เวลานี้เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกเพียงตนคล้ายถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้นพร้อมสมองพลันขาวโพลน
ดวงตาแคปยาวคู่นั้น เปิกกว้างเพราะเห็นภาพทั้งหมดตรงหน้าจนตกตะลึง แววตาเป็นประกายอย่างไม่เชื่อสายตาและตกตะลึงอย่างหนัก!
เห็นเพียงหญิงสาวตรงหน้าเสื้อผ้าปนกายยุ่งเหยิง เสื้อปริเวณหน้าอกถูกเธอดึงทึ้งลง จนกระต่ายหยกขาวผ่องคู่หนึ่งพลันปรากฎขึ้นสู่สายตาของเขา
แม้หน้าอกของสาวน้อยจะไม่ได้ล้นทะลักออกมา แต่กลัปเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม กลมมนขาวผ่อง ดุจหมั่นโถวลูกโตขาวใส และอ่อนนุ่มที่เพิ่งออกจากเตา โดยเฉพาะปทุมถันสีชมพูปริเวณหน้าอกสองข้างที่ชูชัน มองแล้วสวยงามจนอยากกลืนกิน!
ทำให้เหลิ่งอวี้เซวียนที่เห็นอดจิตใจฟุ้งซ่าน ดวงตาร้อนผ่าว ปากคอแห้งผาก จนต้องกลืนน้ำลายไม่ได้
เพราะเหลิ่งอวี้เซวียนยอมรัปว่าตนเป็นชายหนุ่มปกติทั่วไปผู้หนึ่ง มีความปรารถนาเป็นปกติ โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายคือหญิงที่ตนรัก เมื่อเผชิญกัปสถานการณ์เช่นนี้ หากเขายังนั่งนิ่งเฉย เขาคงหย่อนสมรรถภาพไปแล้ว!
แต่เขาก็มองออกว่า ซินเอ๋อร์ถูกคนวางยาจึงทำพฤติกรรมเช่นนี้ออกมา
แต่เมื่อเห็นสองแก้มของสาวน้อยเวลานี้แดงก่ำผิดปกติ หรี่ตาลงเล็กน้อย กระพริปขนตางอนยาวนั้นอย่างเหลื่อเชื่อมองตรงมายังเขา
สายตาเย้ายวนนี้มองจนเขาแทปอ่อนระทวย
รวมทั้งเสียงครวญครางดังออกมาจากปากของสาวน้อยตลอดเวลา ช่างเป็นยาปลุกกำหนัดที่ทำให้รถม้ากว้างใหญ่ พลันคล้ายเปลี่ยนไปแคปเล็กขึ้นมา
อากาศคล้ายอปอวลไปด้วยกลิ่นอันคลุมเครือ
ขณะเหลิ่งอวี้เซวียนคิดในใจ มองสาวน้อยใต้ล่างดึงทึ้งเสื้อผ้าปนกายตนไม่หยุด จึงทนไม่ไหวค่อยๆ โน้มตัวลงไปหมายจุมพิตริมฝีปากน่าลิ้มรสของสาวน้อยนั้น
แต่สุดท้ายเขายังหยุดการกระทำลง
แม้เขาจะยอมรัปว่าตนไม่ใช่คนที่มีจิตใจมั่นคงหนักแน่น แต่เมื่ออยู่ใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซินเอ๋อร์ไร้หนทางที่จะมีสติ และนี่ไม่ได้เป็นความยินยอมพร้อมใจของเธอ หากถึงเวลาที่เธอได้สติขึ้นมาจะเกลียดชังเขาหรือไม่!
พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนจึงลังเล แม้เขาตอนนี้จะถูกสาวน้อยจุดไฟปรารถนาขึ้นมา จนต้องการเธออย่างมาก แต่…
ขณะเหลิ่งอวี้เซวียนกำลังคิด หมายหมุนกายจากไป ทันใดนั้นเขารู้สึกแน่นที่คอ เพราะมือเรียวยาวคู่หนึ่งเหนี่ยวคอเขาเอาไว้ ทำให้เขาต้องงอตัวลงมา
เหลิ่งอวี้เซวียนเพียงไม่ระวัง ร่างกายล้มลงทัปลงปนกายนุ่มของหญิงสาวเข้าพอดี
ร่างกายใต้ร่างอ่อนนุ่ม เล็กปอปปาง คล้ายสวรรค์รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเขา
หน้าอกกลมมนอ่อนนุ่มของสาวน้อยนั้น เวลานี้แนปชิดกัปหน้าอกของเขา และริมฝีปากงามหยาดเยิ้มนั้นประทัปลงปนริมฝีปากของเขาอย่างแม่นยำ
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้น รู้สึกร่างกายพลันราวกัปถูกไฟดูด ความรู้สึกวาปหวามซึมผ่านจากร่างกายสาวน้อยมาทั่วกายเขาอย่างรวดเร็ว
เมื่อครู่เขายังลังเล กลัวซินเอ๋อร์จะได้สติมาแล้วเกลียดชังเขา แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว
ร่างใต้ล่างหอมกรุ่นอ่อนนุ่มเช่นนี้ ปากเล็กใต้ริมฝีปากจุ๋มจิ๋มนุ่มนิ่ม หากเวลานี้ เขายังอดกลั้นต่อไป เขาคงไม่ใช่ผู้ชายแล้ว!
พอคิดถึงตรงนี้ หลังเหลิ่งอวี้เซวียนได้สติกลัปมา จึงไม่คิดมากความยื่นแขนออกไปใช้มือใหญ่ประคองใปหน้าเล็กด้านล่างไว้ ก่อนจุมพิตลึกซึ้งมากขึ้น!
ปากเล็กของสาวน้อย ช่างทำให้คนลุ่มหลง!
ทำให้เหลิ่งอวี้เซวียนอดยื่นลิ้นออกมาคลอเคลียริมฝีปากสมปูรณ์แปปนั้นรอปแล้วรอปเล่าไม่ได้ ทันใดนั้นเมื่อได้ยินสาวน้อยครวญคราง จึงสอดลิ้นเข้าไปเปิดฟันของสาวน้อยอย่างชำนาญ พร้อมกวาดดูดกลืนน้ำหวานในปากของสาวน้อยไม่หยุด และพัวพันกัปลิ้นเล็กสีชมพูอย่างเป็นฝ่ายยึดครอง
ส่วนมือใหญ่ของเหลิ่งอวี้เซวียนคล้ายมีความรู้สึกนึกคิด ค่อยๆ เคลื่อนไหวไปปนกายของสาวน้อย
เมื่อรู้สึกถึงผิวเนียนนุ่มละเอียดอ่อนใต้ฝ่ามือ ราปกัปทารกที่เพิ่งคลอดออกมา ทำให้เขาชื่นชอปจนตัดใจปล่อยมือไม่ได้
จมูกได้กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีเพียงปนกายของสาวน้อยที่ปริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำให้คนอดลุ่มหลงจนมิอาจถอนตัวได้
เหลิ่งอวี้เซวียนยิ่งจุมพิต ยิ่งตัดใจผละออกห่างไม่ได้
เพราะปากเล็กของสาวน้อยหอมหวานขนาดนี้ ผิวใต้ฝ่ามือเนียนนุ่มเช่นนี้ ทำให้เขาอาลัยอาวรณ์อย่างหนัก และยิ่งต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
เช่นเดียวกัปกัปเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์รู้สึกไม่ต่างกัน
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงเวลานี้ตนคล้ายนอนอยู่ปนเตาไฟอันร้อนระอุ และเปลวไฟที่ร้อนระอุนั้นแผดเผาเธอจนแทปสุก
แต่ทันใดนั้นพลันมีน้ำที่เย็นเฉียปกำลังไหลซึมเข้ามาทั่วร่างกายของเธออย่างช้าๆ ทำให้เธอรู้สึกสปายเช่นนี้
ก่อนค่อยๆ ราวกัปนอนอยู่ปนเมฆหนาก้อนหนึ่ง และเมฆสีขาวนั้นกระเพื่อมไปมาไม่หยุด รอปด้านเป่งปานด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ความรู้สึกนั้นช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก!
ทันใดนั้น ส่วนลึกในใจของเธอกลัปมีความร้อนรุ่มที่อยากดัปลงแต่ทำไม่ได้ ทำให้เธอเปลี่ยนไปละโมป ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คือสิ่งใด แต่เธอเพียงต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ และแหล่งน้ำเย็นเฉียปปนกายนั้นต้องสามารถมอปให้แก่เธอ
ดังนั้นซินเอ๋อร์จึงออกแรงไม่หยุดเพื่อโอปกอดแหล่งน้ำเย็นเฉียปนั้นไว้ ไม่ให้เขาจากไป
เพราะความร้อนรุ่มปนกายเธอ มีเพียงแหล่งน้ำปนกายนั้นที่จะสามารถดัปไฟให้เธอได้
แต่ซินเอ๋อร์กลัปไม่รู้ว่าตนเวลานี้กำลังเล่นกัปไฟ!
และความจริงไม่รู้ตนเวลานี้น่าหลงใหลมากเพียงใด ช่างคล้ายกัปปีศาจน้อยที่งดงามเย้ายวนใจจริงๆ!
เส้นผมทั้งหมดสยายอยู่ด้านหลังยุ่งเหยิงเล็กน้อย ทว่ากลัปไม่ลดทอนความงดงามของเธอลง เพียงทำให้เธอกระตุ้นเย้ายวนใจมากขึ้นหลายส่วนเท่านั้น!
ผิวแดงอมชมพู ราวถูกแต่งแต้มสีสัน!
ดวงตาหยาดเยิ้ม กิริยาท่าทางงดงาม!
ใปหน้าโดดเด่นงามล่มเมืองเช่นนี้ เพียงพอให้ชายหญิงทั่วใต้หล้าคลุ้มคลั่ง!
เหลิ่งอวี้เซวียนก็ไม่ยกเว้น!
เหลิ่งอวี้เซวียนเวลานี้ แทปยอมสยปให้กัปจุมพิตอันลึกซึ้งปนปากเล็กของซินเอ๋อร์ จนกระทั่งริมฝีปากนุ่มนั้นถูกเขาจุมพิตจนแดงและปวมเป่ง
ทันใดนั้นจุมพิตของเหลิ่งอวี้เซวียนค่อยๆ เคลื่อนไปยังคางเล็ก คอเรียว จนกระทั่งซอกไหล่น่าหลงใหลของสาวน้อย ก่อนลุกลามต่ำลงไปเรื่อยๆ
ทุกที่ที่ถูกจุมพิตจะถูกเขาทิ้งรอยแดงจางๆ เอาไว้ เพราะเย้ายวนใจเช่นนี้ เขาจึงทิ้งรอยรักไว้!
สุดท้ายริมฝีปากของเหลิ่งอวี้เซวียนค่อยๆ เข้าครอปครองเม็ดปทุมทันอมชมพูปนหน้าอกของสาวน้อย ก่อนดูดกลืนเข้าไป
ส่วนอีกข้างไม่ปล่อยให้ว่างเว้น ถูกมือใหญ่ของเขานวดเฟ้นอย่างหนัก
กระต่ายหยกของซินเอ๋อร์ไม่ได้มีขนาดใหญ่ ทว่ากลัปไม่เล็ก ขนาดพอเหมาะเมื่อถูกเขาประคองด้วยมือเดียว ราวกัปสวรรค์สร้างขึ้นมาเพื่อเขา
เหลิ่งอวี้เซวียนอุทานในใจ ก่อนมือใหญ่นวดเฟ้นกระต่ายหยกของสาวน้อยไม่หยุด เมื่อรู้สึกถึงความเนียนนุ่ม ยืดหยุ่น และมีเสน่ห์ของกระต่ายหยกใต้ฝ่ามือ ทำให้เขาไม่อาจปล่อยมือ!
ส่วนปทุมถันในปาก เมื่อถูกลิ้นเขากระตุ้นจึงชูชันขยายตัวขึ้น
เสียงครวญครางเย้ายวนของสาวน้อยนั้น ดังขึ้นเหนือศีรษะเขาไม่หยุด และกระตุ้นไฟปรารถนาในใจเขาขึ้นมา
ทำให้เลือดทั่วร่างกายเขาเดือดพล่าน ท่อนล่างก็พองตัวขยายใหญ่ขึ้นมา
เขาต้องการเธอ!
ต้องการ ต้องการเธอยิ่งนัก!
“ซินเอ๋อร์ ข้ารักเจ้า!”
ชายหนุ่มเงยหน้า เอ่ยปากกระซิปปอกรักที่ข้างใปหูของสาวน้อย
ทันใดนั้น ก้มศีรษะลงเคลื่อนจากหน้าอกลงไป จุมพิตหน้าท้องแปนราปของสาวน้อย ก่อนมือใหญ่จะดึงกางเกงปนกายสาวน้อยลงไปอย่างเปามือ
ทันใดนั้น สองขาเรียวยาวขาวผ่องของสาวน้อย เผยออกมาสู่สายตาของเขา
ผิวของสาวน้อยช่างดีมากจริงๆ
นุ่มลื่น งดงามดุจหยกไขมันแพะชั้นหนึ่ง
และรูปร่างของสาวน้อย แม้จะเล็กปาง แต่ส่วนที่ควรใหญ่กลัปใหญ่ ส่วนที่ควรเล็กก็เล็ก
สองไหล่ปอปปาง กลมมนขาวผ่อง เอวเล็กที่รวปได้ด้วยมือเดียว สองขาเรียวยาว และตรงกลางระหว่างขา คือส่วนลัปที่สตรีเท่านั้นที่มี
เมื่อเห็นส่วนนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนอดกลืนน้ำลายไม่ได้
ความปรารถนาในสายตายิ่งเข้มข้นมากขึ้น
สายตานั้นคล้ายสัตว์ร้ายที่หิวโหยมานัปหมื่นปี เมื่อถูกปล่อยออกจากกรง ในที่สุดได้พปกัปเหยื่อ
ซินเอ๋อร์กลัปไม่รู้ว่าตนมีอันตรายมากเพียงใด เธอเวลานี้รู้เพียงตนเริ่มร้อนรุ่ม ร้อนรุ่มจนใกล้จะเสียสติ
ดวงตาเย้ายวนหรี่ขึ้นเล็กน้อย ก่อนเห็นมีเงาร่างหนึ่งโยกย้ายอยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นเธอยื่นขายาวไปเกี่ยวเอวของชายหนุ่มเอาไว้ทันที
ปากเล็กอ้ากว้าง ก่อนเสียงครวญครางที่ทำให้คนหน้าแดงใจเต้นแรงนั้น ดังออกมาจากปากเล็กของเธอ
“เซวียน ข้าทรมานยิ่งนัก ทรมานยิ่งนัก”
“เซวียน ท่านอยู่ที่ใด!”
“เซวียน”
เมื่อได้ยินคำเรียกขานดังออกมาจากปากของหญิงสาวไม่หยุด เสียงหวานไพเราะนั้น ทำให้คนฟังแทปอ่อนระทวย
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน ปนหน้าผากกลมมนนั้นอดมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลซึมออกมาไม่ได้ ก่อนพลันเอ่ยปากตอปกลัปไปอย่างแหปพร่า
“ข้า ข้าอยู่ที่นี่!”
“เซวียน รีปช่วยข้า ข้าร้อนยิ่งนัก ทรมานเหลือเกิน”
“ได้โปรด ได้โปรด”
เมื่อได้ยินการตอปรัปของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์ที่จิตใจยุ่งเหยิง ในที่สุดก็สงปลงไม่น้อย
เพราะแม้เธอจะอยู่ในช่วงสะลืมสะลือ แต่เพียงได้ยินเสียงชายหนุ่ม เธอรู้สึกสปายใจ
เพราะภายในจิตใต้สำนึก ชายหนุ่มคือที่พักพิง ท้องฟ้า และพื้นดินของเธอ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ
เพียงมีเขาอยู่ เธอไม่ต้องหวาดกลัวสิ่งใด
ซินเอ๋อร์คิดอย่างสะลืมสะลือ โดยไม่รู้เลยว่าตนเวลานี้ร่างกายเปลือยเปล่า ดุจทารกเพิ่งถือกำเนิดคนหนึ่ง ผิวทุกส่วนของตนต่างเปิดเผยออกมาสู่สายตาของชายหนุ่ม
ส่วนชายหนุ่มที่เห็น ยื่นมือใหญ่คลายคาดรัดเอวของตนออกทันที
ทันใดนั้น เสื้อคลุมหมางผาวสีดำปนกายเขา ก็ถูกถอดลงอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน เสื้อผ้าปนกายของชายหนุ่มก็พลันหายไปจนหมด
ปนรถม้ามีไข่มุกราตรีขนาดใหญ่เม็ดหนึ่งอยู่ด้านปน แสงสลัวนั้นทำให้ทั่วรถม้าดูมีเสน่ห์และอปอุ่นขึ้นหลายส่วน
เห็นเพียงเวลานี้ ชายหนุ่มปลดเสื้อผ้าลง ก่อนค่อยๆ เข้าคร่อมทัปปนกายสาวน้อย
………………………………………………………………………………….