ตอนที่ 1274 อ่าน
เมื่อครู่ไป๋ชิงฉีถามหมอหงแล้ว แม้อาการของไป๋ชิงอวี๋ยังดูน่าเป็นห่วง ทว่า หมอหงมั่นใจว่าเขาสามารถรักษาไป๋ชิงอวี๋ได้ ไป๋ชิงฉีกล่าวขึ้น “ไม่ต้องห่วง มีท่านหมอหงอยู่ อาอวี๋ไม่มีทางเป็นอันใดแน่นอน…”
ไป๋จิ่นจื้อได้ยินไป๋ชิงฉีกล่าวเช่นนี้จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก นางเตรียมเดินเข้าไปหาพี่ชายห้า ทว่า ถูกไป๋ชิงฉีรั้งแขนไว้เสียก่อน พี่ชายสามจ้องมาที่ลำคอของนางนิ่ง
เมื่อเห็นลำคอของไป๋จิ่นจื้อมีผ้าพันแผลพันอยู่ไป๋จิ่นซิ่วจึงมีสีหน้าเครียดขึ้นทันที นางเอ่ยถามก่อนที่ไป๋ชิงฉีจะถาม
“เกิดอันใดขึ้นกับเจ้า”
เมื่อนึกถึงบาดแผลที่คอของตัวเองไป๋จิ่นจื้อจึงใช้มือลูบไปที่ลำคอเบาๆ
“ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ แค่ถูกธนูยิงเฉียดเท่านั้น แผลไม่ลึกมาก ข้าจับทหารที่ยิงธนูใส่ข้าได้แล้ว ข้าตั้งใจจะพาเขากลับไปสอนหลานชายและหลานสาวของข้ายิงธนูที่เมืองหลวงเจ้าค่ะ!”
หากตอนนั้นหลู่หยวนเผิงไม่กระชากร่างของไป๋จิ่นจื้อเอาไว้ได้ทัน ตอนนี้นางคงถูกธนูแทงทะลุไปแล้ว
แทงทะลุด้วยธนูเพียงดอกเดียวคือวิธีการยิงธนูของพี่หญิงใหญ่ ตอนนั้นไป๋จิ่นจื้อจึงตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางบุกขึ้นไปแย่งตัวทหารที่ยิงธนูใส่นางผู้นั้นบนกำแพงเมืองไว้ก่อนที่เขาจะสิ้นใจด้วยน้ำมือของสหายในกองทัพของนาง นางสั่งให้ทหารในกองทัพไว้ชีวิตทหารผู้นั้น นางจะพาเขากลับไปยังเมืองหลวงด้วย…
เดิมทีทุกคนควรฉลองที่ทำลายล้างซีเหลียงได้สำเร็จ ทว่า ทหารทุกคนของต้าโจวกลับเป็นห่วงคุณชายห้าที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปในเมืองอวิ๋นจิงเพื่อพวกเขาจนไข้ขึ้นสูงไม่ยอมลดจนถึงตอนนี้จนไม่มีจิตใจจะจัดงานเลี้ยงฉลองอีก
พวกเสิ่นคุนหยางเดินตามไป๋จิ่นจื้อมาดูอาการของไป๋ชิงอวี๋เช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินไป๋ชิงฉีบอกว่าไป๋ชิงอวี๋ไม่เป็นอันใดมากพวกเขาจึงวางใจลง
ไป๋ชิงฉีให้พวกเสิ่นคุนหยางรีบแยกย้ายไปพักผ่อน ทว่า พวกเสิ่นคุนหยางจะนอนหลับได้อย่างไรกัน
ในที่สุดวันนี้ความอัปยศที่เก็บกดอยู่ในใจพวกเขามาเป็นเวลาสามปีก็ถูกชำระล้างแล้ว วันนี้พวกเขาล้างแค้นให้แม่ทัพใหญ่ รองแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพไป๋และทหารทุกคนของกองทัพไป๋ได้สำเร็จแล้ว
“ข้าได้ยินทหารบอกว่าคุณชายสามให้พวกเขาเตรียมธูปและเทียนหรือขอรับ”
เสิ่นคุนหยางกำดาบเปื้อนเลือดที่เอวของตัวเองแน่นพลางเอ่ยถามไป๋ชิงฉีเสียงเบา
ไป๋ชิงฉีที่ยังสวมชุดเกราะอยู่กล่าวขึ้น
“พวกเรายึดเมืองอวิ๋นจิง ทำลายซีเหลียงสำเร็จแล้ว พวกเราควรบอกให้ท่านปู่ ท่านลุง ท่านอาและสหายทุกคนของกองทัพไป๋รับรู้ด้วย!”
เว่ยจ้าวเหนียนรับคำด้วยลำคอที่ร้อนผ่าว “ข้าจะไปกับคุณชายสามขอรับ”
“ข้าไปด้วยขอรับ!” เสิ่นคุนหยางกล่าวเสียงดัง
“ข้าด้วยขอรับ!” เฉิงหย่วนจื้อรีบกล่าวขึ้นเช่นเดียวกัน
“เสียดายที่แม่ทัพกู่ไม่ได้มาด้วย หากเขามาด้วยคงต้องดีใจจนแทบเต้นแน่นอนขอรับ!”
เสิ่นคุนหยางถึงนึกไป๋ชิงอวี๋ที่ยังนอนสลบอยู่จึงกล่าวขึ้นเสียงเบา
“คุณชายสาม รอให้คุณชายห้าฟื้นขึ้นก่อนแล้วไปพร้อมกับพวกเราดีหรือไม่ขอรับ”
คุณชายห้าคือบุตรชายของรองแม่ทัพใหญ่ เสิ่นคุนหยางคิดว่าไป๋ชิงอวี๋ควรไปจุดธูปบอกกับดวงวิญญาณของแม่ทัพใหญ่ รองแม่ทัพใหญ่ แม่ทัพตระกูลไป๋และสหายของกองทัพไป๋ทุกคนพร้อมกับพวกเขาด้วย ที่สำคัญครั้งนี้คุณชายห้ามีความดีความชอบมากที่สุด หากคุณชายห้าไม่เสี่ยงชีวิตเข้าไปในเมืองอวิ๋นจิงไม่รู้ว่าทหารต้าโจวต้องเสียชีวิตไปอีกมากเท่าใด
หากไม่ใช่ไป๋ชิงอวี๋ ต้าโจวก็คงไม่ได้หรงตี๋มาครอบครองอย่างง่ายดายเช่นนี้
ไป๋ชิงฉีกล่าวขึ้นช้าๆ “ให้น้องชายห้าพักผ่อนเถิด!”
ไป๋ชิงฉีหวนนึกถึงตอนที่ไป๋ชิงอวี๋เพ้อเรียกนามของสหายกองทัพไป๋ออกมาด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียง นึกถึงตอนที่น้องชายห้าเอ่ยเรียกพี่ชายสาม…เขารู้สึกราวกับถูกมีดกรีดลงบนหัวใจ
หากตอนนั้นเขากลับไปเร็วกว่านั้นอาอวี๋ก็คงไม่ทรมานถึงเพียงนี้!
เมื่อคิดได้ดังนี้ไป๋ชิงฉีจึงยิ่งรู้สึกผิดและหงุดหงิดใจมากกว่าเดิม “ทุกท่านไปพักผ่อนเถิด!”
ไป๋ชิงฉีกล่าวจบก็หมุนตัวเข้าไปในตำหนักทันที
เมื่อเสิ่นคุนหยางเห็นไป๋ชิงฉีที่เก็บอารมณ์ทางสีหน้าได้ดีมาตลอดเสียอาการเช่นนี้จึงอดเป็นห่วงไป๋ชิงอวี๋ขึ้นมาไม่ได้
“คุณชายห้าอาการหนักอย่างนั้นหรือ เหตุใดคุณชายสาม…”
เฉิงหย่วนจื้อเป็นคนตรงไปตรงมา เขาเอ่ยในสิ่งที่เสิ่นคุนหยางเป็นกังวลออกมาทันที
“เจ้ากล่าวอันใดเช่นนี้! ดวงวิญญาณของท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านรองแม่ทัพใหญ่และแม่ทัพไป๋ทุกคนคอยคุ้มครองคุณชายห้าอยู่บนสววรรค์นะ!” เว่ยจ้าวเหนียนเอ็ดเฉิงหย่วนจื้อเบาๆ
“ถุย! ข้าปากไม่ดีเอง ข้าดีแต่กล่าววาจาเลอะเลือนไปวันๆ”
เฉิงหย่วนจื้อตบปากตัวเองด้วยความหงุดหงิดสองที จากนั้นกำดาบของตัวเองแน่นพลางกล่าวขึ้น
“คุณชายห้าต้องปลอดภัยแน่นอน”
“เฮ้ย!” จู่ๆ เฉิงหย่วนจื้อก็อุทานพลางมองไปทางเสิ่นคุนหยาง
“เมื่อครู่ข้าลืมถามคุณชายสามว่าอวิ๋นจิงตกเป็นของต้าโจวหรือต้าเยี่ยนกันแน่”
“อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนถอยออกจากวังหลวงไปพักอยู่ที่จวนอวิ๋นแทน เขาให้คุณชายสามและกองทัพต้าโจวเป็นคนควบคุมวังหลวง นี่ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ”
เสิ่นคุนหยางกล่าว “เอาล่ะ พวกเราอย่ามัวยืนออกันอยู่ที่นี่เลย กลับกันเถิด!”
ทั้งสามคนเตรียมหมุนตัวจากไปก็เห็นเว่ยจงขันทีข้างกายของไป๋ชิงเหยียนเดินตรงมาทางนี้ท่ามกลางการอารักขาขององครักษ์
เสิ่นคุนหยางกำดาบแน่น เขานึกถึงเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนออกเดินทางมายังซีเหลียงเพื่อไป๋ชิงอวี๋ทั้งที่เพิ่งคลอดลูกขึ้นมาได้จึงถลาไปด้านหน้าทันที “เว่ยกงกง!”
เว่ยจงเห็นเสิ่นคุนหยาง เฉิงหย่วนจื้อและเว่ยจ้าวเหนียนจึงรีบยกมือคารวะ “แม่ทัพทั้งสาม!”
เฉิงหย่วนจื้อที่ร่างกายสูงใหญ่เบียดเข้าไปใกล้เว่ยจงจนเสิ่นคุนหยางเซไปอีกด้าน เขารีบถามขึ้น
“เสี่ยวไป๋ไซว่มาถึงแล้วใช่หรือไม่! เว่ยกงกงอยู่ข้างกายเสี่ยวไป๋ไซว่ทุกวันเหตุใดจึงไม่เกลี้ยกล่อมเสี่ยวไป๋ไซว่บ้าง เสี่ยวไป๋ไซว่คลอดลูกก่อนกำหนดก็อันตรายมากแล้ว เหตุใดไม่ห้ามนางบ้าง!”
เสิ่นคุนหยาง “…”
“ฝ่าบาทยังเสด็จมาไม่ถึงเมืองอวิ๋นจิงขอรับ แม่ทัพเฉิงไม่ต้องเป็นห่วง ฝ่าบาททรงหยุดเดินทางกลางคันแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ไฟขอรับ”
เว่ยจงกล่าวตอบอย่างไม่รีบร้อน
“ขอแสดงความยินดีกับแม่ทัพทุกท่านที่ยึดเมืองอวิ๋นจิงได้สำเร็จด้วยขอรับ”
“เสี่ยวไป๋ไซว่เป็นเช่นไรบ้าง”
เฉิงหย่วนจื้อถาม
“องค์ชายน้อยกับองค์หญิงเป็นเช่นไรบ้าง”
เว่ยจงรู้นิสัยของเฉิงหย่วนจื้อดีจึงกล่าวตอบยิ้มๆ
“แม่ทัพเฉิงไม่ต้องเป็นห่วง ฝ่าบาท องค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยทรงปลอดภัยดี หากฝ่าบาททรงทราบข่าวเรื่องที่ทุกท่านยึดเมืองอวิ๋นจิงได้สำเร็จแล้วต้องดีพระทัยมากแน่ขอรับ ข้านำจดหมายของฝ่าบาทมามอบให้คุณชายและคุณหนูตระกูลไป๋ ขอข้าตัวไปทำหน้าที่ก่อน วันหน้าค่อยมาสนทนากับแม่ทัพทั้งสามใหม่ขอรับ”
เฉิงหย่วนจื้ออยากถามต่อ ทว่า ถูกเว่ยจ้าวเหนียนรั้งตัวให้หลบมาอีกทางเสียก่อน “เชิญเว่ยกงกง…”
เว่ยจงพยักหน้าให้แม่ทัพทั้งสามยิ้มๆ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในวังหลวงของซีเหลียง มุ่งหน้าไปยังตำหนักใหญ่พร้อมองครักษ์
ครั้งนี้เว่ยจงนำจดหมายของไป๋ชิงเหยียนมามอบให้คุณชายไป๋ คุณหนูไป๋และเซียวหรงเหยี่ยน
เมื่อไป๋จิ่นซิ่วได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ส่งเว่ยจงมาจึงรีบออกมาต้อนรับทันที “เว่ยกงกง…”
เว่ยจงรีบล้วงจดหมายออกมาจากแขนเสื้อ จากนั้นชูขึ้นเหนือศีรษะให้ไป๋จิ่นซิ่วทันที
“คุณหนูรอง นี่คือจดหมายลายพระหัตถ์ของฝ่าบาทที่ทรงรับสั่งให้บ่าวเร่งเดินทางนำมาให้ทุกท่านขอรับ คุณชายและคุณหนูไป๋โปรดเปิดอ่านมันด้วยตัวเองเถิดขอรับ”
ไป๋ชิงฉีเดินออกมาจากตำหนัก
เว่ยจงรีบทำความเคารพชายหนุ่ม ไป๋ชิงฉีโบกมือให้เว่ยจงไม่ต้องมากพิธี ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ด้านหลังไป๋จิ่นซิ่ว เมื่อไป๋จิ่นซิ่วเปิดจดหมายออกทั้งสองจึงอ่านเนื้อความในจดหมายพร้อมกัน