ทันทีที่อวิ๋นเจี่ยวพูดจบ สีหน้าของทุกคนยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น เผ่ามารจำนวนไม่น้อยอดรนทนรอไม่ไหว อีกทั้งบางตัวไม่รอราชามารออกคำสั่งก็ลอยขึ้นสู่ดินแดนสวรรค์ตามแสงแห่งการชักนำ เหล่าลูกศิษย์เสวียนเหมินก็มีความหวั่นไหวเช่นเดียวกัน แต่มีอาจารย์อยู่ พวกเขาไม่ได้ตอบตกลงทันที เพียงแต่หันไปมองเจ้าสำนักสวีและอวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ตรงกลาง
“อาจารย์อวิ๋น...” เมื่อเทียบกับทุกคนที่ตื่นเต้น สีหน้าของเจ้าสำนักสวีเงียบสงบอย่างยิ่ง เขาหันไปมองอวิ๋นเจี่ยว “ท่านหมายความว่า หนทางแห่งสวรรค์ใช้คุณงามความดีของพวกเราแลกเปลี่ยนโอกาสการบรรลุ?”
“ใช่!” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ก่อนจะอธิบายเรื่องที่ชาวสวนอิ้งหลุนบอกนางก่อนหน้านี้ การบรรลุที่ว่านั้นไม่ใช่ฝึกฝนถึงระดับเท่านั้น แต่ยังต้องได้รับการยอมรับจากหนทางแห่งสวรรค์ ส่วนหนทางแห่งสวรรค์ไม่เคยยอมรับใครได้ง่ายๆ นอกเสียจากว่าคนผู้นั้นมีคุณงามความดี มิเช่นนั้นหากความสามารถของเสวียนเหมิน ทั้งที่มีคนจำนวนมากมีกำลังเหนือกว่าเหล่าเซียน แต่ยังคงอยู่ในดินแดนมนุษย์ นั่นก็เป็นเพราะหนทางแห่งสวรรค์มองไม่เห็นคุณงามความดีบนตัว
เมื่อเจ้าสำนักสวีฟังจบ สีหน้าของเขายิ่งลังเลมากขึ้น ก่อนจะถามต่อ “หากสามารถแลกเปลี่ยนโอกาสบรรลุได้ ก็แสดงว่าสามารถแลกอย่างอื่นได้เหมือนกันใช่หรือไม่”
อวิ๋นเจี่ยวผงะ ครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า “ตามหลักแล้ว…เป็นเช่นนั้น!” ราชามารองค์ก่อนก็เคยแลกเปลี่ยนสิ่งอื่น หนทางแห่งสวรรค์ต้องการเก็บคุณงามความดีคืนเท่านั้น แต่ว่ายังมีสิ่งใดสำคัญกว่าการบรรลุ
เจ้าสำนักสวีสีหน้าดีใจ ทันใดนั้นตื่นเต้นขึ้นมา เขาเงยหน้ามองแสงสวรรค์ “เช่นนั้น…ข้าไม่บรรลุแล้ว แต่ข้าอยากแลกโอกาสให้ลูกศิษย์ที่เสียสละเหล่านั้นกลับคืนสู่เสวียนเหมินได้หรือไม่”
“…” อวิ๋นเจี่ยวผงะ ไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ เหล่าลูกศิษย์ด้านหลังยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น ดวงตาลุกเป็นประกาย
“ใช่ ข้าก็ไม่บรรลุแล้ว แค่ให้เหล่าศิษย์พี่ของข้ากลับมา”
“ท่านอาวุโสหวังและเหล่าศิษย์น้องในสำนักข้าด้วย เพื่อพวกเขาข้าก็ไม่บรรลุ”
“ข้าด้วย เพียงแค่เปลี่ยนอาจารย์และศิษย์พี่กลับมาได้”
“ข้าด้วย! อมตะสามารถฝึกฝนใหม่ได้ ศิษย์พี่น้องมีแค่หนึ่งเดียว”
“ไปยมโลกด้วยกัน ต้องกลับมากันพร้อมหน้า”
“ถูกต้อง…”
ทุกคนยิ่งพูดยิ่งหึกเหิม ทันใดนั้นลูกศิษย์เสวียนเหมินทั้งหมดล้วนละทิ้งความคิดที่จะบรรลุ พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองแสงแห่งการชักนำบนท้องฟ้า รอคอยการตอบรับจากหนทางแห่งสวรรค์
เพียงแต่…ด้านบนไม่มีปฏิกิริยาตอบรับแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่ฟื้นคืนชีพลูกศิษย์ที่ตายไป แม้แต่เสียงเร่งเร้าข้างหูก็อ่อนลงไปไม่น้อย
“อาจารย์อวิ๋น นี่…” เจ้าสำนักสวีใจหล่นลงไป ก่อนจะหันไปมองอวิ๋นเจี่ยว
“คงไม่ได้” ถึงแม้จะไม่อยากทำร้ายจิตใจของทุกคน แต่อวิ๋นเจี่ยวก็สัมผัสได้ถึงความไม่เต็มใจของหนทางแห่งสวรรค์ อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะโมโห ดังนั้นจึงส่ายหัว ให้คนที่ตายไปฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นการปั่นป่วนการเวียนว่ายตายเกิด หนทางแห่งสวรรค์สามารถให้คนจำนวนมากบรรลุในครั้งเดียวเช่นนี้ได้ แต่ไม่มีทางยอมให้คนจำนวนมากเช่นนี้ปั่นป่วนการเวียนว่ายตายเกิดได้ เมื่อการเวียนว่ายตายเกิดถูกปั่นป่วนกฏแห่งฟ้าดินก็จะพังทลาย เมื่อถึงเวลาไม่เพียงสามโลกเท่านั้นที่จะตกอยู่ในความโกลาหล หนทางแห่งสวรรค์ไม่มีทางยอมเสี่ยงอย่างแน่นอน
ส่วนเหล่าคนที่สละชีวิตในสงครามนั้น ชาติต่อไปบนตัวของพวกเขาจะมีคุณงามความดี เกิดเป็นผู้ที่มีบุญ หนทางแห่งสวรรค์ย่อมต้องตอบแทนพวกเขา
ผู้คนที่ตื่นเต้นอยู่เมื่อครู่ห่อเหี่ยวลงไปในทันใด ทั้งสำนักเทียนซือตกอยู่ในบรรยากาศแห่งความผิดหวัง แต่ละคนล้วนเผยสีหน้าโศกเศร้าออกมา เพราะการหยุดยั้งเผ่าปีศาจในครั้งนี้เสวียนเหมินมีความเสียหายอย่างหนัก เดิมทีทุกคนศึกษาด้วยกัน ทดสอบด้วยกัน ลอกการบ้านด้วยกัน แต่ทันใดนั้นจากกันไป ไม่ว่าใครก็รู้สึกเสียใจทั้งนั้น ถึงแม้จะมีบุญมากในชาติหน้า ส่วนพวกเขาเป็นเซียนได้ แต่ก็รู้สึกไม่ดีใจ
ทันใดนั้น ทุกคนหมดความสนใจต่อแสงสวรรค์เหนือหัวในทันที อีกทั้งยังมีบางคนเกิดความคิดต่อต้านขึ้นมา
“ถึงพวกเราบรรลุจะมีประโยชน์อันใด แค่เปลี่ยนสถานที่เท่านั้น สู้อยู่เสวียนเหมินจะดีกว่า!”
“ใช่ ดินแดนสวรรค์ไม่ใช่สถานที่ดีอะไร ขัดแย้งภายในหนักขนาดนั้น พวกเราจะหาที่อยู่ที่ดีได้อย่างไร”
“เมื่อคิดเช่นนี้ การบรรลุก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องดีอะไร สถานที่ที่วุ่นวาย แค่คิดก็ไม่อยากไป”
“มิน่าตอนนั้นอาจารย์อวิ๋นถึงไม่ยอมไป ข้าเองก็ไม่อยากไปเหมือนกัน”
“หรือไม่อย่าขึ้นไปเลย อยู่ดินแดนมนุษย์บางทียังไปยมโลกได้”
“ใช่ ถึงแม้วิญญาณของคนที่ถูกเผ่าปีศาจฆ่าจะไม่สมบูรณ์ แต่อาจารย์บอกว่าแช่ในแม่น้ำหยินวิญญาณจะฟื้นคืนกลับมาได้ ไม่แน่ว่าเวลานั่นอาจได้พบกันอีก”
“ข้ารักเสวียนเหมิน ข้าปฏิเสธ…”
ทุกคนยิ่งพูดยิ่งรู้สึกดินแดนสวรรค์ไม่ดี สีหน้ารังเกียจเห็นได้อย่างชัดเจน
อวิ๋นเจี่ยว “…”
ชายแก่ “…”
เหล่าเซียนดินแดนสวรรค์ “…”
ไม่ใช่ อย่างน้อยก็กลับมาจากยมโลกด้วยกัน รังเกียจเหล่าเซียนต่อหน้าพวกเขาจะดีหรือ
แม้แต่เจ้าสำนักสวีไม่คาดคิดว่าทุกคนจะคิดเช่นนี้ ทันใดนั้นก็ผงะไป เขาเพียงแค่อยากลองดูว่าจะฟื้นคืนชีพให้แก่เหล่าลูกศิษย์ที่สละชีพไปได้หรือไม่เท่านั้น ไม่คิดว่าทุกคนจะปฏิเสธการบรรลุด้วยกัน!
ถึงแม้ที่ทุกคนพูดจะเป็นความจริง แต่พวกเขาฝึกฝนมานาน เป้าหมายก็คือการบรรลุ เวลานี้หากปฏิเสธเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ในอนาคตเสียใจคงจะไม่ทันการ เจ้าสำนักสวีร้อนใจขึ้นทันที จึงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากอวิ๋นเจี่ยว
“ดินแดนสวรรค์อาจไม่เหมือนกับที่ทุกคนคิด” อวิ๋นเจี่ยวปวดหัวเล็กน้อย นางมองไปยังท้องฟ้าที่จะมืดมนลง ทำได้เพียงพูดโน้มน้าวขึ้น “แค่เพียงพวกเจ้าไม่ลืมว่าตนเองเป็นลูกศิษย์เสวียนเหมิน อยู่ที่ไหนจะเป็นอะไรไป อีกอย่าง ถึงแม้จะบรรลุแล้ว แต่ทุกคนก็ยังอยู่ด้วยกัน”
ดินแดนสวรรค์ไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไร แต่คนอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ครั้งนี้แตกต่างจากตอนที่อาจารย์อาหยวนบรรลุ พวกเขาไม่มีทางเลือกจึงต้องเลือกฝักใฝ่สวรรค์ทิศใดทิศหนึ่ง แต่สถานการณ์ในตอนนี้คือพวกเขาขึ้นไปด้วยกัน คนยังเป็นคนเดิม เพียงแค่ย้ายถิ่นฐานเท่านั้น ถึงแม้ดินแดนสวรรค์จะมีคนที่ไม่มีตาคิดจะรังแกคนใหม่ แต่ก็ต้องดูว่าพวกเขามีความสามารถหรือไม่ ลงมาด้านล่างยังถูกไล่กลับ ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาขึ้นไปแล้วจะกลายเป็นคนขี้ขลาด!
“ในเมื่อทุกคนรู้สึกว่าดินแดนสวรรค์ไม่ดี อย่างนั้นร่วมกันเปลี่ยนแปลงจะดีกว่า” เปลี่ยนให้ดีขึ้นก็พอแล้ว
ทุกคนผงะไป จริงสิ พวกเขาไม่ได้ตัวคนเดียว แต่ทุกคนขึ้นไปด้วยกัน ตอนที่พวกเขายังเป็นแค่มนุษย์ พวกเขาก็ไม่เคยเกรงกลัวเซียนดินแดนสวรรค์ ต่อจากนี้มีร่างเซียน เทียบเท่ากับเผ่าเซียน พวกเขาจะกลัวอะไรกัน!
สงครามต่อต้านดินแดนปีศาจในครานี้ ที่เสวียนเหมินมีการเตรียมการที่เพียบพร้อม ปรับเปลี่ยนได้รวดเร็วล้วนมาจากกลยุทธในการต่อต้านดินแดนสวรรค์
เมื่อทุกคนคิดได้เช่นนี้ ราวกับว่าบรรลุ…ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
“เช่นนั้นก็…ไปด้วยกัน?” มีคนเสนอออกมาอย่างลังเล
สักพักแสงสว่างสีทองรอบด้านเปล่งประกายขึ้น ทางเผ่ามารไปจนเกือบหมดแล้ว คนของดินแดนสวรรค์รู้สึกเสียหน้า บินกลับไปตั้งนานแล้วเช่นกัน ลูกศิษย์ของเสวียนเหมินค่อยๆ ลอยขึ้นไปด้านบน สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความลังเลและไม่เต็มใจเท่าใดนัก ก่อนจะหายลับไปทีละคนในแสงสวรรค์