ตอนที่ 112 คือใครกันแน่?
สมคําร่ำลือจริงๆ
เวลานี้ ทุกคนในห้องต่างก็พากันหันไปกระซิบกระซาบกัน ใบหน้าของพวกเขาล้วนบ่งบอกถึงความชื่นชมอย่างออกหน้าออกตา
“โอ้โห! ท่านอาจารย์เฉินสมกับเป็นสุดยอดปรมาจารย์จริงๆ ได้เห็นกําลังภายในที่แข็งแกร่งของเขา เท่ากับได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ!”
“นั่นน่ะสิ! ระดับปรมาจารย์เฉินสามารถฟันก้อนหินแตกได้ด้วยมือข้างเดียวแน่!”
“หินอะไรกัน?! ผมว่าระดับปรมาจารย์เฉิน คงจะสามารถทุบรถทั้งคันให้ยุบได้ ด้วยมือเพียงข้างเดียวแน่ๆ!”
“สุดยอด! อัศจรรย์มากจริงๆ!”
เวลานี้ เสียงชื่นชมเยินยอปรมาจารย์เฉินกําลังดังกระหึมไปทั่วทั้งห้อง และเวลานี้ทุกคนต่างก็อยากจะเป็นคนสนิทคุ้นเคยของปรมาจารย์เฉินขึ้นมาทันที
ใครที่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับปรมาจารย์เฉินเป็นการส่วนตัว ก็จะไปเข้าทางหลี่เฉวียนยู่แทนเพราะการเอาอกเอาใจหลี่เฉวียนย่อมเท่ากับทําให้อาจารย์เฉินพอใจด้วย
ทางด้านหลี่เฉวียนยู่เอง ก็ยังคงยืนยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข..
กว่าที่เขาจะเชิญเฉินมู่เฉิงมาที่เมืองเจียงไฮวได้นั้น เขาต้องใช้ทั้งกําลังคนและกําลังเงินไปตั้งมากมาย ท้ายที่สุด มิสเตอร์ริชาร์ดต้องเป็นฝ่ายไปเชื้อเชิญเขาด้วยตัวเอง เฉินมู่เฉิงจึงได้ยินยอม
เฉินมู่เฉิงเป็นคนอารมณ์ร้าย และมีนิสัยแปลกประหลาด แต่หลี่เฉวียนยู่เองก็รู้ดีว่า คนที่เป็นยอดฝีมือมีกําลังภายในสูงส่ง และแข็งแกร่งอย่างเฉินมู่เฉิงนั้น มักจะมีอุปนิสัยเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่คนยิ่งเก่งก็จะยิ่งถือเนื้อถือตัว!
และในเวลานี้ เมื่อได้เห็นเฉินมู่เฉิงแสดงกําลังภายในที่แข็งแกร่งของตนเอง ให้ทุกคนในห้องได้ประจักษ์แก่สายตา อารมณ์ที่บูดบึงไม่พอใจของหลี่เฉวียนยู่ก่อนหน้านี้ ก็ได้อันตรธานหายไปในทันที!
ผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ย่อมเสียงดังกว่าเสมอ!
นี่คือกฏอันเป็นนิรันดร์
ใบหน้าของเฉินมู่เฉิงยังคงสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภายในใจกลับบนรําพึงรําพันไม่หยุด
นั่นเพราะเขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดกําลังภายในของตนเอง จึงไม่สามารถทําอะไรชายหนุ่มผู้นี้ได้ ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใคร และมีภูมิหลังเช่นใดกันแน่? เหตุใดจึงมีพลังที่แปลกประหลาด และน่ากลัวอยู่ในกาย..?
เวลานี้ กําลังภายในของเขากําลังถูกตีกลับอย่างน่ากลัว และหากเขาไม่มีประสบการณ์ที่มากพอ เชื่อว่าปานนี้แขนของเขาคงจะหักไปแล้วแน่!
ชายหนุ่มผู้นี้ขยับเดินหมากเพียงตัวเดียว แต่กลับชนะทั้งกระดาน!
และหากเป็นเช่นนั้นจริง เขาคงต้องเสียหน้าต่อหน้าผู้คนมากมายเป็นแน่..
“พ่อหนุ่ม เธอเป็นใคร? ชื่ออะไร? และใครเป็นอาจารย์ของเธอ?” เฉินมู่เฉิงเอ่ยถามเสียงเบา
สําหรับคําถามที่เฉินมู่เฉิงเอ่ยถามออกไปนั้น เป็นเพียงแค่การโยนหินถามทางเท่านั้น
“ความสามารถเพียงแค่นี้ ยังไม่คู่ควรที่จะรู้จักชื่ออาจารย์ของฉัน!”
หลินหนานตอบกลับเพียงสั้นๆ ก่อนจะหันหลังกลับพร้อมเอามือไขว้หลัง แล้วค่อยๆก้าวเดินออกไปที่ประตูทางห้องจัดเลี้ยงอย่างช้าๆ และตั้งแต่ประมือจนกระทั่งถึงเวลานี้ หลินหนานก็ยังทําเหมือนยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ผู้นี้เป็นเพียงแค่อากาศธาตุเท่านั้น
ไม่สิ!
จากสายตา คําพูด และท่าทางของหลินหนานนั้น ต้องเรียกว่าเห็นปรมาจารย์ผู้นี้เป็นเพียงแค่เศษสวะจึงจะถูก!
หลังจากที่เฉินมู่เฉิงได้ยินคําตอบของหลินหนาน แววตาของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
“มันจะมากไปแล้ว!”
และทันทีที่คําพูดประโยคนี้ของเฉินมู่เฉิงดังขึ้น ร่างของเขาก็ได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าแลบ..
มันเป็นความเร็วที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!
เพราะจู่ๆ ทุกคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ ก็เห็นร่างของเฉินมู่เฉิงหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างรวดเร็วและเห็นเป็นเพียงแค่เงาเลือนลางเท่านั้น
หยวนเฟิงที่ฝึกฝนกําลังภายในมามากบ้าง ยังไม่สามารถมองตามร่างของเฉินมู่เฉิงได้ทัน ในขณะที่จางเฉิงเองที่แข็งแกร่งไม่น้อย ก็ยังไม่สามารถมองตามได้ทันเช่นกัน!
ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั้งหมดที่อยู่ภายในห้อง มีเพียงหยานลู่เฟิงเท่านั้นที่มีกําลังภายในสูงส่งกว่าใครๆ ฉะนั้น เขาจึงสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
และภาพที่หยานลู่เฟิงเห็นนั้นก็คือ ร่างของเฉินมู่เฉิงกําลังวิ่งอยู่บนอากาศ..
ใช่แล้ว. เฉินมู่เฉิงกําลังวิ่งอยู่บนอากาศ!
ในเวลานั้น ร่างของเฉินมู่เฉิงได้ลอยอยู่เหนือพื้นดิน ภายใต้ฝ่าเท้าคืออากาศที่ว่างเปล่า และเพียงก้าวเดียวที่ก้าวออกไป ก็ทําให้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้ในระยะทางที่ไกลมาก
และนี่ดูคล้ายกับวรยุทธบางอย่างที่เฉินมู่เฉิงได้ฝึกฝนมาเป็นพิเศษ!
เมื่อร่างของเฉินมู่เฉิงเคลื่อนเข้าใกล้แผ่นหลังของหลินหนานนั้น ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาก็ขยับไปมาด้วยท่วงท่าแปลกประหลาด
“นี่เขาถึงกับใช้.. พลังมืดทับซ้อนเชียวรึ?”
หยานลู่เฟิงผุดลุกขึ้นยืนในทันที สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความตระหนกตกใจ และสะพรึงกลัว!
พลังมืดทับซ้อนนี้ก็คือ พลังงานที่แฝงอยู่ในกาย และเจ้าของร่างได้รวบรวมพลังมืดนี่ซ้อนทับกันชั้นแล้วชั้นเล่า แต่กลับยับยั้งไม่ปลดปล่อยพลังนี้ออกไปด้วยวิธีพิเศษบางอย่างที่ร่ำเรียนมา แต่จงใจรวบรวมไว้ชั้นแล้วชั้นเล่า และจะนําออกมาใช้ในช่วงเวลาที่วิกฤติหรืออันตรายมากจริงๆเท่านั้น!
ฉะนั้นแล้ว พลังมืดทับซ้อนนี้ จึงเป็นพลังที่มีความรุนแรง และแข็งแกร่งในระดับที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก!
แต่การจงใจรวบรวมพลังมืดในร่างซ้อนทับกันไว้โดยไม่ปลดปล่อยออกมาเช่นนี้ ย่อมสร้างความเสียหายต่อร่างกายของยอดฝีมือผู้นั้นเองด้วย และที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ทําให้อวัยวะภายในของคนผู้นั้นเสียหาย!
ฉะนั้น ยอดฝีมือไม่ว่าจะแข็งแกร่งสักเพียงใด หากไม่เผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิตจริงๆ ย่อมไม่เลือกที่จะใช้วิธีนี้โดยเด็ดขาด!
เพราะถึงแม้จะมีโอกาสสังหารศัตรูได้ถึงสิบส่วน แต่ก็ต้องสูญเสียถึงแปดส่วน!
และเหตุผลเดียวที่เฉินมู่เฉิงตัดสินใจใช้พลังมืดทับซ้อนนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะจัดการหลินหนานต่อหน้าทุกคนในห้องนั่นเอง
เพื่อเป็นตัวอย่าง และบรรทัดฐานให้กับคนอื่นๆได้เห็นว่า เกียรติของสุดยอดปรมาจารย์ ไม่ใช่เรื่องที่ใครๆจะสามารถท้าทายเล่นได้ง่ายๆ และหากใครบังอาจท้าทาย จุดจงก็คือความตาย!
เฉินมู่เฉิงเป็นคนถือเนื้อถือตัว และหยิ่งผยองยิ่งนัก เขาจะไม่ยอมพ่ายแพ้ และเสียหน้าด้วยน้ำมือของชายหนุ่มผู้นี้โดยเด็ดขาด!
หาไม่แล้ว เรื่องนี้จะกลายเป็นรอยด่างในชีวิตของเขาไปจนตาย และจะส่งผลต่อจิตใจของเขาในการฝึกวรยุทธต่อไปในวันข้างหน้าอีกด้วย!
ด้วยเหตุนี้ เฉินมู่เฉิงจึงได้ตัดสินใจที่จะทําเช่นนี้ และสังหารหลินหนานทิ้งเสีย ส่วนเรื่องผลพวงที่จะตามมาจากกระทําในครั้งนี้ หาใช่เรื่องที่เขาจะต้องคํานึงถึง!
หลิวหยิงหยิงเองก็คงพอที่จะดูออกว่า เฉินมู่เฉิงคิดที่จะทําอะไร เธอจึงได้แต่ร้องตะโกนบอกหลินหนานด้วยความตกใจ
“คุณชายหลิน ระวังตัวด้วย!”
หลินหนานไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามอง เขาระเบิดพลังปราณภายในร่างออกมา พร้อมกับร้องตะโกนเสียงดังกึกก้อง
“ออกไปให้พ้น!”
พร้อมกับยกฝ่าเท้าของตนกระทืบลงไปบนพื้นห้อง จนห้องทั้งห้องถึงกับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับเกิดแผ่นดินไหว และพื้นหินอ่อนใต้ฝ่าเท้าของเขานั้น ก็ได้กลายเป็นหลุมลึกว่าห้าเซ็นติเมตร
หลังจากนั้น รอยแตกบนพื้นใต้ฝ่าเท้าของหลินหนาน ก็ได้กระจายไปรอบตัวอย่างรวดเร็วและยังคงมีแรงกระเพื่อมอยู่ไม่หยุด ประหนึ่งระลอกคลื่นในท้องทะเล
ปัง!!
ก่อนที่ฝ่ามือของเฉินมู่เฉิงจะทันได้สัมผัสแผ่นหลังของหลินหนาน ร่างของเขาก็กระเด็นลอยละลิ่วออกไปเสียก่อน
ร่างของเฉินมู่เฉินลอยละลิ่วออกไป ไม่ต่างจากกระสอบทรายที่ถูกคนจับโยนออกไปอย่างตั้งใจ ก่อนจะไปกระแทกเข้ากับโต๊ะ จนกระทั่งจาน ผ้าปู และเก้าอี้ในบริเวณนั้นแตกกระจายจนหมด
และเวลานี้ ทั้งผ้าปู เก้าอี้ และจานต่างก็ปลิวว่อนอยู่กลางอากาศ ไม่ต่างจากเศษขยะที่ถูกพายุหมุนพัดจนลอยขึ้น!
ทุกคนในห้องต่างก็พากันกลั้นหายใจ และรู้สึกราวกับว่ากําลังดูภาพยนตร์เกี่ยวกับมหันตภัยธรรมชาติอยู่ แต่ที่เหมือนจริงกว่าภาพยนตร์ก็คือ เสียงลมที่ดังอื้ออึงอยู่ข้างหูของพวกเขา และได้เห็นจาน โต๊ะ และอีกหลายสิ่งหลายอย่างปลิวขึ้นกลางอากาศ
เฉินมู่เฉิงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แต่หลินหนานดูเหมือนจะเร็วกว่า เพราะเวลานี้เขาได้มายืนอยู่ด้านหลังของเฉินมู่เฉิงแล้ว พร้อมกับซัดฝ่ามือเข้าใส่แผ่นหลังของเฉินมู่เฉิงทันที!
ร่างของเฉินมู่เฉิงถูกแรงกระแทกจากฝามือของหลินหนานเข้า ก็กระเด็นลอยละลิ่วออกไปกลางอากาศทันที โดยมีหลินหนานกระโดดพุ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
ร่างของหลินหนานที่ลอยอยู่กลางอากาศเบื้องหน้าเฉินมู่เฉิงนั้น ก็ได้หันหลังกลับมาพร้อมกับตวัดฝ่าเท้าถีบเข้าที่ยอดอกของเฉินมู่เฉิงอีกครั้ง!
และครั้งนี้ เฉินมู่เฉิงถึงกับร่วงหล่นลงมาพร้อมกับนอนหงายหลังอยู่บนพื้น..
ร่างของเฉินมู่เฉิงกระแทกลงกับพื้นหินอ่อนอย่างแรง จนกระทั่งแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
หลินหนานกระโดดตามเข้าไปยืนเหยียบยอดอกของเฉินมู่เฉิงไว้อีกครั้ง พร้อมกับออกแรงกดทําให้เฉินมู่เฉิงถึงกับกระอักเลือดออกมา..
และเวลานี้ ทวารทั้งเจ็ดของเฉินมู่เฉิงก็มีเลือดไหลออกมา เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คําเดียว และในที่สุดก็หมดสติไป
“ฉันเตือนแล้วว่าฉันอารมณ์ไม่ดี!”
หลินหนานพึมพําออกมาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา ก่อนจะยกฝ่าเท้าของตนออกจากหน้าอกของเฉินมู่เฉิง
ทุกคนที่เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ต่างก็ได้แต่ยืนอึ้งด้วยความตกตะลึง เพราะเฉินมู่เฉิงเป็นถึงสุดยอดปรมาจารย์ แต่กลับถูกหลินหนานบดขยี้ ไม่ต่างจากผู้ใหญ่แข็งแกร่งที่ไล่ทุบตีเด็กคนหนึ่ง!
เป็นไปได้ยังไง?!!
นี่มันหนังไซไฟหรือยังไง?
เวลานี้ สมองของทุกคนในห้องดูเหมือนจะหยุดทํางานไปชั่วคราว และได้แต่หันไปมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่า ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตนเองเห็น!
หากยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์สามารถทําให้คนทั่วไปหวาดกลัวได้เพียงใด ชายหนุ่มตรงหน้าพวกเขาเวลานี้ ก็คงจะเป็นปีศาจทรงพลังที่น่าสะพรึงกลัวเสียยิ่งกว่า!
เวลานี้ ใบหน้าของหลี่เฉวียนยู่ถึงกับซีดเผือด และทั่วทั้งร่างก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาถึงกับเซถอยหลังพร้อมกับทรุดนั่งลงเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวหมดแรง..
ความจริงแล้ว หลี่เฉวียนยู่คิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่า หากปรมาจารย์เฉินลงมือด้วยตนเองแบบนี้ ชายหนุ่มที่ชื่อหลินหนานจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน และเขายังแอบหวังว่า หากปรมาจารย์เฉินฆ่าหลินหนานทิ้งซะ ก็จะยิ่งเป็นการดี!
แต่เวลานี้ สิ่งที่เขาคาดหวังกลับไม่เป็นจริงสักอย่าง
กลับกลายเป็นเฉินมู่เฉิงที่เป็นฝ่ายนอนหมดสติ ในขณะที่หลินหนานดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย!
นี่ช่างเป็นชัยชนะที่น่าสะพรึงกลัวและสยดสยออย่างมาก!
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นชัยชนะที่น่าสยดสยองมากอีกด้วย!
ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่?
***********
ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ
เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า
เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า
หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานพร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล
หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย
แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!
——-
เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด
จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..