่าวถึงตรงนี้ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียน

“น้องสะใภ้ เจ้าให้โอกาสอาเย่าได้สอบขุนนางได้หรือไม่ หากเขามีความสามารถ ให้เขากลายเป็นขุนนางรับใช้ต้าโจวได้หรือไม่”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset