สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1403 เสียสติ

ตอนที่ 1403 เสียสติ

ตอนที่ 1403 เสียสติ

การฆ่าคนเป็นเรื่องง่ายดายเพียงแค่ออกคำสั่งเท่านั้น ทว่า จดหมายฉบับนี้…กลับโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าคนอีก

หากก่อนนางได้อ่านจดหมายฉบับนี้มีคนถามนางว่านางเสียใจหรือไม่ที่บีบให้มารดาของตัวเองต้องตายและมีใจออกห่างจากพี่สาวของตัวเองเพียงเพราะต้องการแก้แค้นให้ลู่เทียนจัว นางจะตอบโดยไม่ต้องคิดว่านางไม่เสียใจ

ทว่า เมื่อได้อ่านจดหมายของหลี่เทียนเจียวในวันนี้ หลี่เทียนฟู่รู้สึกเสียใจมาก

นางแค่ไม่อยากยอมแพ้ นางก็เป็นบุตรสาวที่เกิดจากฮองเฮาเช่นเดียวกับหลี่เทียนเจียว ทว่า เหตุใดพี่สาวของนางกลับได้ขึ้นครองบัลลังก์ ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ แต่นางกลับต้องเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรี ต้องแยกจากกับบุรุษอันเป็นที่รัก ต่อให้ลู่เทียนจัวจะไม่ใช่บุรุษเต็มตัว ทว่า เขาคือคนที่นางรักมากที่สุด คือคนที่นางอยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยตลอดไป

ความจริงสิ่งที่นางต้องการนั้นเรียบง่ายนิดเดียว นางแค่อยากมีจวนองค์หญิงเป็นของตัวเอง ได้ใช้ชีวิตอยู่กับลู่เทียนจัวตลอดไปเท่านั้น

เมื่อลู่เทียนจัวเสียชีวิตลงนางจึงเกลียดมารดาและพี่สาวของตัวเอง เกลียดไป๋ชิงเหยียน เกลียดกองทัพไป๋ เกลียดแคว้นต้าจิ้นและซีเหลียง เกลียดที่นางต้องเสียสละชีวิตและความสุขของตัวเองเพื่อแคว้นซีเหลียงทั้งแคว้น หากต้องทำเช่นนี้แล้วซีเหลียงจะมีทหารเหล่านั้นไว้ทำสิ่งใด! นางคือองค์หญิง! นางคือองค์หญิงที่สูงศักดิ์ที่สุดของซีเหลียง! นางคิดว่ามารดา พี่สาวและไป๋ชิงเหยียนเป็นคนทำให้ลู่เทียนจัวต้องตาย!

นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าถึงแม้นางจะไม่ได้เดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีที่ต้าจิ้น ลู่เทียนจัวที่ยอมเสียสละแม้แต่สิ่งสำคัญของบุรุษก็ต้องเดินทางไปแก้แค้นแทนบิดาบุญธรรมของตัวเองที่แคว้นต้าจิ้นอยู่ดี!

จู่ๆ หลี่เทียนฟู่ก็นึกถึงคำของมารดาที่กล่าวกับนางก่อนสิ้นใจขึ้นมาได้ มารดาของนางกล่าวกับนางว่านางเสียสติเพราะผู้ชายเพียงคนเดียว…

ใช่แล้ว หลี่เทียนฟู่เสียสติเพราะผู้ชายเพียงคนเดียว!

ทว่า นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด นางทำเช่นนี้ลงไปเพราะบิดาและมารดาของนางไม่เคยเห็นค่าในตัวนางเลย เป็นเพราะนางรับรู้ตั้งแต่เล็กว่าบิดาจะยกบัลลังก์ต่อให้พี่สาวของนาง ไม่ใช่นาง! บิดาของนางสอนนางและพี่สาวไม่เหมือนกัน บิดาของนางไม่เคยสอนสิ่งที่พี่สาวของนางได้เรียนรู้ให้นางเลยแม้แต่น้อย!

ดังนั้นนางจึงแค้น!

“องค์หญิง…” กวนจางหนิงกล่าวขึ้นเสียงเบา “แม้ฝ่าบาทใกล้สิ้นพระทัยก็ยังทรงนึกถึงองค์หญิงอยู่เสมอ องค์หญิงอย่าจมอยู่กับความแค้นอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ นั่นคือความแค้นของลู่เทียนจัวไม่ใช่ขององค์หญิง! ตอนนี้องค์หญิงคือสายเลือดที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของราชวงศ์ซีเหลียง องค์หญิงควรมีชีวิตอยู่ต่อไปตามความปรารถนาสุดท้ายของฝ่าบาทนะพ่ะย่ะค่ะ! องค์หญิงมีบ่าวที่จงรักภักดีคอยดูแลรับใช้องค์หญิง องค์หญิงยังทรงพระเยาว์ องค์หญิงจะได้เจอคู่ครองที่เหมาะสมกับองค์หญิงในภายภาคหน้าแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

น้ำตาของหลี่เทียนฟู่ไหลพรากไม่ขาดสาย นางวางจดหมายของหลี่เทียนเจียวลงบนโต๊ะ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้า จากนั้นวางศอกลงบนโต๊ะ เมื่อเห็นกวนจางหนิงไม่กล้ากล่าวสิ่งใดต่อนางจึงกล่าวขึ้นเสียงดัง “คนที่อยู่ด้านนอกจงถอยห่างออกไปอีกนิด! ข้าจะอาบน้ำแล้ว พวกเจ้ายืนเฝ้าอยู่หน้าประตูเช่นนั้นเพราะต้องการแอบดูข้าอาบน้ำหรืออย่างไร!”

ทหารคุ้มกันหน้าห้องสองคนมองสบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นถอยไปยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูเรือนแทน

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของทหารเดินจากไปไกลหลี่เทียนฟู่จึงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นกล่าวกับกวนจางหนิง “ซีเหลียงดับสูญลงแล้ว ไม่มีจักรพรรดิซีเหลียงอีกต่อไป! ในเมื่อเจ้าไม่ได้อยากกอบกู้แคว้นคืนเหตุใดจึงไม่ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขต่อไป เหตุใดต้องมาช่วยเหลือองค์หญิงซีเหลียงที่ถูกกักบริเวณอยู่แต่ในจวนอย่างข้าด้วย หากเจ้าเผาจดหมายลับฉบับนี้ทิ้งตั้งแต่ได้รับจดหมาย จากนั้นทำตัวเหมือนไม่เคยเป็นสายลับของซีเหลียงมาก่อน เจ้ายังหนุ่ม ต่อให้จะถูกจักรพรรดินีของต้าโจวสงสัยว่าเป็นสายลับของซีเหลียงจนไม่สามารถเลื่อนขั้นไปได้สูงกว่านี้ ทว่า ตราบใดที่ต้าโจวไม่มีหลักฐาน เจ้าจะคือแม่ทัพของกองทัพไป๋ต่อไป เจ้าจะมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขต่อไปได้แน่”

“กระหม่อมคือคนซีเหลียง กระหม่อมจงรักภักดีต่อฝ่าบาท ต่อตระกูลอวิ๋นพ่ะย่ะค่ะ!” กวนจางหนิงมองไปทางหลี่เทียนฟู่ที่แสร้งแสดงท่าทีสงบนิ่ง “องค์หญิง พวกกระหม่อมรอการตัดสินพระทัยขององค์หญิงอยู่ ขอเพียงองค์หญิงยินดี องค์หญิงจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ! พวกกระหม่อมสามารถช่วยเหลือองค์หญิงหลบหนีไปจากเมืองหลวงได้ ทว่า องค์หญิงต้องเต็มใจไปกับพวกเราพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเห็นหลี่เทียนฟู่ไม่มีท่าทีคล้อยตามกวนจางหนิงจึงกล่าวต่อ “หากองค์หญิงต้องการสังหารจักรพรรดินีของต้าโจวเพื่อแก้แค้น เมื่อองค์หญิงหลบหนีไปได้อย่างปลอดภัย กระหม่อมจะจัดการเรื่องนี้แทนองค์หญิงเองพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่เทียนฟู่ขยับริมฝีปากเล็กน้อย นางมองไปทางกวนจางหนิงอย่างตั้งใจ จากนั้นกล่าวเย้ยหยันออกมา “เจ้าช่างจงรักภักดี…จนน่าสมเพช”

กวนจางหนิงก้มหน้าไม่กล้าสบตาหลี่เทียนฟู่ เขากล่าวเพียง “กระหม่อมได้รับการสั่งสอนว่าให้จงรักภักดีต่อซีเหลียงมาตั้งแต่เกิด ถึงแม้องค์หญิง…”

กวนจางหนิงไม่ได้กล่าวถ้อยคำล่วงเกินหลี่เทียนฟู่ออกไป เขากล่าวเพียง “กระหม่อมเคยคิดอยากเกิดเป็นคนต้าโจว อยากเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพไป๋จริงๆ ทว่า ไม่ว่าอย่างไรกระหม่อมก็คือคนซีเหลียง ขอเพียงจักรพรรดิซีเหลียงมีรับสั่ง กระหม่อมยินดีรับใช้จนตัวตายพ่ะย่ะค่ะ!”

“เช่นนั้นก็ไปเป็นคนต้าโจว ไปเป็นคนของกองทัพไป๋เสีย!” หลี่เทียนฟู่หยิบจดหมายลับบนโต๊ะไปเผาในตะเกียง “ลืมไปเสียว่าเคยเป็นคนซีเหลียง”

“องค์หญิง!” กวนจางหนิงเบิกตาโพลง

หลี่เทียนฟู่มองไฟที่ลุกลามเผาไหม้จดหมายในมือนิ่ง มองเปลวไฟค่อยๆ กลืนกินลายมือของพี่สาวนางจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน จากนั้นกล่าวขึ้น “ถือเสียว่าไม่เคยเห็นจดหมายฉบับนี้มาก่อน ข้าไม่เคยรับรู้ว่าเจ้าคือสายลับซีเหลียงที่แฝงตัวอยู่ในกองทัพไป๋ เจ้าคือทหารของกองทัพไป๋ ไปเสีย..”

นี่คือความเมตตาสุดท้ายที่หลี่เทียนฟู่มีให้คนซีเหลียงด้วยกัน

“ในเมื่อกระหม่อมได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทแล้วกระหม่อมจะต้องช่วยองค์หญิงออกไปให้ได้พ่ะย่ะค่ะ วันนี้กระหม่อมมาเพื่อวางแผนและกำหนดวันหนีกับองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ” สีหน้าของกวนจางหนิงยังคงหนักแน่นไม่เปลี่ยนแปลง

“เมื่อกระหม่อมตกลงกับองค์หญิงเรียบร้อยแล้วกระหม่อมจะไปติดต่อสายลับที่เหลืออยู่ของซีเหลียง อีกห้าวันกระหม่อมจะมารับองค์หญิงหนีไปจากเมืองหลวง หากองค์หญิงสงสารชีวิตของทหารซีเหลียงที่เหลืออยู่ก็ได้โปรดยอมหนีไปกับพวกเขาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะแก้แค้นแทนองค์หญิงเองพ่ะย่ะค่ะ!”

“หลี่เทียนเจียวไปหาคนโง่อย่างเจ้ามาจากที่ใดกัน!” หลี่เทียนฟู่หัวเราะออกมาเบาๆ พลางปาดน้ำตาทิ้ง “ความแค้นของลู่เทียนจัวคือความแค้นส่วนตัว พวกเจ้าไม่ต้องมาแก้แค้นแทนข้า ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับข้าอีก!”

“องค์หญิงคือสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของราชวงศ์ซีเหลียงแล้ว องค์หญิงตรัสเช่นนี้ไม่กลัวทำให้ไทเฮา ฝ่าบาทและเสด็จพ่อที่รักและเอ็นดูองค์หญิงผิดหวังหรือพ่ะย่ะค่ะ”

กวนจางหนิงจ้องหลี่เทียนฟู่นิ่ง เขาเคยได้ยินเรื่องขององค์หญิงหลี่เทียนฟู่ผู้นี้มาบ้าง เขารู้สึกว่านางไม่คู่ควรแก่การช่วยเหลือ องค์หญิงที่ยอมทิ้งซีเหลียงทั้งแคว้นเพื่อขันทีเพียงคนเดียวไม่คู่ควรเป็นองค์หญิงของซีเหลียง

ทว่า ในเมื่อฝ่าบาทมีคำสั่งลับให้เขาช่วยเหลือหลี่เทียนฟู่ออกไป ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องช่วยเหลือนางออกไปให้ได้

“ฝ่าบาทไม่ได้ขอให้องค์หญิงกอบกู้แคว้นคืน ไม่ขอให้องค์หญิงแก้แค้นแทนพระองค์ ฝ่าบาทแค่ขอให้องค์หญิงรักษาสายเลือดของราชวงศ์ซีเหลียงให้คงอยู่ต่อไปพ่ะย่ะค่ะ” กวนจางหนิงกล่าวเสียงรอดไรฟัน “ในฐานะองค์หญิงของซีเหลียง องค์หญิงไม่เคยทำสิ่งใดเพื่อซีเหลียงมาก่อน บัดนี้ซีเหลียงดับสูญลงแล้ว องค์หญิงทำเรื่องแค่นี้ให้เสด็จแม่และพี่สาวของตัวเองไม่ได้เลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

กวนจางหนิงเริ่มโมโหจึงควบคุมน้ำเสียงของตัวเองไม่ได้ เขากลัวว่าทหารที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกจะได้ยินและบุกมาในเรือนของหลี่เทียนเจียวจึงมองไปด้านนอกแวบหนึ่ง เมื่อไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ จึงวางใจลง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset