บทที่ 767 ต้องได้ชดใช้แน่!
ส่ง?
ส่งอะไร!
หลวนเหยาแทบร่ำไห้ ระฆังสะเทือนฟ้าหายไปแล้ว กลายเป็นผุยผงอย่างสิ้นเชิง…
แต่กระนั้น เขายังนำผุยผงทั้งหมดที่เหลืออยู่ของระฆังสะเทือนฟ้าออกมา
ก่อนจากมา เขาเก็บกวาดผุยผงของระฆังสะเทือนฟ้ามาหมดแล้ว
“หลวนเหยา เจ้าทำอะไร”
เจ้าลัทธิมองผุยผงที่หลวนเหยาโอบไว้ในมือด้วยความฉงน
“ท่านอาจารย์ นี่…นี่คือระฆังสะเทือนฟ้าอย่างไร!”
หลวนเหยาทนไม่ไหวอีกต่อไป ร่ำไห้ออกมาด้วยความปวดใจ
ระฆังสะเทือนฟ้าเชียวนะ ยอดศาสตราอันดับแปดถูกทำลายง่าย ๆ เช่นนี้ พวกเขาสูญเสียมากเกินไปแล้ว!
“เจ้าว่าอะไรนะ!?”
ดวงตาของเจ้าลัทธิจ้องหลวนเหยาเขม็งอย่างไม่เป็นมิตร ผุยผงกองนี้คือระฆังสะเทือนฟ้าหรือ!?
ล้อเล่นอะไรอยู่!
“เรื่องจริงขอรับ หมอนั่นเล่นงานระฆังสะเทือนฟ้าจนกลายเป็นผุยผงไปแล้ว!”
หลวนเหยาเอ่ยเสียงสะอื้น
“นี่คือ…ระฆังสะเทือนฟ้าจริง ๆ!”
เจ้าลัทธิสัมผัสปราณของระฆังสะเทือนฟ้าจากผุยผงกองนี้ได้ ทันใดนั้น ตัวเขาก็โอนเอนแทบล้มลงไปกองกับพื้น!
ผู้อาวุโสอยู่ที่นี่กันไม่น้อย สัมผัสปราณระฆังสะเทือนฟ้าจากผุยผงกองนี้ได้เช่นกัน พวกเขาพลันสูดปาก หนาวสะท้านไปทั้งหลัง
ระฆังสะเทือนฟ้าถูกทำลายจนอยู่ในสภาพนี้ คนผู้นั้นเป็นใครกัน!?
“อ๊ากกก! ฆ่าเขาเสีย! จะปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปมิได้!”
เจ้าลัทธิคลุ้มคลั่ง จิตสังหารพุ่งทะยาน ยอดศาสตราอันดับแปด สมบัติอันดับสองแห่งลัทธิถูกทำลายจนอยู่ในสภาพนี้ ในหัวเขาตอนนี้มีแต่ความต้องการฆ่า
“ท่านพ่อ ไหนท่านเอ่ยว่าจะยอมจบเรื่องนี้เพียงเท่านี้มิใช่หรือ หากท่านหลอกเยว่เอ๋อร์ ท่านพ่อจะให้เยว่เอ๋อร์ถอน…ผมท่านให้หมด?”
หลีเยว่รีบกล่าว หมายจะให้ท่านพ่อของนางสงบใจลง
ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาไม่มีทางจบสวยแน่!
ต้องรู้ว่า แม้แต่สมบัติอันดับสามแห่งลัทธิในมือท่านพ่อยังไม่สามารถทำลายระฆังสะเทือนฟ้าจนอยู่ในสภาพนี้ได้เลย พลังฝีมือของหลี่จิ่วเต้าผู้นั้นน่าครั่นคร้ามถึงที่สุดอย่างเห็นได้ชัด!
ระฆังสะเทือนฟ้าถูกทำลาย เจ้าลัทธิกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธจัด ไฉนเลยจะยอมฟังคำกล่าวของหลีเยว่ เขาโกนผมทิ้งทั้งศีรษะ กลายเป็นคนหัวโล้นคนหนึ่งพร้อมเอ่ยเสียงเคียดแค้น “เขาต้องชดใช้ด้วยเลือด!”
บัดนี้ เขาไม่สนแม้แต่เส้นผมอันล้ำค่าของเขาแล้ว เขาจักฆ่าหลี่จิ่วเต้า ให้หลี่จิ่วเต้าตายตกตามระฆังสะเทือนฟ้า
หลีเยว่เอ่ยเสียงร่ำไห้ “ทำเช่นนั้นมิได้นะท่านพ่อ!”
“ท่านเจ้าลัทธิโปรดใจเย็นก่อน!”
“วู่วามเช่นนี้รังแต่จะทำให้เราเสียเปรียบมากกว่าเดิม!”
ผู้อาวุโสทั้งหลายรีบเข้าไปห้ามปราม มิกล้าปล่อยเจ้าลัทธิออกไป ตอนนี้ยังไม่ทราบตื้นลึกหนาบางของหลี่จิ่วเต้า หากทะเล่อทะล่าเข้าไป คงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง!
“ถอยไป!”
เจ้าลัทธิตวาด หัวใจหลั่งเลือด ยอดศาสตราอันดับแปดเชียวนะ เรื่องนี้สร้างความเสียหายให้พวกเขามหันต์อย่างไม่ต้องสงสัย พลังอำนาจลดฮวบลง
ยอดศาสตราระดับนี้ทรงพลังแกร่งกล้ายิ่งนัก เพิ่มพูนกำลังรบได้อเนกอนันต์ ถือเป็นหนึ่งในไพ่ตายอันเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ หากขาดมันไป บารมีจะลดทอนลงไปมาก
“ไม่ได้นะ!”
“พวกเราต้องหารือกันให้ถี่ถ้วน!”
บรรดาผู้อาวุโสพยายามหยุดยั้งเจ้าลัทธิอย่างสุดความสามารถ ก่อนได้รู้ภูมิหลังของหลี่จิ่วเต้า พวกเขาไม่ต้องการเคลื่อนไหวอันใดที่เป็นการปะทะกับหลี่จิ่วเต้า
“ปล่อยเขาไป!”
เวลานั้นเอง เสียงชราเสียงหนึ่งดังขึ้น เจ้าลัทธิรุ่นก่อนเดินออกมา
เขาดูอายุมากแล้ว ขาวโพลนทั้งผมทั้งเครา ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับเปล่งประกายเจิดจ้า ทั้งเนื้อทั้งตัวเปี่ยมไปด้วยบารมี
หลังเขามาถึง เจ้าลัทธิเงียบไปในบัดดล มิกล้ามีท่าทีอันใดอีก เห็นได้ชัดว่าหวาดกลัวในตัวเจ้าลัทธิรุ่นเก่ามาก
“ไปเถิด มิมีผู้ใดห้ามเจ้า จงสำแดงพลานุภาพของลัทธิเรา สังหารเจ้าคนเดนตายผู้นั้นเสีย”
เจ้าลัทธิรุ่นก่อนเอ่ยเสียงราบเรียบ
“ได้!”
เจ้าลัทธิเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากทำเช่นนี้มานานแล้ว
“ดี เจ้าต้องไปแบบนี้ ห้ามนำสิ่งใดไปด้วยทั้งสิ้น” เจ้าลัทธิรุ่นเก่าเอ่ย
“หา” เจ้าลัทธิเซื่องซึมลงทันที
เขานำสมบัติอันดับสามแห่งลัทธิไปด้วยยังใช่ว่าจะจัดการหลี่จิ่วเต้าได้ ขืนไปมือเปล่าเช่นนี้ มิเท่ากับนำชีวิตไปมอบให้เขาหรือ!
“เจ้ารู้ด้วยหรือว่าไม่ไหว!”
เจ้าลัทธิรุ่นเก่าแค่นเสียงเย็น “หากยอมให้เจ้านำกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ไปด้วย เจ้าแน่ใจหรือว่าสามารถต่อกรกับเขาได้”
กงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์คือ สมบัติอันดับสามชิ้นนั้น
“ไม่…แน่ใจ!”
เจ้าลัทธิก้มหน้า ก่อนนี้เขากำลังโมโห มิได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน บัดนี้ใจเย็นลงแล้ว ต่อให้เขานำกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ไปด้วยก็มิไหว
จะไหวได้อย่างไรเล่า!
ต่อให้เขาเค้นพลังกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์สุดชีวิต ก็ไม่อาจทำลายระฆังสะเทือนฟ้าให้อยู่ในสภาพนี้ได้ ทว่าหลี่จิ่วเต้าทำได้ ความห่างชั้นนั้นปรากฏชัด
“รู้แล้วยังอาละวาดอะไรอยู่ที่นี่!” เจ้าลัทธิรุ่นก่อนต่อว่า
“แต่…แต่จะให้ปล่อยไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือ” เจ้าลัทธิเจ็บใจยิ่งนัก
“แน่นอนว่าปล่อยไปง่าย ๆ เช่นนี้มิได้!”
เจ้าลัทธิรุ่นก่อนหัวเราะเสียงเย็น “ข้าจะออกโรงเองด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว หากเขาทานไว้ได้ เรื่องนี้จะจบลงเพียงเท่านี้! หากเขาทานมิได้ เขาจักต้องตายด้วยการโจมตีนี้!”
เขาโบกมือ ประตูคลังสมบัติระเบิดฉับพลัน กงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์พุ่งพรวดมาอยู่ในมือเขาเพียงพริบตาเดียว
จากนั้น เขาเริ่มลงมือสำแดงมหาเต๋าสูงส่งบางอย่าง พลังปราณสยดสยองล้นหลามออกมา สำแดงพลังฤทธิ์ออกมาเต็มที่เพื่อเพิ่มพูนพลังให้กับกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสี้ยวลมหายใจนั้น ห้วงมิติสั่นคลอน กงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์โผบินขึ้นฟ้า กลิ่นอายเยียบเย็นคลี่ปกคลุมธรณีทั้งผืนในบัดดล สิ่งมีชีวิตนับคณาเสมือนตกลงไปในโพรงน้ำแข็ง หนาวสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ ไม่เหลือความอบอุ่นในตัวสักนิด!
“กงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์!”
“สวรรค์! ลัทธิไท่เหยี่ยนคิดจะทำอันใด!?”
“นั่นผู้ใดกัน เจ้าลัทธิรุ่นก่อนของลัทธิไท่เหยี่ยนหรือ เขามิได้เผยโฉมออกมานานแล้ว บัดนี้เร่งเร้าพลังแห่งกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ปานนี้ คิดจะจัดการผู้ใดหรือ!?”
สิ่งมีชีวิตมากมายตกตะลึง ตัวสั่นระริก เจ้าลัทธิรุ่นก่อนของลัทธิไท่เหยียนคิดจะพังดินแดนนี้หรืออย่างไร!?
เจ้าลัทธิรุ่นก่อนแห่งลัทธิไท่เหยียนอยู่ในขอบเขตที่สูงเกินหยั่งแล้ว ซ้ำกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ยังเป็นถึงยอดศาสตราอันดับสาม พลังสยดสยองปานนั้น ผู้ใดทำให้ลัทธิไท่เหยียนต้องขุ่นข้องหมองใจหรือ เจ้าลัทธิรุ่นก่อนแห่งลัทธิไท่เหยียนถึงต้องกระทำการบ้าคลั่งเช่นนี้ลงไป!
“คงมิใช่ว่าพุ่งเป้ามาที่ข้ากระมัง!”
ร่างแก่ชราร่างหนึ่งตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว พลันนั้นเรียกยอดศาสตราในตระกูลออกมา เตรียมรับการต่อสู้ทุกเมื่อ
“ตาเฒ่านี่คงมิได้เจ้าคิดเจ้าแค้นเช่นนั้นกระมัง ครานั้น ข้ามิได้ตั้งใจเผลอแย่งคู่บำเพ็ญเพียรของเขามา คงมิใช่เรื่องใหญ่อันใดกระมัง”
เขาพึมพำกับตัวเองเสียงเบา
ตู้ม!
กงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์หมุนคว้างบนท้องฟ้าไม่หยุด เปล่งประกายเยือกเย็นเจิดจ้านับล้าน ปฐพีผืนนี้กลายเป็นขุมนรก ไอเย็นอึมครึมชวนสะท้านแผ่กระจายไปทั่วทุกที่
“พูดยาก!”
ร่างแก่ชราที่ตื่นขึ้นมองไปยังสถานที่หนึ่ง ซึ่งมีแม่เฒ่าสองนางยืนอยู่ด้วยกัน
“คู่บำเพ็ญเพียรคนที่สองของเขาก็ถูกข้าแย่งมาด้วย…”
เขาระแวดระวัง เรียกยอดศาสตราออกมาชิ้นแล้วชิ้นเล่า มิกล้าประมาทแม้แต่น้อย เจ้าลัทธิรุ่นก่อนแห่งลัทธิไท่เหยียนอาจคลุ้มคลั่งและมาแก้แค้นได้จริง ๆ
ทว่าเพียงไม่นานเขาก็โล่งใจ
เขาเห็นทวนยาวด้ามหนึ่งหลอมร่างขึ้นตรงด้านกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะแทงทะลุห้วงมิติ บุกสังหารไปยังสถานที่หนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของเจ้าลัทธิรุ่นเก่าแห่งลัทธิไท่เหยียนมิใช่เขา
“คงมิใช่ว่าถูกแย่งคู่บำเพ็ญเพียรไปอีกกระมัง!”
เขาพึมพำ “หากเป็นเช่นนี้ คงไม่แปลกที่ตาเฒ่านั่นจะเสียสติ!”
พลังของทวนยาวน่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด บุกมาถึงจักรวาลโกลาหลผืนที่หลี่จิ่วเต้าอยู่ในพริบตา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดพลันรู้สึกชาไปทั้งหนังศีรษะ รับรู้ถึงภยันตรายถึงชีวิต สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนล้มหมอบกับพื้น สั่นสะท้านไปทั้งดวงวิญญาณ ใกล้สติแตกเต็มที!
ภายในตำหนักจักรพรรดิไป๋
พวกลั่วสุ่ยเคร่งเครียดขึ้นในบัดดล พวกเขาเองก็รับรู้ถึงภยันตรายร้ายแรง ต่างมองไปยังทิศหนึ่งอย่างอดมิไหว
พวกเขารู้สึกว่าอาจมีพลังสยดสยองบางอย่างพุ่งออกจากที่นั่น
ตามคาด ลมหายใจต่อมา พวกเขาเห็นทวนยาวด้านหนึ่งพร้อมด้วยประกายเจิดจรัสแกว่งไกว บุกสังหารเข้ามายังตำหนักจักรพรรดิไป๋อย่างรวดเร็ว!
เป้าหมายคือคุณชาย!
ไม่นานนักพวกเขาก็สามารถมั่นใจได้
“สามหาวนัก!”
“บังอาจจู่โจมคุณชายครั้งแล้วครั้งเล่า!”
พวกเขาบันดาลโทสะ เจ้าพวกนี้บ้ากันไปแล้วหรือ เห็นว่าคุณชายยอมให้ทำอะไรก็ได้จริง ๆ หรือ!?
อีกด้าน หลี่จิ่วเต้าสัมผัสอะไรมิได้ทั้งสิ้น เขายังคงวาดภาพต่อไป
ขณะที่ทวนยาวกำลังจะบุกเข้ามาถึงตำหนัก พลังสูงส่งอย่างหามิได้บางอย่างปรากฏ ก่อนจะกำจัดทวนยาวจนไม่เหลือซาก ฟ้าดินกลับสู่ความสงบอีกครั้ง
‘พวกเขาต้องชดใช้!’
ลั่วสุ่ยยิ้มเย็นในใจ บารมีคุณชาย ยอมให้จาบจ้วงเช่นนี้ได้ที่ไหน
คิดอะไรอยู่!
ผู้ที่ลงมืออยู่เบื้องหลังจะต้องชดใช้!
…
ภายในลัทธิไท่เหยียน
“รามือเถิด”
เจ้าลัทธิรุ่นก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ สัมผัสได้ว่าทวนยาวถูกกำจัดแล้ว
เขาแทบเชื่อไม่ลงเลย ในโลกนี้มีตัวตนน่าพรั่นพรึงระดับนี้อยู่ได้อย่างไร
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
หลี่จิ่วเต้าผู้นี้เป็นใครกันแน่!?
เขางุนงงไปหมด คิดไม่ออกเลยว่าหลี่จิ่วเต้าเป็นผู้ใด หลังการโจมตีนี้ผ่านพ้น เขาไม่มีความคิดต้องการเป็นปฏิปักษ์กับหลี่จิ่วเต้าอีก
การโจมตีสุดชีวิตโดยยืมพลังจากกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ของเขาถูกอีกฝ่ายลบล้างไปได้ง่าย ๆ นี่มิใช่คนที่พวกเขาต่อกรด้วยได้เลย
“ล้ม…ล้มเหลวหรือ”
เจ้าลัทธิหน้าซีดเผือด หัวใจหวาดผวา
เจ้าลัทธิรุ่นก่อนทรงพลังถึงเพียงใด การโจมตีรุนแรงที่สุดโดยยืมพลังจากกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์นี้ แม้แต่ผู้ที่ฝีมือแข็งแกร่งที่สุดในดินแดนนี้ก็มิอาจต้านทานได้ง่าย ๆ หลี่จิ่วเต้ากลับต้านได้…
ถึงแม้เขาสัมผัสมิได้ว่าทวนยาวถูกทำลาย แต่จากคำกล่าวของเจ้าลัทธิรุ่นก่อน เขาก็รู้แล้วว่าการโจมตีนี้ล้มเหลวแน่นอน
มิฉะนั้น เจ้าลัทธิรุ่นก่อนคงไม่อยู่ในท่าทีเช่นนี้
“บ้าเอ๊ย!”
หลวนเหยาหงุดหงิดใจนัก เขาคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่เพียงใด ก่อนนี้ถึงได้อาจหาญดูหมิ่นหลี่จิ่วเต้าถึงเพียงนั้น รนหาที่ตายยังไม่ต้องทำถึงขั้นนั้นเลย
“ดุดันปานนี้เชียว!?”
หลีเยว่อุทานเสียงหลง คิดไม่ถึงเลยสักนิด
นอกจากนี้ นางยิ่งสำนึกเสียใจเข้าไปใหญ่
วาสนาการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงปานใดกัน นางกลับพลาดไปเสียอย่างนั้น…
ครานั้น หากนางปรากฏตัวออกไป ยอมวางท่าทีให้ต่ำ น่ากลัวว่าทั้งหมดนี้คงไม่เหมือนอย่างยามนี้กระมัง
อนิจจา ไม่ว่าจะเอื้อนเอ่ยคำใดในเวลานี้ก็สายเกินไปแล้ว
“เกิด…อะไรขึ้น!?”
เวลานั้นเอง เจ้าลัทธิรุ่นก่อนแห่งลัทธิไท่เหยียนเงยหน้าฉับพลัน ก่อนจะมองไปด้านหนึ่ง
เขาระแวงขึ้นในใจ ราวกับที่นั่นกำลังจะมีพลังน่ากลัวบางอย่างบุกออกมา!
มิใช่แค่เขาที่เกิดความระแวง การดำรงอยู่เก่าแก่ในดินแดนนี้ต่างระแวงขึ้นหมด พากันมองไปยังด้านนั้นอย่างพร้อมเพรียง
สีหน้าพวกเขาฉายแวววิตกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในใจตึงเครียดถึงขีดสุด
“คงมิใช่ว่าแม้แต่กงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ก็ต้องเสียไปด้วยกระมัง!”
เจ้าลัทธิรุ่นก่อนใจเต้นไม่เป็นส่ำ เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นมาอย่างอดมิได้
เขามิกล้าลังเล ถ่ายทอดพลังทั้งหมดของตัวเองไปยังกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง และสั่งให้ยอดฝีมือทั้งหลายอย่างเจ้าลัทธิถ่ายทอดพลังไปยังกงล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ให้หมด
จะเกิดเรื่องกับกงใจเต้นไม่เป็นส่ำล้อยอดปราชญ์หยินสวรรค์ด้วยไม่ได้!