ตอนที่ 1273 ไม่ต้องกลัว
ต่อมาหลู่เป่าหวาบุตรสาวของหลู่จิ้นทราบเรื่องเข้าจึงนำเรื่องนี้ไปบอกบิดาของตัวเอง นางอยากให้บิดาช่วยฟ่านอวี้กานสักครั้ง
หลู่จิ้นรับปาก วันต่อมาเขาบังเอิญพบกับฟ่านอวี้กานบนถนน ฟ่านอวี้กานเคยคลุกคลีอยู่กับกลุ่มคุณชายเจ้าสำราญของหลู่หยวนเผิงเขาจึงคุ้นเคยกับหลู่จิ้นเป็นอย่างดี หลู่จิ้นเรียกตัวฟ่านอวี้กานไว้แล้วเอ่ยถามว่าเหตุใดเขาจึงอยากเข้าร่วมการสอบขุนนาง
ฟ่านอวี้กานกล่าวว่าแม้ไป๋ชิงเหยียนจะไม่เอาชีวิตบิดาของเขา ทว่า ตอนนี้บิดาของเขายังอยู่ในคุก ตอนนี้อาการของบิดาทรุดตัวลงมากกว่าเดิม ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกถึงเมื่อใด
ผู้คุมคุกรู้ว่าบิดาของเขาเคยเป็นกบฏมาก่อน ญาติคนอื่นตีตัวออกห่างจากพวกเขาเพราะกลัวจะเดือดร้อนไปด้วย หากเขาอยากให้บิดามีชีวิตความเป็นอยู่ในคุกดีกว่านี้ก็เหลือเพียงการสอบขุนนางเท่านั้น
เขาไม่ได้หวังว่าตำแหน่งขุนนางของเขาจะสามารถช่วยบิดาออกมาจากคุกได้ ได้แต่หวังว่าผู้คุมคุกเหล่านั้นจะเห็นแก่ที่เขาเป็นขุนนางในราชสำนักปฏิบัติต่อบิดาของเขาซึ่งอยู่ในคุกให้ดีกว่าเดิม
หลู่จิ้นฟังจบจึงตวาดฟ่านอวี้กานว่าไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องในราชสำนัก หากเขาคิดสอบขุนนางด้วยเหตุผลเช่นนี้ก็จงล้มเลิกความคิดไปดีกว่า
ทว่า ตวาดสั่งสอนก็ส่วนตวาดสั่งสอน หลู่จิ้นเห็นแก่ความใสซื่อของฟ่านอวี้กานจึงเล่าเรื่องนี้ให้หลู่ไท่เว่ยฟัง เขาอยากให้หลู่ไท่เว่ยบอกให้ลูกน้องมอบโอกาสให้ฟ่านอวี้กานสักครั้ง
ฟ่านอวี้กานทำไปเพราะความกตัญญู เขามีใจบริสุทธิ์ไม่ได้แฝงเจตนาร้ายใดๆ แต่อย่างใด
ครั้งนี้ฟ่านอวี้กานสอบติดระดับสองเช่นเดียวกัน ถือเป็นคนที่สอบได้คะแนนดีที่สุดในกลุ่มคุณชายเจ้าสำราญของหลู่หยวนเผิงแล้ว
ปลายเดือนสาม รัชศกหยวนเหอปีที่สอง ต้าโจวและต้าเยี่ยนโจมตีเมืองอวิ๋นจิง จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงดื่มยาพิษสละชีพเพื่อแคว้นซีเหลียง แคว้นซีเหลียงที่อยู่มานานหลายร้อยปีดับสูญลง
ตอนนี้ไป๋ชิงอวี๋นอนละเมอเพราะไข้ขึ้นสูงอยู่บนเตียง เขาเพ้อเรียกท่านปู่ ท่านพ่อและบรรดาพี่ชายน้องชายของตัวเองราวกับหวนนึกถึงเหตุการณ์หนานเจียงในปีนั้นอีกครั้ง
ไป๋จิ่นเจานั่งคุกเข่าคอยใช้ผ้าเย็นเช็ดใบหน้าให้ไป๋ชิงอวี๋อยู่ข้างเตียงไม่หยุด นางมองไปทางหมอหงที่กำลังดมยาและปรุงยาให้ไป๋ชิงอวี๋อยู่เป็นระยะทั้งน้ำตา
ตอนนี้ยังหาตัวเสี่ยวชีไม่พบ พี่ชายห้าไข้ขึ้นสูงไม่ลด ไป๋จิ่นเจาปวดใจจนไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำกล่าวเช่นไร
สีหน้าของไป๋ชิงอวี๋ซึ่งนอนสลบอยู่บนเตียงย่ำแย่มาก ร่างของเขาแข็งทื่อ เอาแต่ละเมอ “ไฟ…รีบหนีเร็ว ไม่ต้องสนใจข้า…”
“พี่ชายห้า! พี่ชายห้า! ข้าคือจิ่นเจาเจ้าค่ะ พี่ชายห้าไม่ต้องกลัวนะเจ้าคะ ไม่มีไฟเจ้าค่ะ” น้ำตาของไป๋จิ่นเจาไหลพรากอย่างคุมไม่อยู่อีกต่อไป
“พี่หญิง ช่วยข้าด้วยขอรับ ช่วยข้าด้วย!” ไป๋ชิงอวี๋ตะโกนออกมาอย่างอ่อนแรง
ไป๋ชิงฉีขมวดคิ้วแน่น เขานึกถึงตอนที่เขาพยายามค้นหาร่างของไป๋ชิงอวี๋ในค่ายทหารที่ถูกไฟไหม้อย่างสุดชีวิต ชายหนุ่มหันไปทางหมอหง “ท่านหมอหง เหตุใดน้องชายห้าถึงไข้ขึ้นสูงกว่าเดิมหลังดื่มยาขอรับ”
“เซียวรั่วไห่นั่นเลอะเลือนไปแล้ว! เขาไม่รู้หรืออย่างไรว่ายาแต่ละตัวมีฤทธิ์ต้านกัน หากข้าหากล่องยาของหมอหลวงของซีเหลียงไม่พบ ข้าจะดูสิว่าเซียวรั่วไห่จะทำเช่นไร!” หมอหงกล่าวพลางมองไปทางด้านนอกแวบหนึ่ง
โชคดีที่เซียวรั่วไห่ยังพอมีสติ เมื่อไป๋ชิงอวี๋หมดสติไปเขาจึงรีบวิ่งกลับไปยังตำหนักที่ไป๋ชิงอวี๋เคยนอนพักและหากากยาที่หมอหลวงของซีเหลียงต้มให้ไป๋ชิงอวี๋ดื่มจนเจอ มิเช่นนั้นหมอหงคงต้องเสียเวลาอีกนาน
เซียวรั่วไห่คุกเข่าอยู่ด้านนอกด้วยความรู้สึกผิด หากทำได้เขายินดีเป็นคนนอนทรมานอยู่บนเตียงนั้นแทนคุณชายห้า
ทุกคนในกองทัพไป๋รู้ดีว่าคุณชายห้ากลับมาอย่างยากลำบาก คุณชายห้ายังไม่ได้บอกกับคนในครอบครัวว่ากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วเลยด้วยซ้ำ
ครั้งนี้เซียวรั่วไห่คอยติดตามปกป้องคุณชายห้า ทว่า เขากลับปล่อยให้คุณชายห้ามีสภาพเช่นนี้ เขาทำผิดต่อท่านรองแม่ทัพใหญ่ ทำผิดต่อคุณหนูใหญ่…
รวมถึงคุณหนูเจ็ดด้วย เขาปกป้องคุณหนูเจ็ดไว้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ชิงจู๋หาตัวคุณหนูเจ็ดพบแล้วหรือไม่
เซียวรั่วไห่ที่คุกเข่าอยู่กลางแสงแดดหน้าซีดเผือดลงทุกที
“เซียวรั่วไห่ลุกขึ้นเถิด เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า” ไป๋จิ่นซิ่วเดินถือยาที่ต้มเสร็จแล้วเข้ามา เมื่อเห็นเซียวรั่วไห่คุกเข่าอยู่หน้าประตูจึงนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “แทนที่เจ้าจะมัวคุกเข่าอยู่ที่นี่ ไม่สู้ออกไปตามหาเสี่ยวชีดีกว่า กองทัพไป๋และกองทัพต้าเยี่ยนค้นหาทั่วเมืองอวิ๋นจิงแล้วก็ยังไม่พบเสี่ยวชี เสี่ยวชีอาจเดินทางไปกับชาวบ้านลี้ภัย นางอาจตกอยู่ในอันตรายได้ตลอดเวลา”
เซียวรั่วไห่ได้ยินจึงคิดได้ทันที ตอนนี้ชาวบ้านลี้ภัยของซีเหลียงที่ยังไม่ได้เข้าไปอาศัยในเมืองของต้าโจวเริ่มกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเองไม่แตกต่างอันใดจากสัตว์เดรัจฉานแล้ว ไป๋จิ่นเซ่อคือคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาในเมืองหลวง ถึงแม้นางจะมีประสบการณ์ในค่ายทหารมาบ้าง ทว่า ผิวพรรณขาวผ่องและมีน้ำมีนวลของนางคือเหยื่ออันโอชะของชาวบ้านผู้หิวกระหายเหล่านั้น!
ไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋จินหวาจึงพาคนจำนวนมากออกไปตามหาไป๋จิ่นเซ่อแล้ว
ใจของเซียวรั่วไห่กระตุกวูบ เขาผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนเกือบเซล้มลงบนพื้นอีกครั้ง โชคดีที่ทหารกองทัพไป๋ช่วยพยุงร่างของเขาไว้ได้ทัน
“ไม่ต้องรีบร้อน พักผ่อนให้เพียงพอก่อนแล้วค่อยออกตามหา” ไป๋จิ่นซิ่วมองหน้าเซียวรั่วไห่ “ข้าเคยได้ยินท่านลุงใหญ่กล่าวกับท่านพ่อของข้าว่าพวกเจ้าสองพี่น้องไม่เพียงเก่งเรื่องวาดแผนที่เท่านั้น พวกเจ้ายังตามหาคนเก่งอีกด้วย พวกเจ้าคือคนมากความสามารถที่หาตัวจับได้ยาก!”
เมื่อเซียวรั่วไห่ได้ยินว่ารองแม่ทัพใหญ่เคยเอ่ยชมพวกเขาสองพี่น้องลำคอของเขาจึงร้อนผ่าวขึ้นมาทันที เขายิ่งรู้สึกผิดต่อรองแม่ทัพใหญ่มากกว่าเดิม
เมื่อกล่าวจบไป๋จิ่นซิ่วจึงรีบเดินถือยาเข้าไปด้านในทันที
“คุณหนูรอง ยาตัวนี้ใช้ไม่ได้แล้วขอรับ…” ใบหน้าของหมอหงเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ “ข้ายุ่งจนลืมให้คนไปรายงานคุณหนูรองเสียสนิท ข้าจะต้มยาด้วยตัวเอง ลำบากคุณหนูรองแล้วขอรับ”
ไป๋จิ่นซิ่วมองเข้าไปในห้องด้านในแวบหนึ่ง จากนั้นวางยาลงบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจพลางพยักหน้า “ได้ ลำบากท่านหมอหงแล้ว!”
เสิ่นคุนหยางและไป๋จิ่นจื้อรู้ว่าพวกไป๋ชิงฉีอยู่ในวังหลวงของซีเหลียงจึงพาทหารไปหาพวกเขาทันที…
ไป๋จิ่นจื้อตื่นเต้นมาก ครั้งนี้นางทำลายซีเหลียงได้อีกแคว้นแล้ว ถึงแม้ไม่ได้บุกเข้ามาในวังหลวงเพื่อจัดการกับหลี่เทียนเจียวและแม่ทัพชราชุยซานจงด้วยตัวเอง ทว่า แค่ได้มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ไป๋จิ่นจื้อก็มีความสุขมากแล้ว
ขณะที่ไป๋จิ่นจื้อ เสิ่นคุนหยางและเฉิงหย่วนจื้อเดินเข้าไปในวังอย่างตื่นเต้นพวกเขาพบกับเว่ยจ้าวเหนียนและจ้าวเซิ่งที่กำลังควบคุมทหารเก็บกวาดความเรียบร้อยอยู่เสียก่อน เมื่อได้ยินเรื่องของไป๋ชิงอวี๋ไป๋จิ่นจื้อจึงตรงเข้าไปในวังหลวงทันที
เสียงของสาวน้อยดังถึงก่อนตัว “พี่ชายห้า!”
ไป๋จิ่นจื้อพุ่งตัวเข้าไปด้านในด้วยความรีบร้อนจนชนกับไป๋จิ่นซิ่วที่กำลังเดินออกมาเข้าอย่างจัง
ไป๋จิ่นซิ่วกุมหน้าอกของตัวเองพลางดุไป๋จิ่นจื้อ “นำทัพออกรบด้วยตัวเองแล้ว เหตุใดยังใจร้อนวู่วามเช่นนี้อีก!”
“พี่หญิงรอง พี่ชายสาม พี่ชายห้าเป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อมองไปทางไป๋ชิงฉีและไป๋จิ่นซิ่วทั้งน้ำตา