สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1277 ได้คืบจะเอาศอก

ตอนที่ 1277 ได้คืบจะเอาศอก

ตอนที่ 1277 ได้คืบจะเอาศอก

เยว่สือรีบเดินตามหลังเซียวหรงเหยี่ยนไปทันที เขาอดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้ มิน่าคุณหนูใหญ่จึงไม่ยอมบอกความจริงกับเขา ที่แท้ก็เป็นเพราะเขาควบคุมสีหน้าของตัวได้เองไม่ดีจนแม้แต่เจ้านายของเขายังปวดหัวอย่างนั้นหรือ…

เยว่สือตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าเมื่อเรื่องที่ซีเหลียงสิ้นสุดลงเขาจะกลับไปเรียนรู้จากหวังจิ่วโจว ดูว่าปกติหวังจิ่วโจวซ่อนอารมณ์และสีหน้าของตัวเองได้ดีขนาดนั้นได้อย่างไร

ตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนเดินไปถึงโถงรับรองด้านหน้าเว่ยจงกำลังนั่งจิบชาอยู่ เว่ยจงได้ยินทหารเอ่ยขึ้น “อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเสด็จมาถึงแล้ว…”

เว่ยจงวางถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน จากนั้นลุกขึ้นทำความเคารพเซียวหรงเหยี่ยน “คารวะท่านอ๋องเก้าพ่ะย่ะค่ะ”

ด้านหลังของเซียวหรงเหยี่ยนคือองค์ชายสองมู่หรงผิง แม่ทัพเซี่ยสวินและแม่ทัพต้าเยี่ยนคนอื่นๆ ที่มองมาทางเว่ยจงราวกับอยากจะฉีกเว่ยจงออกเป็นชิ้นๆ เว่ยจงยังคงยิ้มแย้มด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้านเช่นเคย

“เว่ยกงกง ไม่ได้เจอกันนาน…” เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้าให้เว่ยจงเล็กน้อย จากนั้นเดินไปนั่งบนเก้าอี้ประมุข “นั่งลงได้”

แม่ทัพต้าเยี่ยนกล่าวขอบคุณจากนั้นนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง ทว่า เว่ยจงกลับยืนตรงเผชิญหน้ากับเซียวหรงเหยี่ยนนิ่ง เขาประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าท้อง จากนั้นกล่าวขึ้น “ครั้งนี้กระหม่อมมาพบอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนตามกระแสรับสั่งเพราะต้าโจวถูกทรยศตอนที่ร่วมมือทำสงครามโจมตีซีเหลียงกับต้าเยี่ยน…จนคุณชายห้าของตระกูลไป๋ถูกซีเหลียงจับตัวไปจนตอนนี้ยังไม่ฟื้นขึ้นมาพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวหรงเหยี่ยนได้ยินเว่ยจงกล่าวเช่นนี้จึงคิดว่าตนทำถูกแล้วที่พาบรรดาแม่ทัพของต้าเยี่ยนมาที่นี่ด้วย

“ไม่ใช่นะ ข้าได้ยินว่าคุณชายห้าของกองทัพไป๋ได้สติแล้วนี่!” แม่ทัพต้าเยี่ยนกล่าวเสียงดัง

“ตอนที่ข้ามาถึงคุณชายห้าฟื้นขึ้นมาแล้วรอบหนึ่ง ทว่า เขาหมดสติไปอีกรอบแล้ว หากแม่ทัพต้าเยี่ยนไม่เชื่อสามารถไปตรวจสอบด้วยตัวเองได้!” เว่ยจงกล่าว

เซียวหรงเหยี่ยนยกมือห้ามแม่ทัพต้าเยี่ยน จากนั้นแสร้งกล่าวต่อด้วยท่าทีอ่อนน้อม “ครั้งนี้ข้าให้เยว่สือนำจดหมายไปมอบให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่เมืองหลวง อีกทั้งตัดศีรษะของแม่ทัพฉู่ของต้าเยี่ยนตามกฎของกองทัพแล้ว เว่ยกงกงลองว่ามาสิจักรพรรดินีแห่งต้าโจวยังต้องการให้ต้าเยี่ยนทำเช่นไรอีก หากต้าเยี่ยนสามารถทำได้ต้าเยี่ยนยินดีทำให้อย่างเต็มที่”

“ท่านอ๋องเก้า เท่าที่ต้าโจวทราบมา…ผู้ที่ขายข่าวของกองทัพให้แก่แม่ทัพชราชุยซานจงแห่งซีเหลียงไม่ใช่แม่ทัพฉู่แต่เป็นไทเฮาของต้าเยี่ยนมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ ต้าโจวของพวกเราไม่เคยทำผิดต่อแคว้นพันธมิตรอย่างพวกท่าน ทว่า ไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนกลับแทงข้างหลังแคว้นพันธมิตรของตัวเองเพียงเพราะกลัวว่าต้าโจวจะบุกไปถึงเมืองอวิ๋นจิงก่อนและได้อวิ๋นจิงไปครอบครอง!” เว่ยจงกล่าวเสียงเรียบเฉย แม้จะเห็นแม่ทัพของต้าเยี่ยนบางคนเริ่มลุกขึ้นยืนเขาก็ยังกล่าวต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน “ที่สำคัญไทเฮายังขอให้แม่ทัพชราชุยส่งตัวน้องชายหรือน้องสาวของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวของพวกเราไปยังต้าเยี่ยนเมื่อจับตัวพวกเขาได้ตอนดักซุ่มโจมตีอีก…”

องค์ชายสองมู่หรงผิงกำดาบที่เอวแน่นพลางมองไปทางอาเก้าของตัวเอง

ผู้อื่นไม่รู้ว่าท่านอาเก้ากับอาลี่ไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ ทว่า มู่หรงผิงรู้ดี หากท่านอาเก้าอยากได้บัลลังก์เขาไม่จำเป็นต้องดึงอาลี่ลงมาจากบัลลังก์ เขาแค่นำราชโองการสุดท้ายของเสด็จพ่อออกมาก็สิ้นเรื่องแล้ว

ท่านอาเก้ากับเสี่ยวอาลี่แค่แสดงละครว่าไม่ลงรอยกันให้คนภายนอกเห็นเท่านั้น แน่นอนว่าเรื่องระหว่างเสด็จแม่และท่านอาเก้าก็เป็นเพียงการแสดงให้คนภายนอกเห็นเช่นเดียวกัน

หากครั้งนี้เสด็จแม่เลอะเลือนร่วมมือกับแม่ทัพชราชุยซานจงแทงข้างหลังต้าโจวจริงๆ ขุนนางฝ่ายของท่านอาเก้าต้องสนับสนุนให้ท่านอาเก้าดึงเสด็จแม่ลงมาจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้สำเร็จราชการแน่นอน ท่านอาเก้าจะรับมือกับเรื่องนี้เช่นไรนะ

หากท่านอาเก้าถือโอกาสนี้ดึงเสด็จแม่ลงมาจากตำแหน่งจริง หากท่านอาเก้าต้องการปกป้องเสี่ยวอาลี่อยู่ ให้คนเห็นเพียงการต่อสู้ในราชสำนักระหว่างอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนและไทเฮาเท่านั้น เช่นนั้นระบอบการปกครองบางการปกครองก็คงดำเนินต่อไปไม่ได้หากท่านอาเก้ายังต้องการปกป้องเสี่ยวอาลี่ให้หลบอยู่ทางด้านหลังเขาและเสด็จแม่ต่อไป

ด้านหนึ่งต้าโจวยกทัพมาประชิดชายแดนต้าเยี่ยนเพื่อเอาผิดแล้ว

อีกด้านคือสถานการณ์ที่คานอำนาจกันในราชสำนักของต้าเยี่ยน ขุนนางในสังกัดของท่านอาเก้าต้องการดึงไทเฮาลงมาจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้สำเร็จราชการให้ได้

นี่เท่ากับเป็นการวางท่านอาเก้าไว้บนเตาไฟชัดๆ

“ตอนนี้แม่ทัพชราชุยเสียชีวิตไปแล้ว! พวกเจ้าไม่มีหลักฐาน ต้าโจวคิดว่าจะกล่าวเช่นไรก็ได้อย่างนั้นหรือ” แม่ทัพต้าเยี่ยนเริ่มเดือดดาลขึ้น

“นั่นน่ะสิ ฟังจากที่เจ้ากล่าว…ต้าโจวคิดจะจัดการเช่นไรกับไทเฮาของพวกเราอย่างนั้นหรือ”

“ได้คืบจะเอาศอกเกินไปแล้ว! ต้าเยี่ยนของพวกเราทรยศพวกเจ้าก่อนก็จริง ทว่า อ๋องเก้าของพวกเราเสี่ยงอันตรายเข้าไปช่วยคนของพวกเจ้าออกมาจากอวิ๋นจิงได้แล้วไม่ใช่หรือ! ที่สำคัญคุณชายห้าของพวกเจ้าก็ยังไม่ตายไม่ใช่หรือ!” แม่ทัพต้าเยี่ยนคนหนึ่งถลกแขนเสื้อขึ้นพลางขยับเข้าไปใกล้เว่ยจงด้วยความโมโห จากนั้นตะโกนเสียงดังลั่น “กองทัพต้าเยี่ยนของพวกเราถอยออกมาจากวังหลวงของซีเหลียงหลังจบสงคราม ทว่า ต้าโจวของพวกเจ้ากลับอยู่ในวังหลวงต่อทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าอวิ๋นจิงจะตกเป็นของฝ่ายใด เรื่องนี้เจ้าจะอธิบายเช่นไร”

เมื่อเว่ยจงได้ยินคำว่า “คุณชายห้าของพวกเจ้ายังไม่ตายไม่ใช่หรือ” ดวงตาของเขาหรี่แคบลงทันที มุมปากของเขายังคงมีรอยยิ้ม ทว่า ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชาอย่างเปิดเผย

อย่าว่าแต่เว่ยจงเลย ขนาดเซี่ยสวินได้ยินก็ยังรู้สึกไม่ดีกับถ้อยคำนั้น มู่หรงผิงรีบกล่าวขึ้น “แม่ทัพระวังวาจาของเจ้าด้วย”

เว่ยจงจ้องหน้าแม่ทัพผู้นั้นนิ่ง “ฟังจากที่แม่ทัพผู้นี้กล่าวมาแสดงว่าท่านคงจำได้เพียงว่าต้าเยี่ยนบุกเข้าไปในอวิ๋นจิงได้ ทว่า คงลืมไปแล้วว่าเข้าไปได้อย่างไร แกนควบคุมประตูฝั่งตะวันออก…เต็มไปด้วยศพของทหารกองทัพไป๋ พวกเขาสละชีวิตของตัวเองให้พวกเจ้าบุกเข้าไปในเมืองได้สำเร็จ!”

เว่ยจงยกยิ้มมุมปากกว้างกว่าเดิม “ใช่แล้ว พวกเขาคือกองทัพไป๋ที่ถูกต้าเยี่ยนอย่างพวกเจ้าทรยศ พวกเขาต่อสู้จนตัวตายเพื่อเปิดประตูเมืองให้พวกเจ้าเข้าไปในเมือง พวกเจ้าคนใดเคยไปนับดูหรือไม่ว่าที่วงล้อประตูเมืองฝั่งตะวันออกมีศพของกองทัพไป๋อยู่กี่ชีวิต คุณชายห้าของตระกูลไป๋ซึ่งถูกไทเฮาของพวกเจ้าขายข่าวให้ซีเหลียงจนได้รับบาดเจ็บหนักและถูกจับเข้าไปในเมืองอวิ๋นจิงเป็นคนสั่งให้ทหารกองทัพไป๋ที่ถูกจับตัวอยู่ในคุกแบ่งกำลังครึ่งหนึ่งไปเปิดประตูเมืองทิศตะวันออก ไม่ใช่ประตูเมืองทิศใต้ที่เกาอี้จวินของพวกเราดักซุ่มอยู่!”

คำกล่าวของเว่ยจงทำให้แม่ทัพต้าเยี่ยนที่กำลังเดือดดาลเหล่านั้นสงบลงทันที

กองทัพต้าเยี่ยนต้องยอมรับว่าพวกเขาเหยียบศพของทหารกองทัพไป๋เข้าไปในเมืองอวิ๋นจิงจริงๆ หากกองทัพไป๋ไม่เปิดประตูเมืองให้พวกเขา ต้าเยี่ยนที่ไม่มีกองทัพยอดฝีมือที่ถนัดเรื่องการโจมตีเมืองอย่างกองทัพซั่วหยางไม่มีทางบุกเข้าไปในเมืองได้เร็วถึงเพียงนี้

ความจริงต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวก่อน หากตอนนั้นต้าโจวไม่เปิดประตูเมืองให้ต้าเยี่ยนเข้าไปด้านในต้าเยี่ยนก็คงไม่โกรธพวกเขา

“ต้าโจวของพวกเราแยกแยะความสำคัญได้ ในเมื่อสองแคว้นเป็นพันธมิตรกันต้าโจวก็ควรเปิดประตูเมืองให้ต้าเยี่ยน ทว่า ตอนนี้ซีเหลียงดับสูญลงแล้ว จักรพรรดินีแห่งต้าโจวและขุนนางในราชสำนักทุกคนต้องการคิดบัญชีกับต้าเยี่ยนแล้ว” เว่ยจงมองไปทางแม่ทัพที่เมื่อครู่กำลังโมโหด้วยรอยยิ้ม “แม่ทัพผู้นี้ต้องการหลักฐานเช่นนี้ใช่หรือไม่ หากไม่มีหลักฐานวันนี้ข้าคงไม่มาพบทุกท่านที่นี่หรอก!”

เว่ยจงมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน “ต้าโจวของพวกเราจับตัวคนสนิทของแม่ทัพชราชุยซานจงได้แล้ว พวกเราสอบสวนเขาจนได้ความว่าแม่ทัพชราชุยส่งคนไปทำสัญญากับไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนที่เมืองหลวงของต้าเยี่ยนจริงๆ”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset