ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด 355 ชมทะเลด้วยกัน

ตอนที่ 355 ชมทะเลด้วยกัน

อวิ๋นเจี่ยว​กลืน​คำ​เรียก​ที่​กำลังจะ​พูด​ออกมา​กลับ​ไป นาง​จำคน​ตรงหน้า​ได้​ทันที​ “เทพ​ปีศาจ!”

ถึงแม้จะมีใบ​หน้าที่​เหมือนกัน​ แต่​นาง​สามารถ​แยกแยะ​ความแตกต่าง​ของ​คน​ทั้งสอง​ในทันที​ ถึงจะไม่หน้า​นิ่ง​ แต่​ไม่มีสีหน้า​อื่น​นอกจาก​เย็นชา​และ​เขินอาย​ คน​ตรงหน้า​ก็​แค่​ของปลอม​คุณภาพ​เท่านั้น​!

“เทพ​ปีศาจเป็น​คำ​เรียก​ที่​คนอื่น​เรียก​ข้า​ เจ้าเรียก​ข้า​ว่า​ซื่อ​ไป๋ได้​!” เขา​ไม่ใส่ใจที่​ถูก​อีก​ฝ่าย​จับได้​ เพียงแต่​หยุด​ลง​ข้าง​ตัวนาง​ ความอาฆาต​ภายใน​ดวงตา​หาย​ไปจน​หมดสิ้น​ แตกต่าง​จาก​ท่าทาง​ก่อนหน้านี้​อย่าง​สิ้นเชิง​ อีก​ทั้ง​ยัง​แสดงออก​ถึงความ​…เมตตา​อย่าง​ประหลาด​ สายตา​ที่​มอง​นาง​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​หวาน​หยาดเยิ้ม​

อวิ๋นเจี่ยว​ผงะ​ไปเล็กน้อย​ ก่อน​จะพูด​ออกมา​ “สมอง​ท่าน​น้ำ​เข้า​หรือ​?” ก่อน​หลัง​แตก​ต่างกัน​มาก​เพียงนี้​

“…” สีหน้า​ของ​ซื่อ​ไป๋แข็ง​ไปเล็กน้อย​ มีความ​บิดเบี้ยว​ขึ้น​มาแวบ​หนึ่ง​ ก่อน​จะฟื้น​กลับมา​ใน​ท่าทาง​อ่อนโยน​ ราวกับ​ไม่ได้ยิน​ที่​อีก​ฝ่าย​พูด​ “ก่อนหน้านี้​เป็นเรื่อง​เข้าใจผิด​ ข้า​ล่วงเกิน​เจ้า หวัง​ว่า​เจ้าจะไม่ถือโทษ​ วางใจ​ ข้า​ไม่มีทาง​ทำร้าย​เจ้า”

“…” อวิ๋นเจี่ยว​สงสัย​

“เอาเถิด​ เจ้าจะเชื่อ​ข้า​เอง​” อีก​ฝ่าย​ไม่มีทีท่า​โกรธเคือง​ ยกมือ​เสกคาถา​หนึ่ง​ต่อ​นาง​

อวิ๋นเจี่ยว​รู้สึก​เพียง​ตัวเบา​ ร่างกาย​ที่​มีอาการ​เจ็บปวด​เล็กน้อย​ฟื้น​กลับ​ไปเป็น​สภาพเดิม​ แม้แต่​พลัง​ลมปราณ​ก็​ฟื้น​คืน​กลับมา​ สีหน้า​ของ​นาง​ไม่เปลี่ยนแปลง​ แต่​สายตา​ที่​มอง​ไปยังอีก​ฝ่าย​ยิ่ง​ระแวง​มากขึ้น​ ถึงแม้จะไม่รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​ต้องการ​อะไร​ แต่​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​แน่​

“ท่าน​มีความแค้น​อะไร​กับ​อาจารย์​ปู่”

“อาจารย์​ปู่?” เขา​ผงะ​ไป ก่อน​จะเข้าใจ​ว่า​นาง​พูดถึง​เยี่ย​ยวน​ เขา​ไม่ได้​ปิดบัง​เพียงแต่​พยักหน้า​พูด​ขึ้น​ “ถือว่า​มีความแค้น​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​ความแค้น​ที่​แก้ไข​ไม่ได้มา​หลาย​ชาติ​ภพ​”

“ดังนั้น​…ท่าน​จะใช้ข้า​ข่มขู่​อาจารย์​ปู่?”

“ไม่ใช่” เขา​ปฏิเสธความคิด​นี้​ ก่อน​จะมอง​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เจ้าวางใจ​ หาก​ข้า​จะฆ่าเขา​ ข้า​จะลงมือ​เอง​ ไม่ต้อง​ใช้กลอุบาย​ข่มขู่​เช่นนี้​ เพียงแต่​พวก​ข้า​สู้กัน​มานาน​ จนถึง​เวลานี้​ยัง​แยก​แพ้ชนะ​ไม่ได้​ อีก​ทั้ง​ตอนนี้​คำสาป​ใจเดียว​ที่​เขา​ลง​อยู่​บน​ตัว​เจ้าถูก​ข้า​ทำลาย​ คงจะ​ถูก​พลัง​สะท้อน​กลับ​ หาก​ลงมือ​ตอนนี้​ ข้า​คงจะ​ชนะ​อย่าง​ไร้​ความยุติธรรม​”

“…” ท่าน​เป็น​คน​มีหลักการ​เพียงนี้​?

“ตอนที่​เจ้าสลบ​ ข้า​ไปดินแดน​มนุษย์​มาเพื่อ​ทำความเข้าใจ​ใน​การเปลี่ยนแปลง​ของ​หนทาง​แห่ง​สวรรค์​เมื่อ​หลาย​ปีนี้​ พบ​ว่า​เหมือน​ที่​อิ้ง​หลุน​พูด​ เจ้าไม่ใช่คน​ดินแดน​อื่น​ที่​ทำลาย​กฎเกณฑ์​ ดังนั้น​ข้า​คิดได้​แล้ว​” เขา​กวาดตา​มอง​นาง​ ก่อน​จะอธิบาย​ต่อ​ “ข้า​จะไม่ทำร้าย​เจ้า อีก​ทั้ง​หาก​โลก​ใบ​นี้​วุ่นวาย​ ดินแดน​มืด​จะยิ่ง​ได้เปรียบ​ไม่ใช่หรือ​”

ดินแดน​มืด​? อวิ๋นเจี่ยว​ขมวดคิ้ว​ นาง​ได้ยิน​คำ​นี้​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​แล้ว​ ปีศาจงูก่อนหน้านี้​ก็​เคย​พูดถึง​คำ​นี้​เช่นเดียวกัน​ ตอนแรก​นาง​คิด​ว่า​สิ่งที่​อีก​ฝ่าย​พูด​หมายถึง​คำ​เรียก​เซิน​ยวน​ใน​อีก​รูปแบบ​หนึ่ง​ แต่​เมื่อ​ครุ่นคิด​แล้ว​เหมือน​จะไม่ใช่

“อาวุธ​คำสาป​พวก​เจ้าเอา​ไปแล้ว​ เมื่อ​รอ​เยี่ย​ยวน​ฟื้น​จาก​การ​ถูก​พลัง​สะท้อน​กลับ​ อีกไม่นาน​คงจะ​ตื่นขึ้น​ ดังนั้น​ช่วง​เวลานี้​เจ้าต้อง​อยู่​ที่นี่​เป็นการชั่วคราว​” เขา​หันไป​มอ​งอ​วิ๋นเจี่ยว​ บน​ใบหน้า​ยังคง​มีรอยยิ้ม​อ่อนโยน​เหมือนเคย​ ราวกับ​รู้สึก​ผิด​ต่อ​นาง​จริงๆ​

ภายในใจ​อวิ๋นเจี่ยว​ยิ่ง​ระแวง​เขา​มากขึ้น​ นาง​รู้สึก​ว่า​คน​ตรงหน้า​มีบางอย่าง​ที่​แปลกประหลาด​ ถึงแม้จะดูเหมือน​มีความจริงใจ​ แต่​นาง​รู้สึก​ว่า​อีก​ฝ่าย​กำลัง​วางแผน​บางอย่าง​อยู่​ แต่​จาก​สถานการณ์​ใน​ตอนนี้​ นาง​ไม่มีอันตราย​ต่อ​ชีวิต​อะไร​แล้ว​ บางที​อาจจะ​อยู่รอด​จนถึง​ตอนที่​อาจารย์​ปู่มาช่วย​

ดังนั้น​นาง​จึงไม่ได้​เปิดโปง​อีก​ฝ่าย​ เพียงแค่​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ๆ ก่อน​จะมอง​ไปรอบด้าน​ด้วย​ใบหน้า​นิ่ง​ของ​ตน​ พร้อมกับ​เปลี่ยน​หัวข้อ​บทสนทนา​ “ที่นี่​ที่ไหน​”

ตอนนี้​พวก​นาง​อยู่​บน​ทุ่ง​ดอกไม้​ที่​ไร้​จุดสิ้นสุด​ บริเวณ​รอบด้าน​อบอวล​ไปด้วย​หมอก​สีม่วง​ แสงอาทิตย์​สาดส่อง​ลง​มาจาก​ด้านบน​ ทำให้​บริเวณ​แห่ง​นี้​ราวกับ​เทพนิยาย​ เหมือน​เปิด​ภาพ​เอฟเฟกต์​หลาย​สิบ​ระดับ​

นาง​แยก​ไม่ออ​กว่า​คือ​ที่ไหน​ ดู​ไม่เหมือน​สถานที่​ใน​สามโลก​ ยิ่ง​ไม่เหมือน​ดินแดน​ปีศาจหรือ​เซิน​ยวน​

“ที่นี่​คือ​อาณาเขต​ของ​ข้า​” ราวกับ​รับรู้​ถึงความสงสัย​ของ​นาง​ ซื่อ​ไป๋จึงอธิบาย​ขึ้น​ “เป็น​พื้นที่​ที่อยู่​นอกเหนือจาก​ดินแดน​ทั้ง​หก​ เป็น​บริเวณ​ที่​ควบคุม​โดย​ข้า​อย่าง​แท้จริง​” ไม่มีคนอื่น​เข้ามา​ได้​

“ดินแดน​ทั้ง​หก​?” ไม่ใช่มีเพียง​สามดินแดน​หรือ​ นาง​รู้​ว่า​มีอาณาเขต​ เพราะ​ปีศาจงูก่อนหน้านี้​เคย​พูดถึง​ นาง​เดา​ว่า​มัน​คงจะ​เป็น​มิติ​ที่​ใช้พลัง​ของ​ตนเอง​สร้าง​ขึ้น​ สามารถ​ควบคุม​ด้วย​ตนเอง​ได้​ หาก​ผู้​ที่​มีพลัง​ไม่แข็งแกร่ง​มาก​อย่าง​ปีศาจงู อาณาเขต​ที่​สร้าง​ออกมา​ได้​ก็​มีเพียง​พื้นที่​ที่​มีอยู่​ก่อน​แล้ว​ แต่​หาก​แข็งแกร่ง​ดุจดั่ง​เทพ​ปีศาจ คงจะ​สามารถ​สร้าง​อาณาเขต​ออกมา​ได้​เอง​เลย​ เมื่อ​คิดได้​ดังนี้​ ราวกับว่า​สถานที่​ที่​อาจารย์​ปู่หลับใหล​ก็​เป็น​อาณาเขต​เช่นนี้​เหมือนกัน​

แต่​ดินแดน​ทั้ง​หก​คือ​อะไร​กัน​ เหมือน​จะเคย​ได้ยิน​จี้เฟิงพูดถึง​ เพียงแต่​นาง​ไม่ได้​คิดลึก​ลง​ไป

“เซียน​ เทพ​ ยมโลก​ มนุษย์​ ปีศาจและ​เซิน​ยวน​ คือ​ดินแดน​ทั้ง​หก​” ซื่อ​ไป๋พูด​ “เซิน​ยวน​และ​ดินแดน​เทพ​แตกต่าง​จาก​ดินแดน​อื่น​ทั้ง​สี่ ทั่วไป​ติดต่อ​ยาก​กับ​ดินแดน​อื่น​ อีก​ทั้ง​ดินแดน​ปีศาจถูก​ผนึก​ พวก​เจ้าจึงรู้​เพียง​ดินแดน​ทั้ง​สาม”

เขา​หันมา​มอง​นาง​ ก่อน​จะนึก​บางอย่าง​ได้​ จึงพูด​เสริม​ขึ้น​ “ก่อนหน้านี้​ข้า​ใจร้อน​ไป เพื่อ​เป็นการ​ขอโทษ​ ข้า​ให้​เจ้าขอ​ได้​หนึ่ง​อย่าง​ ไม่ว่า​เรื่อง​ใด​ข้า​ล้วน​รับปาก​เจ้า”

อวิ๋นเจี่ยว​มอง​เขา​อย่าง​ประหลาดใจ​ “จริง​หรือ​”

“แน่นอน​!” เขา​พยักหน้า​ “ถึงแม้ข้า​จะเป็น​ปีศาจ แต่​ข้า​ก็​เป็น​เทพ​เช่นเดียวกัน​ พูด​คำ​ไหน​คำ​นั้น​!”

“ท่าน​ปล่อย​ข้า​กลับ​ไป!”

“…ไม่ได้​!”

“เช่นนั้น​ท่าน​จะพูด​ทำไม​!” อวิ๋นเจี่ยว​กลอก​ตาขาว​สำเร็จ​เป็นครั้งแรก​ บอ​กว่า​อะไร​ก็ได้​ หลอก​ใคร​กัน​!

“…” ซื่อ​ไป๋มุมปาก​กระตุก​เล็กน้อย​ หญิงสาว​ตรงหน้า​เหมือน​จะหลอก​ยาก​ เขา​กระแอม​ไอ​ครั้งหนึ่ง​ “แค่​ก​ นอกจาก​เรื่อง​นี้​ เจ้าอยาก​ไปที่ใด​ก็ได้​ทั้งสิ้น​”

“ไม่ต้อง​”

“อย่า​พูด​เด็ดขาด​เช่นนี้​ สถานที่​น่าสนุก​ใน​โลก​มีมากมาย​ ไม่แน่​ว่า​เจ้าอาจ​มีที่​ที่​อยาก​ไป! ตาม​ข้า​มา…” พูด​จบ​ เขา​ไม่รอ​อีก​ฝ่าย​ตอบรับ​ ยื่นมือ​ออกมา​ดึง​นาง​เอาไว้​ นาที​ถัดมา​แสงสีขาว​สว่าง​ขึ้น​ ก่อนที่​คน​ทั้งสอง​จะออกจาก​อาณาเขต​ไป

อวิ๋นเจี่ยว​รู้สึก​เพียง​ตาลาย​ นาที​ถัดมา​ก็​มายืน​อยู่​ใน​สถานที่​ที่​เต็มไปด้วย​พลัง​เซียน​ ดูเหมือน​จะเป็น​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​โลก​เซียน​ พวกเขา​กำลัง​ยืน​อยู่​บน​ภูเขา​แห่ง​หนึ่ง​ ตรง​หน้าเป็น​ทะเล​หมอก​ที่​ไร้​จุดสิ้นสุด​

นาง​ยัง​ไม่เข้าใจ​ว่า​อีก​ฝ่าย​พา​ตนเอง​มาที่นี่​ด้วย​เหตุใด​ แต่กลับ​ได้ยิน​อีก​ฝ่าย​พูด​ขึ้น​ “มาแล้ว​!”

“อืม​?” นาง​ผงะ​ไป ก่อน​จะได้ยิน​เสียง​บางอย่าง​ลอย​ออก​มาจาก​ท่ามกลาง​ชั้น​เมฆ ชั้น​เมฆตรงหน้า​ซัด​ไปด้านหน้า​ ร่าง​กึ่ง​โปร่งใส​ขนาดใหญ่​มุด​ออก​มาจาก​ตรงกลาง​ กระโดด​พุ่งตัว​ขึ้น​บน​ท้องฟ้า​ สิ่งนั้น​มีขนาดใหญ่​มาก​ ลักษณะ​คล้าย​กับ​ปลาวาฬ​ เพียงแต่​รอบตัว​มีปีก​ขนาดใหญ่​ราวกับ​ปีก​ของ​แมลง​ ปีก​ของ​มัน​เมื่อ​กระทบ​เข้ากับ​แสงอาทิตย์​จะประกาย​แสงเจ็ด​สี อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่ได้​มีเพียง​ตัว​เดียว​ เห็น​เพียง​ปลา​ใหญ่​ตัว​แล้ว​ตัว​เล่า​มุด​ออก​มาจาก​ชั้น​เมฆ ก่อน​จะจมหาย​กลับ​ไป

ท่ามกลาง​ทะเล​หมอก​นั้น​มีลำน้ำ​ที่​ก่อเกิด​จาก​เมฆพ่น​ออกมา​พุ่ง​ทะยาน​ขึ้น​ฟ้า นาที​ถัดมา​ เห็น​เพียง​บน​ท้องฟ้า​ปรากฏ​แสงเจ็ด​สีบริเวณ​กว้าง​ ก่อน​จะร่วงหล่น​ลงมา​ราวกับ​สายรุ้ง​ จมหาย​เข้าไป​ใน​ชั้น​เมฆ ราวกับ​มีคน​กำ​ลังสาด​สีต่างๆ​ อยู่​ด้านบน​

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Score 10
Status: Completed

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี!

ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?)

ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน

ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง

รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Options

not work with dark mode
Reset