รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]บทที่ 860 หลี่จิ่วเต้า ‘เจ้ามีจิตใจดีและกระทำความดี ไม่เลวเลย!’

บทที่ 860 หลี่จิ่วเต้า 'เจ้ามีจิตใจดีและกระทำความดี ไม่เลวเลย!'

บทที่ 860 หลี่จิ่วเต้า ‘เจ้ามีจิตใจดีและกระทำความดี ไม่เลวเลย!’

หลี่จิ่วเต้าผู้นี้ได้สัมผัสกับรากฐานในโลกหน้าฉากลึกซึ้งอย่างมาก เห็น ๆ ว่าเขาน่าจะได้ประโยชน์มามหาศาล ซ้ำยังเป็นไปได้ว่าอาจติดต่อกับท่านผู้นั้นแล้ว!

ตาเฒ่าขี้เมาจ้องมองร่างของหลี่จิ่วเต้า อยากสนทนากับเขาเหลือเกิน สนทนาเกี่ยวกับท่านผู้นั้น!

เพียงแต่… เขามิกล้าเป็นฝ่ายเข้าหา

แน่นอนว่าเขายังมิได้ลืมเลือนเรื่องก่อนหน้านี้ หลี่จิ่วเต้าแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ต้องการพบเขา

“เฮ้อ…”

เขาถอนหายใจหนักหน่วง

ตัวตนแข็งแกร่งระดับหลี่จิ่วเต้า หากไม่อยากพบเขาต่อให้เขาปราดเข้าไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีทางได้พบ

ทว่าเวลานั้นเอง เขาพบว่าหลี่จิ่วเต้าเหินกระบี่มาทางเขา!

“ท่านผู้นี้ต้องการพบข้าหรือ?!”

เขายินดีปรีดาขึ้นมาในบัดดล

ตามคาดหลี่จิ่วเต้ามาหาเขาจริง ๆ และลมหายใจต่อมาชายหนุ่มก็โรยตัวลงมาตรงหน้าเขา

“เจ้าไม่เลวเลย ไม่เหมือนกับผู้ฝึกตนอื่น จิตใจดีและกระทำความดี”

หลี่จิ่วเต้าปริปาก “เจ้าเคยหยุดยั้งมารกระดูก ทั้งยังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดสีเลือด ไม่เลวจริง ๆ”

ครานั้นตาเฒ่าขี้เมาจงใจอาเจียนใส่มารกระดูก แน่นอนว่าภาพเหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของเขาจึงรู้ดีว่าตาเฒ่าขี้เมาทำเพื่อช่วยผู้อื่น

ครานั้นพฤติกรรมของมารกระดูกน่าโมโหยิ่งนัก แม้แต่เขายังนึกอยากลงมือ

เช่นเดียวกัน เรื่องที่ตาเฒ่าขี้เมาเข่นฆ่าสัตว์ประหลาดสีเลือดก็อยู่ในสายตาเขาเช่นกัน

“เป็นเรื่องสมควรแล้ว!”

ตาเฒ่าขี้เมาตอบ

“ดูออกว่าเจ้าชอบดื่มสุรา ข้ามีสุราหมักเองอยู่จำนวนหนึ่ง หากไม่รังเกียจก็ลองชิมดูหน่อยเถิด”

หลี่จิ่วเต้าหยิบสุรากาหนึ่งออกจากมิติบรรจุของ พลางยื่นไปให้ตาเฒ่าขี้เมา

ตาเฒ่าขี้เมาตาเป็นประกาย ท่านผู้นี้ก็ชอบดื่มสุราหรือ

เขารับกาสุราที่หลี่จิ่วเต้ายื่นมาให้

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยเช่นนี้แล้ว หากเขาไม่รับจะดูเหมือนรังเกียจ

“ข้าเองก็มีสุราชั้นดีในตัว น่าเสียดายที่ข้าดื่มหมดแล้ว! ไม่อย่างนั้นคงยกให้คุณชายหลี่ลิ้มรสได้เหมือนกัน”

เขาส่ายหน้ารัวด้วยความเสียดาย

เหล้าวิเศษสามหยดถูกเขาดื่มจนหมดเกลี้ยงเมื่อครั้งต่อสู้กับต้นหลิวและก้อนหิน กระนั้นก็มิอาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ถูกก้อนหินเล่นงานจนอ่วมเหมือนเดิม

หากมิใช่เช่นนั้น เขาอยากให้หลี่จิ่วเต้าลองชิมสุราของเขาดูจริง ๆ นั่นเป็นผลงานชิ้นเอกของเขา แม้จะล้ำค่าเหลือแสน กระทั่งเขาเองยังมิกล้าดื่มเท่าใด

แต่หากให้หลี่จิ่วเต้าดื่ม เขาเต็มใจเป็นที่สุด

“อ้อ อย่างนั้นเองหรือ”

หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม “ไม่เป็นไร คราวหน้าเจ้าค่อยนำสุราชั้นดีของเจ้ามาหาข้า”

หลังจากนั้น เขากล่าวลาตาเฒ่าขี้เมาและไปจากที่นี่

ตาเฒ่าขี้เมาอยากเรียกหลี่จิ่วเต้าไว้ก่อนเขาจากไป อยากถามให้รู้ว่ารากฐานโลกหน้าฉากมีอะไรอยู่กันแน่ เกี่ยวข้องลึกซึ้งกับท่านผู้นั้นจริงหรือไม่

ทว่าท้ายที่สุดเขาก็มิอาจเอ่ยถามออกไปได้

หลี่จิ่วเต้ามิได้เอื้อนเอ่ยอันใดกับเขาก็บอกลาไปก่อน เผยให้เห็นถึงท่าทีของเขาแล้วว่าไม่ต้องการอธิบาย

หากเขาเรียกหลี่จิ่วเต้าไว้เพื่อถาม ออกจะไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่มีขอบเขตไปหน่อย

“ช่างเถิด หนนี้ก็ไม่เลว อย่างน้อยก็ได้พูดคุยกับเขาแล้ว เขาเอ่ยไว้มิใช่หรือ คราวหน้าไปร่วมดื่มสุรากับเขาได้”

ตาเฒ่าขี้เมานับว่าพึงพอใจอยู่ มิได้คิดไปมากกว่านี้

“ขอชิมสุรานี้หน่อย”

เขารักสุราดุจชีวิต อดรนทนไม่ไหวอยากรู้ว่าหลี่จิ่วเต้ามอบสุราเช่นไรให้เขา

ในความคิดของเขา หลี่จิ่วเต้าผู้นี้แข็งแกร่งเหลือแสน สุราที่ยกให้นี้คงไม่แย่กระมัง เขาตั้งตารออย่างยิ่งยวด

“!!!”

เมื่อเขาเปิดฝากาสุรา กลิ่นหอมด้านในขจรขจาย

เขาตกตะลึงในบัดดล!

กลิ่นหอมเกินไปแล้ว! หอมกรุ่นกว่าสุราใด ๆ ที่เขาเคยดื่มมา เขามิเคยได้กลิ่นหอมระดับนี้จากสุรามาก่อน ชั่วขณะนั้น น้ำลายเขาสอออกมาหมด!

มือข้างที่จับกาสุราอยู่สั่นเทาเพราะความตื้นตัน เขารีบใช้มืออีกข้างกุมกาสุราราวกับกลัวมันจะตกพื้น จนสุราภายในหกออกมา

ก่อนนี้ เขาคิดเพียงว่าสุราจากหลี่จิ่วเต้าคงไม่แย่นัก บัดนี้เขาเพียงอยากเอ่ยว่า ใช่เพียงไม่แย่ที่ไหน เรียกได้ว่าล้ำเลิศอย่างยิ่ง!

เขาขอเรียกมันว่าเป็นสุราอันดับหนึ่งในใต้หล้า!

“หมักด้วยกรรมวิธีใดกันนี่!”

เขาจ้องมองสุราในกา สะท้านใจเป็นหนักหนา

สุรานี้มิใช่แค่หอมกรุ่นเท่านั้น ภายในยังแฝงไว้ด้วยสสารสูงส่งมากมาย เขาไม่นึกเคลือบแคลงเลยว่าขอเพียงหยดเดียวที่ได้ดื่ม เขาก็จะได้รับประโยชน์มหาศาล พลังเพิ่มพูนคูณทวี!

เขาแทบไม่อาจเชื่อได้เลย

ต้องรู้ว่ายอดฝีมือระดับอย่างเขาคิดจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์นั้นลำบากยิ่ง ต่อให้เป็นโอสถสวรรค์สูงสุดก็ส่งผลต่อพวกเขาเพียงจำกัด!

“แม้ว่าท่านผู้นี้มิชอบพูดจา กระนั้นกลับมือเติบยิ่ง!”

เขาสะท้อนใจอย่างอดมิได้

เขาสนทนากับหลี่จิ่วเต้าได้รวมแล้วไม่กี่ประโยค ก็ได้รับผลดีมากมายปานนี้ เหนือความคาดหมายของเขาอย่างมาก!

“วาจาก่อนหน้านี้ของข้าน่าอายจริง ๆ!”

ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อเมื่อนึกถึงคำกล่าวของเขาเมื่อครู่

ก่อนนี้เขาทำทีเสียดายต่อหน้าหลี่จิ่วเต้าไม่หยุด เอ่ยว่าตัวเขาก็เคยมีสุราชั้นดี แต่ถูกเขาดื่มหมดไปแล้ว

ซ้ำยังเอ่ยว่าจะให้หลี่จิ่วเต้าได้ลิ้มรสดู!

ยังดีที่มิได้ทำเช่นนั้น เขาดื่มหมดไปก่อน มิฉะนั้นคงขายหน้าแย่!

เขามีอยู่ทั้งหมดสามหยด ต่อให้ไม่ดื่มเลยก็ยกให้หลี่จิ่วเต้าได้เพียงสามหยดเท่านั้น

พับผ่าสิ เลี้ยงสุราผู้อื่นเพียงสามหยด ที่สำคัญหากหลี่จิ่วเต้าไม่มีสุราชั้นดีในตัวยังไม่เท่าไหร่ แต่อีกฝ่ายดันมีสุราล้ำเลิศเช่นนี้บนตัว!

หากเขาเลี้ยงสุราหลี่จิ่วเต้าเพียงสามหยดจริง น่ากลัวว่าอีกฝ่ายได้ขำตายแน่!

สุรากานี้ดีกว่าของเขามาก เรียกได้ว่าเทียบมิได้เลย!

“ต้นหลิวต้นนั้นพูดไว้ไม่ผิด คุณชายหลี่มีคุณธรรมสูงส่ง ไม่เพียงแต่กำจัดศพโลหิต อีกทั้งมิได้เพิกเฉยต่อพลังมืดมิด…”

หลี่จิ่วเต้ายกสุราชั้นดีให้เขาหนึ่งกาโดยไร้สาเหตุจริงหรือ

เขาครุ่นคิด รู้สึกว่ามิได้ไร้สาเหตุ

อีกฝ่ายมอบสุราชั้นดีเช่นนี้ให้เขา คงเป็นแรงหนุนบางอย่างกับพวกเขา ให้พวกเขาจัดการกับพลังมืดมิดได้ดีขึ้น!

สุราในกานี้ไม่น้อยทีเดียว ต่อให้แบ่งกับประมุขแห่งสรวงสวรรค์ พระอมิตาภะพุทธเจ้า ผู้มีฝีมือแห่งศาสนาเต๋า รวมถึงยอดฝีมือสะท้านโลกันตร์อื่น ๆ ก็ยังพอ

ช่วยให้พวกเขายกระดับพลังได้ทุกด้าน!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะต่อกรกับพลังมืดมิดได้ดีขึ้น!

“ที่คุณชายหลี่ไม่ไปยังสมรภูมิมืดมิด ดูท่าคงกำลังวางอุบายบางอย่างอยู่จริง ๆ…”

สายตาของเขาลึกล้ำ พลังมืดมิดมิได้มีเท่าที่แสดงตนออกมาแน่นอน เรื่องนั้นพวกเขาตระหนักเป็นอย่างดี สิ่งที่อยู่เบื้องหลังพลังมืดมิดน่าพรั่นพรึงอย่างแน่แท้ พวกเขาเพียงแต่กีดขวางพลังมืดมิดได้ชั่วคราวเท่านั้น

ส่วนจะหยุดยั้งพลังมืดมิดให้ได้ตลอด กำจัดความมืดมิดอย่างสิ้นเชิงนั้น ไม่ต้องคิดเลย

หลี่จิ่วเต้ายังไม่ออกโรงในตอนนี้ คงกำลังวางหมากในกองกำลังเบื้องหลังความมืดมิดอยู่!

“เลิกคิดเรื่องพวกนี้ดีกว่า รีบส่งสุรากานี้ไปดีกว่า! ด้านสมรภูมิมืดมิดจลาจลขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!”

เขารีบติดต่อร่างต้น ขอให้ร่างต้นใช้พลังนำสุรากานี้กลับไป

สุรากานี้มาได้ทันท่วงที ด้านสมรภูมิมืดมิดสถานการณ์ตึงเครียด เห็นได้ชัดว่าศึกใหญ่กำลังจะปะทุ เมื่อมีสุรากานี้ พลังฝ่ายพวกเขาย่อมต้องเพิ่มพูนมหาศาล

ถึงครานั้น พวกเขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวต่อสงครามระหว่างพลังมืดมิดอีก

ไม่นานนัก ร่างต้นของเขาก็เคลื่อนไหว มีพลังคืบคลานเข้ามานำสุรากานี้ไป

ร่างต้นของเขามิได้เอาไปทั้งหมด เหลือไว้ให้หนึ่งหยด

“ดี ๆ ต่อให้ข้าไม่ดื่ม ลำพังได้ดมกลิ่นหอมสุรานี้ทุกวี่วันก็นับว่าสาแก่ใจยิ่งนัก!”

เขาคลี่ยิ้มกว้างพลางเอ่ย พึงพอใจอย่างมาก เห็นสุราหยดนี้เสมือนสมบัติล้ำค่า

โลกหลังฉาก

สมรภูมิมืดมิด

จ้าวชิงได้รับสุรา

เขามิได้ลังเล รีบติดต่อประมุขแห่งสรวงสวรรค์ พระอมิตาภะพุทธเจ้า ผู้มีฝีมือศาสนาเต๋า และยอดฝีมือสะท้านโลกันตร์ทั้งหลาย ชวนพวกเขามาร่วมดื่มสุราด้วยกัน

“หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ยังมีแก่จิตแก่ใจดื่มสุราอีก! จ้าวชิง ท่านดื่มเองเถิด ยามนี้ข้ามิมีอารมณ์ดื่มสุรา!”

ประมุขแห่งสรวงสวรรค์รูปร่างสูงใหญ่องอาจ เปี่ยมด้วยบารมี หลังได้รับแจ้งจากจ้าวชิงก็ปฏิเสธทันควัน

เขามิมีอารมณ์ดื่มสุราจริง ๆ ยามนี้กำลังกลัดกลุ้ม ฝ่ายพลังมืดมิดเคลื่อนไหวถี่กระชั้นมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นการลงมือก่อนศึกใหญ่เปิดฉาก

เขาในเวลานี้ คิดแต่เพียงต้องรับมือศึกนี้อย่างไร

ฝ่ายพลังมืดมิดน่ากลัวเกินไป ศึกใหญ่แต่ละครั้งไม่อาจสบประมาทได้เลย มิฉะนั้นต้องเสียหายหนักหนาแน่นอน และหากชะล่าใจ อาจถูกรุกรานเข้ามาจากทุกทิศทางก็เป็นได้!

“ข้าเองก็ไม่มีแก่จิตแก่ใจดื่มสุรา ยามนี้มิใช่เวลามาดื่มสุรา! รอให้จบศึกนี้ก่อนเถิด…”

ผู้มีฝีมือศาสนาเต๋าตนหนึ่งก็ปฏิเสธเช่นกัน

จิตใจของเขาหนักอึ้งไม่ต่างกัน ไม่อยากเผชิญหน้ากับศึกใหญ่เช่นนี้ ทุกครั้งที่ต้องประสบกับสงครามดุเดือด สหายและลูกศิษย์จำนวนหนึ่งของเขาจักต้องตายในสนามรบทุกครั้งไป

“จ้าวชิงดื่มสุราจนเลอะเลือนไปแล้วหรือ! ผู้ใดมีอารมณ์ดื่มกับท่านกัน!”

ปีศาจสะท้านโลกันตร์ตนหนึ่งเอ่ย “ท่านเองก็อย่าดื่มเลย สงครามปะทุได้ทุกเมื่อ ถึงคราวนั้นท่านจะเมาจนสู้ไม่ไหวเอา!”

“…”

หลังพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้รับคำเชิญก็หมดคำพูดในบัดดล

เขาไม่เคยดื่มสุรา ไม่แตะเหล้าสักหยด เหตุใดจ้าวชิงถึงเชื้อเชิญเขาเสียอย่างนั้น

“อาตมาก็รู้สึกว่าจ้าวชิงเมาแล้ว…”

แน่นอนว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้ามิได้เดินทางไป ปฏิเสธจ้าวชิงทันที

“พวกท่านนี่นะ มองไม่เห็นความหวังดีกันเสียเลย!”

จ้าวชิงขุ่นเคืองนักหนา ผู้ที่เชิญมาไม่มาเสียส่วนใหญ่ ปฏิเสธเขากันหมด ซ้ำยังกล่าวว่าเขาเมาแล้วหรือไม่!

เขาไฉนเลยจะไม่โมโห

สุราชั้นดีเช่นนี้ หากมิใช่ว่าเขาทำเพื่อการใหญ่ ต้องการให้ยอดฝีมือทั้งหลายยกระดับพลังกันถ้วนหน้าเพื่อต่อกรกับพลังมืดมิดได้ดีขึ้น เขาไม่มีทางนำออกมาแม้แต่หยดเดียว ต้องเก็บไว้อย่างดีเพื่อดื่มเองแน่นอน!

“ไม่มาก็ไม่ต้องมา! ข้าขอเตือนพวกท่าน หลังจากนี้อย่าได้มาขอร้องข้า!”

เขาเอ่ย ก่อนจะเปิดฝากาสุราออก ซ้ำยังจงใจใช้พลังขับให้กลิ่นของสุราแผ่กระจายออกไป ให้ประมุขแห่งสรวงสวรรค์และยอดฝีมืออื่น ๆ ได้กลิ่นกันหมด

นอกจากนี้เขายังรินออกมาหนึ่งหยดแล้วดื่มเข้าไป ก่อนจะดูดกลืนหลอมละลายพลังในสุราหยดนี้

เขาคร้านจะอธิบายให้ประมุขแห่งสรวงสวรรค์และยอดฝีมือตนอื่น ๆ ฟัง ตั้งใจพิสูจน์ด้วยการกระทำ

“ผู้ใดใคร่ดื่มสุรากัน! มีเพียงท่านเท่านั้น!”

“พวกเรามิได้ติดสุรา และมิได้ชื่นชอบ ผู้ใดจะไปขอร้องท่านกัน!”

“จ้าวชิงเมาแล้วจริง ๆ ข้าขอเตือนให้ท่านสร่างเมาให้ได้ก่อนเถิด ศึกใหญ่ใกล้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ประเดี๋ยวถึงเวลาห้ำหั่นจะโดนเชือดเอา!”

ยอดฝีมือทั้งหลายพากันส่งเสียง

พวกเขามิได้ดื่มสุราเป็นงานอดิเรกจริง ๆ แล้วไยต้องไปขอร้องจ้าวชิง เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้เลย!

ทว่าหลังกลิ่นหอมสุราขจรขจายด้วยพลังของจ้าวชิงและส่งมาถึงพวกเขา

สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปกันหมด!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Score 10
Status: Completed
‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน! ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

Options

not work with dark mode
Reset