สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1352 ได้เปรียบ

ตอนที่ 1352 ได้เปรียบ

ตอนที่ 1352 ได้เปรียบ

“ตอนนี้ดาบของต้าโจวไม่ได้จ่ออยู่บนคอของพวกเราต้าเยี่ยนอยู่แล้วหรือ ดาบของพวกเขาจ่ออยู่ที่คอของพวกเราตั้งแต่ที่พวกเขายกทัพไปประชิดชายแดนต้าเยี่ยนแล้ว”

เซียวหรงเหยี่ยนเดินไปตามระเบียงทางเดินที่ทอดยาวไปยังที่พักของพวกเขาพลางกล่าวเสียงขรึม “พรุ่งนี้บอกกับต้าโจวว่าต้าเยี่ยนยินดียกเมืองที่ยึดได้ทั้งหมดของซีเหลียงให้ต้าโจว ทว่า พวกเราจะไม่มอบตัวประกันให้ต้าโจวเด็ดขาด!”

ขุนนางต้าเยี่ยนสบตากัน เสนาบดีกรมการคลังก้าวไปด้านหน้า

“ท่านอ๋องจะยกซีเหลียงให้ต้าโจวหรือพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องเป็นคนทำสงครามยึดซีเหลียงมาได้นะพ่ะย่ะค่ะ ที่สำคัญการทำสงครามกับซีเหลียงครั้งนี้…”

“ตอนนี้ต้าโจวยื่นเงื่อนไขกับพวกเราแล้ว พวกเราต้องหยิบยื่นข้อเสนอที่ต้าโจวมองเห็นได้ให้แก่ต้าโจวจึงจะได้ไม่ต้องมอบตัวประกันให้พวกเขา!”

หวังหานปิงกล่าวขึ้นโดยไม่รอให้เสนาบดีกรมการคลังกล่าวจบ

“ต้าโจวเอาแต่กล่าวเรื่องที่ต้าเยี่ยนแทงข้างหลังพวกเขาตอนทำสงครามที่ซีเหลียง ตอนนี้พวกเราจะยกเมืองของซีเหลียงที่พวกเรายึดได้ทั้งหมดเป็นของชดเชยให้ต้าโจว จากนั้นค่อยเจรจากันต่ออย่างสงบสุขโดยไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องในอดีตอีก กระหม่อมคิดว่านี่คือการแสดงความจริงใจที่ดีที่สุดของต้าเยี่ยนพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางหวังหานปิงที่มีสีหน้าเรียบเฉยแวบหนึ่ง นึกไม่ถึงเลยว่าหวังหานปิงจะเข้าใจความหมายของเขา

แม้ไป๋ชิงเหยียนจะบอกว่าต้องการตัวประกันของต้าเยี่ยน ทว่า หากสลัดความรู้สึกส่วนตัวทิ้งไป ในฐานะผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน หากไม่อับจนหนทางจริงๆ เซียวหรงเหยี่ยนไม่อยากส่งมู่หรงผิงและเซี่ยสวินมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจว

ทั้งมู่หรงผิงและเซี่ยสวินล้วนเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจที่ต้าเยี่ยนสามารถพึ่งพาได้ในตอนนี้

ดังนั้นต้าเยี่ยนยินดีสละดินแดน ทว่า ไม่อยากมอบตัวประกันให้ต้าโจว

ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีเช่นเดียวกันว่าหากไป๋ชิงเหยียนต้องการตัวมู่หรงผิงและเซี่ยสวินมาเป็นตัวประกันของต้าโจวให้ได้แล้วต้าเยี่ยนไม่ยอมตกลง ไป๋ชิงเหยียนและขุนนางของต้าโจวต้องยินดียกทัพบุกไปโจมตีเมืองหลวงของต้าเยี่ยนตอนที่กองทัพหลักของต้าเยี่ยนถูกไป๋ชิงอวี๋และไป๋ชิงฉีขัดขวางอยู่ที่ซีเหลียงแน่นอน

พวกเขาล้วนอยากรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งเช่นเดียวกัน ทว่า แม้ไป๋ชิงเหยียนซึ่งเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะอยากใช้วิธีสันติรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งมากเพียงใด นางก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของต้าโจวด้วยอยู่ดี เพราะตอนนี้สถานการณ์ของต้าโจวได้เปรียบกว่าต้าเยี่ยนมาก

เซียวหรงเหยี่ยนกำหมัดแน่น ถึงแม้ตอนนี้เขาจะสลัดความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อไป๋ชิงเหยียนทิ้งไป ถึงแม้สุดท้ายเขาต้องส่งตัวมู่หรงผิงและเซี่ยสวินมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจว ทว่า เขาต้องกอบโกยผลประโยชน์ให้ต้าเยี่ยนให้ได้มากที่สุด เขาต้องวางแผนเรื่องนี้ให้ดี

“ส่งรายงานวันนี้ไปให้ฝ่าบาทแล้วหรือไม่”

เซียวหรงเหยี่ยนถามต่อ

“ทูลท่านอ๋อง กระหม่อมให้คนขี่ม้าเร็วไปรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฝ่าบาททรงทราบทุกวันตามรับสั่งของท่านอ๋องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หวังหานปิงกล่าวจบจึงกล่าวต่อ

“ทว่า ฝ่าบาทให้คนส่งจดหมายกลับมาให้กระหม่อมว่าให้ผู้สำเร็จราชการเป็นคนตัดสินเรื่องทุกอย่างทางนี้พ่ะย่ะค่ะ”

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า

ไป๋ชิงเหยียนนั่งอ่านรายงานของวันที่เจ็ดที่มีการเจรจาที่หงหลู่ซื่อส่งมาให้ นางพบว่าบัณฑิตจอหงวนหวังหานปิงของต้าเยี่ยนมักจะออกมาคลี่คายสถานการณ์ตอนที่สองแคว้นทะเลาะจนเกือบตีกันทุกครั้ง ทว่า ตอนที่เสนาบดีกรมการคลังและขุนนางของต้าเยี่ยนคนอื่นๆ เถียงกลับต้าโจวเขากลับนิ่งเงียบ

ไป๋ชิงเหยียนลูบมือลงบนรายงานเบาๆ อย่างใช้ความคิด

ที่ไป๋ชิงเหยียนตกลงหลิ่วหรูซื่อให้ฟ่านอวี้กานเข้าร่วมในการเจรจาระหว่างสองแคว้นในครั้งนี้เพราะต้องการให้เขารับมือกับหวังหานปิง

ไป๋ชิงเหยียนพอเดาได้ว่าหวังหานปิงคือวิญญูชนที่มีความสามารถมากคนหนึ่งจากการอ่านจดหมายของไป๋จิ่นถง วิญญูชนต้องเผชิญหน้ากับคนอย่างฟ่านอวี้กานถึงจะเรียกได้ว่าบัณฑิตพบทหาร

ไป๋ชิงเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นให้คนเรียกฟ่านอวี้กานมาพบ…

ฟ่านอวี้กานไม่คิดมาก่อนว่าไป๋ชิงเหยียนจะเรียกพบเขา เขาเดินเข้ามาในตำหนักอย่างสงบเสงี่ยม อาจเป็นเพราะเคยเผชิญปัญหาใหญ่มาก่อนฟ่านอวี้กานในตอนนี้จึงดูสุขุมตัวตอนเป็นคุณชายเจ้าสำราญมาก

“ขอบพระทัยที่ฝ่าบาทไม่รังเกียจและยอมให้กระหม่อมเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

ฟ่านอวี้กานทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม

“ขอบพระทัยที่ฝ่าบาททรงปล่อยท่านพ่อของกระหม่อมออกมาจากคุกพ่ะย่ะค่ะ!”

“เอาล่ะ ลุกขึ้นเถิด”

ไป๋ชิงเหยียนมองฟ่านอวี้กานยิ้มๆ

“เคยเห็นเจ้าแบบที่เคยเป็นเมื่อก่อนจนคุ้นตา พอเห็นเจ้าสงบเสงี่ยมเช่นนี้ข้าจึงรู้สึกไม่เคยชินสักเท่าใดนัก”

ฟ่านอวี้กานที่คุกเข่าอยู่กลางท้องพระโรงเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนพลางลูบศีรษะของตัวเองอย่างทำตัวไม่ถูก

“ตอนนี้พี่สาวไป๋คือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแล้ว ท่านพ่อของกระหม่อมกำชับให้กระหม่อมเคารพกฎระเบียบพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นหันไปสั่งให้เว่ยจงนำเบาะรองนั่งมาให้ฟ่านอวี้กาน

“นั่งเถิด”

ฟ่านอวี้กานรับคำแล้วนั่งลง จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม

“ฝ่าบาทให้คนไปตามกระหม่อมมาพบเพราะเรื่องการเจรจาระหว่างสองแคว้นใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า นางยกชาขึ้นจิบพลางเอ่ยถามฟ่านอวี้กาน

“เจ้าคิดว่าทูตของต้าเยี่ยนนามหวังหานปิงผู้นั้นเป็นเช่นไรบ้าง”

ฟ่านอวี้กานเป็นคนฉลาดเมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนถามเช่นนี้จึงรู้ทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนอยากรู้เรื่องใด

“ฝ่าบาททรงสังเกตว่าคนผู้นี้ค่อนข้างเงียบขรึมในกลุ่มของขุนนางต้าเยี่ยนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ เขากล่าวเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้นตั้งแต่เริ่มเจรจากันมาจนถึงวันนี้…”

“เจ้ามีความเห็นเช่นไร”

ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

“ก่อนหน้านี้หลู่ไท่เว่ยมอบหมายให้พวกกระหม่อมลองหยั่งเชิงหวังหานปิงผู้นี้ ทว่า หลู่เฟิ่งหลางคิดว่าการหยั่งเชิงดูโจ่งแจ้งเกินไป ไม่ว่าอย่างไรกระหม่อมก็มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีอยู่แล้วหลู่เฟิ่งหลางจึงให้กระหม่อมคอยกล่าวยั่วโมโหคนผู้นั้น ทว่า เขาไม่สนใจกระหม่อมเลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฟ่านอวี้กานหวนนึกถึงครั้งแรกที่พบหวังหานปิง

“คนผู้นี้…”

ฟ่านอวี้กานมองไปทางไป๋ชิงเหยียน

“บางครั้งกระหม่อมโยนบทสนทนาไปให้เขาแล้ว ทว่า เขาไม่ตอบกลับกระหม่อมแม้แต่น้อย มีเพียงเสนาบดีกรมการคลังน่ารำคาญผู้นั้นคนเดียวที่คอยเถียงกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ทราบว่าคนผู้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่รู้ว่าเขาปิดบังฐานะของตัวเองดีหรือเป็นเพียงคนตระกูลสูงศักดิ์ของต้าเยี่ยนที่ถูกส่งมาร่วมคณะเพื่อเอาความดีความชอบเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

“ที่หวังหานปิงผู้นี้เอาแต่เงียบเฉยตอนพวกเจ้าเจรจากันคงเป็นเพราะเขากำลังสังเกตพวกเจ้าอยู่ คนผู้นี้เป็นบัณฑิตยากจน คือจอหงวนของต้าเยี่ยน วาทศิลป์ของเขา…ไม่ด้อยไปกว่าหลิ่วหรูซื่อสักนิด!”

ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ จากนั้นเคาะนิ้วลงบนรายงานตรงหน้า

“แค่กล่าวเพียงไม่กี่คำก็ยุติการโต้เถียงของพวกเจ้าได้ บางทีเขาอาจวางแผนบางอย่างอยู่…”

ฟ่านอวี้กานเม้มปากแน่น ไม่นานจึงกล่าวขึ้น

“ฝ่าบาทได้โปรดช่วยชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะว่าต้องการให้กระหม่อมทำเช่นไร”

“เจ้าต้องหาวิธีหยั่งเชิงความสามารถของคนผู้นี้ให้ได้”

ไป๋ชิงเหยียนเห็นท่าทีนิ่งอึ้งของฟ่านอวี้กานจึงกล่าวออกมายิ้มๆ

“ใช้วิธีที่เจ้าถนัดที่สุดทำมันให้เต็มที่ หากทำพลาดยังมีข้าคอยหนุนหลังเจ้าอยู่ ทำอย่างไรก็ได้ให้เสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนไม่อาจเข้าร่วมการเจรจาได้อีก ขอเพียงเสนาบดีกรมการคลังไม่อยู่เจ้าก็สามารถหยั่งเชิงความสามารถที่แท้จริงของหวังหานปิงผู้นี้ได้แล้ว”

ฟ่านอวี้กานรีบก้มศีรษะคำนับแนบพื้น

“กระหม่อมจะไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset