ตอนที่ 159 ใครหน้าไหนจะหยุดได้!
สีหน้าของเสี่ยวจือฉีเต็มไปด้วยความอวดดี และหยิ่งผยอง เวลานี้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ และสามารถจะสร้างเงื่อนไขเช่นใดกับน้องสาวก็ได้
และแน่นอนว่า ทันทีที่เสี่ยวจือหลงได้ยินคําพูดของเสี่ยวจือฉี สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันแน่น คล้ายกับกําลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
แต่ยังไม่ทันไร หลินหนานก็ตอบโต้เสี่ยวจือฉีกลับไป พร้อมกับยิ้มกว้าง “เฮ้อ มีลูกชายแก่ไปนิดก็คงจะไม่เป็นไร..”
หลังจากได้ฟังคําพูดของหลินหนาน เสี่ยวจือหลงก็หันไปจ้องมองเขาด้วยแววตาเป็นประกายสายตาของเธอนั้นบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตัวหลินหนานอย่างมาก
เสี่ยวจือฉียิ้มออกมา พร้อมกับหันไปพูดท้าทายเสี่ยวจือหลงต่อ “ว่ายังไงล่ะ? แกจะตกลงรับคําท้าของฉันมั้ย? ไหนบอกเชื่อมั่นในตัวหมอที่เชิญมามากไม่ใช่เหรอ? ทําไมถึงได้ลังเลอยู่ล่ะ หรือไม่อยากเห็นพ่อฟื้นขึ้นมาแล้ว?”
“ตกลง! ฉันรับคําท้าของพี่! แต่ฉันยังมีเงื่อนไขอีกหนึ่งข้อ…” เสี่ยวจือหลงตอบรับคําท้าด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา แต่กลับแฝงไว้ด้วยความมั่นอกมั่นใจอย่างยิ่ง
เสี่ยวจือฉีตอบกลับพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ “ขอแค่แกยอมรับคําท้า อย่าว่าแต่เงื่อนไขข้อเดียวเลย จะเพิ่มอีกสักสิบข้อ ฉันก็ไม่มีปัญหา!”
วันนี้ ขอเพียงเขาไล่เสี่ยวจือหลงออกไปจากตระกูลเสี่ยวได้ ไม่ว่าพ่อของเขาจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ ทุกอย่างภายในตระกูลเสี่ยว ก็จะต้องตกเป็นของเขาเสี่ยวจือฉีแต่เพียงผู้เดียว
หากเปรียบเทียบกับทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลของตระกูลเสี่ยว ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ยอมรับเงื่อนไขเล็กๆน้อยๆของน้องสาว
เสี่ยวจือหลงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างช้าๆและชัดเจน “ถ้าฉันเป็นฝ่ายชนะ นับจากนี้ไป พี่จะต้องเชื่อฟังคําพูดของฉัน ถ้าฉันสั่งให้ไปซ้าย พี่ก็ต้องไปซ้าย ตกลงมั้ย?”
“ตกลง! แกจะเสนอเงื่อนไขอะไรอีกสักกี่ข้อ ฉันก็ตกลงทั้งนั้นล่ะ เพราะแกจะไม่มีทางชนะยังไงล่ะ!”
เสี่ยวจือฉีตอบตกลงโดยแทบไม่ต้องคิดใคร่ครวญ และไม่มีท่าที่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ในความคิดของเขานั้น ต่อให้ไม่มีเงื่อนไข หรือเดิมพันพวกนี้ หากหลินหนานสามารถรักษาพ่อของเขาได้ เขาก็ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของเสี่ยวจือหลงโดยปริยายอยู่แล้ว
แต่หากเขาชนะ เสี่ยวจือหลงต่างหากที่จะเป็นฝ่ายสูญสิ้นทุกอย่าง เธอจะไม่หลงเหลืออะไรในชีวิตอีกเลย เช่นนี้แล้ว เขายังจะโง่ปฏิเสธเงื่อนไขเล็กๆน้อยอีกทําไมกันเล่า
หลังจากที่เสี่ยวจือฉีตกลงรับเงื่อนไขแล้ว เสี่ยวจือหลงจึงหันไปพูดกับหลินหนานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฉันเดิมพันด้วยทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตัวเองแล้ว อย่าทําให้ฉันต้องผิดหวังล่ะ!”
หลินหนานยิ้มให้พร้อมตอบกลับไปว่า “ไม่ต้องห่วง! ผมไม่อยากจะบอกว่า เคสคนไข้แบบนี้สําหรับผมแล้ว ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากซะอีก!”
“เชอะ! ขี้โม้ชะมัด! อย่าบอกนะว่าเป็นฮัวโต่กลับชาติมาเกิดอีกคนน่ะ?” เสี่ยวจือฉีพูดประชดประชัน
หลินหนานได้ยิน จึงหันไปบอกกับเสี่ยวจือฉียิ้มๆ “นายเตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ได้เลย!”
จากนั้น หลินหนานก็เดินตรงเข้าไปในห้องนอน เขาเข้าไปยืนข้างเตียงของผู้เฒ่าเสี่ยว และเริ่มลงมือสํารวจร่างกายของเขาอย่างละเอียดทันที
เวลานี้ ใบหน้าของชายชราเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ํา หลินหนานเห็นชัดเจนว่า ภายใต้เปลือกตาที่ปิดอยู่นั้น ภายในคล้ายกับมีควันสีดําจางๆเคลือบอยู่
“ดูเหมือนพิษยังไม่ได้แผ่ซ่านไปถึงจุดกึ่งกลางหว่างคิ้ว นี่แสดงว่าหัวใจของชายชรายังไม่ถูกพิษทําลายอย่างสมบูรณ์ โชคดีที่ยังไม่สายจนเกินไป!”
หลินหนานพึมพํากับตัวเอง พร้อมกับหยิบถุงผ้าสีดําที่นําติดตัวมาด้วย ออกมาถือไว้ในมือ ก่อนจะค่อยๆบรรจงเปิดถุงผ้าสีดําออกอย่างระมัดระวัง เผยให้เข็มสีเงินเก้าเล่มซึ่งมีความยาวแตกต่างกันเรียงรายอยู่ภายใน และเข็มเงินทั้งเก้าเล่มนี้ก็คือเข็มนภาที่ทําจากอุกกาบาตรเหล็กนั่นเอง!
หลินหนานได้แต่คิดในใจว่า หากเขามาเร็วกว่านี้ น่าจะช่วยผู้เฒ่าเสี่ยวได้มากกว่านี้
เวลานี้ หลินหนานก็พร้อมแล้วที่จะนําเข็มอุกกาบาตรเหล็ก ซึ่งมีความยาวแตกต่างกันนี้ ขึ้นไปปักเรียงรายอยู่บนร่างของชายชรา
“เริ่มการฝังเข็ม!”
หลินหนานสูดลมหายใจเข้าลึก เขารวบรวมพลังปราณในร่าง เพื่อที่จะถ่ายเทเข้าสู่ร่า งของชายชราต่อไป สีหน้าและแววตาของหลินหนานเวลานี้เปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นอย่างมาก นิ้วมือของเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน เขาหยิบเข็มเงินขึ้นมาหนึ่งเล่ม
จู่ๆ ก็มีควันสีขาวคล้ายหมอกปรากฏขึ้น ในระหว่างที่เหลินหนานกําลังปักเข็มสีเงินซึ่งทําจากอุกกาบาตรเหล็ก ลงไปที่จุดไปหุ้ยกลางกระหม่อมของชายชรา!
ทันทีที่เข็มเล่มแรกปักลงไป สายตาของหลินหนานก็ยิ่งสงบนิ่ง และดูแหลมคมมากยิ่งขึ้น เข็มในมือของเขานั้น ไม่ต่างจากอาวุธแหลมคม วิธีที่เขาใช้ปักเข็มทั้งเก้าเล่ม ลงไปบนจุดฝังเข็มทั้งเก้าบนร่างของชายชรานั้น ก็แตกต่างกันไป..
บูม!
ทันทีที่เข็มเล่มสุดท้ายปักลงตรงจุดฝังเข็มบนร่างของชายชรา พลังปราณในร่างของหลินหนานก็ถูกถ่ายเทเข้าไปด้วย จนเกิดเป็นควันสีขาวและสียงดังที่น่ากลัวขึ้น จนผู้คนที่ยืนดูอยู่ถึงกับต้องยกมือขึ้นบิดหู และหลับตาด้วยความตกใจ
มีเพียงเสี่ยวจือหลงเท่านั้นที่ยังคงยืนแน่นิ่ง และดวงตาทั้งสองก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินหนานไม่กระพริบ
เขาไม่ได้หลอกลวงจริงๆ!
เขาเป็นหมอเทวดาจริงๆ!
ทักษะในการฝังเข็มของเขาช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน!
เมื่อครั้งที่ฉันสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนยอดเขาฟูหลง นายคงจะรักษาฉันด้วยวิธีเดียวกันนี้สินะ?
แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์บนยอดเขาฟูหลงในคืนนั้น ใบหน้าของเสี่ยวจือหลงพลันเปลี่ยนเป็นแดงขึ้นมาทันที แม้เธอจะไม่รู้สึกตัวในระหว่างที่เขาทําการรักษา แต่เธอก็มั่นใจอย่างยิ่งว่า หลินหนานต้องเห็นเนินอกของเธอแล้วอย่างแน่นอน!
“แต๊ก แค๊ก..”
ในขณะที่เสี่ยวจือหลงกําลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดนั้น เสียงไออย่างหนักของใครบางคนก็ดังขึ้น ดึงเธอให้หลุดออกจากห้วงความคิดในทันที
ผู้เฒ่าเสี่ยวที่นอนแน่นิ่งอยู่ในอาการโคม่า ในที่สุดก็รู้สึกตัว หลังจากที่หลินหนานได้ทําการฝังเข็มให้
“พ่อคะ! พ่อฟื้นแล้ว! พ่อฟื้นแล้วจริงๆ”
เมื่อได้เห็นผู้เฒ่าเสี่ยวฟื้นคืนสติ เสี่ยวจือหลงก็ถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความดีอกดีใจ แต่แล้วก็ไม่ลืมที่จะหันไปทางเสี่ยวจือฉีที่ยืนอยู่ พร้อมกับร้องเตือนว่า
“พี่ใหญ่ อย่าลืมทําตามสัญญาด้วยล่ะ!”
หลังจากที่จัดการดึงเข็มอุกกาบาตรเหล็กออกจากร่างของชายชราอย่างระมัดระวังแล้ว หลินหนานก็ได้หันหน้ามองไปทางเสี่ยวจือฉี ที่ยืนห่างจากเตียงไปไม่ไกลนัก
เวลานี้ แม้แต่หมอมีชื่อที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็พากันหันไปมองเสี่ยวจือฉีเป็นตาเดียว และ กําลังดูว่าเขาจะทําตามที่ได้ลั่นวาจาไว้หรือไม่?
จะยอมคุกเข่า หรือไม่ยอม?
และแน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่เสี่ยวจือฉียากที่จะตัดสินใจอย่างยิ่ง
“เป็นไปได้ยังไง? นี่แกทําได้ยังไง?”
เวลานี้ เสี่ยวจือฉีได้แต่ยืนกํามือแน่น สีหน้าของเขาเศร้าหมอง สายตาบ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเขาก็ไม่เข้าใจว่า ในเมื่อง่ายดายขนาดนี้ แต่ทําไมหมอชื่อดังทั้งหมดที่เขาเชิญมาในวันนี้ กลับไม่มีใครสามารถทําให้พ่อของเขาฟื้นได้เลยแม้แต่คนเดียว
แต่หลินหนานกลับสามารถทําให้พ่อของเขาฟื้นขึ้นมาได้ในเวลาเพียงแค่สั้นๆ แค่ห้านาทีเท่านั้น!
เพียงแค่ห้านาที่จริงๆ!
เรียกได้ว่า เขาสูบบุหรี่ยังไม่ทันหมดสองมวนด้วยซ้ํา หลินหนานก็สามารถเอาชนะคําท้าทายของเขาได้แล้ว หลินหนานทําได้รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ!
“นายไม่ต้องสนใจว่าฉันทําให้อาวุโสฟื้นขึ้นมาได้ยังไง? แต่สิ่งที่นายต้องสนใจก็คือ ฉันชนะเดิมพันครั้งนี้”
“นี่คุณชายใหญ่ ต่อหน้าพยานมากมาย หวังว่าจะนายจะไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกง หาทางหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทําตามสัญญาหรอกนะ?” หลินหนานยิ้มมุมปาก ก่อนจะร้องบอกเสี่ยวจือฉี
เสี่ยวจือฉีถึงกับหน้าแดงก่ําด้วยความโมโห เขากัดฟันกรอดพร้อมกับต่อรองว่า “ฉันคุกเข่าให้แกไม่ได้จริงๆ ฉันขอเปลี่ยนไปทําอย่างอื่นแทนก็แล้วกัน?”
หากเขาต้องคุกเข่าให้คนกระจอกๆ ที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างหลินหนาน ต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้แล้วล่ะก็ วันหน้า.. เขาจะสามารถเชิดหน้าเดินอย่างสง่าผ่าเผยในเมืองนี้ได้อย่างไรกัน?
เขายอมผิดคําพูด ดีกว่าจะยอมคุกเข่าให้หลินหนาน!
“อ่อ.. ดูท่าคุณชายใหญ่คิดที่จะกลืนน้ําลายตัวเองสินะ?” หลินหนานพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน พร้อมกับลุกขึ้นยืน และเดินตรงไปหาเสี่ยวจือฉีทันที
มีหลายสิ่งหลายอย่างในโลกใบนี้ที่หลินหนานเกลียด และการไม่รักษาคําพูดก็เป็นหนึ่งในนั้น..
หมอนี่สับปลับปลิ้นปล้อน ฉันคงต้องสั่งสอนคนอย่างแกให้หลาบจําซะบ้าง
เสี่ยวจือฉีตกใจกลัวจนถึงกับต้องถอยหลังหนี เขาไม่เคยพบเห็นใครที่มีสีหน้าท่าทางน่าสะพรึงกลัวเหมือนหลินหนานในตอนนี้มาก่อน หลินหนานทําเหมือนว่ากําลังจะกินเลือดกินเนื้อเขาให้ได้
เสี่ยวจือฉีถอยหลังไปจนกระทั่งชนเข้ากับกําแพง และไม่สามารถถอยหนีไปไหนได้อีก จึงได้แต่ร้องตะโกนถามเสียงสั่น
“นี่แก.. แกจะทําอะไรฉัน? แกคิดจะฆ่าฉันภายในบ้านหรือยังไง? ที่นี่เป็นบ้านตระกูลเสี่ยวนะ แกกล้างั้นเหรอ?”
“หึ! ถ้าคนอย่างฉันจะจัดการกับคนอย่างนาย ใครหน้าไหนจะหยุดฉันได้!”
ทันทีที่พูดจบ ร่างของหลินหนานก็พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเสี่ยวจือฉีอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู และกรงเล็บที่แหลมคมของเขา ก็กําลังกําอยู่ที่คอหอยของเสี่ยวจือฉี!