ตอนที่ 161 ฉันฆ่านายแน่!
“ทําไมล่ะ?! เพราะอะไรนายถึงไม่กล้ารับเงิน?”
เสี่ยวจือหลงร้องถามด้วยสีหน้างุนงง เธอรู้สึกว่าท่าทางของหลินหนานดูมีลับลมคมนัย จา กสภาพห้องเช่าของเขา ทําให้เธอมั่นใจว่าหลินหนานไม่ใช่คนมีเงินมีทองมากมายนัก
“เพราะพ่อของคุณยังไม่หายดียังไงล่ะ!”
“ห้ะ?! นี่นายหมายความว่ายังไง?” เสี่ยวจือหลงถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันที
ก็พ่อรู้สึกตัวแล้วก็ฟื้นขึ้นมานั่งพูดคุยได้แล้ว ทําไมเขายังบอกว่าพ่อไม่หายดีอีก?
“อาการของพ่อคุณรุนแรง แล้วก็ซับซ้อนกว่าที่ผมคิดไว้มาก! หากไม่ได้รับการรักษาให้หาย โดยเร็วที่สุดแล้วล่ะก็ ท่านจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกินสองเดือน..” หลินหนานอธิบายให้เสี่ยวจี อหลงฟังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
และภายในห้องรับแขก ก็ได้ตกอยู่ในความเงียบสงัดครูใหญ่
มีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่สองเดือนงั้นเหรอ?! นี่มันเร็วยิ่งกว่าเป็นโรคมะเร็งซะอีก!
“หลินหนาน.. นี่นายไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย?”
หลังจากนิ่งเงียบไปนาน ในที่สุดเสียวจือหลงก็รวบรวมสติ และร้องถามหลินหนานด้วยสี หน้าตกอกตกใจ ใบหน้าของหญิงสาวเวลานี้ ดูคล้ายกับคนกําลังจะร้องไห้เสียมากกว่า
หลินหนานตอบกลับเสียงเบา แต่หนักแน่น “ผมไม่เคยล้อเล่นกับอาการเจ็บป่วยของคนไข้ คุณเองก็น่าจะรู้แล้วว่า อาวุโสถูกคนวางยาเช่นเดียวกับคุณ จากสภาพร่างกายของอาวุโสเวลานี้ ดู เหมือนจะถูกวางยามานานมากกว่าครึ่งเดือนแล้ว..”
แม้ว่าตอนนี้ หลินหนานจะยังไม่สามารถช่วยเสี่ยวเฉิงกงให้หลุดพ้นจากความตายได้ แต่เขาก็ เชื่อมั่นว่า ตนเองจะสามารถหาหนทางช่วยชายชราจนได้!
แต่อย่างน้อย วันนี้เขาก็มั่นใจได้ว่า เสี่ยวเฉิงกงไม่ได้ป่วย แต่ถูกคนวางยาโดยใช้ภู่พิษ!
หลินหนานไม่มีความรู้เรื่องคู่พิษมากนัก เขารู้มาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น และเวลานี้เขาก็ยัง ห่างไกลคําว่า “เชี่ยวชาญเรื่องคู่พิษ” เป็นอย่างมาก
หลินหนานรู้เพียงแค่ว่า หากเขาต้องการที่จะช่วยกําจัดพิษในร่างของเสี่ยวเฉิงกง กับเสี่ยวจือ หลงสองพ่อลูกแล้วล่ะก็ เขาจะต้องฟื้นฟูพลังปราณในร่างให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม เหมือนเมื่อครั้ งก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บเสียก่อน
เพราะด้วยพลังปราณในร่างกายของเขาเวลานี้ ต่อให้ใช้เข็มนภาซึ่งทําจากอุกกาบาตรเหล็ก ทําการฝังเข็มรักษาให้ ก็จะสามารถทําได้เพียงแค่ยับยังภู่พิษภายในร่างไว้ ไม่ให้แพร่กระจายได้ เท่านั้น แต่ยังไม่สามารถกําจัดพิษให้หมดไปจากร่างกายได้
“อะไรนะท่านหมอหลิน? เมื่อครู่ท่านหมอบอกว่าฉันถูกคนวางยางั้นรึ?”
จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกัน? ฉันจะถูกคนวางยาโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยได้ยังไง?
ดูเหมือนว่าเสี่ยวเฉิงกงจะไม่เชื่อคําพูดของหลินหนานมากนัก
“อาวุโส.. ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนทั่วไปจะเชื่อเรื่องคู่พิษ อีกอย่าง ผู้ที่เชี่ยวชาญ หรือเป็นปรมาจารย์ด้านกู่พิษนั้น ก็สามารถวางยาเป้าหมายวัตถุสื่อต่างๆได้มากมายหลายชนิด
“ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ํา วัตถุเล็กๆน้อยๆที่จับต้อง หรือแม้แต่อาหารที่กินอยู่เป็นประจํา ทุกสิ่งทุ กอย่างสามารถเป็นสื่อกลาง ให้ปรมาจารย์แห่งภู่พิษวางยาได้อย่างง่ายดาย..”
สิ่งที่หลินหนานพูดมานั้น ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าหลินหนานจะยังเรียนรู้เรื่องตํารับโอสถจากปรมาจารย์ชุดขาวได้เพียงแค่ครึ่งเดียว แต่ใน ระหว่างที่ศึกษาอยู่นั้น ท่านอาจารย์ก็ได้บอกเล่าความลับทางการแพทย์ให้เขารู้มากมายเลยทีเดีย
อันที่จริง ในวงการหมอพื้นบ้านอย่างพวกเขานั้น ก็แบ่งออกเป็นสองสายคือ. สายขาวกับสายดํา!
อย่างเช่นหลินหนานกับผู้เฒ่าคู่เป็นต้น ทั้งคู่ต่างก็ร่ําเรียนวิชาการแพทย์ที่มุ่งเน้นช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ ในขณะที่หมอสายดําจะร่ําเรียนการใช้พิษ และมนต์ดําเพื่อทําร้าย หรือสังหารผู้อื่น เพียงเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างเท่านั้น
หลินหนานเองก็เคยพบเจอปรมาจารย์ผู้ชําชองการใช้ภู่พิษ ในต่างประเทศหลายๆประเท ศมาก่อนแล้วเช่นกัน
ชายคนนั้นฆ่าคนทั้งเมือง เพียงเพราะความแค้นส่วนตัวของตนเอง!
แต่ในที่สุด ยังไม่ทันที่หลินหนานจะทันได้ลงมือ ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการใช้พิษ ก็ได้ ถูกหนึ่งในสมาชิกของหน่วยมังกรซ่อนกาย ยิงแสกเข้าที่หน้าผากสิ้นใจตายเสียก่อน
ต่อให้ร่ําเรียนการใช้พิษมาจนเก่งกาจมากเพียงใด ย่อมไม่อาจต้านทานกระสุนปืนได้ โดยเฉ พาะอย่างยิ่งปืนสไนเปอร์!
ระหว่างที่หลินหนานทําการฝังร่างไร้ลมหายใจของชาวบ้านนั้น เขาก็ได้พบแมลงภู่ภายในร่างข องพวกเขาด้วย และจากประสบการณ์ครั้งนั้น ทําให้หลินหนานสามารถสังเกตเห็นพิษในร่างของ เสียวจือหลงได้อย่างรวดเร็ว
“หลินหนาน ฉันเชื่อนาย! ได้โปรดหาวิธีช่วยชีวิตพ่อของฉันด้วย นายต้องการเงินเท่าไหร่ สําหรับค่ารักษา นายบอกฉันมาได้เลย ฉันยินดีที่จะจ่ายให้ตามที่นายขอ..” เสี่ยวจือหลงร้องบอก หลินหนานด้วยความร้อนอกร้อนใจ
“ที่ผมยังรักษาพ่อของคุณตอนนี้ไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน! แต่เป็นเพราะความสามารถของ ผมในตอนนี้ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยกําจัดพิษในร่างของอาวุโสต่างหากล่ะ สิ่งที่ผมทําได้ในเวลานี้ เป็นเพียงแค่การยับยั้งพิษในร่างไว้ได้ชั่วคราวเท่านั้น!” หลินหนานตอบเสี่ยวจือหลงพร้อมกับส่าย หน้าไปมา
“นี่หมายความว่า อาการป่วยของพ่อจะไม่สามารถรักษาได้งั้นเหรอ?” เสี่ยวจือหลงถึงกับ หัวใจตกไปถึงตาตุ่ม
“ไม่ถึงขนาดนั้น ผมขอเวลาหนึ่งเดือน หลังจากนั้นค่อยมาดูอีกทีว่า ผมจะสามารถทําอะไรได้ บ้าง?” หลินหนานตอบหญิงสาวกลับไป
อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า แม้จะเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดมาก แต่ก็น่าจะเพียงพอสําหรับการ หลอมกลั่นยา และหากเขาสามารถฟื้นฟูพลังปราณ จนกลับคืนมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เช่นเดิมดั่ง ที่เคยเป็นในอดีตแล้วล่ะก็ การจะกําจัดคู่พิษก็คงไม่ใช่เรื่องยาก..
“เรื่องนี้แล้วแต่ท่านหมอหลินจะเห็นสมควร ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนนี้ ถ้าท่านหมอหลิ นต้องการสิ่งใดก็ขอให้บอกมา ฉันยินดีทําตามทุกอย่าง และจะไม่ปฏิเสธคําขอใดๆของท่านหมด”
เสี่ยวเฉิงกงตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย และหากใครที่ได้รู้ว่า ตนเองจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อี กเพียงแค่สองเดือนนั้น คงจะต้องตกอกตกใจจนถึงขั้นควบคุมสติตนเองไม่ได้เป็นแน่ แต่เสี่ยวเฉิ งกงนับว่ามีจิตใจที่เข้มแข็งไม่น้อย เขาไม่เพียงไม่ฟูมฟาย แต่ยังสามารถสงบนิ่งได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หากเป็นคนอื่น อาจเป็นลมสลบไปแล้วก็ได้
“ท่านลุงอย่าได้เป็นห่วงเลยครับ ผมกับจือหลง.. พวกเราต่างก็เป็นเพื่อนกัน ในเมื่อผมรับปาก จะช่วยรักษาท่านลุงแล้ว ผมก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถ!” หลินหนานหันไปตอบเสี่ยวเฉิ งกง พร้อมกับเปลี่ยนมาเรียกเขาว่าท่านลุงแทน
หลินหนานไม่ใช่คนที่จะรับปากทําอะไรให้ใครง่ายๆ แต่หากเขารับปากที่จะทําสิ่งใดแล้ว เขาก็ จะทําตามคําพูดที่ได้ลั่นออกไปเช่นกัน!
“จือหลง?!”
เสี่ยวเฉิงกงพึมพําออกมามาเสียงเบา พร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น เขา ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป แต่เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ และตอบหลินหนานกลับไปว่า
“ พ่อหนุ่ม ฉันจะรอข่าวดีจากเธอนะ!”
“พ่อคะ หลินหนานจะต้องคิดหาวิธีรักษาพ่อได้แน่ค่ะ พ่อวางใจได้!” เสี่ยวจือหลงหันไปพูดปล อบประโลมผู้เป็นพ่อ
“นี่ถ้าจือฉีดีได้ครึ่งของลูก พ่อคงจะนอนตายตาหลับ! คงไม่ต้องมาคอยกังวลแล้วก็เป็นห่วงว่า หลังจากตัวเองตายไป ตระกูลเสี่ยวจะเป็นอย่างไร?” เสี่ยวเฉิงกงพึมพําเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา
เสี่ยวจือหลงเห็นเช่นนั้น จึงรีบปลอบประโลมผู้เป็นพ่อทันที “พ่อคะ ไม่ต้องห่วงอะไร มีหนูอยู่ ทั้งคน ตระกูลเสี่ยวไม่ทางล่มสลายแน่ค่ะ!”
แม้ว่าคําพูดของเสี่ยวจือหลงจะไม่ได้สวยหรูอะไรนัก แต่สีหน้าและแววตาของเธอนั้น กลับบ งบอกถึงความมุ่งมั่นและแน่วแน่อย่างชัดเจน!
“พ่อคะ หนูจะพาพ่อกลับไปพักผ่อนที่ห้องนะคะ!”
“หลินหนาน ฉันขอตัวพาพ่อกลับขึ้นห้องก่อนนะ”
จากนั้นเสี่ยวจือหลงก็ได้ประคองร่างของเสี่ยวเฉิงกงขึ้นไปชั้นสองทันที
ภายในห้องนอนของเสี่ยวเฉิงกงเวลานี้ มีเพียงแค่สองพ่อลูกอยู่กันตามลําพังเท่านั้น เขาจึ งหันไปถามลูกสาวด้วยสีหน้าสงสัยใคร่รู้
“หลิงหลง ทําไมลูกต้องปิดบังชื่อที่แท้จริงของตัวเองด้วยล่ะ?”
“พ่อคะ ที่หนูต้องใช้ชื่อปลอมนี้ ก็เพราะไม่ต้องการให้คนข้างนอกรู้ว่าหนูเป็นใคร เพื่อความป ลอดภัย!” เสียวหลิงหลงเอ่ยตอบ
“เด็กน้อยหนอเด็กน้อย! คิดไม่ถึงว่าการเกิดเป็นลูกสาวของพ่อ จะทําให้ลูกต้องมีชีวิตที่ลํา บาก แล้วก็เหน็ดเหนื่อยถึงเพียงนี้!” เสี่ยวเฉิงกงถึงกับถอนหายใจเสียงดัง ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไป ด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้า
หากไม่ใช่เพราะลูกชายที่ไม่เอาไหนของเขา ที่ควรจะต้องทําหน้าที่เป็นหัวหน้าตระกูล และ เป็นผู้สืบทอดธุรกิจของตระกูลเสียวแทนเขาแล้วล่ะก็ ลูกสาวของเขาก็คงจะไม่ต้องมีชีวิตอย่างที่ เป็นอยู่นี้
หญิงสาวในวัยที่กําลังสดใส และควรจะต้องมีความรัก แต่กลับต้องมาแต่งตัวเป็นผู้ชาย และ ใช้ชื่อปลอมเมื่ออยู่ข้างนอก
ช่างเป็นชีวิตที่น่าเหน็ดเหนื่อยเสียเหลือเกิน!
“พ่อคะ หนูไม่ได้รู้สึกลําบาก หรือว่าเหน็ดเหนื่อยอะไรเลย พ่อทําใจให้สบายนะคะ!” เสี่ยว หลิงหลงร้องบอกพร้อมกับยิ้มให้ผู้เป็นพ่ออย่างร่าเริง
หลังจากอยู่พูดคุยกับพ่ออยู่อีกครู่หนึ่ง ในที่สุดเสี่ยวหลิงหลงก็เดินลงมาจากชั้นสอง เธอเดิ นตรงเข้าไปหาหลินหนานพร้อมกับบอกไปว่า
“นี่ก็สายแล้ว! ฉันจะขับรถไปส่งนายกลับเอง ว่าแต่นายจะกลับไปที่ถนนหวู่หลง หรือจะกลับ ไปบ้านตระกูลเย่?”
“นี่ถ้าคุณไม่พูดชื่อตระกูลเยู่ขึ้นมา ผมคงจะลืมไปสนิทเลยล่ะ! ว่าแต่ยัยเด็กตัวแสบนั่นอยู่ที่ ไหน?”
หลังจากที่ได้ยินหญิงสาวพูดถึงตระกูลเยู่ขึ้นมา ทําให้หลินหนานเพิ่งนึกได้ว่า ตั้งแต่เขาก้าว เท้าเข้ามาภายในบ้านตระกูลเสี่ยว เขาก็ไม่เห็นเย่เข่อเอ๋ออีกเลย!
“เอ่อเอื้อน่าจะไปขับรถเล่นแล้วล่ะ! ฉันรับปากจะให้เธอยืมแลมโบกินีที่จอดอยู่ในโรงรถไปขับ เล่นสองวัน เพื่อแลกกับการที่เธอพาฉันไปหานายที่ห้องเช่า!”
“ดูจากท่าทางของเขอเอ่อแล้ว เธอคงจะอดใจรอไม่ได้แน่!”
เสี่ยวหลิงหลงเอ่ยตอบหลินหนาน ในขณะที่หลินหนานได้แต่ยิ้มขึ้น พร้อมกับพึมพําออกมา เสียงเศร้า
“นี่เสน่ห์กับหน้าตาที่หล่อเหลาของฉัน เทียบไม่ได้กับรถคันหนึ่งเลยเหรอ?”
เสี่ยวหลิงหลงถึงกับหัวเราะออกมา ก่อนจะถามหลินหนาว่า “รถเฟอรารี่ซ่อมเสร็จเรียบร้อย แล้ว นายจะขับกลับบ้านตระกูลเย่เองก็ได้นะ หรือจะให้ฉันขับไปส่ง?”
“ผมขับกลับไปเองจะดีกว่า ขอกุญแจรถให้ผมด้วย!” หลินหนานตอบกลับไปทันที
เสี่ยวหลิงหลงยื่นกุญแจรถให้กับหลินหนาน พร้อมกับถามขึ้นว่า “หลินหนาน บอกฉันมาตาม ตรง นายมั่นใจว่าจะรักษาพ่อขอฉันให้หายได้กี่เปอร์เซ็นต์?”
“เฮ้อ เรื่องนี้ตอบลําบาก เว้นแต่ว่า คุณจะยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิง…”
“นี่! หุบปากไปเลย!”
“ไม่ใส่ก็ไม่ใส่… ทําไมต้องตะคอกใส่ผมด้วย?”
พูดจบ หลินหนานก็ถือกุญแจวิ่งตรงไปที่รถทันที เสี่ยวหลิงหลงเห็นหลินหนานวิ่งหนีออกไป แบบนั้น ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แม้ใบหน้าของเธอจะฉาบไปด้วยรอยยิ้มสดใส แต่เสียงร้อง ตะโกนข่มขู่ก็ดังตามหลังหลินหนานไป
“นี่! จําไว้นะหลินหนาน ถ้านายรักษาพ่อของฉันให้หายไม่ได้ ฉันฆ่านายแน่!”