ตอนที่ 701 เสียใจที่ไม่ได้ล่วงเกินมากกว่านี้
เมื่อพวกของสวีเหยากับซิงเฉินจากกันไปหมดแล้ว ภายในห้องก็เหลือเพียงหลินเยียนกับเผยอวี้เฉิงสองคนเท่านั้น
ตอนนี้หลินเยียนเยือกเย็นลงแล้ว เธอเกาศีรษะด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ “อะแฮ่ม คุณเผย ขอโทษด้วยนะคะ เมื่อกี้ฉันไม่ควรพูดเหลวไหล พูดถ้อยคำเพ้อเจ้อพวกนั้น แถมยังยุ่งเรื่องของคุณอีก…”
นี่เธอถูกผีเข้าสิงจนพูดว่าตัวเองเป็นคุณนายเผยในอนาคตแบบนี้ได้ยังไงกันนะ!
ผีหลอกแล้วจริงๆ !
เมื่อเผยอวี้เฉิงได้ยินคำพูดประโยคนี้ก็มองหญิงสาวด้วยสายตาดำมืด “พูดเพ้อเจ้อ? เธอหมายถึงประโยคไหน?”
ยังจะประโยคไหนได้อีกเล่า?
หลินเยียนย่อมหมายถึง ‘คุณนายเผยในอนาคต’ ประโยคนั้นแน่นอน
เพียงแต่ขณะที่หลินเยียนกำลังจะเอ่ยปากพูด กลับรู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบตัวเผยอวี้เฉิงเย็นยะเยือกลงหลายส่วนอย่างน่าประหลาด
เกิดอะไรขึ้น?
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของหลินเยียนทำให้เธอกลืนคำพูดที่กำลังจะหลุดปากออกมาลงไป จากนั้นก็โบกมือพร้อมพูดด้วยความระมัดระวังทันที “อือ ไม่มีอะไรค่ะ…คำพูดของฉันเมื่อครู่ออกมาจากใจจริงๆ ทุกคำ…ความหมายของฉันก็คือเป็นห่วง…เป็นห่วงว่าที่ฉันพูดซี้ซั้วก้าวก่ายเรื่องของคุณมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่น่ะค่ะ…”
ประกายดำมืดภายในดวงตาเผยอวี้เฉิงวูบหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขายิ้มบางพร้อมพูดว่า “เธอไม่ต้องกังวลเกินไปเลย ฉันเคยบอกแล้วว่าเธอพูดจามีเหตุผลมาก”
หลินเยียน “…”
เอ่อ…
ถ้าบอกว่าเมื่อครู่ตอนที่คนอื่นยังอยู่ เผยอวี้เฉิงพูดให้เกียรติเธอต่อหน้าคนอื่น
แล้วอย่างนั้นตอนนี้ล่ะ…?
หลินเยียนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
เธอรู้สึกมาตลอดว่าที่เผยอวี้เฉิงยังดีกับเธอมากขนาดนี้เป็นเพราะยังไม่สูญเสียความสนใจที่มีต่อเธอไปก็เท่านั้นเอง
ตอนนี้ที่เธอยังรักษาสถานะของแฟนไว้ได้ก็ถือว่าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ไม่กล้าคิดเลยว่ายังจะพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งได้
แค่นี้ไม่มีทางพอใช่หรือเปล่าล่ะ?
แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ของตระกูลเผยมากนัก แต่เธอก็รู้ว่าคุณนายเผยหมายถึงอะไร
จู่ๆ เผยอวี้เฉิงที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปาก โดยไม่ปล่อยให้ได้ครุ่นคิดอะไรมากนัก “ก่อนหน้านี้…ต้องขอโทษด้วย ไม่ได้เจตนาล่วงเกิน”
หลินเยียนอึ้ง “หา? อะไรนะคะ?”
ล่วงเกินอะไรน่ะ?
เผยอวี้เฉิงมองริมฝีปากเธอด้วยสายตาอันสงบนิ่ง
ตอนนี้ริมฝีปากหลินเยียนคล้ายยังคงหลงเหลือสัมผัสที่ถูกรุกรานก่อนหน้านี้อยู่…
เมื่อรู้สึกถึงสายตาเผยอวี้เฉิง ในที่สุดหลินเยียนก็รู้สึกตัวว่าสิ่งที่เผยอวี้เฉิงพูดคืออะไร เธอพูดด้วยอาการสำลักขึ้นมาทันที “มะ…ไม่เป็นไรๆ ค่ะ! เป็นเพราะฉันเข้ามารวบกวนการพักผ่อนของคุณโดยพลการอยู่แล้ว!”
เหมือนความระแวดระวังของเผยอวี้เฉิงจะมีสูงมาก ตอนนั้นยังไม่ได้สติอย่างเต็มที่เลย
เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ใส่ใจ หลินเยียนจึงพูดสำทับอีกประโยคหนึ่ง “อีกอย่างพวกเราเป็นคู่รักกันนี่คะ เรื่องแบบนี้มีอะไรต้องขอโทษกันเล่า ไม่ล่วงเกิน ไม่ล่วงเกินเลยสักนิดค่ะ! ต่อให้ล่วงเกินกว่านี้ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุผลอยู่แล้ว!”
เผยอวี้เฉิงหรุบตายิ้ม ดวงตาฉายประกายกระเซ้าเย้าแหย่ “งั้นเหรอ? พูดแบบนี้ฉันกลับรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง”
หลินเยียน “หา? เสียใจอะไรเหรอคะ?”
เผยอวี้เฉิง “ไม่ได้ล่วงเกินมากกว่านี้”
หลินเยียน “แค่กๆๆๆ ”
หลินเยียนตกใจแทบตาย อยากตบปากตัวเองให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ใครใช้ให้เธอปากพาจน!ใครใช้ให้เธอปากพาจน!
เผยอวี้เฉิงรั้งสายตาหยอกเอินกลับไป “ยังมีเรื่องอะไรอยากจะถามฉันอีกหรือเปล่า?”
หลินเยียนครุ่นคิด จากนั้นจึงส่ายหน้า “ฉันแค่หวังว่าความหุนหันพลันแล่นในวันนี้จะไม่ส่งผลกระทบถึงคุณเท่านั้นค่ะ…ถึงยังไงฉันก็เห็นว่าคุณหนูหรงคนนั้นเหมือนจะเป็นคนที่สำคัญมากเลย…”
เผยอวี้เฉิงเมื่อได้ยินก็ผงกศีรษะ “อืม สำคัญมาก”
หลินเยียนเมื่อได้ยินก็รู้สึกกังวลใจ ทว่าวินาทีต่อมาก็ได้ยินชายหนุ่มพูดต่อไปด้วยท่าทางสงบนิ่ง “เพียงแต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคุณนายเผยในอนาคตแล้วล่ะ”
หลินเยียน “…!”
เกินจะรับไหวแล้วนะ!!!
ตอนที่ 702 เหอะ ผู้หญิง!
ณ คฤหาสน์เมฆ เช้าตรู่วันต่อมา
ภายในห้องนอน เสียงแมวดังระงม ขนแมวเกลื่อนพื้น
การต่อสู้ของแร็กดอลล์น้อยกับแมวส้มถึงขั้นบันทึกในประวัติศาสตร์แล้ว
หลินเยียนเพิ่งจะเปิดประตูเข้าห้องนอนก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้าโดยสิ้นเชิง
มันเป็นห้องของเธอที่ไหนกันล่ะ
ก่อนออกจากห้องเธอเก็บกวาดสะอาดเรียบร้อย ทั้งยังใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดขนแมวที่หล่นอยู่ภายในห้องจนสะอาดอีกด้วย นี่เธอเพิ่งออกไปได้ไม่นานเองนี่นา?
ห้องอันสะอาดเอี่ยมอ่องของตนเองกลับกลายเป็นสนามรบของบรรพบุรุษสองตัวนี้ไปเสียแล้ว บนพื้นหรือแม้กระทั่งบนเตียงมีแต่ขนแมวสีขาวและสีสมปะปนกันเต็มไปหมด แม้แต่บนหมอนอันน่ารักของเธอก็มีแต่ขนแมวเช่นเดียวกัน!
“พับผ่าสิ กระเป๋าของฉัน!”
ใบหน้าหลินเยียนเต็มไปด้วยความหมดหวัง หลายวันก่อนเธอต้องกัดฟันจิกเท้าถึงจะหักใจใช้เงินตั้งหลายพันหยวนซื้อกระเป๋าใหม่มาใบหนึ่ง ตอนนี้กลับกลายเป็นเศษซากไปจนหมดสิ้นแล้ว
“วะฮะฮะฮ่า พวกแกก่อเรื่องครั้งใหญ่แล้ว!” เผยอวี่ถังที่เดินตามหลินเยียนเข้าห้องมาเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี้ก็พูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง
หลินเยียนขี้เหนียวแค่ไหน เผยอวี่ถังรู้ดีกว่าใคร ที่จริงนั่นไม่อาจใช้คำว่าขี้เหนียวได้ด้วย เธอเห็นทรัพย์สมบัติเฉกเช่นชีวิต เป็นพ่อไก่ที่ขนเป็นเหล็กทั้งตัว จะถอนขนสักเส้นก็ยังทำไม่ได้
ให้หลินเยียนหาเงินน่ะได้ แต่ถ้าอยากให้เธอจ่ายเงิน นั่นเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างเช่นกระเป๋าใบนี้ ถ้าเธอเย็บปักเป็น หลินเยียนคงไปซื้อวัสดุกลับมาเย็บเองให้มันรู้แล้วรู้รอดไปแล้ว
“คุณพ่อ มาอยู่ทีมรถแข่งของผมสิ ผมจะให้พี่ชายผมซื้อให้คุณพ่อสิบใบเลย!” เผยอวี่ถังกล่าวระคนหัวเราะพลางมองดูหลินเยียนที่เต้นเป็นเจ้าเข้า
“เธอหุบปากไปเลย!” หลินเยียนถลึงตาใส่เผยอวี่ถังอย่างดุดัน
เมื่อสัมผัสถึงไอสังหารภายในดวงตาหลินเยียน เผยอวี่ถังก็ผงกศีรษะอย่างต่อเนื่อง “ได้ครับ คุณพ่อ ไม่มีปัญหาครับคุณพ่อ!”
ขณะนี้หลินเยียนมีสีหน้าดุร้าย กระเป๋าใหม่ที่เธอเพิ่งจะซื้อมาไม่รู้ว่าถูกเจ้าบรรพบุรุษตัวน้อยตัวไหนใช้กรงเล็บข่วนจนเป็นรอย บนนั้นมีรอยข่วน ‘บิดเบี้ยว’ อยู่หลายสิบรอย
นี่เอาไปใช้งานไม่ได้แล้วนะ โอเคไหมล่ะ!
“ใครทำ! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” หลินเยียนหยิบกระเป๋าที่พังแล้วขึ้นมาจากพื้น หลังจากมองดูแวบหนึ่งก็แทบจะกระอักเลือดออกมา
เธอไปทำบาปอะไรมา…
“ฮ่าๆๆ คุณพ่อ คุณพ่อโง่หรือเปล่า แมวพูดได้เหรอไงครับ ถ้าแมว…”
เผยอวี่ถังพูดได้เพียงครึ่งเดียวก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยไอสังหารของหลินเยียนอีกครั้งหนึ่ง
“ใช่! ใครทำ รีบออกมาเดี๋ยวนี้นะ! กล้าทำไม่กล้ารับ ยังนับว่าเป็นแมวอีกเหรอ!” เผยอวี่ถังตวาดเสียงดังด้วยสีหน้าจริงจัง
ตอนนี้เจ้าแมวส้มกับแร็กดอลล์สงบนิ่งทันที แมวทั้งสองตัวมองหลินเยียนอย่างพร้อมเพรียงกัน
กรงเล็บของแร็กดอลล์น้อยยังข่วนอยู่บนใบหน้าอ้วนๆ ของเจ้าแมวส้มอีกด้วย
เจ้าแมวส้มกับแร็กดอลล์น้อยต่างพากันเดินเข้าหาหลินเยียนพร้อมกันทันที ถูไถร่างกายกับเท้าหลินเยียนไม่หยุด
เมื่อเห็นแบบนั้นมุมปากหลินเยียนก็ยกขึ้นเล็กน้อย หัวเราะเย้ยหยันออกมาครั้งหนึ่ง “ไม่มีประโยชน์ แกใช้ไม้นี้กับฉันไม่ได้ผลหรอกน่า!”
“เมี้ยว”
เจ้าแมวส้มน้อยช่างเหมือนเทวดาตัวน้อยที่น่าสงสารยิ่งนัก ดวงตากลมโตจ้องมองหลินเยียน ส่งเสียงออดอ้อนออกมาครั้งหนึ่ง
หลินเยียนเงียบงันอยู่หลายวินาที หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งจู่ๆ เธอก็คุกเข่าลง ใช้สองมือลูบไล้เจ้าแมวส้มน้อยไม่หยุด
“สวรรค์ ลูกรักของแม่ เจ้าตัวน้อยน่ารัก ที่รักตัวน้อย มา ให้แม่จุ๊บสักหน่อย แม่รู้ว่าต้องไม่ใช่แกแน่!”
พอพูดจบหลินเยียนก็ใช้ใบหน้าตนเองแนบกับลำตัวเจ้าแมวส้มน้อยพร้อมถูไถอย่างแรงอยู่นาน
เผยอวี่ถัง “…” เหอะ ผู้หญิง
ไม่นานนักหลินเยียนก็มองแร็กดอลล์น้อยที่อยู่ด้านข้าง “แกต้องเป็นคนข่วนกระเป๋าของแม่จนพังแน่ ใช่รึเปล่า!”
ถึงแม้แร็กดอลล์ตัวนี้จะเป็นแค่ลูกแมวตัวเมีย แต่หน้าตากลับน่ารักสุดๆ ดูไปแล้วเหมือนเจ้าหญิงน้อยผู้สูงศักดิ์ ถึงกระนั้นนิสัยกลับแย่มาก เหมือนกับแม่เสือน้อยตัวหนึ่งจริงๆ ไม่มีอะไรทำก็ชอบหาเรื่องทะเลาะกับเสี่ยวสี่
หลินเยียนเดาว่าต้องเป็นมันแน่นอน