ลูกพลับอดไม่ได้ที่จะชะเง้อมองข้ามรั้วไม้เตี้ย ๆ เข้าไปยังพื้นที่บ้านอีกหลัง พบว่ามีรถมอเตอร์ไซค์คันเก่า ๆ จอดอยู่ คนที่เพิ่งจะลงมายืนอยู่ข้างตัวรถเป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำสมส่วน ดูคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เมื่อมองไปที่ใบหน้าก็มิอาจทราบได้ว่าเป็นใคร เพราะเขานำผ้ามาพันรอบปกปิดเอาไว้ ราวกับกลัวว่าใครจะเห็นใบหน้าเสียอย่างนั้น นอกจากนั้นยังเดินกะเผลกเหมือนคนพิการอีกต่างหาก
ความสงสัยภายในใจหายไปในทันที เมื่อเห็นท่าทางการเดินของเขา ลูกพลับหันไปมองหน้าป้าปิ่นแล้วเอ่ยว่า
“ตอนแรกคิดว่าเหมือนคุณแทนไท แต่คงไม่ใช่แล้วล่ะครับ”
“ป้าก็คิดเหมือนเอ็ง รูปร่าง ส่วนสูงเหมือนคุณแทนไทเป๊ะเลย แต่เห็นเดินอย่างนั้นคงไม่ใช่แล้วล่ะ แต่ดูเหมือนจะเป็นคนลึกลับยังไงก็ไม่รู้ อย่าเพิ่งไว้ใจให้มากนักล่ะ”
“ครับป้า”
“งั้นกลับเข้าบ้านกันเถอะ ไปเตรียมทำมื้อเย็นกัน”
“วันนี้มีเพื่อนบ้านใหม่ทั้งที ผมว่าทำเผื่อเขาด้วยดีไหมครับ อย่างน้อยก็เป็นการทำความรู้จักกัน ผูกมิตรไว้ย่อมดีกว่า”
“ก็แล้วแต่เอ็งละกัน แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดีอย่าได้เข้าใกล้เชียวนะ”
“ครับป้า”
สองป้าหลานช่วยกันเก็บสื่อและถ้วยพริกเกลือเดินกลับเข้าไปในบ้าน ก่อนขึ้นเรือนลูกพลับแวะเข้าไปเล่นกับไอ้เจ้าโชคดีที่ใต้ถุนสักพัก ในระหว่างนั้นเขาเห็นเพื่อนบ้านคนใหม่เดินออกมายืนที่หน้าบ้าน กำลังหันหน้ามามอง เมื่อเห็นว่าลูกพลับรู้ตัวอีกฝ่ายก็รีบหันไปมองทางอื่น ลูกพลับทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร หันกลับมามองเจ้าโชคดีต่อ
ช่วงเย็นวันนั้น…
เมื่อทำกับข้าวเสร็จแล้วลูกพลับก็แบ่งใส่ปิ่นโตเพื่อนำไปให้เพื่อนบ้าน เมนูเย็นนี้มีแกงส้มชะอมไข่ น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ผักลวกที่ลูกพลับลงทุนออกไปเก็บที่คลองชลประทานแถวบ้าน มีทั้งผักบุ้ง ผักตำลึง ผักโขม ดอกแค เป็นผักที่หาได้ง่ายเพราะมีเยอะในบริเวณพื้นที่นี้
ไฟฉายเล็ก ๆ ถูกเปิดใช้งานส่องตามทางไปจนถึงหน้ารั้วบ้านหลังติดกัน ยืนชะเง้อมองเข้าไปในบ้านบังกะโลหลังเล็ก ๆ ที่มีแสงสีส้มลอดผ่านออกมาจากช่องลมและหน้าต่าง
“สวัสดีครับ”
กล่าวสั้น ๆ แล้วยืนรอ ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกมา ผู้เป็นเจ้าของบ้านส่งใบหน้าออกมาชะเง้อมอง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“คือว่าผมเอากับข้าวเย็นมาฝากครับ”
“ขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นไรผมไม่หิว”
“เก็บไว้กินตอนหิวก็ได้ครับ ผมอุตส่าห์เอามาส่งแล้วไม่อยากเสียเที่ยว อีกอย่างถึงเอากลับไปก็คงไม่มีใครกินอยู่ดี เพราะพวกเราทานข้าวเย็นกันแล้ว” ลูกพลับไม่มีทางยอมหรอก เขาจะต้องตีสนิทกับเพื่อนบ้านคนใหม่ให้ได้
“ถ้างั้นก็เข้ามาได้เลย”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตื้อจนน่ารำคาญแทนไทก็ยอมแต่โดยดี ที่ไม่อยากให้เข้ามาเพราะกลัวว่าความจะแตก เขากลัวว่าจะเตรียมตัวไม่ดีพอจนอีกฝ่ายจับพิรุธได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากันอยู่แล้ว ลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหลาย ยิ่งรู้ว่าไอ้เด็กนี่อ่อยไปทั่วยิ่งไม่พอใจ ขนาดไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน มันยังตามมาอ่อยถึงที่ จะไม่ให้เขาเป็นห่วงได้อย่างไรกัน
เมื่อมาถึงแล้วลูกพลับก็สังเกตใบหน้าเขาเป็นสิ่งแรก ใบหน้าของชายผู้นี้มีผ้าสีขาวพันรอบเหลือไว้เพียงดวงตา จมูกและริมฝีปากเท่านั้น นั่นทำให้เกิดความสงสัยว่าเขาไปโดนอะไรมาถึงได้เป็นอย่างนี้ แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มแย้มเป็นปกติพร้อมทั้งยื่นปิ่นโตให้
“นี่ครับ”
“ขอบคุณ”
“ผมลูกพลับนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณ…”
“โต”
“อ่อคุณโต ย้ายมาอยู่คนเดียวเหรอครับ”
“ใช่ มีอะไรสงสัยอีกไหม” น้ำเสียงห้วนสั้นและไม่เป็นมิตรทำให้ลูกพลับหน้าเสียนิดหน่อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้ราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร เขาไม่โกรธเพราะคิดว่าผู้ชายคนนี้ต้องมีปมบางอย่างจึงได้ย้ายมาอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ก็เหมือนกับเขาที่ย้ายมาก็เพราะต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายและปัญหาชีวิต
“เปล่าครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ ผมอยู่กับป้าสองคน ถ้าคุณโตมีอะไรให้ช่วยเรียกหาผมได้นะครับ ผมยินดีช่วยเหลือถ้าช่วยได้ เพราะถึงยังไงแถวนี้ก็มีบ้านแค่สองหลังติดกัน ช่วยกันได้ก็เป็นเรื่องที่ดี”
“ขอบคุณ ผมเข้าบ้านล่ะ อ้อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเอาถิ่นโตไปคืนละกัน”
“ครับผม งั้นผมไปแล้วนะ”
ลูกพลับโบกมือร่ำลาแล้วก็เดินกลับ แทนไทยืนมองตามหลังไปด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด เขาโกรธจนหน้าสั่น ที่ไอ้เด็กนั่นมีอัธยาศัยดีกับคนอื่นไปทั่ว หากไม่ใช่เขาล่ะจะเกิดอะไรขึ้น คนคงจะหลงรักมันเป็นพรวนแน่ ๆ
เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วแทนไทก็ดึงผ้าที่ปิดใบหน้าออกด้วยความรู้สึกโล่ง เขาลงทุนปิดมันไว้ตลอดเวลาเมื่อออกไปอยู่นอกบ้านเพื่อไม่ให้ลูกพลับผิดสังเกต แสร้งทำเป็นคนพิการก็เพื่อให้วางใจว่าไม่ใช่เขาแน่นอน ทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างดีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เขาจะจับตาดูลูกพลับไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว
“มึงแม่งอ่อยคนอื่นไปทั่วอย่างนี้สินะ ใคร ๆ ถึงได้อยากจะเอามึง กูจะไม่ยอมให้ใครได้ใกล้มึงอีก”
ว่าแล้วก็เดินไปหยิบกล้องส่องทางไกล เดินไปยังหน้าต่างแล้วแหวกม่านเพื่อส่องดูพฤติกรรมของคนในบ้านหลังนั้น จนเห็นว่าตอนนี้ลูกพลับกำลังเดินลงมาที่ใต้ถุนเพื่อให้อาหารเจ้าโชคดี นั่งดูแลอย่างใกล้ชิดราวกับเจ้าสุนัขตัวนั้นเป็นคนสำคัญ เห็นอย่างนั้นแทนไทก็ยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว ทำดีกับคนอื่นไปทั่วยกเว้นเขาคนเดียวสินะ