ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด 340 มุ่งหน้าสู่ดินแดนปีศาจ

ตอนที่ 340 มุ่งหน้าสู่ดินแดนปีศาจ

หลง​ฉางไม่รอ​อีก​ฝ่าย​พูด​จบ​ เขา​ผลัก​ชาย​แก่​ออก​ ก่อน​จะพูด​อย่าง​ร้อนใจ​ “เจ้าหลบ​ไป​! คน​ที่​ข้า​เป็นห่วง​คือ​ศิษย์​หลาน​” อย่า​ว่าแต่​อาจารย์​ตอนนี้​ยัง​ไม่เป็นอัน​ใด​ ถึงแม้จะเป็นอัน​ใด​ หาก​เขา​ตื่นขึ้น​มาพบ​ว่า​ตนเอง​ยอมให้​ศิษย์​หลาน​เสี่ยงอันตราย​เช่นนี้​ คง​ต้อง​ตี​ขา​เขา​หัก​เป็นแน่​

ชาย​แก่​: “…” อย่าง​น้อย​ข้า​ก็​เรียก​ท่า​นอ​ว่า​อาจารย์​อานะ​!

“อาจารย์​อา​ใหญ่​ บน​ตัว​ข้า​มีวิชา​เวท​ที่​อาจารย์​ปู่​ลง​เอาไว้​” อวิ๋นเจี่ยว​จึงทำได้​เพียง​เล่า​เหตุการณ์​ปีศาจ​เลือด​ลอบทำร้าย​เธอ​ใน​วันนั้น​ออกมา​ เพียงแต่​ปิดบัง​เรื่อง​ที่​หมี​โคอาล่า​บาง​ตัว​กอด​เธอ​นับ​ชั่ว​ยาม​เอาไว้​ พร้อมทั้ง​รับรอง​ว่า​ตนเอง​ไม่เป็นอะไร​ หลง​ฉางถึงจะตอบ​ตกลง​

ทั้ง​สามคน​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ชายแดน​ดินแดน​ปีศาจ​ที่​ถูก​ผนึก​ไว้​ชั่วคราว​ อวิ๋นเจี่ยว​เปิด​ทางเข้า​หนึ่ง​แห่ง​ออกมา​ ผนึก​นี้​เอง​เธอ​เป็น​คน​วาง​ เวลานี้​เปิด​ทางเข้า​จึงเป็นเรื่อง​ง่าย​อีก​ทั้ง​ไม่ส่งผลกระทบ​ต่อ​ผนึก​

หลง​ฉางกำชับ​เรื่อง​ที่​ควรระวัง​อยู่​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ พร้อมทั้ง​ยัด​ยันต์​วิเศษ​และ​อาวุธ​วิเศษ​ให้​พวก​เธอ​มากมาย​ ในขณะที่​เขา​คิด​จะล้มเลิก​การ​เฝ้าดูแล​ค่าย​กล​แล้ว​ติดตาม​พวก​เธอ​ไป​นั้น​ ทั้งสอง​คน​จึงรีบ​เดิน​เข้าไป​ใน​ดินแดน​ปีศาจ​

ทันทีที่​ก้าว​เท้า​ข้าม​มา อวิ๋นเจี่ยว​ก็​รีบ​ลง​มือวาง​ค่าย​กล​ขนส่ง​ด้าน​ข้าง​ ค่าย​กล​นี้​คือ​ค่าย​กล​ข้าม​ดินแดน​ที่​เธอ​และ​ทุกคน​ร่วมกัน​คิดค้น​ออกมา​ใน​หลาย​วันนี้​ ถึงแม้ไม่รู้​ว่า​จะใช้ได้​ใน​ดินแดน​ปีศาจ​หรือไม่​ แต่​อย่างไร​ก็​ต้อง​ลอง​ ถือ​เสีย​ว่า​เป็น​ทางออก​อีก​ทาง​ อีก​ทั้ง​เธอ​เพิ่ม​พลัง​ของ​ตนเอง​และ​ชาย​แก่​พลาง​ไป​ คนอื่น​ไม่มีทาง​พบ​ค่าย​กล​นี้​ อีก​ทั้ง​ไม่สามารถ​ใช้ได้​

อวิ๋นเจี่ยว​ส่งอาวุธ​วิเศษ​ที่​มีลักษณะ​คล้าย​พู่​ห้อย​ชิ้น​หนึ่ง​ให้​ชาย​แก่​ ก่อนที่​ตนเอง​จะหยิบ​ออกมา​อีก​ชิ้น​แขวน​ไว้​ที่​ข้าง​เอว​

แทบจะ​เป็น​เพียง​ชั่วพริบตา​ รอบตัว​ของ​ทั้งสอง​คน​ถูก​พลัง​สีดำ​ปกคลุม​ ดูเหมือน​จะเป็น​พลัง​ปีศาจ​ แต่​ก็​มีความแตกต่าง​จาก​พลัง​ปีศาจ​ เพราะ​เป็น​เพียงแค่​การ​ปลอมตัว​เท่านั้น​ หาก​ไม่เกิด​การปะทะ​ไม่มีทาง​ดูออก​

สิ่งนี้​จี้เฟิงเป็น​คน​ให้​พวก​เธอ​มา สามารถ​ปลอมแปลง​ตนเอง​ให้​กลายเป็น​เผ่า​ปีศาจ​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​ ทั้งสอง​คน​เดิน​เข้า​ลึก​เข้าไป​ใน​ดินแดน​ปีศาจ​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ดินแดน​สีแดง​ที่​สะท้อน​จาก​ทะเล​เลือด​แล้ว​ คราวนี้​บริเวณ​รอบด้าน​มีเพียง​ความ​มืดมิด​ เห็น​เพียงแต่​บริเวณ​ไกล​ออก​ไป​มีแสงสีเขียว​

ทั้งสอง​คน​ติด​ยันต์​ชั่วขณะ​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​นั้น​ ตาม​สิ่งที่​จี้เฟิงพูด​ พื้นที่​ของ​ดินแดน​ปีศาจ​มีความกว้างขวาง​ แต่​กว้าง​มาก​แค่​ไหน​เขา​ก็​ไม่แน่ชัด​ แต่​เผ่า​ปีศาจ​มัก​ชอบ​รวมตัวกัน​ใน​บริเวณ​ที่​พลัง​ปีศาจ​เข้มข้น​อย่าง​ทาง​ทิศตะวันออกเฉียงใต้​

เมื่อ​เข้ามา​ทั้งสอง​คน​ถึงพบ​ว่า​ดินแดน​ปีศาจ​มีอาณาเขต​กว้าง​แค่​ไหน​ เดิมที​พวกเขา​คิด​ว่า​จะมองหา​เมือง​ที่​มีการ​รวมตัว​ของ​เผ่า​ปีศาจ​เพื่อ​สืบ​ข่าว​ แต่​สุดท้าย​พวกเขา​เดิน​มาสามวัน​ ระหว่างทาง​เจอ​ปีศาจ​เพียง​ไม่กี่​ตัว​ อีก​ทั้ง​ส่วนใหญ่​ยัง​ไม่มีสัมปชัญญะ​ รู้​เพียงแต่​กลืน​กิน​ระหว่าง​กัน​ ไม่เข้าใจ​ความหมาย​ของ​พวก​เธอ​แม้แต่น้อย​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ปีศาจ​ระดับ​ปีศาจ​เลือด​

“เจ้าหนู​…” ชาย​แก่​อด​ถามขึ้น​มาไม่ได้​ “เจ้าว่า​…ครั้งก่อน​พวกเรา​ไม่ได้​ทำให้​เผ่า​ปีศาจ​สูญพันธุ์​ใช่หรือไม่​” มิเช่นนั้น​หลาย​วันนี้​ เหตุใด​จึงไม่เห็น​ปีศาจ​ปกติ​

“…” อวิ๋นเจี่ยว​อยาก​จะกรอก​ตา​ให้​เขา​ คิดได้​สวยหรู​

ทันใดนั้น​ พลัง​ปีศาจ​รอบด้าน​หลั่งไหล​ออกมา​ ราวกับ​ได้รับ​การอัญเชิญ​บางอย่าง​ ลมพายุ​โหมกระหน่ำ​ขึ้นไป​ด้านบน​

“มาแล้ว​!” อีก​ทั้ง​พลัง​ปีศาจ​แข็งแกร่ง​ ไม่เหมือนกับ​ที่​พวกเขา​เจอ​ระหว่างทาง​ ชาย​แก่​ช่างปากเสีย​!

อวิ๋นเจี่ยว​แปะ​ยันต์​ซ่อน​พลัง​เอาไว้​ทั้งสอง​คน​ ก่อน​จะหลบ​เข้าไป​ยัง​ด้านหลัง​ของกอง​หิน​ที่หนึ่ง​

นาที​ถัดมา​ พลัง​ปีศาจ​โหมกระหน่ำ​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ท้องฟ้า​ ร่าง​ใน​ชุด​ขาว​และ​ชุด​แดง​ปรากฏ​ขึ้น​ด้านบน​ ทั้งสอง​คน​ราวกับ​กำลัง​ปะทะ​กัน​ วิชา​เวท​จำนวนมาก​จู่โจมเข้าไป​ยังอีก​ฝ่าย​ เวลา​นั้น​บริเวณ​รอบด้าน​เต็มไปด้วย​เสียง​ระเบิด​ พื้นดิน​ที่​ราว​เรียบ​ใน​เดิมที​ถูก​วิชา​เวท​ของ​พวก​นาง​โจมตี​จน​เป็น​หลุม​เป็น​บ่อ​

แม้แต่​คน​ทั้งสอง​ที่​หลบ​อยู่​ด้านหลัง​กอง​หิน​ก็​แทบจะ​ถูก​ก้อนหิน​ฝังเอาไว้​ พวก​เธอ​พอ​จะเดา​ได้​ว่า​ปีศาจ​สอง​ตัว​นี้​กำลัง​ประลอง​วิชา​เวท​กัน​ แต่​มองออก​ไป​ก็​เห็น​เพียงแต่​ฝุ่น​ควัน​อบอวล​อยู่​ทั่วไป​ อีก​ทั้ง​ระยะห่าง​ที่​ไกล​ ทำให้​มองไม่เห็น​สถานการณ์​ด้านบน​

จนกระทั่ง​ครึ่ง​เค่อ​ต่อมา​ มีเสียง​บางอย่าง​กระแทก​ลงมา​ ราวกับ​แยก​ฝ่าย​แพ้ชนะ​ได้​แล้ว​ เสียง​โกรธเคือง​ดัง​ขึ้น​จาก​ระยะไกล​ภายใน​น้ำเสียง​เจือปน​ไป​ด้วย​ความอาฆาต​ “เย่​เจียน​เถียน​ เจ้าเสียสติ​ไป​แล้ว​! ข้า​ไม่เคย​ทำ​อัน​ใด​เจ้า เหตุใด​เจ้าจึงหาเรื่อง​ข้า​”

“ฮึ!” ด้านบน​ส่งเสียง​เย็นชา​ออกมา​ “เจ้าทำ​อัน​ใด​ลง​ไป​เจ้าไม่รู้​หรือ​ ข้า​ไม่ชอบ​ท่าทาง​เสแสร้ง​ อีก​ทั้ง​ใบ​หน้าที่​หลอกลวง​ผู้คน​ของ​เจ้า! ข้า​เคย​บอก​แล้ว​ว่า​หาก​ข้า​เจอ​เจ้าครั้งหนึ่ง​ ข้า​จะตี​เจ้าครั้งหนึ่ง​!”

“เย่​เจียน​เถียน!​ เรื่อง​ผ่าน​มาหลาย​ร้อย​ปี​แล้ว​ เหตุใด​เจ้าจึงยัง​ไม่ป​ลอย​วาง​” คน​ด้านล่าง​ยิ่ง​โกรธ​มากขึ้น​

“เรื่อง​ของ​ความรัก​ไม่อาจ​ควบคุม​ได้​ ศิษย์​พี่​หวัง​ชอบ​ข้า​ ข้า​ก็​จนปัญญา​ ข้า​บอก​กับ​เขา​อย่าง​ชัดเจน​แล้ว​ว่า​ข้า​ไม่ชอบ​เขา​ เหตุใด​เจ้าจึงต้อง​หาเรื่อง​ข้า​”

“คน​ทราม​ หุบปาก​!” คน​ด้านบน​ยิ่ง​โกรธ​มากขึ้น​ วิชา​เวท​ไม่ถ้วน​ถาโถมลงมา​อีกครั้ง​ “อย่า​พูดถึง​คนชั่ว​อย่าง​หวัง​ซิน​จี๋ให้​ข้า​ได้ยิน​อีก​ ข้า​ตา​บอก​ถึงได้​ชอบ​คน​แบบ​นั้น​ เจ้าอยาก​เก็บ​ขยะ​เจ้าก็​เก็บ​ไป​ ไม่ต้อง​เอา​กลับมา​ทำให้​ข้า​สะอิดสะเอียน​! จี้ซือ​หย่า​ เจ้าคิด​ว่า​ทุกคน​ไม่มีผู้ชาย​จะอยู่​ไม่ได้​เหมือน​เจ้าหรือ​อย่างไร​”

“เจ้าพูด​เหลว​ไห​ล.​..” คน​ด้านล่าง​ราวกับ​โมโห​อย่าง​มาก​ พลาง​หลบ​การ​จู่โจมของ​อีก​ฝ่าย​ พลาง​ตอกกลับ​ “ข้า​บริสุทธิ์​ใจมาตลอด​ ระหว่าง​ข้า​กับ​ศิษย์​พี่​หวัง​ไม่มีอัน​ใด​ทั้งนั้น​ หาก​เจ้าใส่ร้าย​ข้า​อีก​ เรื่อง​นี้​ข้า​จะรายงาน​ต่อ​เจ้าเมือง​!”

“ถุย​!” อีก​ฝ่ายก​ร่น​ด่า​มากยิ่งขึ้น​ “ช่างตลก​สิ้นดี​ เจ้าและ​ข้า​ล้วน​เป็น​ปีศาจ​ อีก​ทั้ง​เจ้าฝึกฝน​คาถา​หง​เฉิน​จะมาพูดถึง​ความบริสุทธิ์​อัน​ใด​กัน​ ทั้งเมือง​ปีศาจ​ตะวันออก​ เจ้ามีคนสนิท​กี่​คน​นับ​ได้​หรือไม่​”

“หุบปาก​!” คน​ด้านล่าง​เสียง​เย็น​ลง​ “เย่​เจียน​เถียน​ ก่อนหน้านี้​ข้า​เห็นแก่หน้า​ของ​ศิษย์​พี่​หวัง​ถึงได้​ยอม​เจ้า แต่​เจ้ากลับ​หาเรื่อง​ข้า​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ เจ้าคิด​ว่า​ข้า​กลัว​เจ้าจริง​หรือ​”

“เฮอะ​…” คน​ด้านบน​เสียง​เสียงหัวเราะ​ใน​ลำคอ​ ท่าทาง​เสียดสี​อย่าง​เห็นได้ชัด​ ก่อน​จะพูด​ขึ้น​ด้วย​ท่าทาง​ท้าทาย​ “เจ้าถูก​คน​ยิน​ยอ​มานาน​เกินไป​จน​ไร้​สมอง​แล้ว​หรือ​ ปีศาจ​ดิน​ชั้นต่ำ​กล้า​พูด​เช่นนี้​? วันนี้​เหล่า​ผู้ชาย​ของ​เจ้าไม่อยู่​ ข้า​ไม่มีทาง​ปล่อย​เจ้าไป​แน่​”

พูด​จบ​ทั้งสอง​คน​ก็​ปะทะ​ขึ้น​มาอีกครั้ง​ เสียง​ระเบิด​รอบด้าน​ยิ่ง​ดุเดือด​มากขึ้น​

ชาย​แก่​และ​อวิ๋นเจี่ยว​สบตา​กัน​ พวกเขา​กำลัง​มุงดู​สงคราม​ใน​ดินแดน​ปีศาจ​โดยบังเอิญ​เหรอ​ อีก​ทั้ง​สงคราม​ยัง​เกิด​มาจาก​หญิง​สอง​คน​แย่ง​ชาย​หนึ่ง​คน​

อีก​ทั้ง​ดู​จาก​พลัง​ปีศาจ​รอบด้าน​แล้ว​ กำลัง​ของ​ทั้งสอง​คน​ค่อนข้าง​สูง โดยเฉพาะ​หญิงสาว​ใน​ชุด​สีแดง​ที่​ชื่อ​เย่​เจียน​เถียน​ อีก​ทั้ง​ตัวตน​ของ​ทั้งสอง​คน​ไม่อาจ​เปิดเผย​ได้​ หาก​ปะทะ​ขึ้น​มาจริง​ ชาย​แก่​ก็​ไม่อาจ​รับรอง​ได้​ว่า​จะเอาชนะ​อีก​ฝ่าย​โดย​ไม่ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​ ดังนั้น​จึงทำได้​เพียง​หลบ​ซ่อนตัว​เอาไว้​

จนกระทั่ง​การเคลื่อนไหว​ทาง​นั้น​เบา​เสียง​ลง​ มีแสงสีขาว​ประกาย​ขึ้น​ พลัง​ของ​คน​หนึ่ง​หาย​ไป​ หญิงสาว​ที่​ชื่อ​เย่​เจียน​เถียน​ชนะ​แล้ว​ เพียงแต่​ปีศาจ​อีก​ตัว​เหมือน​จะใช้วิชา​เวท​บางอย่าง​หลบหนี​ไป​

“จี้ซือ​หย่า​ มีปัญญา​อย่า​หนี​! ข้า​มีอีก​หลาย​วิธี​จัดการ​กับ​คน​อย่าง​เจ้า!” เย​ี่เจียน​เถียนก​ร่น​ด่า​ อีก​ทั้ง​ยัง​มีแนวโน้ม​ที่จะ​ลาก​บรรพบุรุษ​ของ​อีก​ฝ่าย​ออกมา​ด่า​ แต่​สุดท้าย​นาง​ก็​กัดฟัน​ทำ​ท่าจะ​จากไป​ ในขณะที่​กำลังจะ​กลายร่าง​เป็น​พลัง​ปีศาจ​นั้น​ก็​ชะงัก​ไป​ “ใคร​!”

“…”

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Score 10
Status: Completed

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี!

ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?)

ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน

ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง

รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Options

not work with dark mode
Reset