รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 945 จักรพรรดินี ‘พวกข้าจะต่อกรกับทหารตัวจ้อยเอง!’

บทที่ 945 จักรพรรดินี ‘พวกข้าจะต่อกรกับทหารตัวจ้อยเอง!’

บทที่ 945 จักรพรรดินี ‘พวกข้าจะต่อกรกับทหารตัวจ้อยเอง!’

บทที่ 945 จักรพรรดินี ‘พวกข้าจะต่อกรกับทหารตัวจ้อยเอง!’

อาหารกลางวันจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้น หลี่จิ่วเต้ายังนำสุราชั้นดีมาต้อนรับองค์จ้าวอู๋เฉินอีกด้วย

ในระหว่างช่วงเวลานี้ หลี่จิ่วเต้ากับองค์จ้าวอู๋เฉินก็สนทนากันอย่างเพลิดเพลิน

หลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จแล้ว องค์จ้าวอู๋เฉินก็กล่าวอำลาหลี่จิ่วเต้า ก่อนจากลานเล็ก ๆ นี้ไป

เขาไม่มีความหวาดกลัวอีกต่อไป ในใจหมายมาดจะไปยังสมรภูมิมืดมิดเพื่อต่อสู้

หลังเขาออกจากเมืองชิงซานก็ตรงไปกล่าวลาต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน แล้วจึงค่อยทะยานร่างออกไปหาสถานที่อันเงียบสงบ ครั้นเตรียมการเรียบร้อยแล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิเริ่มฝึกฝน

ข้าวกลางวันที่กินไปนั้นเรียบง่ายยิ่ง มีเพียงกับไม่กี่จานและน้ำแกงหนึ่งอย่าง ทว่าของเหล่านี้เหนือสามัญอย่างถึงที่สุด มอบผลประโยชน์ให้เขาไม่รู้ตั้งเท่าใด!

ความเข้าใจในมหาเต๋าของเขาล้ำหน้าไปไกล จนสามารถแตะขั้นที่เก้า หลังจากได้กินอาหารกลางวันเข้าไปแล้ว ร่างกายของเขาก็ยิ่งเปี่ยมด้วยพลังมหาศาล!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ขอบเขตขององค์จ้าวอู๋เฉินได้รับการปรับปรุงอย่างก้าวกระโดด!

แรกสุดอยู่ขั้นที่หก ก่อนจะเลื่อนไปยังขั้นที่แปด จากนั้นก็ทะลวงขึ้นไปยังขั้นที่แปดอย่างต่อเนื่อง!

สุดท้ายใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็ไปถึงขั้นที่เก้า!

เมื่อลืมตาขึ้นก็เสร็จสิ้นการฝึกฝน เขารู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ขั้นที่เก้า!

นี่เป็นขั้นขอบเขตที่ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าคิดฝันถึงมาก่อน ทว่าตอนนี้กลับสามารถมาถึงได้แล้วจริง ๆ ทำให้เขารู้สึกราวกับเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน

“ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง!”

องค์จ้าวอู๋เฉินสัมผัสได้ว่าพลังภายในร่างกายของตนเองพลุ่งพล่านเต็มเปี่ยมมากเพียงใด ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาจริง ๆ!

“การขึ้นไปเหนือขอบเขตอิสระไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป!”

ดวงตาขององค์จ้าวอู๋เฉินเปล่งประกาย ไม่ต้องกล่าวเลยว่าภายในใจตื่นเต้นมากเพียงใด

ระหว่างการแลกเปลี่ยนศิลปศาสตร์ทั้งสี่กับคุณชาย เขาได้รับผลประโยชน์มหาศาล สามารถสัมผัสได้ถึงเหนือขอบเขตอิสระได้อย่างเลือนรางเสียด้วยซ้ำ

แม้จะไม่ชัดเจน แต่ก็ทำให้เขามองเห็นถึงความหวัง หากมอบเวลาให้เขาทำความเข้าใจ ในอนาคตย่อมทลายกำแพงขอบเขตอิสระขึ้นไปได้อย่างแน่นอน บรรลุไปเหนือยิ่งกว่าขอบเขตอิสระ!

“ไป ไปยังสมรภูมิมืดมิด!”

เขาออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังสมรภูมิมืดมิด

ครั้งนี้เขาจะยืนหยัดในสมรภูมิมืดมิดจนกว่าความมืดมิดจะถูกทำลายสิ้น!

หลังฉาก

“พี่ชาย พวกเราจะไปที่นั่นกันจริงหรือ? พวกเราล้มเลิกเสียเถิด!”

เจ้าหลวงเอ่ยกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงด้วยเสียงอันสั่นเทา

พวกเขามาถึงหลังฉากเรียบร้อย หากยังเดินทางต่อไปก็จะถึงสมรภูมิมืดมิดแล้ว

เมื่อมาถึงหลังฉาก พวกเขาก็ได้รู้เรื่องราวไม่น้อยเกี่ยวกับสถานการณ์ทางฝั่งสมรภูมิมืดมิด

หลังฉากมียอดฝีมือสูงสุดจำนวนมากพลีชีพและต่อสู้กับกองกำลังมืดมิดเพื่อปกป้องสมรภูมิมืดมิดเอาไว้

เจ้าหลวงเกิดความหวาดกลัวจากใจจริง

ร่างของพวกเขาทั้งสองต่างเต็มไปด้วยพลังความมืดไหลเวียน แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีเรื่องอันใด แต่ยามไปถึงด้านหลังสมรภูมิมืดมิดจะรอดพ้นหรือ?

จะอำพรางตัวจากยอดฝีมือสูงสุดที่ตั้งมั่นรักษาการณ์อยู่ในสมรภูมิมืดมิดได้หรือ?

เจ้าหลวงไม่มั่นใจ ก่อนที่จะไปถึงฝั่งกองกำลังความมืด พวกเขาจะถูกยอดฝีมือสูงสุดหลังฉากค้นพบแล้วสังหารสิ้นหรือไม่

“ผู้ใดบอกให้เจ้าเรียกข้าว่าพี่ชาย?”

เมื่อได้ยินเจ้าหลวงเรียกตนเองว่าพี่ชาย จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็พลันตื่นตกใจ ตบอีกฝ่ายไปหนึ่งที

บัดซบ เจ้าหลวงผู้นี้มีดวงพิฆาตคน เขาไม่กล้าจะเป็นพี่ชายของเจ้าหลวง ทั้งยังไม่ต้องการถูกชะตาของเจ้าหลวงพิฆาตจนตาย

‘ผิดแล้ว ผิดแล้ว เขาเพียงแค่เอ่ยวาจาไปเรื่อยเปื่อย ข้าไม่ใช่พี่ชายของเขา ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดแต่อย่างใด!’

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า อธิษฐานขึ้นมากับคุณชาย ภาวนาอย่าให้ตนประสบเคราะห์ร้าย

หลังจากสวดภาวนาไปสักพักหนึ่งเขาก็หยุดลง

เขาจ้องเขม่งไปทางเจ้าหลวง ก่อนเอ่ยอย่างชิงชังว่า “ถ้ายังกล้าเรียกข้าอย่างสนิทสนมอีกครั้ง ข้าจะทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานในพริบตา!”

เจ้าหลวงตกใจกลัวจนรีบพูดออกมา “อย่า ๆ หลังจากนี้ข้าไม่กล้าทำแล้ว”

“ไปได้แล้ว!”

จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงพาเจ้าหลวงออกจากหลังฉาก

เกี่ยวกับปัญหาที่เจ้าหลวงกังวล เขาเองก็ได้พิจารณามาเรียบร้อยแล้ว

เขามีกระดานหมากล้อมที่คุณชายมอบให้ จึงไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าจะถูกเหล่ายอดฝีมือสูงสุดของหลังฉากที่คอยตั้งมั่นรักษาการณ์อยู่ในสมรภูมิมืดมิดตรวจพบ

ทว่าเขาก็ไม่ได้วางแผนจะใช้กระดานหมากล้อมเพื่ออำพรางซ่อนเร้นเข้าไปยังกองกำลังมืดมิด

เช่นนั้นจะดูปลอมเกินไป อาจถูกเปิดโปงได้ง่าย ดึงดูดความสงสัยจากกองกำลังมืดมิด

ในเมื่อเป็นไส้ศึก ทั้งยังเป็นงานไส้ศึกที่อันตรายถึงเพียงนี้ ย่อมไม่อาจกระทำการโดยสะเพร่าแต่อย่างใด ทุกสิ่งล้วนต้องพยายามทำให้เป็นของจริง

เมื่อไปถึงสมรภูมิมืดมิดแล้ว พวกเขาจะพยายามทำให้สมจริง ไม่ใช้กระดานหมากล้อมเพื่อซ่อนเร้นกายเข้าไปในกองทัพมืดมิด และเฝ้ารอคอยโอกาสลงมือ

ณ อาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอาศัย

ชิงโจว

ดินแดนตระกูลหยวน

จักรพรรดินีและอาจารย์อยู่ที่นี่มาโดยตลอด สถานที่แห่งนี้คือดินแดนของตระกูลหยวนอี

“ข้าจะออกไปต่อสู้เพื่อลับคมตนเอง อาบย้อมไปด้วยเลือดและจิตวิญญาณ!”

ภายในดวงตาของจักรพรรดินีมีประกายความมุ่งมั่นระหว่างกล่าวลาอาจารย์กับหยวนอี

คุณชายเขียนอักษรให้กับนาง ทั้งยังมีตราประทับนามคุณชายอยู่ด้านบน นับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างถึงที่สุด ไม่เพียงแต่ช่วยนางสังหารศัตรู ทว่ายังช่วยนางในการฝึกฝนได้ ทำให้ขอบเขตความแข็งแกร่งของนางพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก

ทว่าจักรพรรดินีกลับรู้สึกว่านี่ยังไม่เพียงพอ

อนาคตจะเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ พลังอันน่าสะพรึงมากมายจะปรากฏขึ้น พลังมืดมิดจะยิ่งย่างกรายเข้ามาใกล้

แม้นางจะเชื่อมั่นในตัวคุณชาย เชื่อว่าคุณชายจะสามารถจัดการความวุ่นวายทั้งหมดได้อย่างแน่นอน

ทว่านางก็ยังคงตัดสินใจจะทำส่วนของตนเองให้สุดความสามารถ!

“คุณชายต้องต่อกรกับศัตรูตัวฉกาจ เช่นนั้นเหล่าทหารตัวจ้อยก็ให้พวกข้ารับมือ!”

นางเรียกหอกยาวออกมาแล้วเดินทางออกไปแสวงหาการต่อสู้

จากนี้นางจะใช้ความเป็นตายมาลับคมตนเอง ไม่ใช้อักษรที่คุณชายเขียนให้ วันข้างหน้าเมื่อความโกลาหลปะทุขึ้นมา นางจะสังหารศัตรูเพื่อคุณชาย!

พระราชวังใต้ดิน

ผู้ถูกกำหนดคนหนึ่งได้มาถึงแล้ว

เขาเป็นชายหนุ่ม ท่าทางสง่างามราวกับหลุดพ้นจากธุลี บนร่างสวมชุดเกราะทองคำ หว่างคิ้วให้ความรู้สึกหนักแน่น

“เจ้าเองก็เป็นผู้ถูกกำหนดอย่างนั้นหรือ?”

เขามองไปทางนักพรตด้วยแววตาที่มีความดูแคลนอยู่บ้าง “เหตุใดท่านผู้นั้นจึงเลือกเจ้ากัน? หน้าตาไม่ได้เรื่อง ทั้งยังดูไม่ได้ความ!”

ความจริงหากกล่าวถึงรูปลักษณ์ของนักพรตอ้วนอย่างไม่ประจบประแจง ยามไม่หัวเราะก็ยังดี แต่พอหัวเราะออกมาช่างน่าอัปลักษณ์ยิ่ง ไขมันทั่วร่างสั่นกระเพื่อมไปมา

เดิมทีนักพรตอ้วนต้องการจะทักทายชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม ทว่าหลังจากได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาก็พลันมืดครึ้มลง

เหตุใดจึงเอ่ยออกมาเช่นนี้!

ความสามารถ!

ความสามารถเป็นสิ่งที่สำคัญสุดไม่ใช่หรือ!

หน้าตาดีไปก็ไร้ค่า!

คนผู้นั้นเลือกเขาก็เพราะความสามารถอันโดดเด่นของเขา!

ชายหนุ่มปรายตามองนักพรตอ้วน รู้ได้ทันทีว่าภายในใจของนักพรตอ้วนกำลังคิดสิ่งใดอยู่

“หยุดฟุ้งซ่านเสีย หากเจ้ามีความสามารถจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรือ? ความสามารถของเจ้าก็ไม่ต่างอันใดกับรูปร่างหน้าตาเจ้า!”

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชื่นชอบนักพรตอ้วน วาจาไม่มีความเป็นมิตรแม้แต่น้อย

สาเหตุหลักเป็นเพราะก่อนมาที่นี่ตัวเขานั้นมีความคาดหวังสูงยิ่งกับนักพรตอ้วน คิดว่านักพรตอ้วนจะมีความสามารถโดดเด่นไม่แพ้เขา ทว่าผลที่ออกมากลับดูย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง!

นักพรตอ้วนขบฟันแน่น ภายในใจอัดแน่นไปด้วยความชิงชัง

เขาอยากจะจับชายหนุ่มมาทุบตีอย่างบ้าคลั่งจริง ๆ

น่าเสียดายที่เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้

อย่างน้อยสุดในตอนนี้เขาก็ยังทำไม่ได้

เขาลอบใช้ความสามารถของตนเอง ต้องการสยบพลังในร่างของชายหนุ่มลง ทว่ากลับพบว่าไม่ได้ผล เพราะมีพลังพิเศษบางอย่างปกป้องชายหนุ่มเอาไว้อยู่

‘น่าจะเป็นเพราะศาสตรานั่น…’

เขาถอนหายใจภายในใจ

ชายหนุ่มได้รับศาสตราที่ท่านผู้นั้นหลอมขึ้นมาด้วยมือของตนเอง แม้จะเป็นเพียงศาสตราที่สร้างออกมาอย่างส่ง ๆ ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีพลังสะท้านฟ้าเกินกว่าที่ความสามารถของเขาจะต่อกรได้

“อย่าคิดก่อเรื่องวุ่นวาย หากเจ้าไม่ใช่คนที่ท่านผู้นั้นเลือก เจ้าก็ไม่คู่ควรแม้แต่จะเอ่ยวาจากับข้า!”

ชายหนุ่มเหลือบมองนักพรตอ้วนแล้วเอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส “ข้าจะช่วยเจ้านำสิ่งของเหล่านั้นกลับคืนมา ทว่าหลังจากนี้เจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า เรียกข้าว่าพี่ใหญ่!”

เขามีความมั่นใจว่าจะสามารถทวงคืนทุกสิ่งของนักพรตอ้วนกลับมาเป็นอย่างมาก

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Score 10
Status: Completed
‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน! ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

Options

not work with dark mode
Reset