“นอกจากนี้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเพราะอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อวาน แต่ยังหาสาเหตุไม่เจอ ภายนอกดูเหมือนว่ารถจะหลุดการควบคุม แต่ฉันคิดว่าต้องเป็นฝีมือของมือที่สามที่กลายเป็นผีแน่ๆ สงสารภรรยาและลูกของเขาที่อยู่ภายในรถตอนนั้น ต้องมาตายเพราะคนเลวสองคน! เฮ้อ… คนพวกที่จงใจชนคนสมควรตายเสียจริง!”
เธอถอนหายใจพลางส่ายหัว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอวิ๋นเจี่ยวที่ยังคงมองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าของเธอตื่นตระหนก จากนั้นจึงอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “อาจารย์…อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้หมายถึงเธอ! เรื่องก่อนหน้านี้เป็นความเข้าใจผิดของฉันอย่างแน่นอน!”
“คุณเรียกฉันว่าอวิ๋นเจี่ยวหรือหมออวิ๋นดีกว่า!” อาจารย์คืออะไรกัน
“ได้ๆ! หมอ…อวิ๋น” ยายอวี้สีหน้าเก้อเขิน ก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ที่ฉันมาวันนี้ หนึ่งเพื่อขอบคุณที่เมื่อวานช่วยฉันเอาไว้ นอกจากนี้ก็มาเพื่อขอโทษ”
“ขอโทษ?” เรื่องนี้อวิ๋นเจี่ยวไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“ใช่แล้วๆ!” ยายอวี้พยักหน้า “ฉันกลับไปคิดดูแล้ว อันที่จริงก่อนที่ฉันจะเป็นลมในวันนั้น ฉันไม่เห็นหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน เห็นเพียงเงาสีขาวเท่านั้น ต่อมาได้ยินว่าเธอเป็นคนพาฉันไปโรงพยาบาล อีกทั้งเธอยังสวมชุดกาวน์สีขาว ฉันก็เลยคิดว่า…เฮ้อ! มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด! เข้าใจผิด! มันเป็นความเข้าใจผิดของฉันอย่างแน่นอน ฉันขอโทษนะหมอ…อวิ๋น! คุณต้องยกโทษให้ฉันนะ!”
เมื่อวานเธอยิ่งนึกย้อนไปยิ่งรู้สึกผิดปกติ อาจารย์อวิ๋นสามารถจัดการกับผีสาวได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้เธอจะเป็นคนชน เธอก็สามารถทำให้ตนเองจำเหตุการณ์นี้ไม่ได้ ไม่มีท่าที่เธอจะชนแล้วไม่ยอมรับ ดังนั้นตนเองต้องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวาน อาจารย์อวิ๋นก็ได้กลายมาเป็นตัวแทนในดวงใจของเธอที่ไม่มีใครเทียบได้อีกเลย สายตาที่มองไปยังอีกฝ่ายลุกวาวเป็นประกาย
อวิ๋นเจี่ยวถูกอีกฝ่ายจ้องด้วยสายตาเร่าร้อนจนขนลุกซู่ เธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะพูดขึ้น “ลืมไปเถอะ ถ้าจะขอโทษจริงๆ ก็เอาเงินมาคืนฉัน คุณสามารถหักค่ารักษาพยาบาลของคุณได้!”
“เงิน! เงินอะไร” ยายอวี้ตะลึงครู่หนึ่ง สีหน้าฉงน
อวิ๋นเจี่ยว “…” แกล้งทำเป็นเฉย!
ในเมื่อไม่คิดจะคืนเงิน คำพูดมากมายที่เธอพูดเพียงเพื่อความสนุกสนานหรืออย่างไร อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ เธอหันกลับมาหยิบรายงานอุบัติเหตุจราจรจากใต้โต๊ะกาแฟแล้วยื่นออกไปให้อีกฝ่าย “คุณคงไม่ลืมสิ่งนี้ใช่หรือไม่!”
ด้านบนระบุค่าชดเชยจำนวนมหาศาลไว้ชัดเจน หากเธอไม่มีเงินเก็บ คาดว่าแม้แต่โฉนดที่ดินก็ต้องเอาไปจำนองให้เธอ!
ยายอวี้รับใบแจ้งในมือของเธอไปด้วยสีหน้าฉงน ก่อนจะหยิบแว่นสายตายาวของเธอออกมาสวมใส่ แล้วก้มอ่านอย่างละเอียด ใบหน้าของเธอซีดเผือดทันที ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้ สีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ “ไอ้ลูกเลว! อาจารย์อวิ๋น ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เรื่องนี้ลูกชายฉันเป็นคนจัดการ เธออย่ากังวล ฉันจะกลับบ้านตีเขาให้ตาย!” หลังจากพูดจบเธอก็เดินออกจากประตูไปอย่างโกรธเคืองพร้อมกับใบแจ้งนั้น ท่าทางราวกับจะกลับบ้านทุบตีลูกชายของตนเองทันที!
“เดี๋ยว…” อวิ๋นเจี่ยวคิดจะห้าม แต่อีกฝ่ายกลับวิ่งออกไปราวกับสายลม ไม่รู้ว่าเธอวิ่งเร็วขนาดนี้ด้วยร่างที่กลมอ้วนได้อย่างไร เธอมองลงไปที่กองอาหารเสริมบนพื้น อย่างน้อยก็เอาของพวกนี้กลับไปด้วย!
เธอถอนหายใจยาว นึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้ ไม่ว่าเรื่องที่ทำให้เธอล้มละลายนั้น หญิงชราจะไม่รู้จริงหรือไม่ก็ตาม แต่คำพูดของเธอเตือนตัวเองขึ้นมาได้ พื้นที่ที่อีกฝ่ายประสบอุบัติเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ก็อยู่ริมถนน มีรถยนต์ผ่านไปมาหลายคัน อย่างน้อยก็ต้องมีสักคันที่มีกล้องบันทึกหน้ารถยนต์ อย่างน้อยต้องมีสักคันที่ถ่ายติดเหตุการณ์ไว้บ้าง เธอสามารถขอให้ตำรวจจราจรติดต่อเจ้าของรถยนต์ คืนความบริสุทธิ์ให้ตนเอง
…
อวิ๋นเจี่ยวยังไม่ทันได้ไปหาตำรวจจราจรเพื่อคืนความบริสุทธิ์ของตนเอง โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนมีเงินเข้าบัญชีในวันรุ่งขึ้น จำนวนเงินนั้นเป็นจำนวนเงินที่เธอจ่ายให้กับหญิงชรา เธอยังคิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอย่างไร ยายอวี้ก็มาหาถึงที่อีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น แต่ยังเป็นชายวัยกลางคนร่างอ้วนที่พบหน้าในลานจอดรถครั้งก่อนอีกด้วย
เธอเกิดความระแวงขึ้นตามสัญชาตญาณ ครอบครัวนี้ต้องการอะไร ทำไมถึงไม่จบไม่สิ้นสักที
“อาจารย์…อ่อ ไม่ หมออวิ๋น ขอโทษจริงๆ เรื่องก่อนหน้านี้พวกเราเข้าใจผิดจริงๆ ฉันพาลูกมาเพื่อขอโทษด้วย” พูดจบเธอยังถีบลูกชายที่อยู่ด้านข้างหนึ่งที
ชายร่างอ้วนถูกแม่ของตนถีบเซไปด้านหน้า เขามองไปยังอวิ๋นเจี่ยวรู้ด้วยความรู้สึกผิด เกาหัวที่มีผมอยู่น้อยนิด ก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะขึ้นมา “คือ…คุณอวิ๋น ผมขอโทษครับ! เมื่อวานผมไปพบตำรวจจราจรเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ พร้อมกับติดต่อเจ้าของรถยนต์ที่วิ่งผ่านบริเวณนั้นในวันนั้น ดึงภาพกล้องบันทึกหน้ารถยนต์ของพวกเขามา ถึงได้รู้ว่าคุณไม่ได้ชนแม่ของผม แต่กลับช่วยชีวิตแกไว้ ก่อนหน้านี้เป็นความเข้าใจผิดของพวกเราเอง ขอโทษครับ!”
พุดจบ เขาโค้งคำนับต่อเธออย่างเคร่งขรึม ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเรื่องราวจะพลิกผันเช่นนี้ ก่อนที่แม่ของตนเองถูกคนชน อีกทั้งยืนกรานว่าเป็นเธอ ในฐานะลูกชาย เขายืนอยู่ข้างแม่ของตนอย่างไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งถูกความโกรธพัดพาไป ไม่มีหลักฐานแล้วอย่างไร ด้วยสถานะปัจจุบันของเขา แค่ใช้ความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยก็ทำให้อีกฝ่ายชดเชยจนล้มละลาย อีกทั้งยังคิดจะทำให้อีกฝ่ายต้องชดเชยมากกว่านี้เสียอีก
แต่ใครจะไปรู้ เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน แม่ของเขาจะกลับคำ! นอกจากบังคับให้เขาต้องมาขอโทษแล้ว ยังเรียกอีกฝ่ายว่าอาจารย์อีก ตอนแรกเขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ใช้กลอุบายบางอย่างในการเกลี้ยกล่อมแม่ของเขา ทำให้แม่ของเขาหลงเชื่อ ดังนั้นจึงแอบสืบอย่างลับๆ อีกทั้งยังส่งเรื่องก่อนหน้านี้ไปยังตำรวจจราจรเพื่อจัดการอีกครั้ง
ใครจะรู้ว่าการจัดการในครั้งนี้จะทำให้พวกเขารู้ว่าคาดโทษผิดคน! แม่ของตนไม่ได้ถูกชน แต่ลื่นล้มเองที่ริมถนน อีกฝ่ายไม่เพียงไม่ได้ชนคน อีกทั้งยังช่วยส่งคนไปโรงพยาบาลอีกด้วย พวกเขามองผู้บุญคุณเป็นศัตรู อีกทั้งยังทำให้อีกฝ่ายล้มละลายไม่พอ แม้แต่การงานก็ต้องสูญเสียไปด้วย
เหลยไห่เฉารู้สึกเสียใจจริงๆ ดังนั้นคำขอโทษนี้จึงเต็มไปด้วยจริงใจ ไม่เพียงแต่คืนเงินให้อีกฝ่ายทันที เขายังหยิบการ์ดออกมายื่นให้อีกฝ่าย
“คุณอวิ๋น โปรดรับสิ่งนี้ไว้! แม้ว่าเงินจะไม่มาก แต่ก็เป็นน้ำใจของพวกเรา”
อวิ๋นเจี่ยวตาเป็นประกายขึ้นมาทันใด อยากจะพุ่งเข้าไปหยิบมันใส่กระเป๋าอย่างควบคุมไม่อยู่ เธอตกใจกับความวู่วามของตนเองเช่นนี้ ทั้งที่เธอไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงินมากขนาดนั้น ทำไมจู่ๆ เธอถึงมีความคิดที่ใจร้อนเช่นนี้? ดูเหมือนอยากหาเงินเพิ่มแบบอธิบายไม่ถูก ถ้ามีเงินก็จะทำ… ทำอะไรได้? เธอนึกไม่ออก ทำได้เพียงเหม่อลอย