ตอนที่ 154 แต่งตัวเป็นผู้หญิง
เชอะ! ผมไม่ขายตัวงั้นเหรอ?!
เสี่ยวจือหลงได้ยินคําพูดของหลินหนานก็ได้แต่นึกประชดประชันอยู่ในใจ..
ดูจากสภาพความเป็นอยู่ของนายตอนนี้ ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่า นายไปเอาความมั่นใจแบบนี้มา จากไหน?
“นี่นายคิดไปถึงไหนกัน? ที่ฉันเอาเงินสามล้านมาให้นาย ก็เพราะต้องการให้นายตามฉันไปที่บ้าน แล้วก็ช่วยอะไรฉันบางอย่างต่างหากล่ะ!”
เสี่ยวจือหลงหันไปจ้องมองหลินหนานด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก และใบหน้าขาวนวลของเธอก็บ่งบอกถึงอาการโมโหเล็กน้อย
หากมีทางเลือกอื่น เธอก็คงไม่เลือกที่จะมาพบหลินหนานอีกครั้งแน่ และคงเลือกที่จะอยู่ให้ห่างไกลจากเขาให้มากที่สุด
หลินหนานเห็นใบหน้าทิ้งตึง และร่องรอยกระอักกระอ่วนใจในแววตาของเสี่ยวจือหลง ก็ยิ่งอยากจะแกล้งหญิงสาว จึงพูดกระเซ้าเย้าแหย่ออกไปว่า
“อ่อ.. ที่แท้ก็จะมาพาฉันไปให้พ่อแม่ของนายดูตัวนี่เอง แต่เสียใจด้วย! นายไม่ใช่ผู้หญิง เพราะฉะนั้น อย่าได้หวังว่าฉันจะไปกับนาย!”
เสียวจือหลงได้ฟังคําพูดยียวนกวนประสาทของหลินหนาน ก็โมโหจนแทบอยากจะวิ่งกลับออกไปทันที
ไอ้ทุเรศ! พูดออกมาได้ รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าฉันแค่ปลอมเป็นผู้ชาย!
นี่นายได้ที่ก็เอาเรื่องของฉันมาหยอกล้อสนุกปากเชียวนะ!
เสี่ยวจือหลงเองก็ไม่เข้าใจว่า เพราะเหตุใดที่เธอได้เผชิญหน้ากับหลินหนาน ชีพจรของเธอถึงได้เต้นเร็วกว่าปกติ และเธอมักจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้
แต่เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ที่มาพบหลินหนานในวันนี้ เสี่ยวจือหลงก็ได้แต่ต้องอดทนอดกลั้น ข่มอารมณ์โกรธที่พวยพุ่งขึ้นมา และพยายามอธิบายให้หลินหนานฟังอย่างใจเย็นว่า
“ครั้งก่อนที่นายช่วยชีวิตของฉันไว้บนเขาฟูหลง และได้บอกฉันเรื่องที่ถูกวางยา หลังจากกลับไปบ้าน ฉันก็ไปนั่งทบทวนคําพูดของนาย และรู้สึกว่าน่าจะเป็นไปได้…”
“ในเมื่อเชื่อคําพูดของฉันแล้ว ทําไมนายยังไม่เรียกฉันว่าพ่อคนอัจฉริยะอีกล่ะ? ฉันจะบอกอะไรให้นะ นายเพิ่งจะมานึกเชื่อฉันตอนนี้ ไม่คิดว่ามันสายเกินไปหน่อยเหรอ?”
หลินหนานเดินกลับไปนั่งไขว่ห้างที่เตียง พร้อมกับร้องถามเสี่ยวจือหลงด้วยสีหน้าท่าทางไม่แยแส..
ผู้ชายคนนี้หยิ่งผยองชะมัด!
“พี่เขยก็.. อย่าทําให้พี่จื่อหลงอึดอัดใจนักสิ! เขาอุตส่าห์มาหาพี่เขยถึงที่นี่เชียวนะ”
เย่เข่อเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างเสี่ยวจือหลงรีบวิ่งเข้าไปหาหลินหนาน พร้อมกับพูดจาออดอ้อน จนเขาถึงกับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย..
ไม่ใช่แล้ว! ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ!
วันนี้เย่เข่อเอ๋อดูแปลกไปมาก แม่สาวน้อยดูเหมือนจะดีกับเราจนเกินเบอร์ไปมาก! ต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ
หลังจากที่ได้ยินน้ําเสียงออดอ้อนอ่อนหวานของเยี่เข่อเอ๋อ หลินหนานก็ถึงกับขนลุกขนชัน และเย็นวาบไปทั่วทั้งแผ่นหลังทันที สายตาของหลินหนานเหลือบมองไปทางเสี่ยวจือหลงโดยไม่รู้ตัว และแล้วเขาก็เข้าใจทุกอย่างได้กระจ่างแจ้งในทันที
หลินหนานยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว พร้อมกับพูดขึ้นว่า “นี่แม้แต่น้องสาวภรรยาของฉัน ยังถูกนายซื้อตัวไปแล้วเหรอนี่? หึ.. ดูท่านายคงจะเตรียมการมาอย่างดีสินะ?”
เย่เข่อเอ๋อขมวดคิ้วพร้อมกับยกมือเท้าสะเอวอย่างไม่พอใจ ก่อนจะตวาดใส่หลินหนานเสียงดัง
“ซื้อบ้าซื้อบออะไรกันล่ะ? นายไม่รู้อะไร ฉันซาบซึ้งใจในความพยายามของพี่จื่อหลงต่างหากล่ะ เพื่อที่จะให้ได้พบนาย พี่จื่อหลงถึงกับต้องยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้านเราตลอดทั้งบ่ายเชียวนะ!”
“หึ! ซาบซึ้งใจเพราะเขายืนเฝ้าหน้าประตูบ้านตลอดทั้งบ่ายงั้นเหรอ?! นี่ บอกฉันมาตรงๆดีกว่าเย่เข่อเอ๋อ เธอไปตกลงอะไรเป็นการส่วนตัวกับไอ้หมอนั่นกันแน่?” หลินหนานเอ่ยถามด้วยสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง
หลังจากได้ยินคําถามที่รู้กันของหลินหนาน เด็กสาวที่จองหองดื้อรั้นอย่างเย่เข่อเอ๋อ ก็ถึงกับมีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจเพราะถูกจับได้ทันที แต่ก็ยังคงนิ่งเงียบ จนหลินหนานต้องเป็นฝ่ายถามขึ้นว่า
“ถึงเธอจะไม่ยอมบอก ฉันก็เดาออกอยู่ดี เสียวจือหลงคงจะรับปากให้เธอยืมรถสปอร์ตของเขาขับสินะ?”
เย่เข่อเอ๋อได้ยินคําพูดของหลินหนาน ก็ถึงกับตกใจ และหันไปมองหน้าเสี่ยวจือหลงเลิกลัก
และแน่นอนว่า ทั้งคู่ตกลงกันเช่นนั้นจริงๆ!
จากท่าทางลุกลี้ลุกลนของเยี่เข่อเอ๋อ ทําให้หลินหนานยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า สิ่งที่ตนเองคาดเดานั้นถูกต้อง และน้องสาวของภรรยาเขา ก็ถูกเสี่ยวจือหลงซื้อไปเป็นพวกแล้วจริงๆ
หลินหนานจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เอาล่ะ ถ้านายไม่ยอมพูดความจริงกับฉัน ก็เชิญกลับไปออกไปได้เลย ฉันไม่อยากเสียเวลาฟังเรื่องไร้สาระอีก!”
หลังจากพูดจบ หลินหนานก็ล้มตัวนอนลงบนเตียง พร้อมกับดึงผ้านวมขึ้นมาห่ม เย่เข่อเอ๋อเห็นเช่นนั้น จึงรีบปรี่เข้าไปกอดแขนหลินหนานไว้ พร้อมกับออดอ้อนเขาอีกครั้ง
“พี่เขยคะ.. อย่าทําอย่างนี้เลยนะ! พี่จือหลงอุตส่าห์มาเชิญพี่เขยด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นว่า เขามีความจริงใจมากแค่ไหน มิหนําซ้ํายังนําเงินมาให้พี่เขยเป็นการตอบแทนอีกด้วย เห็นแก่หน้า ฉันสักครั้ง ไปกับพี่จื่อหลงเถิดนะ!”
ระหว่างที่เย่เอ่อเอ๋อกอดแขนออดอ้อนอยู่นั้น หลินหนานก็สัมผัสได้ถึงสัมผัสอ่อนนุ่มที่แปลกประหลาด..
นับวันน้องเมียของฉันจะยิ่งเจ้ามารยา แล้วก็ออดอ้อนเก่งขึ้นทุกวันสินะ!
แต่ถึงอย่างนั้น ครั้งนี้หลินหนานก็ไม่มีทางหลงกลเยี่เข่อเอ๋ออีกแน่ เขาหันไปพูดกับเสี่ยวจือ หลงด้วยสีหน้านิ่งเรียบแทน
“ฉันชอบฟังความจริง ถ้านายบอกเล่าความจริงทั้งหมดให้ฉันฟัง ฉันก็อาจจะคิดดูอีกครั้งว่าจะไปกับนายหรือไม่? แต่ถ้านายยังมีความลับกับฉันมากมายอีก ก็เชิญกลับออกไปซะ!”
หลินหนานปรายตามองกระเป๋าที่บรรจุเงินสามล้านหยวน คล้ายกับจะบอกเสี่ยวจือหลงเป็นนัยๆว่า ให้กลับออกไปพร้อมกับเงินของเธอ!
หลินหนานขาดแคลนเงินทองงั้นหรือ?
แน่นอนว่าใช่!
แต่หากต้องการใช้เงินก็ต้องรู้จักหาเงิน แม้หลินหนานจะต้องการเงินมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่ต้องการเป็นเหยื่อให้ใครหลอกใช้ โดยเฉพาะสังคมยุคนี้ เขาจําเป็นต้องระมัดระวังตัวให้มาก
“เอาล่ะ.. ขอบอกตามตรงที่ฉันทําทุกอย่างลงไป ก็เพราะอยากจะเชิญนายไปที่บ้าน เพื่อรักษาอาการป่วยของพ่อฉัน ฉันกําลังสงสัยว่า ท่านเองก็อาจจะถูกคนวางยาเหมือนกัน!”
“แต่ที่ผ่านมา หมอตามโรงพยาบาล ต่างก็ไม่มีใครสามารถตรวจหาสาเหตุของอาการป่วยพบ ฉันเองก็ไม่สามารถทนเห็นพ่อเป็นแบบนี้ต่อไปได้ ก็เลยไปขอให้คุณหนูเย่ช่วยพาฉันมาพบนายที่นี่ เพื่อจะขอเชิญนายไปที่บ้านยังไงล่ะ..”
แม้ว่าเสี่ยวจือหลงจะพูดจบไปแล้ว แต่แววตาของเธอนั้น กลับมีร่องรอยของความทุกข์ทรมานใจอย่างมากมาย จนไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้
เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็ก แม่ของเธอก็ปวยตายเช่นกัน ถึงแม้พ่อของเธอจะมีงานยุ่งมากเพียงใด แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่จะไม่ดูแลเธอ ตอนนี้ เธอกลับต้องทนมองพ่อนอนป่วยหนักอยู่บนเตียง โดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ และไม่ว่าหมอที่ไหน ก็ไม่สามารถรักษาพ่อของเธอให้หายได้
“ฉันเชื่อแล้วว่านายไม่ได้พูดโกหก” หลินหนานกระซิบเสียงเบา
และเมื่อได้ยินคําพูดของหลินหนาน เสี่ยวจือหลงก็ถึงกับแอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แต่ยังไม่ทันไร หลินหนานก็พูดต่อทันที “แต่ฉันมีข้อแม้ในการรักษาคนไข้อยู่สามข้อ!
เสี่ยวจือหลงถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงุนงงสงสัย เพราะไม่รู้ว่าหลินหนานจะมาไม้ไหนกันแน่?
หลังจากได้ยินคําพูด และสีหน้าจริงจังของหลินหนาน เย่เข่อเอื้อถึงกับอดไม่ได้ ต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับพูดกระเช้าหลินหนานว่า
“พี่เขย. นี่นายตั้งตัวเป็นหมอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แถมยังทําสีหน้าท่าทางจริงจังขึงขัง ราวกับว่าตัวเองเป็นหมอเทวดาอย่างนั้นล่ะ ฮ่าๆๆ”
“นี่ เด็กๆอย่างเธอจะไปไหนก็ไปเลย ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน ฉันจะบอกอะไรให้ พี่เขยของเธอคนนี้มีฉายาว่าหมอเทวดาจริงๆ!” หลินหนานหันไปตําหนิเย่เข่อเอ๋อ ที่พูดขัดจังหวะขึ้นมา
เย่เข่อเอ๋อรีบหุบยิ้ม และแกล้งทําเป็นตอบหลินหนานกลับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ก็ได้ๆ ฉันผิดไปแล้วพี่เขย ในเมื่อพี่เป็นถึงหมอเทวดา ได้โปรดช่วยพี่จื่อหลงด้วยนะ!”
“ฉันเองเพิ่งจะบอกว่า มีข้อแม้ในการรักษาคนไข้อยู่สามข้อ แต่เธอก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน!” หลินหนานหันไปดุเย่เข่อเอ๋ออีกครั้ง
เสี่ยวจือหลงหน้าเสีย และรีบถามขึ้นมาทันที “เงื่อนไขสามข้อที่ว่าคืออะไร?”
“ข้อแรก.. ฉันไม่รักษาให้กับคนรวยแต่แล้งน้ําใจ!”
“ข้อสอง ฉันไม่รักษาคนที่ชอบเล่นการพนัน หรือเที่ยวผู้หญิง!”
“และข้อสุดท้าย ฉันจะไม่รักษา ถ้าไม่มีอารมณ์อยากจะรักษา!”
“ตอนนี้ นายทําให้ฉันอยู่ในเงื่อนไขข้อที่สาม เพราะฉะนั้น นายกลับไปได้แล้ว!” หลินหนานตอบกลับช้าๆ และชัดเจน
เสี่ยวจือหลงได้ฟัง ก็แทบหมดความอดทน และอยากจะยกกระเป๋าบรรจุเงินทุ่มใส่ศรีษะของหลินหนาน..
เงื่อนไขสองข้อแรกเป็นหลักการที่หลินหนานน่าจะยึดมั่นจริงๆ แต่ข้อสามนั้น เสี่ยวจือหลงไม่มั่นใจว่า หลินหนานเพิ่งจะเพิ่มเข้าไปเมื่อครู่หรือไม่?
ฉันเองก็กําลังนึกอยากทุบหัวใครสักคน!
“กฏเกณฑ์เงื่อนไขล้วนเป็นเรื่องที่สามารถยืดหยุ่นได้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะให้นายพอใจ และมีอารมณ์ที่จะรักษาคนไข้ได้ยังไง? หรือนายคิดว่าเงินจํานวนนี้น้อยไป? ฉันเพิ่มให้ก็ได้นะ นายเรียกร้องมาได้เลย!” เสี่ยวจือหลงพยายามข่มความโกรธไว้ และเจรจากับหลินหนานด้วยเหตุผล
หลินหนานเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับตอบไปว่า “ฉันรู้ว่านายร่ํารวย แต่บางครั้งเงินก็ไม่สามารถซื้อทุกอย่างได้ อีกอย่าง ฉันเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเงิน..”
“หลินหนาน.. นายต้องการอะไรก็บอกฉันมาตรงๆ ฉันไม่มีเวลามานั่งต่อปากต่อคํากับนายหรอกนะ!”
ในที่สุด เสี่ยวจือหลงก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป..
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิ! เอาล่ะ.. ถ้านายยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิง ฉันก็จะยอมไปกับนาย ฉันอึดอัดที่จะไปกับผู้ชายด้วยกัน!”
หลินหนานตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้าง