“เซวียน ท่านทรมานมากหรือ อย่าร้องไห้อีกเลยดีหรือไม่!”
เพียงนึกว่าเซวียนเพื่อตนต้องอดทนทรมานจนร้องไห้ ซินเอ๋อร์พลันทรมานใจ
เพราะบนโลกนี้มีเพียงเซวียนที่ดีกับตนที่สุด ดังนั้นเธอจึงไม่อยากทำร้ายคนที่ห่วงใยตน
ดังนั้น นอกจากทำเรื่องพรรค์นั้น สิ่งใดเธอล้วนยินยอม
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่เต็มไปด้วยความร้อนใจและห่วงใย เหลิ่งอวี้เซวียนที่ทับอยู่บนกายเธอ หลังได้ยินคำพูดนี้ของเธอพลันตะลึงงัน
ร้องไห้! เธอเอ่ยว่าเขาร้องไห้หรือ!
เขาไม่ได้ร้องไห้!
เหลิ่งอวี้เซวียนสงสัยในใจ ทว่าต่อมาเขาจึงพลันเข้าใจ
ที่แท้ซินเอ๋อร์เข้าใจผิดว่าเหงื่อที่ไหลจากหน้าผากของเขาคือน้ำตา
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนอดรู้สึกขบขันไม่ได้
คิดแล้ว ตั้งแต่เขารู้ความมา เขาไม่เคยร้องไห้
เพราะเขาคิดว่าบนโลกนี้ไม่มีเรื่องใด คู่ควรที่จะทำให้เขาร้องไห้
แต่สาวน้อยผู้นี้กลับคิดว่าเขาร้องไห้ หรือในความรู้สึกของเธอ เขาอ่อนแอขนาดนั้นหรือ!
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนคิดอธิบายแก่ซินเอ๋อร์
ทว่าเหลิ่งอวี้เซวียนยังไม่ทันเอ่ยออกไป กลับได้ยินซินเอ๋อร์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ซินเอ๋อร์เอ่ยพูดเสียงแผ่วเบาและตะกุกตะกัก ทว่าเหลิ่งอวี้เซวียนมองออกว่าซินเอ๋อร์รวบรวมความกล้าหาญที่มีทั้งหมดของตน เอ่ยคำพูดนี้ออกมา
“เซวียน คือว่า นอกจากทำเรื่องพรรค์นั้น ข้า ข้า ข้ายินยอมทำทุกอย่าง เพียง เพียงสามารถช่วยท่านลดความเจ็บปวดลง”
ขณะซินเอ๋อร์เอ่ยถึงคำนี้ ก็เขินอายจนหน้าแดง ใจเต้นแรง จนอยากแทรกแผ่นดินหนี
สวรรค์!
เธอคือสาวน้อยที่ยังไม่ได้ออกเรือน แต่กลับเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาต่อหน้าชายหนุ่ม
เช่นนี้ เธอและหญิงสาวในหอนางโลมจะแตกต่างกันที่ใด!
แต่เพื่อเซวียน เธอทุ่มสุดตัวจริงๆ
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์รวบรวมความกล้า รีบถือโอกาสขณะที่ตนยังไม่เสียใจภายหลัง ผลักเหลิ่งอวี้เซวียนล้มลงไป
สำหรับการกระทำที่กะทันหันของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนกลับไม่ทันเตรียมใจแม้แต่น้อยจึงตั้งตัวไม่ทัน ถูกซินเอ๋อร์ผลักออกไป
เดิมทีคิดว่าหลังซินเอ๋อร์ผลักเขาออกจะรีบหนีไป เหลิ่งอวี้เซวียนจึงตามใจเธอ เพราะเรื่องเมื่อครู่เขาคงทำให้เธอตกใจอย่างหนัก
เพราะเขาควรรู้ว่าสาวน้อยตรงหน้านี้ คล้ายกับกระต่ายน้อยขี้ขลาดตัวหนึ่ง เพียงยอดหญ้าถูกลมพัด ต้องตกใจวิ่งหนีไปไกลแน่นอน
ทว่าเหลิ่งอวี้เซวียนกลับคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ตนกลับเข้าใจผิด
เห็นเพียงกระต่ายน้อยที่ยังขลาดกลัวตรงหน้า หลังผลักเขาล้มลงพลันแปลงร่างเป็นหมาป่า
เห็นสาวน้อยตรงหน้าหลังผลักเขาออกแล้วไม่ได้หนีไป แต่ยังนั่งคร่อมอยู่บนต้นขาของเขา
ทันใดนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนถูกภาพตรงหน้าทำให้ตกตะลึงอย่างสุดขีด
ผ่านไปนานจึงได้สติกลับมา ดวงตาดำขลับเบิกกว้าง มองสาวนอยที่นั่งคร่อมอยู่บนต้นขาตนอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก
“ซินเอ๋อร์ เจ้า…”
ครั้งนี้เหลิ่งอวี้เซวียนหวาดหวั่น ตกตะลึงสุดขีด ทันใดนั้นกลับไม่รู้ควรเอ่ยเช่นไรออกไป
เพราะความจริงเขาไม่รู้เลยว่าสาวน้อยที่ผ่านมา ถูกเขาจุมพิตปากเล็กจนหน้าแดง ใจเต้นแรง จะมีความกล้าหาญขนาดนี้
หรือเธอไม่รู้ว่าตนทำเช่นนี้ เหมือนกำลังเล่นกับไฟ!
“ซินเอ๋อร์ เจ้าต้องคิดให้ดีว่าตอนนี้กำลังทำสิ่งใดอยู่!”
ชายหนุ่มเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแฝงความเหลือเชื่อ ตื่นตระหนก ตกตะลึง และตื่นเต้นดีใจ
เพราะการกระทำของสาวน้อย กลับทำให้เขาตื่นเต้นอย่างที่สุด
เพราะซินเอ๋อร์ทำเช่นนี้ หมายความว่าเธอเริ่มยอมรับเขาแล้วมิใช่หรือ!
…
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกร่างกายลอยล่องอย่างตื่นเต้นดีใจ
ทว่าต่อมาหลังได้ยินคำพูดของหญิงสาว ชายหนุ่มคล้ายพลันตกจากเมฆสูงลงสูงเหวลึกไร้ก้นบึ้ง
“ท่านอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ ไม่ได้คิดทำเรื่องพรรค์นั้นกับท่าน”
เมื่อเห็นสีหน้าตื่นเต้นดีใจของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์รู้ว่าเขากำลังเข้าใจผิด ดังนั้นจึงอดรีบเอ่ยปากขึ้นไม่ได้
มิฉะนั้น เธอกลัวว่าหากชายหนุ่มตื่นเต้นเกินไป จะพลิกตัวกลับมาคร่อมทับเธออีกครั้ง!
ส่วนเหลิ่งอวี้เซวียนหลังได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ใบหน้าที่เดิมทีดีใจพลันถูกแทนที่ด้วยความผิดหวังเสียใจ
“เจ้าไม่คิดเช่นนั้น เหตุใดตอนนี้เจ้าถึง…”
“นอกจากต้องทำเรื่องพรรค์นั้นเพื่อให้ท่านรู้สึก รู้สึกมีความสุข ยังมีสิ่งอื่นอีกหรือไม่!”
ครั้งก่อนตอนที่ถูกจับตัวไป ซินเอ๋อร์เห็นภาพวังวสันต์ (หนังสือรวมภาพกิจกรรมทางเพศ) ที่ถูกแขวนไว้มากมาย
และสองคนที่เปลี่ยนท่วงท่าไม่หยุดอยู่บนผืนหญ้าตรงนั้น
และมีตอนที่หญิงสาวผู้นั้นใช้ปากอมสิ่งนั้นของชายหนุ่ม
ตอนนั้นเธอก็เห็นว่าชายหนุ่มมีความสุขยิ่งนัก
ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงคิดว่าการทำเช่นนั้น ชายหนุ่มมีความสุขไม่ใช่หรือ!
เซวียนเมื่อเพื่อเธอยอมอดทน ที่ผ่านมาดีกับเธอขนาดนี้ หากเธอไม่ตอบแทนเขา เช่นนั้นคงไม่ดีแน่!
หลังคิดได้ถึงเรื่องนี้ ซินเอ๋อร์ทุ่มสุดตัว เพื่อตอบแทนบุญคุณ!
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่รวบรวมความกล้าอย่างช้าๆ เหลิ่งอวี้เซวียนหลังได้ยินคำพูดเธอ ในที่สุดก็เข้าใจความหมายของซินเอ๋อร์
แม้ซินเอ๋อร์สุดท้ายจะไม่ยอมทำเรื่องพรรค์นั้นกับเขา แต่เขารู้ดีว่านี่คือการยินยอมครั้งใหญ่ของเธอ
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนที่ผิดหวัง ค่อยๆ รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมา
ดวงตาดำขลับแคบยาวที่มองซินเอ๋อร์นั้น ดูคล้ายว่ามีเปลวไฟกำลังลุกโชนเผาไหมขึ้นมา
“ฮ่า ๆ ซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์ของข้า เจ้าดียิ่งนัก”
เหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแฝงความดีใจและอดกลั้นอย่างปิดไม่มิด
ก่อนยืดแขนจับมือเล็กของซินเอ๋อร์ไว้แน่น ออกแรงดึงเธอลงมา ทันใดนั้นเริ่มจุมพิตบนริมฝีปากหอมหวานนั้นอย่างบ้าคลั่ง
สองมือไม่ปล่อยให้ว่างเว้น เคลื่อนไปบนผิวเนียนนุ่มดุจเส้นไหมของสาวน้อยไม่หยุด
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงมือของชายหนุ่ม คล้ายแฝงไปด้วยพลังลึกลับ เพราะทุกที่ที่เคลื่อนผ่านคล้ายติดไฟ ลมหายใจร้อนผ่าวโอบล้อมเธอเอาไว้ไม่หยุด
ซินเอ๋อร์จึงหวาดกลัว ตื่นตระหนกและขลาดกลัวในใจ
ร่างกายกลับคล้ายสั่นเทิ้มเพราะการกระทำของชายหนุ่ม
“เซวียน”
เมื่อเซวียนตกอยู่ในภวังค์ความสุขกับการจุมพิตเธอ ซินเอ๋อร์อดยื่นมือผลักชายหนุ่มที่คร่อมทับอยู่บนกายเธอไม่ได้
แต่กลับได้ยินเพียงเสียงแผ่วเบาของชายหนุ่มดังขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้าอยากให้ข้ามีความสุข เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขก่อน ประเดี๋ยวเจ้าทำกับข้า เช่นเดียวกับที่ข้าทำให้เจ้าก็แล้วกัน”
เสียงแหบพร่าทุ้มต่ำของชายหนุ่ม แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่อธิบายไม่ได้
ในค่ำคืนที่มืดมิดเงียบสงัด มีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษ ทำให้คนใจเต้นแรง
ซินเอ๋อร์ได้ยิน รู้สึกเพียงในใจที่หวาดกลัว คล้ายกับแฝงไปด้วยความคาดหวัง
ร่างกาย กลับเพราะวิตกกังวลจึงแข็งทื่อปวดร้าว
ชายหนุ่มอาจเพราะรับรู้ถึงความกังวลของสาวน้อย จึงอดกระซิบปลอบโยนข้างใบหูเธอไม่ได้
“ซินเอ๋อร์ ผ่อนคลายร่างกาย ข้าจะมอบความสุขให้แก่เจ้า”
“อืม”
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์อดกลืนน้ำลายพร้อมพยักหน้าไม่ได้
จากนั้นลองผ่อนคลายอารมณ์ลง ค่อยๆ เสพสุขกับช่วงเวลานี้
ก่อนรู้สึกเพียงจุมพิตของชายหนุ่มค่อยๆ ผละจากริมฝีปากแดงของเธอลงไปที่คางเล็ก คอเรียว และกระดูกไหปลาร้า
จุมพิตของชายหนุ่มแผ่วเบา บางเวลาฉาบฉวยดุจแมลงปอเดินบนน้ำ บางครั้งดูดดึงเบาๆ
และทุกส่วนที่จุมพิตของชายหนุ่มเคลื่อนผ่าน ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงบนผิวนั้นคล้ายติดไฟ ร้อนระอุ แสบร้อน แฝงด้วยความรู้สึกราวไฟดูด แปลกประหลาดยิ่งนัก
เธอไม่รู้ว่าตนเป็นสิ่งใดกันแน่ ความรู้สึกเช่นนี้ยอดเยี่ยม จนกระทั่งร่างกายสับสันมึนงง คิดสิ่งใดไม่ออก
จนสุดท้ายซินเอ๋อร์จึงรู้สึกเย็นเฉียบที่หน้าอกและสองขา ก่อนได้สติกลับมา
เมื่อเห็นเสื้อผ้าและกางเกงบนกายตนถูกถอดลงจนหมด เวลานี้ตนนอนอยู่บนผินหญ้าด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า ซินเอ๋อร์ตกใจจนเสียสติ
“อา เซวียน!”
ซินเอ๋อร์พลางเอ่ย พลางใช้สองมือปิดบังหน้าอก และสองขาพลันหุบเข้าหากันแน่น
ใบหน้าเล็กนั้นร้อนผ่าว จนแทบมีควันออกมาที่เหนือศีรษะ
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้น รู้ว่าซินเอ๋อร์เขินอาย จึงอดเอ่ยขึ้นอย่างขบขันและเอ็นดูไม่ได้
“ซินเอ๋อร์ ต่อหน้าข้าเจ้าไม่จำเป็นต้องปกปิด และเจ้ารู้หรือไม่ เจ้าในตอนนี้งดงามจริงๆ งดงามจนน่าตกตะลึง!”
ชายหนุ่มเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความตกตะลึงอย่างไม่ปิดบัง! และที่เขาพูดคือความจริง!
เห็นเพียงสาวน้อยด้านล่าง รูปร่างงดงาม ส่วนเว้าส่วนโค้งน่าลุ่มหลง
ผิวขาวดังหิมะ เนียนนุ่มเปราะบาง เส้มผมดำลื่นดุจม่านน้ำตก เกียจคร้านงดงาม รวยรินกลิ่นหอม
สิ่งที่หาได้ยาก งดงามล่มเมือง เย้ายวนจับใจเช่นนี้ ไม่ต้องเอ่ยถึงชายหนุ่มปกติที่เห็นแล้วใจเต้น เกรงว่านักบวชได้พบเจอก็คงใจเต้นผิดปกติ!
และตอนนี้หญิงสาวผู้นี้ อยู่ใต้ร่างเขา
ความงามของเธอ มีเขาเพียงคนเดียวที่ได้เห็น ดังนั้นจะไม่ให้เขาตื่นเต้นดีใจได้เช่นไร!
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนยื่นมือดึงมือของซินเอ๋อร์ที่ปิดหน้าอกออกอย่างช้าๆ ทันใดนั้นจุมพิตลงบนริมฝีปากของสาวน้อย พร้อมเอ่ยขึ้น
“ซินเอ๋อร์ ซินเอ๋อร์ของข้า โอ้ เจ้าเป็นของข้า เจ้าเป็นของข้า”
ชายหนุ่มเอ่ยจบ รีบถือโอกาสที่สาวน้อยยังไม่รู้สึกตัว ค่อยๆ แยกหัวเข่าและสองขาของเธอออก
ทันใดนั้น โน้มตัวลงไปที่ท่อนล่างของสาวน้อย ก่อนมุดศีรษะเข้าไปที่ระหว่างขาของสาวน้อย
“อะ ไม่ เซวียน ตรงนั้น…สกปรก”
เมื่อรู้สึกส่วนสงวนของตนมีบางสิ่งเปียกชื้น อ่อนนุ่มเคลื่อนไหวอยู่ ทำให้ซินเอ๋อร์เขินอายจนอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด
สวรรค์!
เซวียนเสียสติไปแล้วหรือ เหตุใดจึง…
ตรงข้ามกับซินเอ๋อร์ที่เขินอายอย่างหนัก เหลิ่งอวี้เซวียนกลับคล้ายตกอยู่ในบ่อน้ำหวาน
“ฮ่า ๆ ซินเอ๋อร์ ไม่สกปรกแม้แต่นิดเดียว”
และเขาตอนนี้ คิดเพียงทำให้สาวน้อยผู้นี้รู้สึกพอใจ
ทำให้เธอสามารถลิ้มรสถึงความสุข
ดังนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนจึงพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อมอบความสุขให้แก่ซินเอ๋อร์
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงความแปลกประหลาด ดุจน้ำท่วมถาโถมซัดตรงเข้ามาที่เธอไม่หยุด ก่อนทำให้เธอจมดิ่งลงไป
ความรู้สึกนั้นมีความสุขและยอดเยี่ยมยิ่งนัก
ทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกคล้ายบินขึ้นสู่ยอดเขา นอกจากนี้เธอล้วนคิดสิ่งใดไม่ออก
………………………………………………………………………………….