ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้วบทที่ 820 การออกจากภูเขาของหลิงเอ๋อร์ (3)

บทที่ 820 การออกจากภูเขาของหลิงเอ๋อร์ (3)

บทที่ 820 การออกจากภูเขาของหลิงเอ๋อร์ (3)

แม้ว่าคำตอบที่ดีที่สุดก็คือ การเมินเฉยไป แต่หากเป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริงๆ แต่ไม่ได้ช่วยนางเอาไว้ แล้วหัวใจเต๋าจะไม่มีจิตมารใดๆ จริงหรือไม่?

ข้าควรทำอย่างไรดี?

มีทางเลือกสองสามอย่างที่ศิษย์พี่ของนางมอบให้นางได้กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้งในใจของนาง แล้วเมฆของหลิงเอ๋อร์ก็ค่อยๆ หยุดลง

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าต้องจำไว้ว่า เมื่อเจ้าพบกับบางสิ่งบางอย่างที่เจ้าไม่แน่ใจและไม่สามารถตัดสินใจได้ เจ้าต้องพยายามทำลายกรอบความคิดของเจ้าและมองหาทางเลือกใหม่ๆ”

ทางเลือกใหม่…

ช่างมันเถิด!

แม้จะมีโอกาสแปดในสิบส่วนที่จะเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยของการทดสอบสำหรับผู้ที่เพิ่งออกมาจากสำนักเซียน ประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ นี้ก็น่าจะถือเป็นคะแนนที่ต่ำเตี้ยมากเท่านั้นในการประเมินโดยรวม

หลิงเอ๋อร์บีบคางของนางและพึมพำ แล้วทันใดนั้น สัมผัสเซียนรับรู้ของนางก็กวาดออกไปทั่ว และพบสัตว์ปีศาจสองสามตัวที่กำลังเล่นอยู่ในป่า ฉับพลันนั้น ดวงตาแสนงามของนางก็สว่างวาบขึ้น

หลังจากนั้นสักพัก เซียนเสิ่นที่กำลังอยู่ในกระบวนการ ‘ยิ่งเจ้าต่อต้านมากเท่าใด ข้าก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น’ ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย แล้วความเร็วของพลังเซียนในร่างกายของเขาก็เชื่องช้าลงทันที

เขากระโดดขึ้นทันทีและทาบเสื้อคลุมเต๋าของเขาซึ่งถูกปลดกระดุมแล้วเอาไว้ จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆ

“ใครกัน! ผู้ใดวางแผนต่อต้านข้า!?!”

หึ หึ…

ทันใดนั้น คลื่นพลังปีศาจก็ปะทุขึ้นห่างออกไปหลายร้อยจั้ง แล้วพุ่งปรี่เข้าหาคนผู้นั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า

เซียนเสิ่นผู้นั้นก็หันกลับมากะทันหัน และเห็นหมูป่าตัวหนึ่งที่มีดวงตาสีแดงเรืองแสงและมีขนาดยาวกว่าสามจั้ง วิ่งตรงเข้ามาหาเขาจนก่อให้เกิดกลุ่มควันฟุ้งและฝุ่นตลบขึ้นมา!

เซียนเสิ่นบุรุษผู้นั้นต้องการนำสมบัติของเขาออกมาทันที แต่เขาก็พลันตระหนักได้ว่าเขาไม่อาจจับด้ามกระบี่ได้…

“บัดซบ!”

คนผู้นั้นก่นด่าสาปแช่งพร้อมกับหันกลับ แล้วขี่เมฆบินไปในขณะที่สัตว์ปีศาจหมูป่าถลึงตาจ้องมองเซียนบุรุษผู้นั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง

จากนั้นมันก็กระตุ้นเร้าลมกระโชกแรงสีดำขึ้นมา และไล่ล่าเขาไปอย่างบ้าคลั่ง

สายลมอ่อนโยนพัดผ่านมา และกฎห้ามทั้งหมดที่ตรึงเซียนสตรีเอาไว้ก็ถูกปลดปล่อยออกไป

นางรีบลุกขึ้นและคลุมปกเสื้อของนาง ใบหน้าที่ยุ่งเหยิงของนางเต็มไปด้วยความสับสนและทำอะไรไม่ถูก

จากนั้นนางก็ได้ยินข้อความเสียงของเสียงหนึ่งที่ฟังดูแล้วไม่อาจแยกแยะว่าเป็นชายหรือหญิงได้

“รีบไปเถิดเร็วเข้า สัตว์ปีศาจตัวนั้นได้ดื่มเสน่หาเข้าไป และมันจะต้องทรมานเจ้าคนชั่วร้ายนั้นไปสักพักอย่างแน่นอน”

เซียนสตรีขอบเขตเซียนหยวนกล่าวอย่างเร่งรีบว่า “ขอบคุณท่านผู้มีคุณมาก!

ข้ายังอยากขอให้ท่านผู้มีคุณของข้าโปรดช่วยข้าให้ถึงที่สุดด้วย หาไม่แล้ว ข้าจะรอดพ้นจากเงื้อมมืออันชั่วร้ายของโจรชั่วผู้นั้นได้อย่างไร?

ข้ายินดีเป็นวัวเป็นม้า…”

“หากเจ้าไม่อาจหนีได้พ้น นั่นก็อาจจะเป็นชะตากรรมของเจ้าเอง ขอลา”

“เฮ้! ท่านผู้มีคุณ!”

บนเมฆที่อยู่ห่างไกล หลิงเอ๋อร์ใช้หลีกลมเร้นกายออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

เซียนสตรีผู้นั้นจะต้องเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของศิษย์พี่แน่ๆ!

เสียงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อครู่นี้คือ บททดสอบที่แท้จริง!

เหอะ เหอะ!

ถึงแม้จะไม่ใช่เพราะประสบการณ์ก็ตาม แต่เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้อีก หลิงเอ๋อร์ก็จะไม่ช่วยเหลืออีกต่อไป

พวกเราหาใช่ญาติมิตรกันไม่ เพียงมีน้ำใจช่วยเจ้าครั้งเดียวก็พอ แล้วไยข้าจะต้องไปรับผิดชอบตลอดชีวิตที่เหลือของเจ้า?

จริงๆ นะ!

หลิงเอ๋อร์ยิ้มอย่างภาคภูมิใจและโบยบินไปตามสายลมอย่างอิสระ แล้วความคิดของนางก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากหนีออกไปได้นับพันลี้ หลิงเอ๋อร์ก็มองไปที่หินสัมผัสบนร่างของนาง และพบว่า ไม่มีสัมผัสเซียนรับรู้ให้ตรวจพบได้ จากนั้นนางจึงเหลือบมองดูภูเขาและแม่น้ำเบื้องล่าง

ศิษย์พี่ไม่ได้ใช้สัมผัสเซียนรับรู้ของเขาเพื่อให้ความใส่ใจดูแลข้าหรือ? เขามีวิธีทำลายหินสัมผัสหรือไม่?

หรือว่าเขาไม่ได้แอบปกป้องข้าอยู่ลับๆ?

ต้องวางแผนเตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์เลวร้ายที่สุด…

หลิงเอ๋อร์ส่งเสียงพึมพำเบาๆ และขี่เมฆบินต่อไป ตรงไปยังชายแดนของดินแดนเทวะทักษิณ

นางพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะหลีกเลี่ยงและยับยั้งความอยากรู้อยากเห็นของนางเมื่อเดินผ่านเมืองต่างๆ ในระหว่างทางทั้งหมดไป…

ทว่าโลกนี้ก็สวยงามมากเกินไป

เมื่อมองไปทั้งทางซ้ายและขวา นางก็เห็นว่าเทือกเขาโดยรอบยอดเขาหยกน้อยกำลังแผ่ขยายตัวออกไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด

และเมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า นางก็ตระหนักได้ว่า ท้องฟ้าสีครามและเมฆสีขาวดูเหมือนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนว่า พวกมันจะกว้างใหญ่ไพศาลอย่างยิ่งเช่นกัน

สายลมโชยเอื่อยที่กำลังพัดตรงมาหา นำเสียงร้องพึมพำเบาๆ ของเหล่าวิหค เสียงกระซิบของยรรดาผู้คน และเสียงร้องคร่ำครวญของสัตว์เล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป

เมื่อมองในระยะไกลออกไป มีวิหคหลายร้อยตัวกำลังสยายปีกอยู่บนท้องฟ้าเหนือป่าทึบในภูเขาลึก

ผู้บำเพ็ญฝึกกำลังขี่เมฆไปมาอย่างเร่งรีบ และมีผู้คนมากมายในหุบเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าวิญญาณและบุปผาสีอ่อน

ใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย และพื้นหลังแปลกๆ…

หลิงเอ๋อร์อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ และหยุดอยู่ตรงหน้าทิวทัศน์ที่สวยงามโดยไม่รู้ตัว

นางจะกินโอสถแก้พิษ แล้วดมกลิ่นบุปผาที่นางไม่เคยพานพบมาก่อนอย่างระมัดระวัง

นอกจากนี้ นางยังถือกระบี่สมบัติวิญญาณที่มีขนาดยาวและจิ้มเจ้างูเกล็ดสีสันสดใสซึ่งมีระดับฐานพลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นนางก็ถูกเจ้างูตัวน้อยที่ตื่นขึ้นโกรธ และไล่ขึ้นไปบนเนินเขาได้ครึ่งทาง

นางถือรองเท้าผ้าหุ้มข้อและลุยเดินเท้าเปล่าข้ามผ่านลำธารภูเขาที่ใสสะอาด

นางใช้วิชาแปลงร่างและกลายเป็นเทพธิดาขนาดหัวแม่มือ แล้วร่ายรำไปพร้อมกับผีเสื้อสองตัวอยู่บนกลีบบุปผาโดยไม่รู้ว่านางกำลังร่ายรำท่วงท่าอะไร

ในยามราตรีที่ดารดาษไปด้วยดวงดาว นางนอนอยู่บนทะเลสาบร้างไร้ผู้คน เส้นผมสีดำของนางแผ่สยายออกไปราวกับน้ำตก

นางจินตนาการว่าตัวเองเป็นเทพธิดาแห่งทะเลสาบ และบังเอิญไปรวมเข้ากับทะเลแห่งดวงดาวที่อยู่เบื้องล่างนาง

ในระหว่างวัน นางได้พบดินแดนที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ภูเขาและได้สร้างค่ายกลอำพรางต่างๆ ขึ้นมาสี่ถึงห้าชั้นอย่างง่ายๆ และบรรเลงพิณอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง

นางส่งเสียงพึมพำเบาๆ และคิดถึงฉากที่นางและศิษย์พี่กำลังเล่นอยู่ด้วยกัน จากนั้นก็นอนอยู่บนพื้นหญ้า แล้วหัวเราะคิกคักเบาๆ อย่างโง่เขลา…

“นี่คือภายนอก”

หลิงเอ๋อร์ยกมือเล็กๆ ของนางขึ้นและคว้าท้องฟ้าเบาๆ

“หึ หึ เท่านี้แหละ ลงมือทำงานจริงจังได้แล้ว!”

ขณะที่นางส่งเสียงร้องเพลงที่นางกำลังคิดถึงอยู่เบาๆ หลิงเอ๋อร์ก็กลับไปที่รากฐานค่ายกลต่างๆ และตรวจสอบสถานการณ์อย่างละเอียดรอบคอบทั่วทุกที่

นางขี่เมฆออกจากสถานที่นั้นไปราวกับขโมย และยังคงรีบเร่งเดินทางต่อไปตามเส้นทางเมฆที่พลุกพล่านวุ่นวาย ตรงไปยังสนามฝึกฝนแห่งแรก

………………………………………………………………..

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลเรื่อง ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง! หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัว เขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์ เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้ จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง! เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิต จนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา… เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset