สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1235 ไม่รู้ว่าเป็นหรือตา

ตอนที่ 1235 ไม่รู้ว่าเป็นหรือตา

ตอนที่ 1235 ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

แม้แต่สตรีที่อยู่แต่เรือนหลังอย่างนางยังเดาได้ นับประสาอันใดกับอาเป่ากัน

แม้หากมองจากภาพรวมต่งซื่อจะคิดว่าไป๋ชิงเหยียนทำถูกต้องแล้วที่ไม่ส่งสัญญาณควัน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนใจกล้าเกินไปแล้ว นางกำลังตั้งครรภ์อยู่แท้ๆ !

“พี่สะใภ้ใหญ่…” ฮูหยินห้าฉีซื่อลูบแขนต่งซื่อยิ้มๆ “อาเป่าเป็นเด็กที่รู้ขอบเขตที่สุด อีกเดี๋ยวพอพบหน้านางอย่าดุนางเลยนะเจ้าคะ เด็กนั่นลำบากมาทั้งทางแล้วเจ้าค่ะ”

“ใช่เจ้าค่ะพี่สะใภ้ใหญ่” ฮูหยินสามหลี่ซื่อหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “อาเป่าและจิ่นซิ่วคือเด็กที่ทำให้พวกเราสบายใจมากที่สุด ไม่เหมือนเด็กวู่วามอย่างเสี่ยวซื่อเจ้าค่ะ!”

ฮูหยินสองหลิวซื่อจูงมือวั่งเกอที่กำลังทานขนมอยู่ นางก้มลงเช็ดมุมปากที่เปื้อนให้วั่งเกอด้วยรอยยิ้ม “อาเป่าคือเด็กที่พวกเราควรวางใจที่สุดในตระกูลแล้ว ทว่า เรื่องที่เมืองเจียงจือครั้งนี้ทำให้พวกเราเป็นห่วงมากจริงๆ พี่สะใภ้ใหญ่บ่นนางสักเล็กน้อยก็พอแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้อาเป่ากำลังตั้งครรภ์อยู่นะเจ้าคะ”

“นี่พี่สะใภ้สองกำลังช่วยพูดให้อาเป่าหรือต้องการให้พี่สะใภ้ใหญ่ต่อว่าอาเป่ากันแน่เจ้าคะ” ฮูหยินสามกล่าวออกมายิ้มๆ

ฮูหยินสองหลิวซื่อหัวเราะออกมาแห้งๆ จากนั้นกล่าวต่อ “ต้องต่อว่าสักนิด นางทำให้คนอื่นเป็นห่วงมากเกินไป การถูกล้อมอยู่ในเมืองเจียงจืออันตรายมาก อาเป่าช่างใจกล้าเกินไปแล้ว หากอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไม่ยกทัพย้อนกลับไปช่วยเหลือ หากเมืองเจียงจือถูกตีแตกขึ้นมาจริงๆ ต่อให้สตรีหม้ายอย่างพวกเราร้องไห้จนน้ำตาหมดตัวก็ไม่คงไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว!”

หลิวซื่อเป็นกังวลมากจริงๆ ตอนที่นางได้ยินว่าแม่ทัพชราชุยซานจงยกทัพไปล้อมเมืองเจียงจือด้วยตัวเอง ตอนที่รู้ว่าอาเป่าอยู่ในเมืองคนเดียวโดยไม่มีพี่น้องสักคนอยู่เคียงข้างนางเกือบเป็นลมไปทันที ต่อมาเมื่อได้ยินว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนยกทัพไปช่วยเหลืออาเป่าแล้ว หลิวซื่อจึงรีบไปจุดธูปขอพรให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนปลอดภัยและมีอายุยืนยาวที่วัดทันที

เมื่อเห็นรถม้าเคลื่อนตัวเข้ามาหลิวซื่อจึงตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น “มาแล้ว! มาแล้ว! กลับมาแล้ว!”

“เหตุใดเสี่ยวปายังไม่มาอีก” ฮูหยินห้าฉีซื่อหันไปถามตี๋หมัวมัวยิ้มๆ “ยังมัวนอนหลับอยู่ใช่หรือไม่ ทั้งๆ ที่เมื่อวานบอกข้าเองแท้ๆ ว่าจะขยันให้มากกว่าพี่หญิงใหญ่ตอนเป็นเด็ก จะตื่นเช้าให้มากกว่าเดิม สุดท้ายกลับนอนหลับไม่ยอมตื่นอีกอยู่ดี”

ฝูรั่วซีถือรายงานสถานการณ์รบด่วนขี่ม้าไล่ตามรถม้าของไป๋ชิงเหยียนมาติดๆ

ในวังหลวงไม่อนุญาตให้ขี่ม้าหากไม่ได้รับคำสั่ง ฝูรั่วซีที่เหลือแขนเพียงข้างเดียวไล่ตามไป๋ชิงเหยียนมาอย่างเหนื่อยหอบ

“ฝ่าบาท!” ฝูรั่วซีตะโกนเสียงแหบ “ฝ่าบาท รายงานสถานการณ์ด่วนจากซีเหลียงพ่ะย่ะค่ะ!”

“รายงานสถานการณ์ด่วนจากซีเหลียงพ่ะย่ะค่ะ!”

เสียงของฝูรั่วซีดังแว่วเข้ามาจนไป๋ชิงเหยียนที่กำลังจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อยหยุดชะงักมือนิ่ง สีหน้าของนางตึงเครียดขึ้นมาทันที “เว่ยจง หยุดรถม้า!”

เว่ยจงซึ่งขี่ม้าอยู่ข้างรถม้าของไป๋ชิงเหยียนรีบยกมือส่งสัญญาณให้รถม้าหยุดลง

เว่ยจงมองไปทางด้านหลังแวบหนึ่ง “ฝ่าบาท คือแม่ทัพฝูพ่ะย่ะค่ะ ดูเหมือนเขาจะนำรายงานสถานการณ์รบของซีเหลียงมาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

คำนวณจากเวลาแล้วตอนนี้กองทัพใหญ่คงจัดการเมืองอวิ๋นจิงได้แล้ว

“คุณหนูใหญ่ ต้องเป็นข่าวดีจากซีเหลียงแน่นอนเจ้าค่ะ” ชุนจือกล่าวอย่างดีใจ

ไป๋ชิงเหยียนแหวกม่านรถม้าออก “ไปรับแม่ทัพฝูที”

ต่งซื่อเห็นรถม้าของไป๋ชิงเหยียนหยุดลงจึงใจกระตุกวูบทันที นางรีบจับมือฉินหมัวมัวเดินไปด้านหน้าสองสามก้าว “เกิดอันใดขึ้น เหตุใดรถม้าจึงหยุดลง เกิดสิ่งใดขึ้นหรือไม่ ฉินหมัวมัว…พวกเรารีบเดินไปดูเร็ว!”

ต่งซื่อไม่อยากรออีกต่อไป นางพานางกำนัลและขันทีเดินตรงไปยังรถม้าของไป๋ชิงเหยียนอย่างรวดเร็ว

หลิวซื่อถลกชายกระโปรงวิ่งจูงมือวั่งเกอไปยังรถม้าของไป๋ชิงเหยียนอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

ไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาจากตัวรถม้า นางแย่งรายงานสถานการณ์รบไปจากมือของเว่ยจงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลงจากรถม้า เมื่อเห็นลายมือจึงรู้ทันทีว่าไป๋ชิงฉีเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยตัวเอง ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนไหววูบ ใบหน้าถอดสีลงเรื่อยๆ นางปวดใจราวกับถูกคนฉีกออกเป็นชิ้นๆ เลือดตีขึ้นมาที่หน้าอกของนางทันที

แดดในตอนกลางวันแผดจ้า ไม่มีก้อนเมฆบดบังดวงอาทิตย์สักก้อน

สนามกว้างที่รถม้าจอดอยู่มีแต่แสงแดดร้อนระอุ บันไดหยกกลางแจ้งถูกแสงส่องกระทบจนเรืองรองเป็นสีทองอร่าม

ม้าสี่ตัวหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่เดินลงมาจากรถม้าเสียที

ไป๋ชิงเหยียนจ้องเนื้อหาในจดหมายหนังแกะนิ่ง นางกำจดหมายแน่นจนนิ้วขาวซีด ลำคอของนางร้อนผ่าว ลมหายใจเริ่มติดขัดขึ้นเรื่อยๆ

ชุนเถาเห็นใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนซีดเผือดจึงเอ่ยเรียกอย่างระมัดระวัง “คุณหนูใหญ่…”

“ฝูรั่วซี!” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองฝูรั่วซีที่กำลังหอบอยู่ นางกำจดหมายในมือแน่น จากนั้นก้าวเท้าลงจากรถม้า น้ำเสียงดังกังวานของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่พร้อมทำลายทุกอย่าง “รีบจัดทัพทหารค่ายผิงอันออกเดินทางไปกำจัดซีเหลียงกับข้าเดี๋ยวนี้…”

ไป๋ชิงเหยียนก้าวพลาด…

“ฝ่าบาท!”

“คุณหนูใหญ่!”

ร่างของไป๋ชิงเหยียนพลัดตกลงจากรถม้ากลิ้งไปบนพื้นกระเบื้องหินที่ถูกขัดจนเงาวับ

ความเจ็บปวดแล่นผ่านท้องของไป๋ชิงเหยียน หน้าท้องของนางเจ็บจนชาไปหมด นางจับท้องของตัวเองไว้พลางส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ทว่า ความเจ็บปวดที่ร่างกายเทียบกับความเจ็บปวดในหัวใจไม่ได้สักนิด

“อาเป่า อาเป่า!” ต่งซื่อเห็นร่างของบุตรสาวพลัดตกจากรถม้ากับตาของนางเอง นางตกใจจนศีรษะแทบระเบิด ต่งซื่อสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของฉินหมัวมัว จากนั้นวิ่งถลกชายกระโปรงวิ่งไปหาบุตรสาวอย่างรวดเร็วโดยไม่สนมารยาทใดอีก “เร็ว รีบตามหมอหลวงมาเร็ว!”

บรรดาอาสะใภ้ของไป๋ชิงเหยียนตกใจเช่นเดียวกัน ฮูหยินห้าฉีซื่อเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ใจของนางแทบหลุดออกมาจากอก นางรีบตั้งสติพลางหันไปตะโกนสั่งทันที “เร็ว ฝ่าบาทจะคลอดแล้ว! รีบเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดให้พร้อม! เตรียมต้มน้ำ! ไปตามหมอตำแยที่เตรียมไว้ทั้งหมดมาเร็ว!”

เว่ยจงรีบเข้าไปอุ้มไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปบนรถม้า “เร็ว รีบไปส่งฝ่าบาทที่ตำหนักเร็ว!”

“อาเป่า อาเป่า…” ต่งซื่อรีบตามขึ้นรถม้าไปด้วย

รถม้าเคลื่อนตัวไปยังตำหนักของไป๋ชิงเหยียนอย่างรวดเร็ว

ต่งซื่อกอดร่างของไป๋ชิงเหยียนไว้แนบอก เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนที่ใบหน้าซีดเผือดกุมหน้าท้องของตัวเองแน่น น้ำตาของต่งซื่อจึงไหลพรากออกมาทันที “อาเป่า! อาเป่าไม่ต้องกลัว แม่อยู่ตรงนี้ แม่อยู่ตรงนี้!”

ไป๋ชิงเหยียนเจ็บจนกล่าวสิ่งใดไม่ออก นางกำรายงานสถานการณ์รบที่เขียนด้วยลายมือของไป๋ชิงฉีไว้แน่น

แผนเดิมของต้าเยี่ยนและต้าโจวคือให้ไป๋ชิงอวี๋เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้ซีเหลียงมาติดกับ จากนั้นต้าโจวและต้าเยี่ยนจะร่วมมือกันทำลายกองทัพหลักของซีเหลียง

ทว่า ไม่รู้ว่าแผนการที่วางไว้รู้ไปถึงหูของซีเหลียงได้อย่างไร แม่ทัพชราชุยซานจงบุกโจมตีก่อนถึงสถานที่ที่ต้าเยียนดักซุ่มโจมตีอยู่ ทหารกองทัพไป๋ในสังกัดของไป๋ชิงอวี๋ซึ่งหนีรอดกลับไปได้รายงานว่าไป๋ชิงอวี๋ถูกธนูยิง

ตอนที่ไป๋ชิงฉีนำทัพไปถึงทุกที่เต็มไปด้วยซากศพ ไป๋ชิงอวี๋หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไป๋จิ่นเซ่อที่ติดตามไป๋ชิงอวี๋ไปออกรบด้วยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นเดียวกัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

คนของต้าโจวที่รู้แผนการนี้มีเพียงทายาทของตระกูลไป๋เท่านั้น ข่าวไม่มีทางหลุดไปจากต้าโจวแน่นอน ดังนั้นความผิดพลาดต้องเกิดขึ้นจากต้าเยี่ยนแน่!

ตอนนี้ไป๋ชิงฉีส่งคนไปสืบแล้วว่าไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นเซ่อถูกแม่ทัพชราชุยซานจงจับเป็นไปหรือไม่

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset