ตอนที่ 1180 ไม่มีวันกลับคำ
“ข้าก็ดีใจที่ได้พบท่าน…”
ไป๋ชิงเหยียนตอบเซียวหรงเหยี่ยนเสียงเบา หญิงสาวโอบรอบคอชายหนุ่มแน่น จากนั้นจุมพิตลงบนริมฝีปากของเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังหายใจหอบรุนแรงเบาๆ
ไม่ว่าชาติที่แล้วหรือชาตินี้ นางล้วนโชคดีที่ได้พบเซียวหรงเหยี่ยน
ชาติที่แล้วเขาช่วยชีวิตนางไว้
ชาตินี้นางได้ครองคู่กับเขา
นางดีใจมาก…
“เว่ยกงกง พี่หญิงใหญ่ตื่นแล้วหรือไม่”
ไป๋จิ่นเจาวิ่งเข้ามาในเรือนอย่างรีบร้อน
“พวกเราปั้นบัวลอยเสร็จแล้ว ตอนนี้รอพี่หญิงใหญ่อยู่คนเดียว”
“คุณหนูห้า ฝ่าบาทยังบรรทมอยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงกล่าวกับไป๋จิ่นเจายิ้มๆ
“แม่นางเสิ่นนำยาบำรุงครรภ์มาให้ฝ่าบาทฝ่าบาทยังไม่ตื่นบรรทมเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนมองดูท้องฟ้าที่กำลังจะมืดลงด้านนอกหน้าต่าง หญิงสาวหันไปกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยน
“วันนี้คือเทศกาลโคมไฟ ข้าต้องขึ้นไปกล่าวปลอบขวัญชาวบ้านบนกำแพงด่านเย่เฉิง ข้าต้องลุกแล้ว”
เซียวหรงเหยี่ยนจับปรอยผมของไป๋ชิงเหยียนไปทัดที่หลังหูของหญิงสาว จากนั้นพยักหน้า
“ได้…”
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ห้ามไป๋ชิงเหยียน เขาสั่งให้เว่ยจงนำยาบำรุงครรภ์เขามา ไป๋ชิงเหยียนดื่มรวดเดียวหมด เซียวหรงเหยี่ยนที่นั่งอยู่บนเตียงรับถ้วยยาไปจากมือหญิงสาว จากนั้นยื่นถ้วยน้ำผึ้งให้หญิงสาวดื่มล้างปาก ป้อนลูกกวาดใส่ปากของนางหนึ่งเม็ด เขาดูแลราวกับนางเป็นเพียงเด็กเล็กคนหนึ่ง
เว่ยจงยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง เขาเห็นเซียวหรงเหยี่ยนช่วยไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและสวมรองเท้าอย่างตั้งใจโดยไม่สนฐานะอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนแม้แต่น้อย ดูเหมือนชายหนุ่มจะรักและทะนุถนอมไป๋ชิงเหยียนจากใจจริง เว่ยจงจึงยิ้มกว้างมากขึ้น
เซียวหรงเหยี่ยนประคองไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้น จากนั้นสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกตัวหนาที่เขานำมาด้วยให้หญิงสาว
“ข้าพบจิ้งจอกขนสวยสองตัวตอนอยู่ที่ภูเขาหลิวเซียง ข้ามีขนจิ้งจอกอยู่อีกสองแผ่นพอดีจึงสั่งให้คนทำเป็นเสื้อขนจิ้งจอกตัวใหญ่ให้เจ้า”
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าปล่อยให้เซียวหรงเหยี่ยนผูกเชือกเสื้อคลุมบริเวณคอให้นาง หญิงสาวมองใบหน้าคมคายของชายหนุ่ม ใบหูเริ่มแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้ง
เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่านางทนความหนาวไม่ค่อยได้
เซียวหรงเหยี่ยนยื่นปลอกแขนสีขาวหยกให้ไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนสอดแขนเข้าไปในปลอกแขนจึงสัมผัสได้ว่าในนั้นมีหยกใส่อยู่
“นี่มัน?” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าหยิบหยกออกมาจากปลอกแขนจึงพบว่านั่นคือหยกที่แกะสลักเป็นลูกเสือสองตัวกำลังทะเลาะกันอยู่
“นี่คือหยกหน่วนอวี้ เมื่อมือสัมผัสโดนมันจะเปลี่ยนอุณหภูมิจนอบอุ่นขึ้น ท่านแม่ของข้าได้มันมาตั้งแต่ข้ายังเล็ก ทว่า ไม่ได้ทำสิ่งใดกับมันเสียที ข้าคิดมาโดยตลอดว่าจะมอบสิ่งใดให้ลูกของเราในวันเกิดปีแรกของเขาดี ทว่า คงไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าของขวัญที่พ่อของเขาทำมันด้วยตัวเองอีกแล้ว”
เซียวหรงเหยี่ยนลูบหน้าท้องของไป๋ชิงเหยียนอย่างแผ่วเบา
“เหตุใดท่านจึงชอบมอบหยกให้ข้านัก”
ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะออกมาอย่างคุมไม่อยู่ ทว่า นางชอบเสือน้อยสองตัวที่ทำมาจากหยกนี้มากจริงๆ ฝีมือการแกะสลักของเซียวหรงเหยี่ยนประณีตขึ้นกว่าเดิมมาก เขาแกะสลักได้เหมือนมีชีวิตจริงๆ
“เช่นนั้นปีหน้าข้าจะลองฝึกทำเครื่องประดับศีรษะดูบ้าง วันหน้าข้าจะทำเครื่องประดับศีรษะให้อาเป่าด้วยตัวเอง”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวยิ้มๆ
“อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนคิดจะไปเป็นนักแกะสลักที่ไป๋ว่ออย่างนั้นหรือ”
“ฝีมือการแกละสลักของข้ามีไว้เพื่อภรรยาของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
เซียวหรงเหยี่ยนกุมมือของไป๋ชิงเหยียนพลางรั้งหญิงสาวเข้ามาใกล้ จากนั้นกล่าวเสียงเบา
“ขอเพียงอาเป่ามีความสุข วันหน้าเมื่อข้ามีเวลาว่างข้าจะทำเครื่องประดับศีรษะให้อาเป่าสวมทุกวัน ขอเพียงอาเป่าไม่รังเกียจฝีมือของข้าก็พอ”
“สัญญา” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ โนเวลพีดีเอฟ
“สัญญา” เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้าเข้าไปใกล้ไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มเกือบอดใจไม่อยู่ก้มจุมพิตหญิงสาวอีกครั้ง ทว่า เขาสัมผัสได้ว่าเด็กในท้องของไป๋ชิงเหยียนดิ้นเล็กน้อย
เซียวหรงเหยี่ยนเบิกตาโพลง เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียนจากนั้นก้มมองท้องของหญิงสาวอีกครั้ง
“ลูกดิ้นเป็นเรื่องปกติ…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
“เจ้านั่งลงก่อน”
เซียวหรงเหยี่ยนประคองไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเตียงด้วยความตื่นเต้น ส่วนตัวเองคุกเข่าลงบนที่วางเท้าไม้หวงฮวาหลีอย่างไม่คำนึงถึงฐานะของตัวเองอีกต่อไป ชายหนุ่มวางสองมือลงบนท้องของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นก้มหน้ากล่าวกับลูกในท้องเสียงเบา
“เด็กดี เจ้ารู้ว่าพ่อมาใช่หรือไม่ เจ้ากับแม่ของเจ้าคิดถึงพ่อใช่หรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองดูเซียวหรงเหยี่ยนที่ดวงตาสองข้างกำลังเปล่งประกาย รอยยิ้มของหญิงสาวกว้างมากขึ้น
“เจ้าเป็นเด็กดีอยู่ในท้องของแม่เจ้า อย่ารังแกแม่ของเจ้านะ เมื่อเจ้าเกิดมาพ่อจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม!”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวกับเด็กในท้องของไป๋ชิงเหยียนอย่างตั้งใจ กล่าวได้สองสามคำก็เอาหูแนบหน้าท้องของไป๋ชิงเหยียนเพื่อฟังความเคลื่อนไหวราวกับลูกท้องท้องสามารถตอบเขากลับได้
นี่คือครั้งแรกที่เซียวหรงเหยี่ยนจะได้เป็นพ่อคน ความจริงแล้วเขารู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่ได้สงบนิ่งเหมือนที่แสดงออกทางสีหน้าแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาและไป๋ชิงเหยียนไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา เซียวหรงเหยี่ยนกลัวว่าลูกไม่ค่อยได้ยินเสียงของเขาเมื่อคลอดออกมาแล้วจะไม่สนิทสนมกับเขา ไม่รู้ว่าเขาคือพ่อแท้ๆ ของเขา
“พ่อจะทำม้าไม้ให้เจ้าด้วยตัวเอง ต่อไปพ่อของเจ้าตั้งใจจะเลี้ยงดูแม่ของเจ้าด้วยฝีมือศิลปะของพ่อ”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวหยอกเซียวหรงเหยี่ยน
“ได้สิ ทำม้าไม้ ยังมีสิ่งใดอีก ดาบไม้ดีหรือไม่”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างตื่นเต้น จากนั้นเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน
“หากเป็นผู้หญิง ทำดาบไม้คงไม่ได้สักเท่าใดนัก อาเป่าคิดว่าทำสิ่งใดดี”
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเซียวหรงเหยี่ยนไป๋ชิงเหยียนหัวเราะออกมาอย่างคุมไม่อยู่ นางคิดไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสเห็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนทำตัวไม่ถูกเช่นนี้
ไป๋ชิงเหยียนก้มดึงตัวเซียวหรงเหยี่ยนขึ้นมาจากที่วางเท้า จากนั้นกล่าวยิ้มๆ
“ไม่ว่าเป็นสิ่งใดขอเพียงท่านพ่อของเขาเป็นคนทำให้ล้วนคือสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ตอนข้ายังเด็กท่านพ่อของข้ายุ่งมาก ข้าจำได้ว่าของขวัญชิ้นเดียวที่ข้าได้จากฝีมือของท่านพ่อคือแส้ม้า ตอนนั้นข้าดีใจมาก เก็บไว้ไม่ยอมนำออกมาใช้ ทว่า ท่านพ่อบอกว่าข้าโง่ หากพังแล้วเขาจะทำให้ข้าใหม่…”
ต่อมานางร่างกายอ่อนแอจึงไม่มีโอกาสได้ใช้แส้ม้าอีก ตอนนี้นางใช้แส้ม้าได้แล้ว ทว่า ท่านพ่อไม่สามารถทำแส้ม้าให้นางได้อีกต่อไป
เมื่อเห็นสีหน้าที่มีรอยยิ้มอ่อนๆ และเสียงที่เรียบนิ่งของไป๋ชิงเหยียน เซียวหรงเหยี่ยนกุมมือหญิงสาวไว้หลวมๆ พลางกล่าววัน
“ต่อไปข้าจะทำให้เจ้าและลูกเอง”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม จากนั้นพยักหน้า “ได้!”
เว่ยจงยืนอยู่ด้านข้างราวกับตัวเองไม่มีตัวตน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง เมื่อฟังสองสามีภรรยาสนทนากันจบเขาจึงเดินไปด้านหน้า
“ฝ่าบาท เหล่าทหารรอทานบัวลอยอยู่ ชาวบ้านในด่านเย่เฉิงคงกำลังหวาดกลัวกับสงครามที่เพิ่งจบไป อีกครู่พวกเขาคงไปรวมตัวกันที่กำแพงเมือง พวกเรามีเวลาไม่มากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ได้” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ขอบใจเว่ยกงกงมากที่เตือนข้า”
เว่ยจงมองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างตกตะลึงแวบหนึ่ง จากนั้นรีบกล่าวยิ้มๆ
“เป็นสิ่งที่บ่าวควรทำพ่ะย่ะค่ะ”
“เดี๋ยวข้าจะไปสำรวจค่ายทหารรักษาตัว อาเหยี่ยนรออยู่ที่นี่สักครู่ เมื่อข้าไปแล้วท่านค่อยออกไปพร้อมเว่ยกงกง”
ไป๋ชิงเหยียนกลัวจะมีข่าวลือไม่ดีระหว่างนางและอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนแพร่ออกไปก่อนที่สองแคว้นจะตกลงเรื่องรวมเป็นแคว้นเดียวกันได้ นั่นไม่เป็นผลดีต่อสองแคว้นแม้แต่น้อย
“ข้ารู้ขอบเขตดี เจ้าไม่ต้องห่วงไม่มีผู้ใดจับได้แน่นอน” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวยิ้มๆ
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า เมื่อเดินออกไปด้านนอกจึงเห็นเสิ่นชิงจู๋ที่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้วยืนรออยู่ที่ด้านนอก เสิ่นชิงจู๋เห็นไป๋ชิงเหยียนสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเดินออกมาจึงรีบเข้าไปช่วยประคอง