สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1355 ทวงความยุติธรรม

ตอนที่ 1355 ทวงความยุติธรรม

ตอนที่ 1355 ทวงความยุติธรรม

พ่อบ้านเหากล่าวกับหวังติ้งซุ่นว่าเขาเห็นความกตัญญูของหวังติ้งซุ่น มีคำกล่าวว่านอนป่วยติดเตียงไม่มีลูกกตัญญู ทว่า หวังติ้งซุ่นดูแลปู่ของตัวเองอย่างดีโดยไม่บ่นสักคำ ทั้งยังทิ้งการสอบขุนนางเพื่อดูแลปู่ที่ป่วยของตัวเอง เมื่อปู่เสียชีวิตลงจึงหันมาตั้งใจอ่านตำราเพื่อสอบอีกครั้ง พ่อบ้านเหาบอกว่าหากมีคนเช่นนี้คอยดูแลหวังเหล่าไท่จวิน ฮูหยินสี่ของพวกเขาคงสบายใจ

จู่ๆ บุญก็หล่นทับจนหวังติ้งซุ่นตามไม่ทัน ต่อมาเมื่อประมุขตระกูลและคนในตระกูลมากล่าวเรื่องนี้กับหวังติ้งซุ่น เขาจึงเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดคือความจริง

ต่อมาหวังติ้งซุ่นถูกประมุขหวังและคนในตระกูลหวังจับแต่งตัวให้เรียบร้อยและพาไปพบหวังเหล่าไท่จวินและหวังซื่อ ทั้งสองคนพอใจหวังติ้งซุ่นมากจึงตัดสินใจเลือกหวังติ้งซุ่น

หวังซื่อรู้สึกขอบคุณไป๋ชิงเหยียนในเรื่องนี้มาก ทว่า นางไม่สามารถช่วยไป๋ชิงเหยียนทำสิ่งอื่นได้ จึงได้แต่คุกเข่าสวดภาวนาขอพรให้ไป๋ชิงเหยียนทุกวัน กวนหมัวมัวมาเล่าเรื่องของตระกูลหวังให้ถงหมัวมัวฟังทุกครั้งที่มาตำหนักใหญ่ นางกล่าวว่าตอนนี้หวังเหล่าไท่จวินมีบุตรชายคนใหม่ที่ยังไม่ได้มีตำแหน่งหรือความดีความชอบใด นางจึงตั้งใจอบรมสั่งสอนบุตรชายคนนี้อย่างเต็มที่

นางเชิญอาจารย์มีชื่อเสียงมาช่วยทบทวนวิชาความรู้ให้หวังติ้งซุ่นใหม่ ไม่นานความรู้ของเขาก็กลับคืนมา ทว่า หวังติ้งซุ่นไม่ได้เรียนรู้กฎระเบียบของคุณชายสูงศักดิ์มาตั้งแต่เล็กจึงต้องค่อยๆ ปรับกันไปและอาจใช้เวลามากหน่อย นอกจากอาจารย์สอนมารยาทแล้ว หากมีเวลาหวังเหล่าไท่จวินก็จะสอนหวังติ้งซุ่นด้วยตัวเอง

หวังติ้งซุ่นเป็นคนใจเย็นมาก เขารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของหวังเหล่าไท่จวินเป็นที่สุด เขารู้ดีว่าวาสนาทั้งหมดที่เขาได้มาในตอนนี้เป็นเพราะหวังเหล่าไท่จวิน

“กวนหมัวมัวกล่าวว่าเมื่อสอนมารยาทของหวังติ้งซุ่นได้สักระยะหนึ่ง นางจะหาคู่ครองให้น้องชายของฮูหยินสี่ผู้นี้เจ้าค่ะ” ถงหมัวมัวนวดบ่าให้ไป๋ชิงเหยียนพลางเล่าให้หญิงสาวฟังยิ้มๆ

“เหล่าไท่จวินอารมณ์ดี ท่านอาสะใภ้สี่จะได้ไม่ได้กังวล” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับถงหมัวมัวยิ้มๆ “พอเถิด หมัวมัวนวดนานแล้วคงเมื่อยเช่นกัน ข้าจะอ่านฎีกาแล้ว”

“ฝ่าบาท…” เว่ยจงเดินเข้ามาด้านใน จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนอย่างกลั้นยิ้ม “ฝ่าบาทหงหลู่ซื่อรายงานมาว่าใต้เท้าฟ่านอวี้กานต่อยกับเสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้แปลกใจในตัวฟ่านอวี้กาน ทว่า นางเป็นห่วงหลู่ไท่เว่ยและท่านลุงของตัวเองจึงขมวดคิ้วถาม “หลู่ไท่เว่ยและต่งซือถูล่ะ พวกเขาได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่”

“ไม่พ่ะย่ะค่ะ ทั้งสองคนต่อยกันตอนออกมาจากหงหลู่ซื่อ ได้ยินว่าใต้เท้าฟ่านอวี้กานถูกหามกลับจวน ระหว่างทางยังเอาแต่ตะโกนว่าเสนาบดีกรมการคลังทำร้ายร่างกายคน ขอให้ฝ่าบาทจัดการเรื่องนี้ให้เขา เขาเอาแต่ตะโกนว่าต้าเยี่ยนรังแกกันเกินไปไปจนถึงจวนของตัวเองเลยพ่ะย่ะค่ะ!” เว่ยจงก้มหน้าลง พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ “ได้ยินว่าตอนนี้คนในเมืองหลวงกว่าครึ่งรู้เรื่องที่ใต้เท้าฟ่านถูกต้าเยี่ยนทำร้ายแล้ว พวกเขาพากันบุกไปยังที่พักของต้าเยี่ยนเพื่อทวงความยุติธรรมให้ใต้เท้าฟ่านแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เว่ยจงได้ยินว่าฟ่านอวี้กานเกือบสั่งให้บ่าวรับใช้ของตัวเองตีกลองป่าวประกาศไปทั่วถนน ทั้งยังจงใจให้คนแบกเขาอ้อมไปยังหน้าที่พักของต้าเยี่ยนด้วย

ไป๋ชิงเหยียนนึกภาพของฟ่านอวี้กานในตอนนั้นออกทันที

หวังหานปิงอยู่ในกลุ่มของทูตต้าเยี่ยน ทว่า ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาสักคำ ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่าหวังหานปิงจะลอบสังเกตขุนนางของต้าโจวและมีแผนอื่นลับหลังดังนั้นจึงให้ฟ่านอวี้กานคิดหาวิธีให้เสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนไม่สามารถเข้าร่วมการเจรจาได้อีกต่อไป ฟ่านอวี้กานทำได้ดีมาก!

ขอเพียงเสนาบดีกรมการคลังไม่สามารถเข้าร่วมการเจรจาได้ ฟ่านอวี้กานก็จะมีโอกาสตอแยหวังหานปิง

ให้ฟ่านอวี้กานทดสอบความสามารถที่แท้จริงของหวังหานปิง หากไม่ได้จริงๆ นางจะให้หลิ่วหรูซื่อมาพบบัณฑิตจอหงวนหวังหานปิงผู้นี้ด้วยตัวเอง

ไป๋ชิงเหยียนเม้มปากเล็กน้อยพลางกล่าวออกมายิ้มๆ “ไปเชิญอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมาพบข้าที บอกเขาว่าต้าเยี่ยนส่งมือลอบสังหารมาสังหารขุนนางคนสำคัญของต้าโจว ตอนนี้ยังทำร้ายร่างกายขุนนางของต้าโจวอีก ต้าเยี่ยนจะชดเชยให้ต้าโจวหรือต้องการเปิดศึกกับต้าโจวกันแน่ ให้คนนำของปลอบขวัญไปมอบให้ฟ่านอวี้กานด้วย บอกเขาว่าเขาลำบากเพื่อต้าโจวแล้ว เราจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้!”

“พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงรับคำแล้วจากไป

โรงเตี๊ยมของต้าเยี่ยน

เสนาบดีกรมการคลังที่เป็นคนสุขุมมาโดยตลอดเขวี้ยงแจกันลงบนพื้นด้วยความโมโห เขาเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องของตัวเองพักใหญ่ สุดท้ายจึงหยิบถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะเขวี้ยงลงบนพื้น “รังแกกันเกินไปแล้ว ข้าโดนตัวเขาเมื่อใดกัน! เหตุใดจึงมีคนเช่นนี้อยู่บนโลก! ตั้งแต่เดินออกมาจากหงหลู่ซื่อก็เอาแต่เดินมากระแทกข้า ข้ายังไม่ได้ว่าอันใดสักคำเขากลับล้มลงบนพื้น ข้าหวังดีเข้าไปช่วยพยุงเข้า ทว่า เขากลับกระชากคอเสื้อของข้าพลางตะโกนว่าข้าทำร้ายเขา! เขาล้มลงบนพื้นเองแท้ๆ กลับมีหน้ามาโทษข้าอีก ไร้เหตุผลสิ้นดี!”

เสนาบดีกรมการคลังโมโหจนร่างสั่นเทิ้ม เขาใช้ชีวิตมาค่อนชีวิตยังไม่เคยเจอคนที่หน้าไม่อายเช่นนี้มาก่อนเลย!

“ท่านเสนาบดี ท่านผู้สำเร็จราชการเชิญท่านไปพบขอรับ…”

องครักษ์ของเซียวหรงเหยี่ยนเดินมาตามเสนาบดีกรมการคลัง

เสนาบดีกรมการคลังจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อยด้วยสีหน้าหงุดหงิด สั่งให้บ่าวรับใช้เก็บกวาดเศษกระเบื้องที่แตกอยู่บนพื้น จากนั้นเดินไปหาเซียวหรงเหยี่ยนที่ตำหนัก

เมื่อเห็นหน้าเซียวหรงเหยี่ยนเสนาบดีกรมการคลังจึงกล่าวออกมาอย่างคุมไม่อยู่ “ต้าโจวคัดเลือกคนมาเป็นขุนนางเช่นไรนะ เหตุใดจึงปล่อยให้คนนิสัยเช่นนี้มาเป็นขุนนางได้ พวกเขาไม่กลัวชาวบ้านจะเดือดร้อนอย่างนั้นหรือ!”

เซียวหรงเหยี่ยนวางจดหมายตอบกลับของมู่หรงลี่ลงบนโต๊ะ จากนั้นกล่าวขึ้น “ฟ่านอวี้กานผู้นี้เคยเป็นคุณชายเจ้าสำราญในเมืองหลวงมาก่อน เจ้าคิดว่าเหตุใดจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจึงส่งคนผู้นี้มาเจรจากับพวกเรากัน คนผู้นี้เป็นคนหน้าไม่อายและเจ้าเล่ห์ เขาสามารถทำให้เรื่องที่ไร้เหตุผลกลายเป็นเรื่องที่มีเหตุผลขึ้นมาได้”

เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางหวังหานปิง “ข้าคิดว่าพวกเขาไม่ได้จงใจหาเรื่องเจ้า พวกเขาพุ่งเป้าไปที่หวังหานปิงมากกว่า”

หวังหานปิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ที่ก่อนหน้านี้หวังหานปิงเอาแต่เงียบขณะที่ต้าโจวและต้าเยี่ยนเจรจากันเป็นเพราะเขาต้องการทดสอบความสามารถของขุนนางแต่ละคนของต้าโจว อีกเหตุผลเป็นเพราะเซียวหรงเหยี่ยนกำชับเขาตั้งแต่ก่อนเริ่มมีการเจรจาระหว่างสองแคว้นแล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนบอกให้เขารอสักสองสามวัน เมื่อต้าโจวยื่นเงื่อนไขออกมาจนหมดแล้วหวังหานปิงค่อยแสดงบทบาทของตัวเอง เซียวหรงเหยี่ยนรู้สึกว่าเรื่องมือสังหารมีเงื่อนงำบางอย่างแอบแฝง หากหวังหานปิงแสดงความสามารถของตัวเองออกมา หลิ่วหรูซื่อต้องมาปรากฏตัวแน่นอน

หากหลิ่วหรูซื่อปลอดภัยดี จงสิงเสี่ยวก็จะได้รับการปล่อยตัว เมื่อจงสิงเสี่ยวได้รับการปล่อยตัวออกมา เซียวหรงเหยี่ยนจะให้หวังหานปิงเจรจากับต้าโจวว่าจะให้จงสิงเสี่ยวอยู่เป็นตัวประกันที่ต้าโจว อีกทั้งมอบดินแดนของซีเหลียงที่ยึดมาได้ทั้งหมดให้แก่ต้าโจวเพื่อแสดงความจริงใจ ขอให้ต้าโจวล้มเลิกความคิดที่ต้องการผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนมาเป็นตัวประกัน ต้าโจวจะได้มีข้ออ้างยอมลงให้ต้าเยี่ยนได้

ดังนั้นหวังหานปิงจึงเงียบมาโดยตลอด

ทว่า ฟ่านอวี้กานจงใจหาเรื่องหวังหานปิงอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะสองสามวันมานี้ยิ่งกล่าวถ้อยคำดูถูกแดกดันหวังหานปิงรุนแรงกว่าเดิม โชคดีที่เสนาบดีกรมการคลังช่วยออกหน้าแทนทุกครั้ง หวังหานปิงจึงอดกลั้นเอาไว้ได้

ทว่า ครั้งนี้ฟ่านอวี้กานกลับจัดฉากว่าตัวเองถูกเสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนทำร้าย!

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset