สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1281 นับถือ

ตอนที่ 1281 นับถือ

ตอนที่ 1281 นับถือ

ม้าศึกที่เสิ่นชิงจู๋ขี่อยู่พ่นลมออกมาจากจมูกไม่หยุด มันใช้ศีรษะดันมือของนางเล็กน้อย ถือเป็นม้าที่ชาญฉลาดมาก

เสิ่นชิงจู๋เงยหน้ามองไป๋จิ่นเซ่อ “ดังนั้นข้าจึงเดาว่าไม่คุณหนูเจ็ดก็คุณชายห้าต้องอยู่ในกลุ่มของชาวบ้านลี้ภัยแน่นอน ข้าจึงไล่ตามไปเจ้าค่ะ…”

ทว่า ชาวบ้านลี้ภัยของซีเหลียงบางคนต้องการหลีกเลี่ยงทหาร บางคนกล้าเดินบนถนนของทางการ บางคนเลือกใช้เส้นทางบนภูเขาซึ่งเป็นเส้นทางที่ลำบากที่สุด ที่สำคัญทิศทางการเดินทางของพวกเขาไม่เหมือนกัน บางคนมุ่งหน้าไปยังอวิ๋นจิง บางคนมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของอวิ๋นจิง บางคนไปทางตะวันตก บางคนมุ่งหน้าไปทางเหนือต่อดังนั้นเสิ่นชิงจู๋จึงเสียเวลาในการตามหาไป๋จิ่นเซ่อไปมาก

ไป๋จิ่นเซ่อพยักหน้า “ลำบากพี่ชิงจู๋แล้วเจ้าค่ะ!”

เสิ่นชิงจู๋มองไปทางเด็กชายที่นั่งกำชายเสื้อของไป๋จิ่นเซ่อแน่นอยู่ด้านหลังพลางมองมาที่นางด้วยแววตาหวาดระแวงแวบหนึ่ง นางกล่าวกับไป๋จิ่นเซ่อ “คุณหนูเจ็ดมาขี่ม้าตัวเดียวกับข้าดีหรือไม่เจ้าคะจะได้งีบหลับสักตื่น ให้ทหารต้าเยี่ยนขี่ม้าให้เด็กคนนั้นดีหรือไม่เจ้าคะ”

“ไม่เอา!” เด็กชายกำเสื้อของไป๋จิ่นเซ่อแน่นพลางตวาดเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าเขาต่อต้าทหารต้าเยี่ยนมาก

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะพี่ชิงจู๋ ข้าจะขี่ม้าให้เขาเองเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นเซ่อมองไปทางเด็กชายที่ก้มหน้าต่ำลงแวบหนึ่ง นางสัมผัสได้ว่าร่างของเขากำลังสั่นเทา นางไม่รู้ว่าเขากำลังหวาดกลัวสิ่งใด ทว่า นางไม่ได้ถามออกไป

เดินทางขึ้นไปทางทิศเหนืออีกประมาณครึ่งวันไป๋จิ่นเซ่อก็พบกับไป๋ชิงเจวี๋ยที่พากองทัพไป๋ออกมาตามหานาง

เมื่อเห็นกองทัพไป๋และไป๋ชิงเจวี๋ยน้ำตาของไป๋จิ่นเซ่อไหลพรากออกมาทันที ก่อนหน้านี้นางทนได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเผชิญเหตุการณ์ที่เฉียดตายหรือหิวโซมากเพียงใด ทว่า วินาทีที่เห็นหน้าพี่ชายเจ็ดไป๋จิ่นเซ่อรู้สึกเสียขวัญขึ้นมาทันที น้ำตาของนางไหลพรากออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

“พี่ชายเจ็ด…” ลำคอของไป๋จิ่นเซ่อร้อนผ่าว

เมื่อเห็นน้องสาวเจ็ดไป๋จิ่นเซ่อปลอดภัยดีไป๋ชิงเจวี๋ยจึงคลายความเครียดที่สั่งสมมานานลง ชาวบ้านซีเหลียงเริ่มกินเนื้อมนุษย์เป็นเรื่องปกติแล้ว ก่อนพบตัวไป๋จิ่นเซ่อไป๋ชิงเจวี๋ยกังวลมาตลอดทางว่าน้องสาวของเขาจะเป็นอันใดไป

โชคดีที่น้องสาวเจ็ดปลอดภัยดี…

ไป๋ชิงเจวี๋ยขี่ม้าไปด้านหน้า เขามองสำรวจร่างของไป๋จิ่นเซ่อ เขาพยายามข่มใจไม่รั้งร่างของน้องสาวมาสำรวจอย่างละเอียด ทำเพียงเอ่ยถามเสียงเบา “ได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่”

ไป๋จิ่นเซ่อใช้แขนเสื้อปาดน้ำตาทิ้ง ส่ายหน้าพลางยิ้มออกมา “ข้ามิเป็นอันใดเจ้าค่ะพี่ชายเจ็ด มีแผลเล็กน้อยตามร่างกายเท่านั้น กลับไปให้ท่านหมอหงทำแผลให้ก็ไม่มีอันใดแล้วเจ้าค่ะ พี่ชายเจ็ดไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเจวี๋ยเห็นไป๋จิ่นเซ่อยิ้มออกมาได้จึงหันไปสั่งรองแม่ทัพของตัวเอง “ส่งคนไปบอกจิ่นหวาว่าไม่ต้องตามหาแล้ว เราพบตัวเสี่ยวชีแล้ว”

“ขอรับ” รองแม่ทัพกำหมัดรับคำ

“กลับกันเถิด” ไป๋ชิงเจวี๋ยเอื้อมมือลูบศีรษะของน้องสาวอย่างแผ่วเบา “กลับไปคุยกันต่อที่เมือง พี่ชายสามกับพี่หญิงรองรอเจ้ากลับไปอยู่!”

ไป๋จิ่นเซ่อพยักหน้า “เจ้าค่ะ!”

คืนวันที่เซียวหรงเหยี่ยนและองค์ชายสองมู่หรงผิงจะเดินทางกลับเมืองหลวงของต้าเยี่ยน ไป๋ชิงเจวี๋ย เสิ่นชิงจู๋และกองทัพไป๋พาไป๋จิ่นเซ่อเดินทางไปถึงเมืองอวิ๋นจิงพอดี

ไป๋จิ่นหวาแบ่งกำลังคนออกไปตามทางทิศตะวันตกของซีเหลียง นางกำลังเร่งเดินทางไปกลับเมืองอวิ๋นจิงเช่นเดียวกัน

ตอนที่ไป๋จิ่นเซ่อเดินทางเข้ามาในเมืองอวิ๋นจิงเป็นเวรของทหารกองทัพไป๋เฝ้าประตูเมืองพอดี เมื่อพวกเขาเห็นไป๋จิ่นเซ่อจึงตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น “คุณหนูเจ็ดกลับมาแล้ว! คุณชายเจ็ดและแม่นางเสิ่นพาคุณหนูเจ็ดกลับมาแล้ว! รีบไปรายงานคุณชายสามและคุณหนูรองเร็ว!”

ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวขอบคุณทหารต้าเยี่ยน จากนั้นพาไป๋จิ่นเซ่อเข้าไปในวังหลวงของอวิ๋นจิง

ไป๋ชิงฉีและไป๋จิ่นซิ่วรับรู้ข่าวกับกลับมาของไป๋จิ่นเซ่ออย่างกะทันหัน พวกเขาทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นมาก

ทั้งสองรีบเดินออกไปต้อนรับน้องสาว พวกเขาเห็นไป๋จิ่นเซ่อสวมเสื้อคลุมกันลมมิดชิด ใบหน้ามอมแมมไปทั้งหน้า ทันใดนั้นไป๋จิ่นเจาเดินออกมารายงานว่าไป๋ชิงอวี๋ฟื้นแล้วด้วยสีหน้าดีใจ “ครั้งนี้พี่ชายห้าฟื้นขึ้นมาแล้วจริงๆ เจ้าค่ะ! พี่หญิงสี่และท่านหมอหงเฝ้าดูอาการอยู่ พวกเขาให้ข้ารีบมารายงานข่าวดีเจ้าค่ะ!”

“พี่ชายห้าฟื้นแล้วอย่างนั้นหรือ! พี่ชายห้าเป็นอันใดไปเจ้าคะ” ตอนนั้นไป๋จิ่นเซ่อพลัดตกจากหลังม้าจนสลบไปนางจึงไม่รู้เรื่องที่ไป๋ชิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บ

ไป๋ชิงฉีที่ปกติสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลาคลี่ยิ้มออกมาอย่างแทบไม่เคยเห็น เขากล่าวกับไป๋จิ่นเซ่อ “เสี่ยวชีคือดาวนำโชคของพวกเราจริงๆ พอเจ้ากลับมาพี่ชายห้าของเจ้าก็ฟื้นทันที”

“ข้าพาเสี่ยวชีไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายก่อนนะเจ้าคะ” ไป๋จิ่นซิ่วโอบไป๋จิ่นเซ่อไว้ในอ้อมกอด นางลูบแขนน้องสาวอย่างปลอบโยนพลางกล่าวขึ้นยิ้มๆ ด้วยดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อย “เสี่ยวชีจะได้ไปพบหน้าอาอวี๋ด้วยร่างกายที่สะอาด”

“ได้…” ไป๋ชิงฉีพยักหน้า เขาเอื้อมมือลูบศีรษะของไป๋จิ่นเซ่อเบาๆ เขานึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะปล่อยให้น้องสาวที่เพิ่งมาออกรบในสนามรบครั้งแรกเผชิญความลำบากถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าเสี่ยวชีเผชิญสิ่งใดตอนอยู่กับชาวบ้านลี้ภัยเหล่านั้นบ้าง เป็นความผิดของพี่ชายสามอย่างเขาจริงๆ “หากเหนื่อยเกินไปก็ยังไม่ต้องรีบร้อนมาหาพี่ชายห้าของเจ้า พักผ่อนให้เต็มที่ก่อน หากพี่ชายห้ารู้ว่าเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยเขาต้องดีใจมากแน่”

ไป๋ชิงฉีกล่าวจบจึงมองไปทางเด็กชายหน้าตามอมแมมที่ไม่ยอมอยู่ห่างกายไป๋จิ่นเซ่อแวบหนึ่ง เขาเงยหน้ามองไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋ชิงเจวี๋ยส่ายหน้าอย่างต้องการสื่อว่าเขาไม่รู้ที่มาที่ไปของเด็กชายคนนี้เช่นเดียวกัน

เมื่อเห็นพี่ชายมองไปที่ร่างของเด็กชายไป๋จิ่นเซ่อจึงรั้งร่างของเด็กชายมายืนอยู่ข้างกายพลางกล่าวขึ้น “พี่ชายสาม ข้าและเด็กคนนี้ถูกจับไปเป็นอาหารสำรองของชาวบ้านลี้ภัยของซีเหลียงเหล่านั้น พวกเราหนีออกมาพร้อมกัน หากเขาไม่แบ่งอาหารให้ข้าครึ่งหนึ่ง ข้าคงไม่มีแรงหนีออกมาและมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้เจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงฉีมองเด็กชายที่แววตาดำขลับ ทว่า เต็มไปด้วยความหวาดระแวงผู้คนรอบข้างนิ่ง จากนั้นพยักหน้า “พาเด็กคนนี้ไปหาของกินและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย”

“ขอรับ…” ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าว

เมื่อข่าวเมืองอวิ๋นจิงถูกตีแตกถูกส่งไปยังเมืองหลวง ‘รถม้า’ ที่ไป๋ชิงเหยียนใช้เดินทางไปยังซีเหลียงจึงหยุดลงที่ภูเขาเวิ่ง

ต่อมาเมื่อข่าวที่อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนและองค์ชายสองมู่หรงผิงพาตัวคนส่งสารของแม่ทัพชราชุยซานจงกลับไปสอบสวนที่ต้าเยี่ยนส่งมาถึงเมืองหลวงของต้าโจว ‘รถม้าของไป๋ชิงเหยียน’ จึงเริ่มเคลื่อนตัวกลับไปยังเมืองหลวง

ตอนนี้ขุนนางในราชสำนักต่างรับรู้ว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนรับปากพวกเขาว่าจะสืบเรื่องที่ต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวอย่างละเอียดหมดแล้ว ฝ่าบาทของพวกเขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับเมืองหลวงมารอฟังคำตอบจากต้าเยี่ยนด้วยตัวเอง

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้สั่งถอยทัพทหารที่ประชิดอยู่ที่ชายแดนต้าเยี่ยน ไม่ได้สั่งให้กองทัพต้าโจว กองทัพไป๋และกองทัพจ้าวที่ทำลายซีเหลียงได้สำเร็จยกทัพกลับมาเมืองหลวง สองแคว้นพร้อมทำสงครามกันทุกเมื่อ แม้แต่คนที่อยู่ในเมืองหลวงยังสัมผัสถึงบรรยากาศตึงเครียดนี้ได้

ชาวบ้านหลายคนยังไม่เคยลืมคำกล่าวของจักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนที่กล่าวตอนเสด็จไปเยือนสำนักศึกษากั๋วจื่อเจียนว่าจะทำให้ต้าโจวรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งให้ได้ ดังนั้นชาวบ้านจึงรู้สึกตื่นเต้นและถกเถียงเรื่องนี้กันไปต่างต่างนานา

ชาวบ้านส่วนใหญ่คิดว่าต้าโจวทำถูกแล้วที่จะทำสงครามกับต้าเยี่ยน แคว้นต้าเยี่ยนเป็นแคว้นที่น่านับถือและแข็งแกร่งมาก มิเช่นนั้นจากแคว้นเล็กๆ ที่เคยต้องพึ่งพาอาศัยต้าจิ้นจะกลายมาเป็นแคว้นที่มีความสามารถต่อสู้แย่งชิงความเป็นหนึ่งในใต้หล้ากับแคว้นต้าโจวได้อย่างไร

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset