“ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อน! พวกคุณค่อยๆ คุยกัน!” อวิ๋นเจี่ยวเห็นคนในครอบครัวของหญิงชรามา เธอก็ไม่มีทีท่าจะอยู่ต่อ
“อาจารย์ จะไปแล้วเหรอ ไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอ ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเลย”
“ไม่เป็นไร ฉันยังมีธุระสำคัญ!”
“อ่อ” หญิงชราไม่ได้รั้งคนเอาไว้ “ได้ๆๆ ไม่รบกวนอาจารย์แล้ว”
อวิ๋นเจี่ยวหันหลังเดินตรงไปยังรถยนต์ของตนเอง ชายวัยกลางคนพูดขึ้น
“เดี๋ยวก่อน!”
อวิ๋นเจี่ยวหันกลับมา คิ้วของอีกฝ่ายขมวดแน่นกว่าเดิม ก่อนจะพูดด้วยความลังเล “เมื่อกี้ ขอบคุณมาก!” เขาหมายถึงเรื่องที่เธอพยุงหญิงชรา
“ไม่เป็นไร!” หากต้องการขอบคุณจริงๆ ก็เอาเงินมาคืนฉันสิ แต่ดูจากท่าทางของเขา คงจะไม่เชื่อว่าเธอไม่ได้ชนคน
อวิ๋นเจี่ยวขับรถยนต์ออกไป หญิงชรามองส่งอวิ๋นเจี่ยวจากไปด้วยสีหน้าตื่นเต้นและชื่นชม เธอนึกย้อนไปถึงประสบการณ์บนทางบันไดก็รู้สึกราวกับฝันไป แต่เธอมั่นใจอย่างมากว่าตนเองพบเข้ากับอาจารย์มากฝีมือ
“แย่แล้ว!” หญิงชราร้องเสียงหลงออกมา
“เกิดอะไรขึ้นครับแม่”
“ฉันลืมถามว่าอาจารย์พักอยู่ที่ไหน ไม่มีที่อยู่ฉันจะไปหาเธอได้อย่างไร!”
“แม่จะหาเธอทำไม” สีหน้าของลูกชายไม่เห็นด้วยอย่างมาก
“ขอบคุณเธอสิ เมื่อกี้เธอช่วยฉันเอาไว้” หญิงชราสีหน้าร้อนใจ ครุ่นคิดก่อนจะถอนหายใจออกมา “ช่างเถอะ อย่างน้อยพวกเราก็รู้ว่าเธอเป็นหมอของโรงพยาบาลอันดับหนึ่ง ถึงเวลาไปถามที่โรงพยาบาลก็รู้แล้ว ลูกเอ๊ย ต่อจากนี้เจอหน้าเธอต้องเกรงใจหน่อยนะ อาจารย์คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา!”
“รู้แล้วครับแม่” ชายวัยกลางคนร่างอ้วนรับปาก แต่ภายในใจไม่เห็นด้วยอย่างมาก แต่ดูจากแม่ของตนเองเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเธอไป เรื่องที่เธอชนคนก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่คิดจะเอาเรื่องอีก อย่างไรก็ชดใช้มาแล้ว
…
อวิ๋นเจี่ยวคิดถึงเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลมาทั้งวัน เธอคิดไม่ตกว่าตนเองวาดยันต์ออกมาได้อย่างไร ทั้งที่เธอไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางเหล่านี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแตะต้องใกล้ชิด อีกทั้งยี่สิบแปดปีมานี้ เธอเป็นอเทวนิยมอย่างเต็มตัว
ทำไมหลังจากที่ดวงตาเกิดปัญหา เธอกลับสามารถขับไล่ผีได้โดยไม่ต้องมีคนสอน อีกทั้งเธอนึกย้อนไปถึงความรู้สึกก่อนหน้านี้ ยันต์นั้นราวกับปรากฏขึ้นในสมองของเธออย่างกะทันหัน เพียงแค่ยกมือก็วาดออกมาได้ อีกทั้งตอนนั้นเธอไม่มีกระดาษเหลืองและหมึกแดง เพียงแค่วาดลงกลางอากาศ ยันต์ที่ประกอบจากแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นมันแตกต่างจากวิธีการของหมอผีในละครโทรทัศน์และภาพยนตร์อย่างสิ้นเชิง
อีกทั้งเข็มสีทองที่เธอใช้ตอนที่ช่วยเหลือผู้ป่วยอุบัติเหตุรถยนต์ เธอมั่นใจอย่างมากว่าตนเองไม่เคยพกสิ่งของเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งเธอเป็นแพทย์แผนตะวันตก สิ่งที่แพทย์แผนจีนใช้เธอไม่เคยศึกษามาก่อนแม้แต่น้อย เหตุใดเธอจึงเชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มภายในค่ำคืนเดียว
ภายในใจของเธอรู้สึกว่า สิ่งที่ตนเองใช้ไม่เพียงแต่เป็นการฝังเข็มเท่านั้น แต่เธอก็คิดไม่ออกว่าสิ่งนั้นคืออะไร
ไม่ว่าอวิ๋นเจี่ยวจะนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจมันอีก อาจเป็นเพราะความกดดันที่มากในช่วงระยะนี้ ทำให้เกิดอาการผิดปกติ เธอมั่นใจยิ่งขึ้นว่าการลาออกของตนเองเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ครั้งนี้ช่วยคนได้เพราะความบังเอิญ ใครจะรู้ว่าครั้งหน้าจะโชคดีแบบนี้อีกหรือไม่ การแพทย์ไม่อาจมีข้อผิดพลาดได้!
เธอปลอบใจตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเพิกเฉยแต่เงาแปลกประหลาดเหล่านั้น ข่มต้นหญ้าแห่งความเชื่องมงายเอาไว้ ยึดมั่นในอเทวนิยม เวลานี้มีคนเดินทางมาหาถึงหน้าประตู
“อาจารย์อวิ๋น อรุณสวัสดิ์!” ในขณะที่กำลังก้าวออกจากบ้าน เธอก็พบเข้ากับใบหน้ากลมราวดอกเก๊กฮวย
อวิ๋นเจี่ยวผงะไป ก่อนจะเกิดความคิดอยากปิดประตูทันที
“เธอจำฉันไม่ได้เหรอ ฉันคือยายแก่ตระกูลอวี้ อวี้เจวี๋ยไง! เมื่อวานเธอช่วยฉันเอาไว้ด้วย”
“อวี้…คุณยาย!” มุมปากของอวิ๋นเจี่ยวกระตุกเล็กร้อย การตกทรัพย์ในครั้งนี้ไม่จบไม่สิ้นแล้ว? “คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันอยู่ที่นี่”
“ลูกชายฉันสืบมา!” ยายอวี้พูด “ลูกชายฉันก็มีประโยชน์แค่นี้”
“คุณ…มีธุระกับฉัน?”
“ฉันมาเพื่อขอบคุณ” ยายอวี้ยิ้มราวดอกเก๊กฮวยผลิบาน เธอหันไปหยิบถุงเล็กถุงน้อยขึ้นมา “มาๆๆ ของพวกนี้ฉันพกมาเพื่อตอบแทน ล้วนเป็นสิ่งบำรุงเลือดลมอย่างดี ส่วนใหญ่ลูกฉันเอาจากมาต่างประเทศด้วย! หากไม่พอ ฉันยังมีอีกมากนะ”
อวิ๋นเจี่ยวไม่กล้ารับ เพระมีบทเรียนการถูกตกทรัพย์จนหมดบัญชีก่อนหน้านี้ ใครจะรู้ว่าครั้งนี้เธอมาเพื่อเอาบ้านหรือไม่
“มาๆๆ เธอเอาไปวางก่อน ด้านล่างยังมีอีก!” ยายอวี้ไม่รับรู้ถึงความไม่เต็มใจของอีกฝ่าย เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่รับ เธอก็เริ่มยัดของทีละชิ้นเข้าบ้านของอีกฝ่าย จนกระทั่งประตูบดบังเต็มไปด้วยของ นอกจากนี้ยังเบียดร่างอ้วนของตนเองเข้ามาด้วย
จนกระทั่งถุงสุดท้ายถูกหิ้วเข้ามา เธอจึงเงยหน้ามองภายในห้อง ถามขึ้น “อาจารย์อวิ๋น บ้านเล็กไปหน่อยหรือไม่”
“…” อวิ๋นเจี่ยวใจเต้น เป้าหมายคือบ้านของเธอจริงด้วย!
“กี่ตารางเมตร” ยายอวี้ถาม
“หนึ่ง…ร้อยสอง”
“มิน่าถึงเล็กขนาดนี้!” ยายอวี้อุทาน
“…” ไม่เล็กเสียหน่อย เธอใช้เงินเก็บของตนเองหลายปีกว่าจะจ่ายงวดแรกได้ อีกทั้งเงินเก็บสำหรับการจ่ายค่ากู้บ้านยังถูกยายอวี้ตกไปอีก
อวิ๋นเจี่ยวมองดูประตูที่กองเต็มไปด้วยของ ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายออกมาทีหนึ่ง “คุณต้องการอะไร” เธอไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายมาเพื่อส่งของพวกนี้
“ฉันบอกแล้วไงว่ามาขอบคุณ!” ยายอวี้ยิ้มสดใส “เมื่อวานหากไม่ใช่เธอช่วยฉันเอาไว้ ยายแก่อย่างฉันไม่ถูกผีสาวนั้นฆ่าตาย ก็ถูกเธอทำให้ตกใจตาย ยายแก่อย่างฉันไม่เคยทำเรื่องไม่ดีอะไร ทำไมถึงพบกับเรื่องแบบนี้นะ”
“…” คุณมองหน้าฉันแล้วพูดอีกที คุณไม่เคยทำอะไรนะ
“เฮ้อ ยังดีๆ ฉันได้เจอกับคนดีอย่างอาจารย์ ถึงได้เปลี่ยนเรื่องร้ายกลายเป็นดี จริงสิ!” เธอนึกบางอย่างได้ เดินเข้าใกล้อีกฝ่าย ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “เมื่อวานฉันให้ลูกไปสืบ สุดท้ายเธอคิดว่าอย่างไร ผู้ชายที่พวกเราช่วยในลิฟต์นั้นต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม เหมือนที่ผีสาวพูด เขาชื่อฉีหมินเจ๋อ มีภรรยาแล้วยังมีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับมือที่สาม ต่อมากลัวว่าจะถูกภรรยารู้เข้า จึงคิดจะเลิกรา แต่อีกฝ่ายไม่ยอม ผู้ชายคนนั้นก็โหดเหี้ยมพอควร เขาขับรถยนต์ชนมือที่สามกลิ้งตกเขาไป อีกทั้งพื้นที่บริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด จึงหาตัวผู้ร้ายไม่เจอ”
“แต่เขาคงไม่คิดว่าบนรถยนต์ของผู้หญิงคนนั้นเพิ่งติดกล้องบันทึกหน้ารถยนต์ หลายวันก่อนตอนที่ตำรวจค้นหาตามแนวเขา พวกเขาค้นพบกล้องบันทึกหน้ารถยนต์ที่เสียหาย หลังจากที่กู้ข้อมูลด้านในกลับมา กล้องนั้นถ่ายหน้าของเขาไว้อย่างชัดเจน ตอนนี้เขายังไม่ฟื้น แต่ตำรวจก็บุกไปหาถึงที่โรงพยาบาลแล้ว คิดว่าไม่มีสิบกว่าปีคงออกมาไม่ได้!”