ชายแก่หยิบขนมปังในมือขึ้นอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมที่จะโยนออกไปทุกเวลา ปีศาจเลือดยกมือขึ้นกรีดข้อมือของตนเอง กระตุ้นพลังบนตัวระดมออกมาเป็นทะเลเพลิงพุ่งตรงมาหาทั้งสองคน
ทั้งสองคนหลบเปลวเพลิงที่ร้อนระอุนั้นออกไปทางด้านขวาเดิมที่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำการจู่โจมต่อ แต่เขากลับไม่มีท่าทีไล่ล่าพวกเขาแม้แต่น้อย เพียงแค่ลอยลงไปยังทิศทางซ้านบริเวณด้านล่างส่วนด้วนหลังนั้นคือ… “เจ้าหนู!” ชายแก่กระจ่างในทันทีว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายคืออวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ด้านล่างตั้งแต่แรก ทั้งสองคนคิดจะหันหลังกลับไปก็ไม่ทันการเสียแล้ว ปีศาจเลือดมุ่งตรงไปยังอวิ๋นเจี่ยวที่เพิ่งพังทลายค่ายกลสำเร็จ
อวิ๋นเจี่ยวลุกขึ้นยืนก็พบเข้ากับพลังปีศาจที่โหมกระหน่ำเข้ามา ปีศาจเลือดตรงหน้าในทันใดอีกฝ่ายจู่โจมเธอด้วยฝ่ามือทำให้เธอตอบสนองได้ไม่ทันเกราะป้องกันบนตัวแหลกสลายอีกทั้งถุงของเธอยกให้ชายแก่ไป ตอนนี้บนตัวไม่มีแม้แต่ยันต์วิเศษสักใบ
“จัดการเจ้าก่อน!” เสียงแหลมของปีศาจเลือดดังขึ้น เขากระตุ้นดพลังเลือดทั่วตัวก่อนจะตบเข้าที่หน้าอกของเธอในขณะที่กำลังจะกระทบเข้ากับเส้นชีพจรหัวใจของเธอนั้น ทันใดนั้นหน้าอกของเธอประกายแสงสีทองยันต์แปลกประหลาดลอยออกมาจากตัวของเธอ ราวกับก่อตัวเป็นเกราะป้องกันสีทองยับยั้งการโจมตีของอีกฝ่ายเอาไว้ทำให้ฝ่ามือของปีศาจเลือดเข้าใกล้ไม่ได้
ปีศาจเลือดผงะไป แต่เขากลับไม่ได้หยุดการจู่โจมเมื่อเห็นว่าโจมตีหน้าอกของเธอไม่ได้เขายกมืออีกข้างขึ้นมาพุ่งตรงไปยังลำคอของเธออย่างไม่ลังเล อวิ๋นเจี่ยวก้าวถอยออกไปตามสัญชาตญาณทันใดนั้นค่ายกลก่อร่างขึ้นใต้เท้าของเธอแสงสีทองบนตัวประกายขึ้นปกคลุมทั้งสองคนเอาไว้นาทีถัดมาคนทั้งสองหายไปจากจุดเดิม
“เจ้าหนู!” ชายแก่ลอยเข้ามาอย่างร้อนใจ พื้นดินเหลือเพียงความว่างเปล่า อย่าว่าแต่อวิ๋นเจี่ยวแม้แต่ปีศาจเลือดก็หายตัวไป ”คนล่ะ?”
จี้เฟิงเองก็ทำหน้าฉงนเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปพวกเขาเห็นเพียงปีศาจเลือดลอยลงมา จากนั้นทั้งสองคนหายตัวไป สิ่งสำคัญคือบริเวณรอบด้านไม่มีร่องรอยของวิชาเวทหรือค่ายกลแม้แต่น้อยทั้งสองคนราวกับ…หายไปกลางอากาศ
อย่างว่าแต่ชายแก่ แม้แต่อวิ๋นเจี่ยวก็ยังไม่ทันได้ตอบสนองเธอรู้สึกเพียงภาพตรงหน้ามีแสงสว่างแวบผ่าน จากนั้นราวกับสถานที่ถูกเปลี่ยนไปท่าทางบ้าคลั่งของปีศาจเลือดอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม มือที่แดงก่ำราวกับถูกย้อมด้วยเลือดปะปนไปด้วยพลังปีศาจที่เย็นยะเยือกเอื้อมเข้าใกล้ลำคอของเธอในขณะที่กำลังจะสัมผัสกับเธอนั้นก็หยุดชะงักไป
ตามมาด้วยแรงรัดที่เอวมีบางอย่างพัวพันเข้ามาที่เอวของเธอก่อนจะดึงเธอเข้าไปเธอล้มไปข้างหลังตามแรงดึง นาทีถัดมาเธอชนเข้ากับแผ่นอุ่นๆ ที่คุ้นเคย
“อา…จารย์ปู่?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ มองดูร่างที่คุ้นเคยด้วยดวงตาที่เบิกโตเพราะความเหลือเชื่อ
เวลานี้ใบหน้าของเยี่ยยวนเต็มไปด้วยความเย็นชามือหนึ่งโอบอวิ๋นเจี่ยวเอาไว้ อีกมือหนึ่งกดเอาไว้บนหัวของปีศาจเลือดพลังที่กดดันอยู่รอบด้านแผ่ขยายสีหน้าของปีศาจเลือดซีดเผือดไปในทันใดมือของเขายังคงค้างไว้ในท่าบีบคอแต่กลับไม่อาจขยับตัวได้แม้แต่น้อย
ไม่เพียงเท่านี้เขายังรู้สึกว่าพลังปีศาจในตัวกำลังพังทลายลงอย่างรวดเร็ว “เจ้าคิดจะทำอะไร” ภายในดวงตาของปีศาจเลือดเต็มไปด้วยความหวาดกลัวร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทา “ปล่อยข้า!” เขาดิ้นรนขึ้นมา แต่พบว่าตนเองไม่สามารถขยับได้เขาไม่อาจควบคุมร่างกายของตนเองได้สีหน้าของเขายิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรแต่เขากลับรู้สึกเหมือนวิญญาณกำลังถูกเชือด “หยุด! ยะ…อย่า! ช่วยด้วย…”
เขาร้องเสียงดัง แต่ก็ไร้ประโยชน์ แม้แต่ร่างคนยังรักษาไว้ไม่ได้ ทันใดนั้นร่างกายของเขากลายเป็นก้อนหมอกสีเลือด จากนั้นสลายหายไปราวกับควันอย่างไร้ร่องรอยเหมือนไม่เคยมีมาก่อน
อวิ๋นเจี่ยวตกตะลึงอย่างมาก อาจเป็นเพราะบอสเหล่านั้นตายง่ายเกินไป ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นถึงความแข็งแกร่งของอาจารย์ปู่ ปีศาจเลือดที่แม้แต่จี้เฟิงยังเอาชนะไม่ได้แต่กลับถูกเขา…บีบตาย?
“อาจารย์ปู่…” อวิ๋นเจี่ยวเงยหน้าขึ้นจะพูดอะไรบางอย่าง
เยี่ยยวนชักมือกลับมามือทั้งสองข้างกอดรัดเอวของเธอเอาไว้แน่น
เฮ้ย! อวิ๋นเจี่ยวตกตะลึงกับการกระทำของอีกฝ่ายอย่างมาก เธอคิดจะผลักคนตรงหน้าออกไปแต่อีกฝ่ายกับรัดแน่นขึ้นร่างทั้งร่างทับลงมาทางเธอ
อวิ๋นเจี่ยวประคองตัวไม่อยู่จึงล้มลงไปทางด้านหลังสิ่งที่น่าประหลาดคือเธอไม่รู้สึกเจ็บ เพราะว่าเธอล้มลงไปภายในความอ่อนนุ่ม เธอเอื้อมมือออกไปลูบคลำก่อนจะคลำเจอผ้าห่มดังนั้นเธอล้มลงบน…เตียง?!
ยังไม่ทันได้ครุ่นคิด คนตรงหน้าล้มลงมาด้วยร่างของเขาทับเธอเอาไว้ด้านล่าง
“อาจารย์…เยี่ยยวน!” อวิ๋นเจี่ยวร้องเสียงหลงออกมาพยายามผลักคนตรงหน้าออกไปอย่างสุดแรง แต่อีกฝ่ายเพียงแค่เอี้ยวตัวไปด้านข้างแต่ไม่มีทีท่าปล่อยมือแม้แต่น้อยอีกทั้งยังยกขาทับบนตัวของเธอ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดมากขึ้นคนทั้งคนรัดเธอเอาไว้ราวกับปลาหมึก
อวิ๋นเจี่ยวสูดลมหายใจเข้าเพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเอง ”อาจารย์ปู่…ท่านปล่อยข้าก่อน ยังมีเรื่องสำคัญ”
คนตรงหน้าไม่ขยับเขยื้อนมือที่กอดเธอเอาไว้ไม่มีทีท่าผ่อนคลายลง
“อาจารย์ปู่? อาจารย์ปู่? เยี่ยยวน…” เธอเรียกติดต่อกันหลายครั้ง ยังคงไม่ได้รับการตอบรับ เพียงแต่ข้างหูมีเสียงลมหายใจที่มั่นคงดังขึ้น
เขา…หลับอีกแล้ว?
อวิ๋นเจี่ยวผงะไป เธอใช้แรกทั้งหมดถึงได้มุดหัวออกมาจากอ้อมอกของเขาได้เธอเงยหน้ามองไปยังอีกฝ่าย พบเพียงแต่ใบหน้างดงามนั้นกำลังหลับตาแน่นไม่มีทีท่าลืมขึ้นแม้แต่น้อย
อวิ๋นเจี่ยว:”…”
อะไรกัน?!
คนที่กำจัดปีศาจเลือดเมื่อกี้เป็นภาพหลอนเหรอ เขาตื่นหรือหลับอยู่กันแน่?!
“เยี่ยยวน…เยี่ยยวน…” เธอเรียกอีกหลายครั้งเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีการตอบสนองถึงได้มั่นใจว่าอีกฝ่ายเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งดังนั้นเมื่อกี้เป็นเพียงแค่…ละเมอเหรอ
เธอหันไปมองรอบด้าน ก่อนจะพบว่าตอนนี้เธออยู่ในมิติที่อาจารย์ปู่หลับไหล ส่วนบริเวณนี้คือบ้านเล็กหลังนั้นแต่เมื่อกี้เธออยู่ดินแดนปีศาจเหตุใดจึงมาโผล่มาที่นี่ได้
นึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อกี้ ราวกับเป็นเพราะปีศาจเลือดต้องการฆ่าเธออีกทั้งการโจมตีเมื่อครู่เธอหลบไม่ทัน เพียงแต่ต่อมาบริเวณหน้าอกมีแสงสีทองสว่างขึ้นอาจเป็นแสงนั้นที่ส่งเธอกับปีศาจเลือดมาที่นี่ เมื่อนึกย้อนไป ในแสงสีทองนั้นเหมือนมียันต์บางอย่างประกายอยู่เพียงแต่มันหายไปอย่างรวดเร็วเธอดูไม่ทัน