สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1256 เป็นหน้าที่ของตัวเอง

ตอนที่ 1256 เป็นหน้าที่ของตัวเอง

ตอนที่ 1256 เป็นหน้าที่ของตัวเอง

ค่ายทหารต้าโจว

ไป๋จิ่นซิ่วที่ออกตามหาไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นเซ่อทั้งวันกลับมายังค่ายด้วยความหงุดหงิด

หญิงสาวนั่งลงฝั่งตรงข้ามไป๋ชิงฉี จากนั้นกล่าวด้วยเสียงเศร้า

“ชิงจู๋ยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่านางหาอาอวี๋กับจิ่นเซ่อพบหรือไม่”

ร่างของเซียวรั่วไห่ที่เปียกปอนไปทั้งร่างยืนหนาวสั่นอยู่หน้ากระโจมของไป๋ชิงฉี

เมื่อไป๋จิ่นเซ่อเห็นเซียวรั่วไห่จึงผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ตอนที่ไป๋ชิงอวี๋นำทัพไปหลอกล่อทหารซีเหลียงเซียวรั่วไห่ติดตามเขาไปด้วยเช่นกัน!

“เซียวรั่วไห่!” ไป๋จิ่นซิ่วแสดงสีหน้าดีใจ นางรีบสาวเท้าเข้าไปหาเซียวรั่วไห่

“อาอวี๋กับเสี่ยวชีล่ะ พวกเจ้ากลับมาด้วยกันใช่หรืออาอวี๋ให้เจ้ามาส่งข่าวให้พวกเรารู้ พวกเจ้าหายตัวไปอยู่ที่ใดนานถึงเพียงนี้กัน”

ไป๋จิ่นซิ่วถามรัวออกมาเป็นชุด ตอนนี้นางร้อนใจมากจริงๆ

ไป๋ชิงฉีหยิบเสื้อคลุมที่วางพาดอยู่ด้านข้างไปคลุมให้เซียวรั่วไห่ที่กำลังยืนตัวสั่นไม่หยุด เขาเดาได้ว่าเซียวรั่วไห่ออกมาส่งข่าวแทนไป๋ชิงอวี๋จึงกล่าวเสียงนิ่ง

“ไปเปลี่ยนชุดและมาดื่มชาร้อนไล่ไอหนาวก่อนเถิด”

เซียวรั่วไห่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ด้านหลังฉากกั้นและเดินออกมาด้านนอกอย่างรวดเร็ว ทว่า ยังไม่ทันคลายหนาวให้ร่างกายของตัวเองไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋จิ่นหวาและไป๋จิ่นเจาก็เดินเข้ามาในกระโจมเสียก่อน

เซียวรั่วไห่ทำความเคารพทุกคนจากนั้นนั่งลงหน้าเตาผิง เขาเล่าเรื่องที่เซียวหรงเหยี่ยนส่งเยว่สือไปห้ามไป๋ชิงอวี๋ เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองอวิ๋นจิงทั้งหมดและนัดแนะเวลาเปิดประตูเมืองอวิ๋นจิงให้คุณชายทั้งสองและคุณหนูทั้งสามของตระกูลไป๋ฟังอย่างละเอียด

พวกเขาจะจุดพลุส่งสัญญาณ เมื่อถึงเวลานั้นต้าเยี่ยนจะบุกโจมตีเมืองอวิ๋นจิงพร้อมกับต้าโจว

“ตอนข้าออกมาจากเมืองข้าพบกับองครักษ์ลับของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน องครักษ์ลับผู้นั้นรู้จักข้า เมื่อข้าเห็นป้ายคำสั่งของเขาจึงบอกแผนการของคุณชายห้าให้เขารับรู้อย่างละเอียดเพื่อให้เขากลับไปรายงานอ๋องเก้า องครักษ์ลับผู้นั้นบอกกับข้าว่าคนของเขาแฝงตัวเขาไปในวังหลวงสำเร็จแล้ว เขาจะกลับไปถามเจ้านายของตัวเองว่าจะชิงตัวคุณชายห้าออกมาเมื่อใดขอรับ” เซียวรั่วไห่กล่าว

“อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน…ส่งคนไปช่วยอาอวี๋อย่างนั้นหรือ”

นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของไป๋จิ่นซิ่ว

เซียวรั่วไห่พยักหน้า

“องครักษ์ลับผู้นั้นบอกว่าต้าเยี่ยนมีคนทรยศจึงทำให้คุณชายห้าจำต้องซ้อนแผนซีเหลียงโดยการเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ เป็นหน้าที่ของต้าเยี่ยนที่ต้องช่วยคุณชายห้าออกมาขอรับ!”

“ยังถือว่าต้าเยี่ยนมีความละอายใจอยู่บ้าง”

ไป๋จิ่นเจาคลายความโกรธลง ทว่า ยังรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ดี

“แล้วเสี่ยวชีล่ะ” ไป๋จิ่นเซ่อจ้องไปทางเซียวรั่วไห่อย่างรอคำตอบ

“เจ้ากล่าวมาตั้งนาน ทว่า ข้าไม่ได้ยินเจ้าเอ่ยถึงเสี่ยวชีเลย เสี่ยวชีอยู่ที่ใด”

เซียวรั่วไห่ตะลึง

“คุณหนูเจ็ดยังไม่ได้กลับมาหรือขอรับ คุณหนูเจ็ดกลับมากับเยว่สืออดีตองครักษ์ของนายท่านเขยแล้วไม่ใช่หรือขอรับ”

ไป๋ชิงฉีที่จ้องนิ่งไปยังเตาผิงกล่าวขึ้นช้าๆ

“ตอนที่องครักษ์เยว่สือพาเสี่ยวชีหนีกลับมาเขาถูกทหารซีเหลียงล้อมไว้ พอฝ่าวงล้อมออกมาได้ก็พบว่าเสี่ยวชีหายตัวไปจากหลังม้าแล้ว ข้าคิดมาโดยตลอดว่าเสี่ยวชีถูกซีเหลียงจับตัวไปในอวิ๋นจิง”

“คิดมาโดยตลอดหรือ!”

ไป๋ชิงเจวี๋ยมองไปทางพี่ชายสามของตัวเองด้วยความโมโห

“หากพี่ชายสามรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอาอวี๋เล่นซ้อนแผนซีเหลียงแล้วเหตุยังส่งจดหมายไปรายงานพี่หญิงใหญ่ที่เมืองหลวงอีกขอรับ พี่หญิงใหญ่กำลังตั้งครรภ์อยู่นะขอรับ!”

“ข้าเพิ่งได้รับข่าวจากอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนภายหลัง” ไป๋ชิงฉีกล่าวเสียงเบา “ทว่า อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนให้คนส่งจดหมายไปบอกพี่หญิงใหญ่แล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก สิ่งสำคัญในตอนนี้คือเสี่ยวชีอยู่ที่ใดกันแน่”

ไป๋จิ่นหวารินน้ำชาร้อนให้เซียวรั่วไห่ เซียวรั่วไห่เอื้อมมือที่สั่นเทาไปรับมาดื่มจนหมดถ้วย จากนั้นกล่าวขึ้น “คุณหนูเจ็ดไม่ได้อยู่ในอวิ๋นจิงแน่นอนขอรับ หากคุณหนูเจ็ดถูกจับเข้าไปในอวิ๋นจิง ไม่ว่านางจะเป็นหรือตายข้าไม่มีทางไม่รู้ขอรับ!”

“เช่นนั้นก็แสดงว่ายังอยู่นอกเมือง ข้าและพี่ชายสามพาคนไปยังสถานที่ที่อาอวี๋ถูกจับตัวไปก็ไม่พบร่างของเสี่ยวชี เสี่ยวชีน่าจะหลบหนีเอาตัวรอดไปแล้ว!”

ไป๋จิ่นซิ่วลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนใจ

“นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวชีจากบ้านมาไกลเช่นนี้ หากเสี่ยวชีหนีไปได้ นางต้องหาทางกลับค่ายทหารต้าโจวไม่ถูกแน่นอน!”

“ข้าจะออกไปตามหาเสี่ยวชี!” ไป๋จิ่นเจาลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ จากนั้นพุ่งตัวออกไปจากกระโจมทันที

ไป๋ชิงฉีไม่ได้ห้ามเพราะตอนนี้เขาก็ร้อนใจเช่นเดียวกัน

แม้ตอนนี้สัตว์ร้ายในป่าจะถูกคนซีเหลียงจับไปถลกหนังสัตว์เพื่อทำเสื้อขนสัตว์ให้กองทัพช้างของเทียนเฟิ่งตามแผนการของไป๋จิ่นถงหมดแล้ว ทว่า ตอนนี้คือเดือนสาม พวกงูและสัตว์มีพิษเริ่มออกจากฤดูจำศีลกันแล้ว หวังว่าเสี่ยวชีจะไม่ถูกงูพิษเหล่านั้นกัดเอานะ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือน้องสาวของเขาหายตัวไปตามลำพัง ไม่มีคนคอยปกป้องสักคน!

“เสี่ยวชีเป็นเด็กฉลาด ถึงแม้นางจะหาทางกลับมาไม่ถูก ทว่า นางต้องหาที่พักของชาวบ้านแถวนั้นพักอาศัยชั่วครามเพื่อรอให้พวกเราไปช่วยนางได้แน่…”

ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก

ตอนนี้ไป๋จิ่นเซ่อไม่รู้ว่าตัวเองมุ่งหน้าลงไปทางใต้ของเมืองอวิ๋นจิงนานเท่าใดแล้ว รอบกายของนางเต็มไปด้วยชาวบ้านเร่ร่อน นางถูกจับมัดจนขยับร่างไม่ได้ ได้แต่หลบอยู่ตรงมุมหนึ่งของวัดร้างด้วยความหวาดกลัว

วัดร้างเต็มไปด้วยชาวบ้านที่ลี้ภัยมาจากเมืองอวิ๋นจิง ทุกคนนอนล้อมวงกันอยู่รอบกองไฟที่ใกล้มอดดับในวัดร้าง

ไป๋จิ่นเซ่อพลัดตกลงจากหลังม้า เมื่อตกลงมานางจึงรีบหลบหนีทหารซีเหลียงเข้าไปในป่าลึก ไม่นานก็หมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นมาจึงพบว่าตัวเองถูกครอบครัวของคนซีเหลียงครอบครัวหนึ่งมัดร่างติดอยู่กับแผ่นไม้

ไป๋จิ่นเซ่ออยู่ในซีเหลียงมานานพอสมควรนางจึงพอกล่าวภาษาซีเหลียงได้บ้าง ทว่า กล่าวได้ไม่ค่อยดีนักดังนั้นนางจึงแกล้งฟังไม่ออกจะได้ไม่ต้องกล่าวไปเลย

นางจับใจความจากบทสนทนาของครอบครัวซีเหลียงครอบครัวนี้ได้ว่าพวกเขาลี้ภัยจากซุ่นหนิงมายังอวิ๋นจิง ชาวบ้านล้วนเป็นเช่นนี้ พวกเขามักอพยพหนีจากความอดอยากหรือโรคระบาดมายังเมืองหลวงเพราะพวกเขาคิดว่าเมืองหลวงจะทำให้พวกเขามีชีวิตรอด!

ทว่า พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าอวิ๋นจิงถูกกองทัพต้าโจวและต้าเยี่ยนล้อมไว้หมดแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจอ้อมลงไปทางใต้แทน

ชาวบ้านเร่ร่อนเหล่านี้ทานเสบียงของตัวเองจนหมดเกลี้ยงแล้ว ตอนนี้พวกเขากินแม้กระทั่งเปลือกไม้และใบหญ้าเพื่อประทังชีวิต

หลายวันมานี้พวกเขาให้ไป๋จิ่นเซ่อกินเพียงใบหญ้าหรือเปลือกไม้เพียงน้อยเท่านั้น แม้แต่น้ำก็ให้ดื่มเพียงนิดเดียวเพราะพวกเขาแทบไม่มีกินอยู่แล้ว ที่สำคัญพวกเขากลัวไป๋จิ่นเซ่อมีแรงหลบหนีไป

ที่พวกเขาพาตัวไป๋จิ่นเซ่อมาด้วยเพราะหากพวกเขาไม่มีสิ่งใดกินแล้วพวกเขาจะหันมากินไป๋จิ่นเซ่อแทน

ไป๋จิ่นเซ่อคือคุณหนูของตระกูลไป๋ นางเติบโตอยู่ในเมืองหลวงตั้งแต่เล็ก ถึงแม้จะเคยได้ยินเรื่องการกินเนื้อมนุษย์มาบ้าง ทว่า นางไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง

นางรู้ดีว่าตอนนี้ต่อให้นางไม่ถูกจับมัดไว้นางก็หิวจนไม่มีแรงหลบหนีไปอยู่ดี

นางต้องกินให้อิ่มท้องก่อนถึงจะมีแรงหลบหนีไปได้ ทว่า ปลายเชือกที่เชื่อมต่อกับเชือกของนางอยู่ที่ชายซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวของซีเหลียง นางต้องการอาวุธมีคมในการตัดเชือกเส้นนี้ให้ขาด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset