ตอนที่ 114 นัดหมายคืนนี้
“คุณหนู… ทําไม่ต้องรีบร้อนขนาดนี้ มีอะไรก็น่าจะรอให้ไปถึงที่ห้องก่อน..” พ่อบ้านฉู่ร้องบอกด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
“ไม่.. ไม่ใช่แบบนั้นนะคะลุงฉู่ ลุงกําลังเข้าใจผิด!! พวกเราสองคนไม่ได้ทําอะไรอย่างที่ลุงคิด!”
เย่ชิงเฉิงยกทั้งมือทั้งเท้าขึ้นพร้อมกับโบกไปมา จึงแทบไม่ต้องพูดถึงว่าสภาพที่ปรากฎเวลานี้ว่า จะยิ่งน่าอับอายเพียงใด
“คุณหนูไม่ต้องอธิบายก็ได้ ผมอยู่ข้างคุณหนู ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ…” พ่อบ้านฉู่ร้องตอบเย่ชิงเฉิงด้วยแววตาเป็นประกาย
เย่ชิงเฉิงแทบอยากจะกรีดร้องออกมา..
ลุงฉู่นะลุงฉู่ ดูจากสีหน้าของลุงเวลานี้แล้ว นี่ลุงคงจะกําลังคิดเรื่องอะไรสกปรกอยู่แน่!
“ลุงฉู่คะ ช่วยฉันยกหลินหนานออกก่อน ดูเหมือนเขาจะเป็นลมหมดสติไป” เย่ชิงเฉิงร้องบอกพ่อบ้านฉู่ในที่สุด
“ครับคุณหนู”
จากนั้น พ่อบ้านฉู่จึงรีบมาช่วยขยับร่างของหลินหนานออกไปวางไว้ข้างกายเย่ชิงเฉิง ก่อนที่ทั้งสองคนจะช่วยกันเคลื่อนย้ายร่างของหลินหนานไปไว้ในห้องนอนของเขา และนี่เป็นครั้งแรกที่เย่ชิงเฉิงได้เข้ามาในห้องนอนของหลินหนาน
ทันทีที่เข้าไปในห้องนอน เย่ชิงเฉิงก็รู้สึกประทับใจอย่างมาก เดิมที่เธอเคยคิดว่า ห้องนอนของเขาน่าจะต้องมีเสื้อผ้ากองสะเปะสะปะ และดูสกปรกเลอะเทอะ แต่กลับกลายเป็นว่าห้องนอนของหลินหนานนั้น กลับอยู่ในสภาพที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และแทบไม่มีฝุ่นเลยแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าห่ม ที่ถูกพับไว้อย่างเป็นระเบียบอยู่บนเตียงที่มีผ้าปูติ้งเป๊ะ ราวกับว่านี่ไม่ใช่ห้องและเตียงนอนของผู้ชาย
แม้กระทั่งเย่ชิงเฉิงซึ่งเป็นคนเจ้าสะอาด และค่อนข้างเจ้าระเบียบ ยังไม่สามารถมองหาจุดตําหนิภายในห้องนอนของหลินหนานได้เลย
หลังจากที่วางร่างไร้สติของหลินหนานลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว พ่อบ้านฉู่จึงหันไปบอกกับเย่ชิงเฉิงว่า
“คุณหนูไปพักผ่อนได้แล้วล่ะ เดี๋ยวผมจะดูแลเขาเอง…”
เย่ชิงเฉิงกําลังจะตอบตกลง แต่เมื่อหันไปเห็นคู่คิ้วที่ยังคงขมวดเข้าหากันแน่นบนใบหน้าของหลินหนานในขณะหลับไหล ราวกับว่าเขากําลังรู้สึกทุกข์ทรมานใจอย่างมาก ริมฝีปากของเธอจึงเม้มด้วยความลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็ตัดสินใจบอกกับพ่อบ้านฉู่ไปว่า
“ลุงฉู่คะ ลุงเองก็อายุมากแล้วไม่ควรจะนอนดึกมากนัก ฉันจะดูแลเขาเองค่ะ ลุงกลับไปพักผ่อนจะดีกว่า”
“เอ่อ…”
พ่อบ้านฉู่นึกประหลาดใจอย่างมาก นั่นเพราะที่ผ่านมา คุณหนูใหญ่ของเขานั้น ไม่เคยแม้แต่จะมองหน้าคุณลูกเขยของบ้าน แต่แล้วทําไมจู่ๆ จึงได้เสนอตัวที่จะดูแลเขาในคืนนี้ได้?
สงสัยดวงอาทิตย์คงจะขึ้นทางตะวันตกแล้วสินะ?
“ได้ครับคุณหนู แต่ถ้ามีอะไรเรียกผมได้ทันทีเลยนะครับ!” พ่อบ้านฉู่เอ่ยตอบด้วยท่าทีที่ไม่สบายใจนัก
“ได้ค่ะลุงฉู่!”
หลังจากที่พ่อบ้านฉู่ออกไปแล้ว เย่ชิงเฉิงก็หันไปมองหลินหนานที่ยังคงนอนหลับไหลไม่ได้สติอยู่บนเตียง
ตั้งแต่เล็กจนโตมา เธอเองก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาโดยตลอด ไม่เคยต้องมานั่งดูแลใครแบบนี้มาก่อนเช่นกัน ฉะนั้น การที่เธอต้องมาดูแลหลินหนานเป็นครั้งแรกแบบนี้ เธอเองก็ทําอะไรไม่ถูกเช่นกัน..
แล้วต้องทําอะไรบ้าง?
เย่ชิงเฉิงยืนงุนงงคิดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุด ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ
“นึกออกแล้ว ในละครทีวีที่ดูๆมา ก็จะต้องมีการเช็ดตัวผู้ป่วยด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆสินะ?”
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เย่ชิงเฉิงก็ได้แต่นึกชื่นชมความเฉลียวฉลาดของตนเอง
เก่งเหมือนกันนี่เรา.. เอาล่ะ เช็ดตัวให้เขาก่อนก็แล้วกัน!
จากนั้น เย่ชิงเฉิงก็ได้เดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการเปิดน้ำอุ่นใส่กะละมัง พร้อมกับนําผ้าขนหนูใส่ลงไป แล้วจึงยกไปข้างเตียงของหลินหนาน จากนั้นจึงนุ่มมือลงไปในกะละมัง เพื่อหยิบผ้าขนหนูขึ้นมา
“โอ๊ย.. ร้อนๆๆ”
เย่ชิงเฉิงร้องตะโกนออกมา พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นจับใบหูของตัวเองไว้ และท่าทางของเย่ชิงเฉิงในเวลานี้ ก็ดูแตกต่างจากท่าทางของประธานสาวผู้เย็นชาประหนึ่งภูเขาน้ำแข็ง ราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว
เวลานี้ มือของเยู่ชิงเฉิงถึงกับแดงเพราะน้ำร้อนในกะละมัง แต่เธอก็กัดฟันหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาบิดจนหมาด แล้วจึงค่อยๆนําไปเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้กับหลินหนาน ก่อนจะพับและนําไปวางไว้บนหน้าผากของเขา
เย่ชิงเฉิงจะคอยสัมผัสผ้าขนหนูดูตลอดเวลา เมื่อรู้สึกว่าผ้าเริ่มเย็นลงแล้ว เธอก็จะหยิบไปชุบน้ำอุ่นในกะลังมัง และนํากลับไปวางไว้บนหน้าผากใหม่อีกครั้ง
เธอทําเช่นนี้อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งคล่องแคล่ว และสามารถทําได้อย่างเป็นปกติ ราวกับไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเหมือนคราแรก
เย่ชิงเฉิงวุ่นวายอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งถึงกลางดึก เธอจึงเริ่มรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและง่วงนอนมากจึงได้ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงนอนของหลินหนาน
หลินหนานเริ่มรู้สึกตัว และตื่นขึ้นมากลางดึกพอดี และสิ่งแรกที่เขาพบก็คือ เย่ชิงเฉิงที่กําลังนั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของตนเอง
ใบหน้าที่งดงามสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเย่ชิงเฉิงนั้น เมื่อถูกแสงนวลของดวงจันทร์ส่องกระทบเข้า จึงดูประหนึ่งเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ และไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็ไม่พบจุดที่เป็นตําหนิเลยแม้แต่จุดเดียว
“ขอบคุณมาก ขอบคุณในมโนธรรมที่ดีของคุณ ไม่เสียแรงที่ผมทําลงไปเมื่อสองสามปีก่อน
หลินหนานพึมพํากับตนเองเพียงแค่นั้น ก่อนจะหยิบผ้าห่มของตนเองขึ้นมาห่มให้กับเยู่ชิงเฉิง จากนั้นเขาจึงได้นอนหลับไปบนเตียงอีกครั้ง
และครั้งนี้หลินหนานก็หลับสนิท และเป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่เขานอนหลับ และฝันดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
เช้าในวันต่อมา หลังจากที่หลินหนานตื่นขึ้น เขาก็พบว่าเย่ชิงเฉิงไม่ได้อยู่ที่ห้องแล้ว ผ้าห่มของเขาถูกพับไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
“เฮ้อ.. คงจะเป็นพวกเสพติดงานจนเข้าเส้นเลือดสินะ?”
หลินหนานยิ้มขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าไปมา เขาก้มลงมองสํารวจร่างกายของตนเอง และพบว่านอกจาพลังปราณภายในร่างของเขาแล้ว ภายนอกอื่นๆก็ดูเป็นปกติดี เขาจึงได้ลุกขึ้น และเดินลงไปที่ห้องอาหาร
และนี่เป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน ที่เขาพบว่า มีอาหารเช้าวางอยู่เต็มโต๊ะ!
สามปี!!
สามปีเต็มๆ!!
นี่เป็นเช้าวันแรกที่หลินหนานตื่นมาพบว่า ตระกูลเยู่มีอาหารเช้าเตรียมไว้ให้เขา หลินหนานแทบจะระเบิดน้ำหูน้ำตาออกมาด้วยความตื้นตันใจ!
เมื่อเห็นพ่อบ้านฉู่ที่กําลังง่วนอยู่กับการปรุงโจ๊กข้าวฟ่าง หลินหนานก็อดที่จะถามออกไปพร้อมกับยิ้มจนแก้มแทบปริไม่ได้
“ลุงฉู่ครับ นี่ลุงเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ผมด้วยเหรอครับ?”
“นั่งลงแล้วก็รีบๆกินซะ พูดจาเพ้อเจ้ออยู่ได้” ลุงฉู่ยังแสดงท่าที่ไม่เป็นมิตรเหมือนปกติเช่นเคย
“ครับ! ขอบคุณลุงฉู่มาก ผมคิดอยู่แล้วว่า หลังจากอยู่ด้วยกันมานานหลายปี ใครกันจะแล้งน้ำใจตลอดไปได้!” หลินหนานพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“นี่.. เป็นเพราะคุณหนูใหญ่สั่งให้ฉันเตรียมต่างหากล่ะ ไม่อย่างนั้น คุณก็คงได้กินลมเหมือนเคย!”
พ่อบ้านฉู่ก็ยังคงเป็นพ่อบ้านฉู่อยู่ดี!
“ห้ะ?! ภรรยาของผมเป็นคนสั่งให้เตรียมอาหารเช้าให้ผมเหรอครับ?!”
หลินหนานร้องถามด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย พร้อมกับแอบครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่ในใจเงียบๆ
จากนั้น ลุงฉู่ก็ได้นําโจ๊กข้าวฟ่างหอมกรุ่นออกมาเสริฟให้ แต่เมื่อเห็นหลินหนานยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น จึงได้แต่ถามขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
“ทําไมยังไม่ลงมือกินอีกล่ะ?”
หลินหนานกัดฟันพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย “ลุงฉู่ครับ ช่วยบอกผมที่ว่า ในอาหารพวกนี้มียาพิษใช่มั้ยครับ? นี่คงจะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของผมสินะครับ?”
เมื่อพ่อบ้านฉู่ได้ยินคําพูดของหลินหนาน เขาก็โกรธจนแทบอยากจะยกหม้อโจ๊กราดใส่หน้าของเขา พร้อมกับร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลใจ
“นี่คุณคิดแบบนี้ได้ยังไง? นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลย”
“ก็มันน่าแปลกนี่นา! จู่ๆคุณหนูใหญ่ของลุงก็ใจดีกับผมจนน่าประหลาดใจ! ไม่รู้ว่าจะมีแผนการอะไรอยู่หรือเปล่านะสิ?” หลินหนานเอ่ยตอบด้วยความสงสัย
“ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่อยากกินก็ไม่เป็นไร!”
พ่อบ้านฉู่เอ่ยตอบ พร้อมกับเดินเข้ามาทําท่าจะเก็บถ้วยชาม และตะเกียบตรงหน้าหลินหนานกลับไป
“กิน กินสิครับลุงฉู่! แหม.. ผมก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง!” หลินหนานตอบยิ้มๆ
“ไอ้คนร้ายกาจ!”
ลุงฉู่ต่อว่าพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนออก แต่ปากก็ยังร้องตะโกนบอกหลินหนานต่อว่า “คุณหนูบอกว่าคุณอาการยังไม่ดีขึ้น วันนี้ไม่ต้องไปทํางานที่บริษัท
“ครับ!”
หลินหนานพยักหน้าพร้อมกับพึมพําออกมาว่า “ภรรยาของผมช่างดีกับผมมากจริงๆ!”
แต่หลังจากที่ลุงฉู่ออกไปได้ไม่นานนัก เย่เข่อเอ๋อก็เดินเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร เช้านี้เธออยู่ในชุดนอนสีม่วงบางเบา จนสามารถมองเห็นชั้นในรูปมิกกี้เมาส์ด้านในได้
หลินหนานไม่กล้ามองนานนัก เพราะกลัวว่าความคิดชั่วร้ายในใจของตนเอง จึงได้แต่นั่งก้มหน้าก้มตากินโจ๊กตรงหน้า
เย่เข่อเอ๋อนั่งมองหลินหนานที่นั่งก้มหน้าก้มตากินโจ๊กจนหมดไปสองถ้วย เธอจึงปรบมือให้แต่แล้วจู่ๆ เธอก็ทําเสียงออดอ้อน พร้อมกับเรียกหลินหนานเสียงหวาน
“พี่เขย..”
และคําว่า “พี่เขย” ที่เย่เข่อเอ๋อใช้เรียกหลินหนานนั้น ก็ทําให้เขาถึงกับขนลุกขนชันไปทั้งตัวเพราะทุกครั้งที่เย่เข่อเอ๋อแสดงท่าทางเช่นนี้ออกมา ย่อมแสดงว่าเธอต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ๆ
“นี่.. เธอมีอะไรจะพูดก็รีบๆพูดออกมา!” หลินหนานเป็นฝ่ายเอ่ยถามอย่างหมดความอดทน
แต่เย่เข่อเอ๋อกลับไม่โกรธ อีกทั้งยังขยิบตาให้กับเขาในขณะที่เอ่ยถามออกมาว่า “คืนนี้ว่างมั้ย?”
“ถามทําไม?”
“พวกเรามานัดกันคืนนี้ดีกว่า?”
********
ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ
เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า
เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า
หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล
หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับสังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย
แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..