ตอนที่ 117 ทนไม่ไหว!
ทุกคนในที่นั้นต่างก็ไม่คุ้นกับทะเบียนรถของเฟอรารี่สีแดงคันนี้ ฉะนั้น เมื่อจู่ๆเย่เข่อเอื้อปรากฎตัวขึ้นโดยไม่ได้รับเชิญเช่นนี้ ทุกคนจึงได้แต่จ้องมองด้วยสีหน้าแววตาดุดัน
แต่หลังจากที่เห็นหลินหนานกลิ้งลงมาจากรถแบบนั้น พวกเขาก็ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน และพวกเขาก็ไม่ได้เพียงแค่หัวเราะท่าทางของหลินหนานเท่านั้น แต่ยังขบขันกับการแต่งตัวของเขาอีกด้วย เพราะมันดูธรรมดา และเรียบง่ายมากจนเกินไป!
แต่คนอย่างหลินหนานไม่เคยรู้จักคําว่า “อาย” หลังจากลุกขึ้นยืนได้แล้ว เขาก็รีบโบกไม้โบกมือทักทายทุกคนทันที
“เฮ้!! สวัสดีทุกคน!”
แต่หลังจากที่หลินหนานกวาดตามองไปรอบๆจนทั่ว เลือดกําเดาก็แทบพุ่งออกจากรูจมูกของเขา นั่นเพราะภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหลินหนานเวลานี้ ดั่งสวรรค์ของชายหนุ่มอย่างเขา ไม่ว่าจะเป็นเรียวขายาวงดงาม และคอเสื้อที่ผ่าลึกจนเห็นเนินอกขาวผ่อง..
แววตาของหลินหนานเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาทันที เวลานี้เขารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอย่างมาก ราวกับว่ากําลังวิ่งอยู่ในทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่
โอ้โห!! ตูมๆทั้งนั้นเลย แต่ละคนทําไมถึงได้มีหน้าอกหน้าใจใหญ่โตแบบนี้นะ? ใหญ่โตซะยิ่งกว่าอาวุธสงคราเสียอีก!
แล้วดูขาของแต่ละคนสิ! โอ้โห.. ทั้งเรียว ทั้งยาว แล้วก็ทั้งขาว!
เวลานี้ นอกจากหลินหนานจะตาค้างแล้ว เขายังจะอ้าปากค้างอีกด้วย แต่เขาแทบไม่ปรายตามองไปทางหนุ่มๆเลย เพราะเขาไม่ได้มีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน!
หลินหนานจ้องมองสาวๆตรงหน้าอย่างเปิดเผย และไม่มีท่าที่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยทําให้ชายหนุ่มในกลุ่มเริ่มไม่พอใจ
หมอนี่ท่าจะบ้า?
ทุกคนต่างก็หยุดคุย และหันมองไปทางแขกที่ไม่ได้รับเชิญกันเป็นตาเดียว สายตาของพวกเขาที่จ้องมองหลินหนานนั้น ราวกับจะสแกนให้เห็นถึงภูมิหลัง และฐานะของอีกฝ่าย..
นั่นเพราะ.. กลุ่มคนที่ชอบแข่งรถนั้นก็มีร้อยพ่อพันแม่ แต่หากจะเปรียบเทียบกับกลุ่มที่แข่งด้วยรถสปอร์ตราคาหลายล้านแล้วล่ะก็ กลุ่มคนเหล่านั้นยังห่างไกลกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างมาก!
และคนกลุ่มนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ตัดสินผู้คนจากการแต่งกาย และรถที่พวกเขาขับ!
หลังจากสํารวจและสังเกตการอยู่ครู่หนึ่ง ทุกคนในที่นั้นต่างก็ลงความเห็นตรงกันว่า หลินหนานก็คือพวกกระจอกที่อยู่คนละระดับกับตน!
นั่นเพราะหลินหนานไม่เพียงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าพื้นๆ แต่ลักษณะท่าทางของเขายังดูเงอะๆ งะๆ ไร้ความมั่นอกมั่นใจ เหมือนกับคนที่มาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะทางสังคมอะไร
หลังจากที่สรุปและมั่นใจเช่นนั้น ชายหนุ่มหลายๆคนในกลุ่ม ก็พากันเดินเข้าไปล้อมหลินหนานไว้ พร้อมกับร้องตะโกนถามเสียงดัง
“นี่! แกเป็นใคร? แล้วมาที่นี่ได้ยังไง?”
“แล้วนี่แกโผล่มาจากรูไหนกัน ถึงได้ไม่รู้กฎพื้นฐานของที่นี่? แกรู้มั้ยว่าที่นี่คือสถานที่อะไร?”
“นี่! ถ้าแกยังกล้ามองหน้าอกของแฟนฉันอีกล่ะก็ ฉันจะหักขาของแกทิ้งซะ แล้วก็จะควักลูกตาของแกออกมาด้วย!”
ชายหนุ่มหลายคนต่างก็เดินมาห้อมล้อมหลินหนานไว้ และพากันพูดจาข่มขู่เขาอย่างไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
ในขณะที่เยี่เข่อเอ๋อยังคงนั่งอยู่ในรถ และจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความรู้สึกสนุกสนาน ยังไม่มีวี่แววว่าจะลงไปช่วยหลินหนานเลยแม้แต่น้อย
หลินหนานแกล้งทําเป็นไม่ได้ยินที่ชายหนุ่มเหล่านั้นพูด และสีหน้าของเขาก็เรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก เขาทําราวกับว่าชายหนุ่มที่ยืนรุมล้อมเขาอยู่นั้น เป็นเพียงแค่แมลงวันน่ารําคาญและไม่สนใจแม้แต่จะยกมือขึ้นโบกไล่
แต่ทว่า.. สีหน้าท่าทางของหลินหนาน ก็ได้ทําให้พี่ใหญ่ในกลุ่มคนหนึ่งถึงกับโมโหเดือดดาลอย่างมาก จนต้องร้องตะโกนตวาดใส่หน้าหลินหนาน
“นี่.. แกหูหนวกหรือยังไง? ฉันถามแก ทําไมแกถึงไม่ตอบ.?”
“นายถามฉันว่าอะไรนะ?!”
หลินหนานย้อนถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แววตาของเขานั้น กลับทําให้ชายหนุ่มที่ดูเหมือนเป็นพี่ใหญ่ในกลุ่ม ถึงกับสั่นสะท้านขึ้นมาได้
และเวลานี้ เขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเผลอร่วงตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง!
เขาไม่เคยพบเห็นสายตาของใครที่น่าเกรงขาม และน่าหวาดกลัวแบบนี้มาก่อน มันคล้ายกับว่า สายตาของคนผู้นี้สามารถมองทะลุเข้าไปถึงจิตวิญญาณของเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ชายหนุ่มผู้นั้นถึงกับผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว
แต่หลังจากที่ก้าวถอยหลังออกมาแล้ว เขาจึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ตนเองเป็นถึงพี่ใหญ่ของกลุ่มจึงได้แต่กัดฟันตัดความกลัวที่เกิดขึ้นในใจทิ้ง และร้องตวาดใส่หน้าหลินหนานอีกครั้ง
“นี่แกอวดดีมากไปแล้ว!! ฉันจะสั่งสอน..”
แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดประโยคสุดท้ายจบ เขาก็รับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่พุ่งเข้ากระทบกับใบหน้าของตนเองอย่างแรง
เขารู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาพร้อมกับมองเห็นดาวทันที!
“ห๊ะ?!!”
และเมื่อชายหนุ่มอ้าป้ากออก ฟันในปากของเขาก็ร่วงหลุดออกมา แล้วเลือดสีแดงก็พุ่งตามออกมาด้วย
หลังจากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างก็พากันยกมือขึ้นขยี้ตาของตัวเองและแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
โอ้โห.. รวดเร็วขนาดนี้เชียวเหรอ?!
ทุกคนในกลุ่มต่างก็ไม่มีใครเห็นชัดเจนว่า หลินหนานขยับเนื้อขยับตัว และฝ่ามือของเขาฟาดเข้ากับใบหน้าของอีกฝ่ายตอนไหนแน่?
เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนมองไม่ทัน!
หลินหนานจ้องหน้าชายหนุ่ม พร้อมกับพูดขึ้นว่า “นี่น้องชาย.. ปากของนายเหม็นมากนะรู้มั้ย? นี่นายกินขี้เข้าไปหรือยังไง?”
หลังจากนั้น หลินหนานก็กวาดตามองไปทางชายหนุ่มที่ยืนรายล้อมเขาอยู่ทีละคนๆ แต่ละคนต่างก็มีสีหน้าที่ตกใจและหวาดกลัวไม่น้อย
แต่แล้วจู่ๆ ประตูรถเฟอรารี่ด้านคนขับก็เปิดออก เย่เข่อเอ๋อก้าวเดินลงมา พร้อมกับร้องตะโกนห้ามหลินหนานทันที
“หลินหนาน หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันไม่ได้ชวนนายมาที่นี่เพื่อก่อเรื่อง!”
หลังจากที่ทุกคนได้เห็นเย่เข่อเอ๋อก้าวเดินลงมาจากรถ ชายหนุ่มทั้งหมดที่อยู่ในที่นั้น ต่างก็พากันร้องอุทานออกมาเกือบจะพร้อมกัน
สวยมาก! สวยไม่มีที่ติจริงๆ!
และดูเหมือนหนึ่งในนั้นจะรู้จักเย่เข่อเอ๋อ และรู้ฐานะที่แท้จริงของเธอ จึงได้กระซิบบอกคนข้างๆว่า “เธอเป็นคุณหนูรองของตระกูลเย่ชื่อว่าเย่เข่อเอ๋อ…”
หากจะพูดถึงความร่ำรวยของตระกูลเยู่แล้ว แม้ความมั่งคั่งและอํานาจบารมีจะไม่อาจเทียบเท่าตระกูลใหญ่อีกหลายตระกูล แต่ชื่อของเย่ชิงเฉิงพี่สาวของเธอนั้น ก็เป็นที่รู้จักของผู้คนว่า เธอคือหนึ่งในกุหลาบสามดอกแห่งเมืองเจียงไฮว!
นี่ต่างหาก.. ความสวยงามที่แท้จริง!
นอกจากเย่เข่อเอ๋อจะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่งดงามอย่างมากแล้ว เธอยังมีความสามารถทางด้านศิลปะอื่นๆด้วย อนาคตของเธอนั้นจึงค่อนข้างสดใส และสมกับคําว่าหญิงงามอย่างแท้จริง!
ว่าแต่ จู่ๆ เพราะเหตุใดเยี่เข่อเอ๋อจึงได้มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้?
ในระหว่างที่ทุกคนต่างก็พากันกระซิบกระซาบกันอยู่นั้น เสียงมีเสน่ห์น่าดึงดูดของใครบางคนก็ดังขึ้น
“จู่ๆ คุณหนูรองแห่งตระกูลเย่มาถึงที่นี้ได้ยังไงกัน?”
ทันทีที่เสียงพูดของใครบางคนนี้ดังขึ้น ทุกคนในที่นั้นต่างก็พากันหันไปทักทายเจ้าของเสียงด้วยท่าที่เคารพนบนอบ
“สวัสดีครับพี่หลง..”
ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา ปล่อยผมยาวปลิวไสว กําลังก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
เย่เข่อเอ๋อ.. สาวน้อยที่ไม่เคยเกรงกลัวฟ้าดินใดๆ จู่ๆก็เกิดมีอาการประหม่าเก้อเขินขึ้นมาทันทีและเปลี่ยนจากสาวน้อยห้าวหาญเป็นสาวน้อยขี้อายขึ้นมาในพริบตา นั่นเพราะชายหนุ่มที่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเธอในเวลานี้ ก็คือเสี่ยวจือหลง ผู้เป็นไอดอลในดวงใจของเธอนั่นเอง!
ทันทีที่เสี่ยวจือหลงปรากฏตัวขึ้น ความสง่างามของฉายาราชานักแข่ง ก็เปล่งประกายเจิดจรัสอย่างไม่อาจที่จะปิดบังไว้ได้
นี่สินะ รัศมีของคนที่เป็นไอดอล!
เขาคือเสี่ยวจือหลงจริงๆ!
ราชานักแข่งรถที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในเจียงไฮว!
พูดได้ว่า นอกจากเสี่ยวจือหลงจะเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ ที่เข้าแข่งขันในหลายๆสนามแล้วเขายังเป็นนักแข่งรถที่โด่งดังมาก และมีแฟนคลับที่คลั่งไคล้เขาอย่างมากมาย
เพราะนอกเหนือจากทักษะในการขับรถแข่งที่เหนือชั้นของเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการดริฟท์รถที่น่าอัศจรรย์ ใบหน้าที่หล่อเหลาและงดงามของเขานั้น ก็ยังสามารถดึงดูดแฟนคลับสาวๆให้เข้ามาคลั่งไคล้ได้อย่างมาก
และในวงการรถแข่งนั้น ชื่อของเสี่ยวจือหลงก็มักจะถูกกล่าวขานถึงอยู่เสมอๆ แม้กระทั่งนักแข่งรถมืออาชีพคนหนึ่ง เมื่อได้ยินชื่อเสียงที่โด่งดังของเสี่ยวจือหลงเข้า ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงกับปลอมตัวปิดบังฐานะของตนเอง และมาท้าเสี่ยวจือหลงแข่งรถ
และในครั้งนั้นก็มีผู้เข้าร่วมแข่งขันเพียงไม่กี่รายเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น การแข่งขันกลับเต็มไปด้วยอันตราย และน่าหวาดเสียวเสียยิ่งกว่าการแข่งรถในรายการทีวีเสียอีก
ท้ายที่สุด เสียวจือหลงก็เป็นผู้ชนะด้วยความเร็วที่เหนือกว่าคู่แข่งถึงหลายวินาที!
และนับตั้งแต่นั้นมา ชื่อเสียงของเสี่ยวจือหลงก็ยิ่งโด่งดังมากกว่าเดิม และยังคงยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังกลายเป็นนักแข่งที่มีชื่อเสียงอย่างมากในวงการนักแข่งรถของเมืองเจียงไฮวอีกด้วย!
ความเก่งกาจของเสียวคือหลง ทําให้หลายๆคนเห็นเขาเป็นไอดอลในดวงใจ และคลิปวีดีโอในการแข่งรถของเขานั้น ก็จะมียอดคนที่เข้าไปดูและติดตามสูงมากด้วย!
ดังนั้น เมื่อเสี่ยวจือหลงซึ่งเป็นไอดอลในดวงใจของเย่เข่อเอ๋อมายืนอยู่ตรงหน้า เธอจึงได้แต่ร้องบอกเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“พี่จอหลง.. ฉันเป็นแฟนคลับของพี่ค่ะ!”
หลินหนานที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้แต่จ้องมองชายหนุ่มอย่างเงียบๆ และคิดอยู่ในใจว่า
น้องเมียของฉันไม่เคยมีท่าทางแบบนี้มาก่อนเลย สงสัยจะชื่นชอบจริงๆ!
ดูท่าหมอนี่จะมีชื่อเสียงโด่งดังมากจริงๆ แม้แต่คุณหนูรองแห่งตระกูลเยี่ยังถึงกับเสียอาการ!
แต่เสี่ยวจือหลงกลับไม่มีท่าทียินดีอะไร มิหนําซ้ำยังบอกกับเย่เข่อเอ๋อด้วยน้ำเสียง และสีหน้าเย็นชาอย่างมาก
“ต้องการบอกผมแค่นี้ใช่มั้ย? ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็เชิญคุณกลับไปได้!”
เชิญกลับไปได้งั้นเหรอ?
ทุกคนในที่นั้นถึงกับงุนงง และได้แต่ตกใจกับสีหน้าท่าทางที่เย็นชาของเสี่ยวจือหลง อีกอย่าง..หญิงสาวคนนี้ก็เป็นถึงคุณหนูรองของตระกูลเยีแห่งเมืองเจียงไฮว!
ชื่อเสียงเรื่องความงดงามของบุตรสาวทั้งสองของตระกูลเยู่นั้น ไม่เพียงแพร่สะพรัดไปทั้งเมืองเจียงไฮว แต่ยังข้ามไปเมืองอื่นๆอีก..
แต่.. เสี่ยวจือหลงกลับไม่มีสีหน้าตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อยที่ได้เห็นเธอ!
เย่เข่อเอ๋อได้ยินคําพูดของเสี่ยวจือหลง ก็เริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย และที่เธอตั้งใจมาหาเขาถึงที่นี่ ก็เพราะเห็นเขาเป็นไอดอลเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือมากกว่านี้เลยจริงๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายจะมีท่าที่เย็นชากับเธอเช่นนี้
เย่เข่อเอ๋อขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เสี่ยวจือหลง ฉันแค่รู้สึกชื่นชมในความสามารถของคุณ ไม่ได้รู้สึกอะไรเกินเลยไปมากกวนั้น!”
“ผมรู้แล้ว คุณกลับไปได้!” เสี่ยวจือหลงยังคงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นเคย
สีหน้าและท่าทางการแสดงออกที่เย็นชาของผู้ชายคนนี้ ราวกับต้องการที่จะกันผู้คนให้อยู่ห่างจากเขาไปไกลหลายพันไมล์
ในสายตาของหลินหนาน สีหน้าท่าทางของผู้ชายคนนี้ ก็คือเย่ชิงเฉิงในเวอร์ชั่นของผู้ชายนั่นเอง!
เฮ้อ ทําสีหน้าท่าทางหยิ่งยะโน ราวกับว่าคนทั้งโลกติดหนี้ตัวเองงั้นล่ะ!
น่าหมั่นไส้ชะมัด!
ฉันว่านายทําเกินไปแล้ว!
และฉันก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน!
ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ
เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า
เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า
หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในพื้นพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล
หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับสังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย
แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..