ซินเอ๋อร์ลูบท้ายทอยของตน ก่อนเอ่ยอย่างเจ็บปวด
หลังเธอเอ่ยคำพูดนี้จบ รู้สึกเพียงท้ายทอยที่บาดเจ็บของตนถูกมือใหญ่เข้ามาประชิด จากนั้นมือใหญ่อีกข้างกำลังช่วยนวดที่ศรีษะของเธอ
“ขออภัย ทำให้เจ้าบาดเจ็บแล้ว”
หูได้ยินเสียงกระจ่างชัดทว่ากลับแฝงความเสียใจของชายหนุ่มขึ้นมา
ซินเอ๋อร์ได้ยินค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลง ก่อนลืมตามอง
เห็นเป็นใบหน้างดงามแฝงความหยิ่งยโสและเสียใจหลายส่วนนั้น
ทว่านี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือใบหน้านี้ใกล้อย่างมาก ห่างจากใบหน้าของเธอเพียงนิดเดียว ใกล้จนกระทั่งขนตาเรียวยาวของอีกฝ่าย เธอล้วนสามารถนับได้อย่างชัดเจน
“เอ่อ”
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้นพลันตกใจ เพราะตอนนี้เธอพบว่าตนอยู่ใกล้กับชายหนุ่มอย่างมาก และชายหนุ่มเวลานี้ยังคร่อมทับอยู่บนกายเธอ!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ตกใจจนใจหายวาบ ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นแต่ยังไม่เข้าใจ
“เป็นอันใดหรือ เอ่อ…”
ชายหนุ่มยังเอ่ยไม่จบ รู้สึกเพียงหน้าอกถูกคนออกแรงผลัก
เดิมทีเขาเพราะบาดเจ็บ จึงแทบไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้จึงถูกซินเอ๋อร์ผลักออกได้ทันที
จากนั้นรู้สึกเจ็บบนหน้าอก จนชายหนุ่มอดส่งเสียงอู้อี้ออกมาไม่ได้
รู้สึกว่าบาดแผลบนหน้าอกที่พันไว้อย่างเรียบร้อยเมื่อครู่ปริแยกออกอีกครั้ง
ส่วนทางซินเอ๋อร์นั้น หลังผลักชายหนุ่มออก รู้สึกเบาทั่วร่างกาย ทว่าเธอยังไม่ทันได้โล่งอกก็ได้ยินเสียงอู้อี้อย่างเจ็บปวดของชายหนุ่มดังขึ้นมา หัวใจจึงพลันเต้นระรัว
เพราะบนกายชายหนุ่มยังมีบาดแผลฉกรรจ์ ตอนนี้เธอออกแรงผลักขนาดนั้น
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์จึงตกใจอย่างหนัก ก่อนรีบลุกขึ้นจากพื้น ก่อนหมุนกายไปเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างกังวล
“ขออภัย ขออภัย เมื่อครู่ข้าไม่ได้ตั้งใจ!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยอย่างหวาดหวั่น บนใบหน้าเล็กนั้นก็เต็มไปด้วยความเสียใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นบนผ้าพันแผลชายหนุ่มเมื่อครู่ปรากฎเลือดสีแดงซึมขึ้นมา เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่าบาดแผลปริออกอีกครั้ง
เห็นเช่นนั้น ใบหน้าของซินเอ๋อร์พลันซีดขาว
สวรรค์ เมื่อครู่เธอไม่ควรออกแรงผลักเขาเช่นนั้น
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ ความรู้สึกผิดล้นทะลักขึ้นมาในใจอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มหลังเห็นสีหน้าหวาดหวั่นรู้สึกผิดของซินเอ๋อร์ แม้บาดแผลบนหน้าอกจะเจ็บปวดอย่างมาก แต่เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิด เขาจึงเพียงขยับริมฝีปากเอ่ยขึ้นช้าๆ
“ข้าไม่เป็นไร”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม จึงรู้ว่าเขาทำเพื่อปลอบโยนเธอ เพราะบาดแผลปริอีกครั้ง ดังนั้นจะไม่เป็นไรได้เช่นไร!
ซินเอ๋อร์ทราบดี แต่เมื่อชายหนุ่มล้วนเอ่ยเช่นนี้ เธอจะไม่เอ่ยให้มากความ เพียงเอ่ยขึ้นว่า
“มา ให้ข้าช่วยประคองท่านไปที่เตียงก่อนเถิด ตอนนี้ท่านบาดเจ็บหนัก ต่อไปห้ามลงจากเตียงตามอำเภอใจอีก มีเรื่องใดให้บอกกล่าวข้าก่อน”
ซินเอ๋อร์เอ่ยอธิบาย พร้อมโน้มตัวลงประคองชายหนุ่มลุกขึ้นจากพื้นอย่างสุดกำลังอีกครั้ง ก่อนจะประคองชายหนุ่มนอนลงบนเตียง
ส่วนชายหนุ่มเวลานี้ กลับมาสวมกางเกงขาดวิ่นตัวเมื่อครู่นั้นของตนอีกครั้ง แม้จะสามารถปกปิดท่อนล่างได้ แต่กางเกงตัวนั้นยังเปียกชื้น ดังนั้นสวมแล้วจะสบายได้อย่างไร!
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น เดินไปยังตู้เสื้อผ้าของตนก่อนรื้อค้นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบผ้าปูที่นอนบางเบาผืนหนึ่งออกมาส่งให้ชายหนุ่ม
“ท่านถอดกางเกงที่เปียกชื้นตัวนั้นออก แล้วใช้ผ้านี้ปิดท่อนล่างดีกว่า สวมกางเกงเปียกชื้นตัวนั้นไม่สบายยิ่งนัก!”
เมื่อได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มมีสีหน้าตะลึงงัน และแววตาปรากฎความแปลกใจขึ้นมา
ช่างเป็นหญิงสาวที่ละเอียดรอบคอบเสียจริง!
ความจริงเขาสวมกางเกงตัวนี้รู้สึกไม่สบายยิ่งนัก โดยเฉพาะตอนนี้ยังเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิตกดึกจึงหนาวเย็นเล็กน้อย แต่หากเขาไม่สวมกางเกงเปียกชื้นตัวนี้ ท่อนล่างจะเปลือยเปล่า ทำให้เขาไม่สบายไปทั่วร่าง
ตอนนี้เห็นสาวน้อยส่งผ้าปูที่นอนบางผืนนั้นมา ชายหนุ่มไม่พูดจาเพียงรับมาอย่างเงียบๆ
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น หมุนกายอย่างรู้ความ จนกระทั่งมีเสียงสวมใส่เสื้อผ้าสวบสาบดังขึ้นมา และสุดท้ายยังมีเสียงใสกระจ่างของชายหนุ่ม
“เรียบร้อยแล้ว”
ซินเอ๋อร์ได้ยินจึงหมุนกายกลับไป
เห็นเพียงกางเกงที่เปียกชื้นบนท่อนล่างของชายหนุ่มถูกถอดลงไป และเวลานี้ใช้ผ้าปูเตียงที่เธอมอบให้ผืนนั้นพันกายไว้
ส่วนท่อนบนกลับไร้สิ่งปกปิด เผยหน้าอกแกร่งนั้นของชายหนุ่มออกมา
ต้องเอ่ยว่ารูปร่างของชายหนุ่มยอดเยี่ยมยิ่งนัก
ผิวเป็นสีน้ำตาลอ่อนแข็งแรง แม้จะไม่มีกล้ามเนื้อกำยำ แต่รูปร่างผอมเพรียว หน้าอกเต็มไปมัดกล้าม
คล้ายกับเปี่ยมไปด้วยพลังไร้ขีดจำกัด ดุจเสือดาวแอฟริกันน่าเกรงขาม แฝงความสูงส่งและหยิ่งยโสตัวหนึ่ง!
เมื่อเห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่าของชายหนุ่ม ซินเอ๋อร์รู้สึกเขินอาย
แต่ชัดเจนว่าบาดแผลบนหน้าอกของชายหนุ่มปริแยกอีกครั้ง เพราะการผลักเมื่อครู่ของเธอ
เลือดแดงสดไหลซึมทะลุผ้าพันแผลออกมา ทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกผิดและกังวลใจ
“คือ ให้ข้าพันแผลให้ท่านใหม่อีกครั้งแล้วค่อยทานอาหารเถิด!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยขึ้น ชายหนุ่มได้ยินเพียงส่งเสียง ‘อืม’ เบาๆ เป็นการตอบรับ
ซินเอ๋อร์ได้ยินรีบนำผ้าพันแผลและขวดยาออกมาอีกครั้ง ก่อนจะคลายผ้าพันแผลบนหน้าอกที่เปื้อนเลือดผืนนั้นของชายหนุ่มออกมา
หลังคลายผ้าพันแผลออกทีละชั้น บาดแผลฉกรรจ์นั้นของชายหนุ่มปรากฎขึ้นต่อหน้าซินเอ๋อร์อีกครั้ง
ทำให้ซินเอ๋อร์เห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวนเช่นเดิม
โชคดีบาดแผลนี้ไม่ได้ลึกไปถึงหัวใจ มิฉะนั้นชายผู้นี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว!
ตกลงเป็นผู้ใดกันแน่ที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ ถึงกลับต้องการปลิดชีพของชายผู้นี้!
ขณะซินเอ๋อร์คิดในใจ พลันเอ่ยความในใจของตนออกมา
“เป็นผู้ใดกันแน่ ถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้!”
ชายหนุ่มได้ยินใบหน้างดงามพลันตะลึงงัน ทันใดนั้นคล้ายฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงยกริมฝีปากที่ซีดเซียวเพราะสูญเสียเลือดเกินไปนั้นขึ้น ก่อนยิ้มอย่างเย้ยหยันส่งเสียงฮึเย็นชาออกมา
“กระทั่งคนแปลกหน้าเช่นเจ้ายังเป็นห่วงข้า แต่คนที่ทำร้ายข้ากลับเป็น…”
เมื่อเอ่ยถึงคำสุดท้าย ชายหนุ่มชะงักลงคล้ายไม่ต้องการเอ่ยให้มากความ
ซินเอ๋อร์ได้ยินจึงไม่บีบบังคับเขา เพียงใช้ผ้าเปียกเช็ดเลือดที่บาดแผล จากนั้นใส่ยาลงไปอีกครั้งพร้อมจัดการพันแผลให้เรียบร้อย
เมื่อจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จลง ซินเอ๋อร์ก็เหนื่อยล้าอย่างมาก
หลังถอนหายใจอย่างโล่งอก เหลือบมองเห็นชามบะหมี่บนโต๊ะจึงรีบหยิบขึ้นมาทันที
“บะหมี่ใกล้จะเย็นชืดแล้ว ท่านรีบทานเถิด แม้เส้นบะหมี่จะอืดไปบ้าง แต่อย่างน้อยยังทำให้อิ่มท้อง”
ซินเอ๋อร์เอ่ย พลางเห็นสีหน้าชายหนุ่มซีดเซียว และอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด เกรงว่าอีกสักครู่เขาคงถือชามไม่ไหวจนพลิกคว่ำแน่นอน ดังนั้นจึงใช้ตะเกียบคีบบะหมี่จ่อไปที่ริมฝีปากของเขาด้วยตนเอง ก่อนเอ่ยว่า
“มา ทานเถิด!”
“เอ่อ”
เมื่อเห็นการกระทำนี้ของซินเอ๋อร์ มือที่จะยื่นออกไปที่ชามของชายหนุ่มพลันชะงักก่อนวางลงเช่นเดิม จากนั้นอ้าปากเล็กน้อยพร้อมปล่อยให้ซินเอ๋อร์ป้อนบะหมี่ทีละคำ
แม้บนใบหน้าชายหนุ่มจะเย็นชา แต่ความจริงในใจคล้ายสับสนวุ่นวาย
คิดไม่ถึงกระทั่งคนในครอบครัวต่างต้องการเข่นฆ่าเขา แต่สาวน้อยแปลกหน้านี้กลับดูแลเอาใจใส่เขาท่ามกลางอันตราย ความเมตตานี้เขาจะจดจำเอาไว้!
ขณะชายหนุ่มคิดในใจ มีความคิดหนึ่งพลันทะลักขึ้นมาในใจ
สายตาที่มองสาวน้อยแฝงไปด้วยความหนักแน่น
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น อดเอียงศีรษะก่อนเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจไม่ได้
“ท่านเป็นอันใดหรือ”
“บุญคุณในวันนี้ข้าจะจดจำไว้ เจ้าต้องการสิ่งใด เพียงเป็นสิ่งที่ข้าทำได้ ต้องทำเพื่อเจ้าแน่นอน!”
นี่คือประโยคที่ชายหนุ่มพูดยาวที่สุด ตั้งแต่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้
ซินเอ๋อร์ได้ยินตะลึงงันชั่วขณะ ก่อนส่ายหน้าพร้อมกล่าวยิ้มๆ ว่า
“ข้าไม่ต้องการสิ่งใด”
“เจ้ากลัวว่าข้าจะทำไม่ได้หรือ!”
เมื่อได้ยิน ชายหนุ่มรีบเอ่ยถามขึ้น
ซินเอ๋อร์ได้ยินพลันกล่าวยิ้มๆ ว่า
“ข้าไม่ต้องการสิ่งใดจริงๆ และครั้งก่อนท่านก็ช่วยเหลือข้าไว้มิใช่หรือ ตอนนี้ข้าช่วยท่านถือเป็นการตอบแทนบุญคุณครั้งก่อนที่ท่านช่วยเหลือข้า ดังนั้นพวกเราตอนนี้ถือว่าหายกัน!”
“ครั้งก่อน ข้าเพียงยื่นมือประคองเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ นี่จะหายกันได้เช่นไร!”
ชายหนุ่มเอ่ยปากคล้ายคิดเล็กคิดน้อยหลายส่วน และหัวคิ้วก็ขมวดเล็กน้อย
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้นยังยิ้มพลางส่ายหน้า ก่อนเอ่ยว่า
“ท่านนี่ช่างคิดเล็กคิดน้อยเสียจริง แต่สำหรับข้าแล้วครั้งก่อนท่านช่วยเหลือข้าคือเรื่องจริง มิฉะนั้นเท้าของข้าต้องบาดเจ็บรุนแรงแน่นอน เอาล่ะ อย่าพูดมากอีกเลย รีบทานบะหมี่เถิด!”
เมื่อเห็นชายหนุ่มคล้ายจะเอ่ยปาก ซินเอ๋อร์จึงนำบะหมี่ยัดเข้าจนเต็มปากของเขา
เมื่อปากถูกยัดเต็มไปด้วยบะหมี่ ทำให้ดวงตาหงส์ของชายหนุ่มเบิกกว้าง ท่าทางขวยเขินน่าขบขันนั้น ทำให้ซินเอ๋อร์อดหัวเราะอย่างหนักไม่ได้
เสียงหัวเราะสดใสดังออกมาจากปากของสาวน้อยไม่หยุดนั้น ช่างจับใจยิ่งนัก
ชายหนุ่มได้ยินคิ้วและดวงตาอดอ่อนโยนลงไม่ได้