ภายในคุกใต้ดินไร้แสงไฟ มีเพียงหน้าต่างบนหลังคาขนาดเล็กที่ถูกเปิดไว้
เห็นเพียงเวลานี้ แสงจันทร์ใสกระจ่างนั้นสาดเข้ามาทางช่องหน้าต่างบนหลังคาขนาดเล็ก ทำให้คุกใต้ดินเล็กแคบนี้สว่างขึ้นหลายส่วน
สี่ด้านต่างคือกำแพง ภายในคุกใต้ดินไม่มีสิ่งของใด มีเพียงประตูเหล็กปิดแน่นสนิท
ซินเอ๋อร์กวาดสายตาคู่งามมองบนพื้นรอบด้านอีกครั้ง เพียงมองเห็นซินเอ๋อร์อดใจหายวาบไม่ได้!
เห็นเพียงภายในคุกใต้ดินเย็นเฉียบชื้นแฉะนี้ ไม่ได้มีเพียงเธอ ด้านข้างเธอยังมีคนที่นอนไม่ได้สติอยู่อีกหลายคน
เพราะแสงรอบด้านพร่ามัว ซินเอ๋อร์จึงมองลักษณะของคนเหล่านี้ไม่ออก แต่จากเค้าโครงรูปร่างของคนเหล่านี้ ยังสามารถมองออกว่าพวกเธอล้วนเป็นหญิงสาว!
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ เหล่าหญิงสาวที่หมดสติอยู่บนพื้น อาจเพราะฤทธิ์ยาเริ่มสลายไป พวกเธอจึงต่างครวญครางและได้สติขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าตนอยู่ในสถานที่มืดมิดเช่นนี้ หญิงสาวเหล่านั้นต่างตกใจกอดกันกลมอย่างทำตัวไม่ถูก
มีบางส่วนตกใจจนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงนั้น
อารมณ์ของซินเอ๋อร์เวลานี้เป็นดังเช่นพวกเธอ ล้วนหวาดกลัวและสับสน
เพราะเธอเป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอที่ไร้แรงเชือดไก่คนหนึ่งเท่านั้น จู่ๆ ถูกคนวางยาสลบนำตัวมายังสถานที่แห่งนี้ จึงย่อมหวาดกลัว
ทว่าขณะซินเอ๋อร์หวาดกลัว ในใจอดนึกถึงเรื่องที่ได้ฟังในโรงเตี๊ยมเมื่อครู่ขึ้นมาไม่ได้
ว่ากันว่าระยะนี้มีสาวน้อยไม่น้อยหายตัวไป จึงลือกันว่าถูกคนลักพาตัวไป จากนั้นขายให้กับเหล่าหอคณิกา
เมื่อครู่เพียงได้ยิน คิดไม่ถึงตอนนี้เธอกลับกลายเป็นหนึ่งในสาวน้อยที่หายตัวไปพวกนั้น
ซินเอ๋อร์คิดถึงตรงนี้ ในใจทั้งจนปัญญาและสับสน
ไม่รู้จริงๆ ว่าหลังจากเสี่ยวหวนไม่พบตัวเธอจะทำเช่นไร
เธอจะกลับไปรายงานเซวียนแล้วหรือไม่ หากเซวียนรู้ว่าเธอหายตัวไป ต้องร้อนใจอย่างมากแน่นอน!
เมื่อนึกถึงเซวียน ซินเอ๋อร์รวดร้าวใจ
เพราะการใกล้ชิดในสองเดือนมานี้ ค่อยๆ ทำให้เธอรู้สึกว่าความเงียบและสงบสุขเช่นนั้น เหมาะสมกับวันเวลาในตอนนี้
สำหรับเซวียน เธอยอมรับว่าตนเริ่มคุ้นเคยกับการมีเขา พึ่งพิงเขาอย่างช้าๆ และมีความรู้สึกที่ไม่รู้จักเกิดขึ้นมา
แต่คิดไม่ถึงตอนนี้กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หรือชั่วชีวิตนี้เธอจะไม่ได้เจอกับเซวียนอีกแล้ว!
ซินเอ๋อร์คิดในใจ ก่อนหัวใจจะบีบรัดคล้ายมีคนใช้มือกุมหัวใจของเธอไว้แน่น ช่างเจ็บปวดอย่างยิ่ง!
เซวียน ท่านอยู่ที่ใด ข้าหวาดกลัวยิ่งนัก…
…
ขณะเดียวอีกฟากหนึ่ง
“อะไรนะ ซินเอ๋อร์หายตัวไป!”
เสียงตะโกนอย่างไม่เชื่อหูดังออกมาจากปากของเหลิ่งอวี้เซวียน
เห็นเพียงเวลานี้ เหลิ่งอวี้เซวียนกำลังยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่โอ่อ่าตระการตา หลังได้ยินคำพูดของเสี่ยวหวน ร่างกายพลันดุจถูกฟ้าผ่าตะลึงงันอยู่ตรงนั้น ทันใดนั้นเสียงคำรามพลันออกมาจากปากเขา
“เจ้าค่ะ นายท่าน เมื่อครู่ข้าและซินเอ๋อร์ไปเดินเล่นกัน ต่อมาข้าปวดท้อง หลังเข้าห้องน้ำกลับมา ซินเอ๋อร์กลับหายตัวไป และบนพื้นมีข้าวของที่บ่าวซื้อเกลื่อนกลาดอยู่ ซินเอ๋อร์ไม่ได้บอกกับผู้ใด ข้ากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับเธอ”
เมื่อเผชิญกับเสียงตะโกนอย่างเหลือเชื่อของเหลิ่งอวี้เซวียน เสี่ยวหวนตกใจจนหดตัวลง ทว่ายังร้องไห้สะอึกสะอื้นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นออกมา
เพราะซินเอ๋อร์หายตัวไป เธอเองก็เสียใจอย่างมาก และยังต้องรับผิดชอบ
เพราะหากวันนี้เธอไม่เรียกตัวซินเอ๋อร์ออกไป ซินเอ๋อร์ก็คงไม่หายตัวไป
ยิ่งคิด เสี่ยวหวนยิ่งตำหนิตนเอง แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอทำได้คืออธิษฐานต่อสวรรค์คุ้มครองให้ซินเอ๋อร์ปลอดภัย มิฉะนั้นชั่วชีวิตนี้ของเธอคงไม่สบายใจแน่นอน
ตรงข้ามกับเสี่ยวหวน เหลิ่งอวี้เซวียนรู้สึกเพียงใจของตน หลังรับรู้ว่าซินเอ๋อร์หายตัวไปคล้ายถูกคนควักออกไป
ความหวาดกลัว ว่างเปล่าเข้าปกคลุมเขาอย่างรวดเร็ว
คิ้วน่ามองคู่นั้นขมวดมุ่นเข้าหากัน จนแทบแยกไม่ออก
ภายในดวงตาดำขลับลึกล้ำคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความจริงจังและกังวล
ผิงอันที่ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาเห็นเข้ารู้สึกแปลกใจ
เพราะเขารับใช้นายท่านมานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นนายท่านเผยแววตาจริงจังกังวลเช่นนี้ออกมา คิดดูแล้วแม่นางซินเอ๋อร์ คงสำคัญอย่างมากเหนือผู้ใดในใจของนายท่าน!
ขณะผิงอันคิดในใจ ทันใดนั้นคล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงเดินเข้าไปเอ่ยกับเหลิ่งอวี้เซวียน
“นายท่านอย่างเพิ่งร้อนใจเลย ข้านึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้เมืองหลวงเกิดคดีสาวน้อยหายตัวไปหลายเรื่อง ดูแล้วน่าจะเป็นฝีมือของพวกกลุ่มลักพาตัวกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง”
“อะไรนะ มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของผิงอัน เหลิ่งอวี้เซวียนสงบสติอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านของตนลงอย่างรวดเร็ว
เพราะด้วยนิสัยปกติ ไม่ว่าจะเผชิญกับเรื่องใด เขาต่างจัดการอารมณ์ของตนได้อย่างรวดเร็ว
เพราะหวั่นวิตกกังวล จึงรบกวนเพียงความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเขาเท่านั้น
ตอนนี้หลังได้ยินคำพูดของผิงอัน เหลิ่งอวี้เซวียนใจเย็นลง ขมวดคิ้วมุ่น พร้อมเอ่ยเสียงหนักแน่นว่า
“ผิงอัน ความหมายของเจ้าคือการหายตัวไปของซินเอ๋อร์ครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของสาวน้อยที่เกิดขึ้นในช่วงนี้หรือ!”
“ขอรับ”
หลังได้ยินคำพูดของผิงอัน เหลิ่งอวี้เซวียนขมวดคิ้วขบคิดอยู่ชั่วขณะ ทันใดนั้นใบหน้าหวั่นวิตกกลับมาเย็นชาเช่นเดิม
ทันใดนั้นเผยอริมฝีปากแดงสั่งการอย่างรวดเร็วว่า
“ผิงอัน รีบให้ทุกคนในวังออกไปค้นหา ต้องตามหาเบาะแสของซินเอ๋อร์ให้ได้!”
“ขอรับ!”
หลังได้รับคำสั่ง ผิงอันรีบพยักหน้าตอบรับ ก่อนหมุนกายจากไปทันที
ส่วนเสี่ยวหวนที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่รู้จบ ก็ถูกเหลิ่งอวี้เซวียนยื่นมือส่งสัญญานให้ออกไป
ดังนั้นภายในห้องโถงใหญ่ เหลือเพียงเหลิ่งอวี้เซวียนเพียงผู้เดียว
หลังเงยหน้ามองพระจันทร์กระจ่างใสบนท้องฟ้า เหลิ่งอวี้เซวียนนำมือไพล่หลัง ก่อนปิดตาดำขลับอันเจ็บปวดกังวลลง
“ซินเอ๋อร์ เจ้าต้องไม่เป็นอันใด ต้องไม่เป็นอันใด!”
…
เสียง ‘ปัง’ ที่ดังขึ้น ต่างทำให้เหล่าสาวน้อยที่กำลังกอดกันร้องไห้สะอึกสะอื้นในคุกใต้ดินตกใจ ทุกสายตาพากันมองยังที่มาของเสียงนั้น
เห็นเพียงประตูเหล็กที่ปิดแน่นเวลานี้ถูกเปิดออก แสงอันบาดตาสาดส่องเข้ามาจากด้านนอกทันที
เหล่าสาวน้อยที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินอันมืดมิดหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว จึงยังปรับตัวกับแสงอันร้อนแรงนี้ไม่ได้ ล้วนต่างพากันยื่นมือบดบังแสงอันบาดตานี้ไว้ และซินเอ๋อร์ก็เช่นเดียวกัน
จากแสงจันทร์ขาวใสในวันนั้นจนถึงแสงสีขาวในตอนนี้ ซินเอ๋อร์รู้ว่าฟ้าสว่างแล้ว
หลังจากเธอฟื้นขึ้นมาก็ไม่ได้หลับอีกเลย เพราะคำนวณเวลาไม่หยุด พร้อมคิดว่าต่อไปจะเกิดเรื่องใดขึ้น
กังวลและไม่สบายใจตลอดเวลา
หลังเวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า รอคอยโดยที่ไม่รู้ว่าจะเกิดโชคชะตาอันแสนเศร้าใดขึ้นกับตน ทำให้ซินเอ๋อร์หวาดผวา หวาดกลัว ก่อนค่อยๆ สิ้นหวัง
เซวียน ข้ากลัวยิ่งนัก!
ซินเอ๋อร์อธิษฐานในใจไม่หยุดให้เหลิ่งอวี้เซวียนสามารถปรากฎตัวขึ้นมาตรงหน้าเธอ
ตอนนี้ซินเอ๋อร์จึงพบว่าความจริงมีชายผู้หนึ่งกลายเป็นที่พึ่งพิงของเธอโดยไม่รู้ตัว
ขณะฟื้นได้สติถูกขังอยู่ที่นี่ ในใจและสมองของเธอต่างนึกถึงชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หล่อเหลาผู้นั้น
พร้อมอธิษฐานให้เขาปรากฎตัวขึ้นอย่างทันเวลา และช่วยเหลือเธอจากอันตรายเหมือนตกอยู่ในขุมนรกทั้งเป็นนี้
แต่หลังเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ซินเอ๋อร์จึงสิ้นหวัง
หรือเซวียนจะไม่สามารถปรากฎตัวขึ้นมาได้จริงๆ!
นั่นก็เพราะกระทั่งเธอต่างไม่รู้ว่าตนอยู่ที่ใดกันแน่ แล้วเซวียนจะรู้ได้เช่นไร!
ขณะซินเอ๋อร์คิดอย่างเศร้าโศกในใจ มีชายหนุ่มรูปร่างกำยำล่ำสันหลายคนเดินเข้ามาจากประตูเหล็กที่เปิดออกนั้นอย่างรวดเร็ว
เห็นเพียงชายหนุ่มเหล่านี้แต่ละคนหน้าตาอวดดีอย่างยิ่งดุจอันธพาล เพียงมองก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี!
หลังชายหนุ่มเหล่านี้เข้ามา เหล่าสาวน้อยที่ถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินต่างตกใจพากันกรีดร้องเสียงหลงขึ้นมา
“หยุดร้องได้แล้ว หากร้องอีก ระวังข้าจะไม่เกรงใจกับพวกเจ้า!”
สำหรับเสียงกรีดร้องของเหล่าสาวน้อย ทำให้ชายหนุ่มผู้หนึ่งพลันเผยสีหน้าไม่พอใจออกมาทันที
ทันใดนั้นจึงอ้าปากออกกว้างเผยฟันสีเหลืองในปากออกมา เสียงหยาบกระด้างดังกังวานนั้นถูกพ่นออกมาจากปากเขาทันที