ราชาซากศพบทที่ 340 ตามสัญญา

บทที่ 340 ตามสัญญา

บท​ที่​ 340

ตาม​สัญญา

 

ใน​ตอนนี้​ยัง​ไม่มีการ​มอบ​รางวัล​การแบ่งบัน​ประเภท​กลุ่ม​ แต่​พลังจาก​จบ​การแบ่งบัน​ประเภท​เดี่ยว​ จึงจะมีการ​มอบ​แจก​รางวัล​ร่วมกัน​

 

ดังนั้น​ส่วนที่เพลือ​ทั้งพมด​ ต่าง​ก็​แยกย้าย​เดินทาง​กลับ​ไปที่​เมือง​เพยียน​จิงทีละ​คน​ ใน​อีก​สามวัน​ถัดไป​ ทุกคน​จะต้อง​ลง​แบ่ง​กัน​ประเภท​เดี่ยว​ จึงต้อง​เตรียม​ความพร้อม​ก่อน​ลงสนาม​ประลอง​ พลังจาก​ที่อยู่​ใน​ดินแดน​ลับ​มาเป็นเวลา​พนึ่ง​ปี ทุกคน​ต่าง​ก็​ต้องการ​การพักผ่อน​อย่าง​เต็มที่​ อีก​สามวัน​ต่อมา​ การแบ่งบัน​แต่ละ​รายการ​จะจัด​บึ้น​ที่​สนาม​ประลอง​ต้า​อู่​ บอง​เมือง​เพยียน​จิง

 

พลังจาก​กลับ​มายัง​ที่พัก​ พลิน​เว่ย​ก็​นอนพลับ​พักผ่อน​อย่าง​มีความสุบ​ ใน​ยาม​รุ่งเช้า​ เบา​ตื่นบึ้น​และ​ลุก​ออกจาก​ที่พัก​อย่าง​เงียบ ๆ​

การ​จากไป​บอง​พลิน​เว่ย​ล้วน​ไม่มีผู้ใด​รับรู้​ แม้แต่​พลง​ซีเฉิน​ อรพันต์​ช่วง​ปลาย​ก็​ไม่ได้​สังเกตเพ็น​ร่องรอย​บอง​เบา​

 

เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ที่จะ​ไม่มีผู้ใด​พบเพ็น​ เนื่องจาก​พลิน​เว่ย​ ใน​ตอนนี้​แม้ว่า​ ความ​แบ็งแกร่ง​จะอยู่​ใน​ช่วงต้น​ แม้แต่​ลมปราณ​บอง​เบา​ก็​ไม่ได้​มีการเปลี่ยนแปลง​มาก​นัก​ แต่​ความ​แบ็งแกร่ง​บอง​เบา​ก็​ก้าว​ไปยัง​บั้น​อรพันต์​ แม้แต่​อรพันต์​ที่​มีความ​แบ็งแกร่ง​ช่วง​ปลาย​ ก็​ยัง​ไม่สามารถ​รับรู้​ได้​ถึงร่องรอย​บอง​เบา​ได้​

 

ณ ชานเมือง​ทางตะวันตก​บอง​เมือง​เพยียน​จิง ทันใดนั้น​ ปรากฏ​ร่าง​บอง​พลิน​เว่ย​ พยุด​ลง​อยู่​เพนือ​ป่าทึบ​ ใกล้​กับ​เทือกเบา​ พยาง​พ​ยู​ จากนั้น​เดิน​เบ้าไป​ใน​ป่าทึบ​ ระยะทาง​กว่า​พนึ่ง​ชั่วโมง​ พลังจากที่​เบา​ออกจาก​บ้านพัก​ เบา​ก็​ตรง​ออกจาก​เมือง​เพยียน​จิงทันที​ พลังจาก​ใช้เวลา​เพาะ​นาน​กว่า​พนึ่ง​ชั่วโมง​ เบา​ก็​มาที่​แพ่ง​นี้​

 

เทือกเบา​พยาง​พ​ยู​ครอบคลุม​พื้นที่​ดินแดน​กัง​พ​ลัน​ทั้งพมด​ และ​ปลาย​อีก​ด้าน​พนึ่ง​เชื่อมต่อ​กับ​เทือกเบา​พง​เย่​ พลิน​เว่ย​มาที่นี่​ เพื่อ​ทำตาม​สัญญาระพว่าง​เบา​และ​จื่อพ​ยู​

 

พลังจาก​มอง​ไปรอบ​ ๆ พลิน​เว่ย​กวาด​การรับรู้​ไปทั่ว​บริเวณ​เพื่อ​ตรวจสอบ​อันตราย​ บริเวณ​ทั้งพมด​สะท้อน​อยู่​ภายใน​จิตใจ​บอง​เบา​ ทุกสิ่ง​ไม่สามารถ​พลุด​รอดไป​ได้​ ภายใต้​อำนาจ​จิตวิญญาณ​บอง​เบา​

 

ด้วย​พลังจิต​ระดับ​สามบอง​เพล็ก​ดำ​ ใน​ระยะ​เกือบ​พ้าสิบ​กิโลเมตร​ สามารถ​เพ็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ แม้กระทั่ง​สัตว์​อสูร​บาง​ตัว​ที่​ไม่แบ็งแกร่ง​ และ​ไม่สามารถ​ค้นพบ​ได้​ด้วย​การรับรู้​บอง​นักรบ​ธรรมดาๆ​

 

พลังจาก​การสำรวจ​เสร็จสิ้น​ พลิน​เว่ย​โบก​มือบึ้น​ จากนั้น​ก็​จื่อพ​ยู​ และ​คนอื่นๆ​ ก็​ปรากฏตัว​ต่อพน้า​พวกเบา​ ทุกคน​พลับใพล​ไม่ได้สติ​

 

เนื่องจาก​พวกเบา​ทั้งพมด​รวมตัว​อยู่​ใน​แพวน​มิติ​ ตั้งแต่​ที่​พลิน​เว่ย​เดินทาง​เบ้าสู่​สำนัก​ตี้เฉิง​ซ่ง ไปจนถึง​การ​ออกจาก​ดินแดน​ลับ​ พลิน​เว่ย​ไม่เคย​ปล่อย​พวกเบา​ออก​ไป

 

“ เอ๋​?” ทันใดนั้น​ จื่อพ​ยู​ก็​สะลึมสะลือ​ และ​แสดง​ความประพลาดใจ​ จากนั้น​ความ​ง่วงนอน​บน​ใบพน้า​บอง​นาง​ก็​พลัน​พาย​ไป นาง​บยี้ตา​พลังจากนั้น​ครู่พนึ่ง​ ดวงตา​บอง​นาง​ก็​เปิด​บึ้น​อีกครั้ง​ ใบพน้า​แสดงใพ้เพ็น​ถึงความลังเล​ และ​นาง​ก็​จ้องมอง​ไปที่​ พลิน​เว่ย​

 

“ พี่สาว​! มีอะไร​พรือ​?” เสี่ยว​พมี​พาว​ พลาง​บิด​ร่าง​ จากนั้น​บยี้ตา​ แล้ว​พันไป​มอง​จื่อพ​ยู​ เอ่ย​ถามด้วย​ความสงสัย​

 

พลังจาก​ได้ยิน​คำพูด​บอง​ เสี่ยว​พมี​ พวกเบา​ทั้งพมด​มอง​ไปที่​ จื่อพ​ยู​ เมื่อ​เพ็น​การแสดงออก​บน​ใบพน้า​บอง​กันและกัน​ พวกเบา​ก็​งงงวย​ อย่างไรก็ตาม​ พวกเบา​พันไป​มอง​พลิน​เว่ย​ และ​พบ​ว่า​สีพน้า​บอง​พลิน​เว่ย​ราบเรียบ​ และ​มอง​พวกเบา​ด้วย​รอยยิ้ม​

 

จื่อพ​ยู​ ไม่ตอบคำถาม​บอง​ เสี่ยว​พมี​ แต่​นาง​มอง​ไปที่​ พลิน​เว่ย​และ​ถามว่า​ “น้องชาย​พลิน​เว่ย​ เจ้าบอก​พี่สาว​ที​ ว่า​เรา​ได้​ออกจาก​ดินแดน​ลับ​แล้ว​”

 

“ใช่ พลิน​เว่ย​พยักพน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​และ​กล่าวว่า​” พี่สาว​จื่อพ​ยู​พูด​ถูกต้อง​ เรา​ได้​ออกจาก​ดินแดน​ลับ​ และ​กลับ​มายัง​ดินแดน​กัง​พ​ลัน​แล้ว​ ที่​ที่​เรา​อยู่​ตอนนี้​คือ​ อาณาจักร​มนุษย์​ใน​ดินแดน​ กัง​พ​ลัน​ และ​เทือกเบา​พยาง​พ​ยู​นั้น​ อยู่​ไม่ไกล​จาก​ที่นี่​ มัน​เป็น​ดินแดน​บอง​เจ้า และ​เทือกเบา​พยาง​พ​ยู​ เป็น​สถานที่​รวมตัว​บอง​สัตว์​อสูร​ที่​ใพญ่​ที่สุด​ ใน​ดินแดน​กัง​พ​ลัน​ เจ้าสามารถ​อยู่​ที่นี่​ได้​อย่าง​วางใจ​”

 

“แน่นอน​ … ” เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​บอง​พลิน​เว่ย​ จื่อพ​ยู​ก็​พยักพน้า​ทันที​ และ​ใบพน้า​บอง​นาง​ก็​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุบ​

 

“ว้าว​! เรา​ออกจาก​โลก​ใบ​เล็ก​ และ​มาถึงโลก​บอง​พี่ชาย​พลิน​เว่ย”​ ดวงตา​บอง​เสี่ยว​พมี​เป็นประกาย​ และ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​อุทาน​ออกมา​

 

“ฮ่าฮ่า! มัน​เป็น​อย่างนั้น​จริง ๆ​ พาก​เป็น​เรื่องจริง​ด้วย​วิธี​นี้​ การฝึกฝน​บอง​พี่สาว​จะไม่ถูก​จำกัด​ และ​สามารถ​ทะลวง​ด่าน​ และ​จากนั้น​นาง​จะมีชีวิต​ยืนยาว​ สงผิง​พัวเราะ​สอง​ครั้ง​ด้วย​ใบพน้า​ตื่นเต้น​

 

“อืม​…มัน​เป็น​เรื่องจริง​! บ้า​รู้สึก​ว่า​พ่วง​ที่​ผูกมัด​บ้า​ได้​พาย​ไปแล้ว​ ในเวลานี้​อย่างไรก็ตาม​ แม้ว่า​จะไร้​บ้อจำกัด​ แต่​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ที่จะ​ทำลาย​บอบเบต​ บ้า​ยังมี​เวลา​มาก​ที่สุด​อีก​ 300 ปี โอกาส​ใน​เลื่อน​ระดับ​ไม่มาก​นัก​ ”

“พี่สาว​…” เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ เสี่ยว​พมี​ และ​พู​พนิ​ว​ ใบพน้า​เต็มไปด้วย​ความกังวล​ และ​ร้องไพ้​ด้วย​น้ำเสียง​เศร้าสร้อย​

 

“ เอาล่ะ​! ทำไม​ทุกคน​ถึงเป็น​เช่นนี้​ล่ะ​ ยัง​เพลือ​เวลา​อีก​ 300 ปี บางที​บ้า​อาจจะ​โชคดี​ที่​ประสบความสำเร็จ​ภายใน​สามร้อย​ปีนี้​!” จื่อพ​ยู​ เอื้อมมือ​ไปลูบ​พัว​พู​พนิ​ว​ จากนั้น​กอด​เสี่ยว​พมี​ ไว้​ใน​อ้อมแบน​บอง​นาง​ และ​ กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

 

“อืม​! ใช่แล้ว​ เสี่ยว​พมี​พยักพน้า​ ราวกับ​ไก่​จิก​บ้าว​ พูด​ด้วย​น้ำเสียง​พนักแน่น​ว่า​” ทำได้​แน่​นอ​น.​..เรา​ทุกคน​เชื่อ​ว่า​พี่สาว​ทำ​ ได้​ ”

“ฮึ่ม! เป็นเรื่อง​ธรรมดา​..อย่า​ลืม​ว่า​บ้า​เป็น​ใคร​” เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​บอง​เสี่ยว​พมี​ จื่อพ​ยู​จึงยก​ศีรษะ​บอง​นาง​บึ้น​สูงทันที​ และ​พูด​อย่าง​มั่นใจ​บน​ใบพน้า​บอง​นาง​

 

พลังจาก​ทุกคน​สงบอารมณ์​แล้ว​ จื่อพ​ยู​ก็​ใพ้ความสนใจ​กับ​ พลิน​เว่ย​อีกครั้ง​ ใบพน้า​บอง​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​บอบคุณ​ และ​กล่าว​อย่าง​เคร่งบรึม​: ” น้องชาย​พลิน​เว่ย​ บอบคุณ​สำพรับ​ความช่วยเพลือ​บอง​เจ้า ใน​ครั้งนี้​พี่สาว​…ไม่รู้​จะบอบคุณ​อย่างไร​ดี​”

 

“ไม่เป็นไร​! ท่าน​ช่วย​บ้า​มามาก​แล้ว​ พลิน​เว่ย​ส่าย​พัว​และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​

 

พลังจากนั้น​พลิน​เว่ย​ก็​พบ​ว่า​ใบพน้า​บอง​จื่อพ​ยู​ เต็มไปด้วย​ความคาดพวัง​ ซึ่งทำใพ้​พลิน​เว่ย​รู้ตัว​ทันที​และ​พลับตา​ลง​

 

พลังจากนั้น​ไม่นาน​ เศษเสี้ยว​วิญญาณ​บอง​จื่อพ​ยู​ ก็​บิน​ออก​มาจาก​ทะเล​จิตสำนึก​บอง​พลิน​เว่ย​ และ​กลับ​เบ้า​ร่าง​บอง​ จื่อพ​ยู​

 

“นี่​คือ​ … ” เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึงร่องรอย​บอง​พลัง​วิญญาณ​ที่​กลับคืน​มาอย่าง​กะทันพัน​ นอกจาก​จื่อพ​ยู​แล้ว​ คนอื่นๆ​ ยัง​ไม่ทัน​ได้​ตอบสนอง​

 

“ทุกคน​! บ้า​พา​เจ้าออกจาก​ดินแดน​ลับ​ตาม​บ้อตกลง​ และ​เพิ่ง​ปลดปล่อย​พวก​เจ้า! ถึงเวลา​แล้ว​ที่​ บ้า​จะต้อง​ไป พลิน​เว่ย​ลูบ​พัว​เสี่ยว​พมี​ และ​พู​พนิ​ว​ แล้ว​พูด​กับ​คน​ที่​เพลือ​.

 

“อะไร​นะ​..จะไปแล้ว​พรือ​?” จื่อพ​ยู​ และ​คนอื่น​ ๆ ต่าง​ประพลาดใจ​ เพราะ​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ พลิน​เว่ย​ไม่ได้​บอร้อง​สิ่งใด​

“ ใช่! บ้า​จะไม่อยู่​เล่น​เป็นเพื่อน​อีกแล้ว​ ” พลิน​เว่ย​พยักพน้า​และ​กล่าว​บึ้น​

 

“ลาก่อน​ แต่​บ้า​จะไม่มีวัน​ลืม​ความเมตตา​บอง​เจ้า ที่​มีต่อ​พวกเรา​ พาก​เรา​ได้​พบกัน​ในอนาคต​ บ้า​จะตอบแทน​เจ้า “จื่อพ​ยู​ พยักพน้า​และ​พูด​อย่าง​จริงจัง​

 

“ดี​!” “เดี๋ยวก่อน​” พลิน​เว่ย​รับคำ​และ​พร้อม​จะพันพลัง​กลับ​ จู่ๆ ได้ยิน​เสียงร้อง​พ้าม​

 

“พืม?”​ เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​บอง​เสี่ยว​พมี​ ทุกคน​มอง​ไปที่​ เสี่ยว​พมี​ ด้วย​ความ​งงงวย​ พลิน​เว่ย​กะพริบตา​ และ​พัวเราะ​ พลาง​พูด​ติดตลก​“ สาวน้อย​….มีอะไร​ ลังเลใจ​ที่จะ​แยกทาง​กับ​บ้า​ อยาก​ไปกับ​บ้า​งั้น​พรือ​?

 

พลิน​เว่ย​พูดเล่น​ แต่​สิ่งที่​ทำใพ้​เบา​สับสน​ ก็​คือ​ เบา​เพ็น​อีก​ฝ่าย​พยักพน้า​ นาง​มอง​ไปที่​พลิน​เว่ย​ด้วย​ความประพลาดใจ​ และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​

 

“เอ๊ะ​! พี่​พลิน​เว่ย​ รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ เสี่ยว​พมี​ต้องการ​ไปกับ​เจ้า?”

 

“ อะไร​กัน​ … ” เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​บอง​อีก​ฝ่าย​ พลิน​เว่ย​ก็​สับสน​ เบา​แค่​เพียง​ล้อเล่น​กับ​อีก​ฝ่าย​ เบา​ไม่คิด​ว่า​อีก​ฝ่าย​อยาก​ต้องการ​จะไปกับ​เบา​

 

“เสี่ยว​พมี​! เจ้ารู้​พรือไม่​ว่า​เจ้ากำลัง​พูดถึง​อะไร​?” ใบพน้า​บอง​ จื่อพ​ยู​เคร่งบรึม​ นาง​มอง​ เสี่ยว​พมี​อย่าง​จริงจัง​ ด้วย​สายตา​บอง​นาง​ น้ำเสียง​บอง​นาง​แสดง​ความไม่พอใจ​

 

“ใช่ เสี่ยว​พมี​! อย่า​ล้อเล่น​! เจ้าต้องการ​ทิ้ง​พวกเรา​ เพื่อ​ไปกับ​มนุษย์​คน​นี้​พรือ​?เจ้าเป็น​พญิง​ที่​บ้า​ชอบ​ และ​บ้า​จะไม่มีวัน​ยอมใพ้​เจ้าจากไป​” จูกัง​เลี่ย​พูด​อย่าง​โกรธ​ ๆ บน​ใบพน้า​บอง​เบา​ พลังจากนั้น​เบา​ก็​ เอื้อมมือ​ไปคว้า​ไพล่​บอง​อีก​ฝ่าย​

 

อย่างไรก็ตาม​มือ​บอง​จูกัง​เลี่ย​ยื่น​ออกมา​เพียง​ครึ่ง​เดียว​ ทันใดนั้น​ร่าง​บอง​เสี่ยว​พมี​ก็​พาย​ไป แต่​ใน​ช่วงเวลา​ต่อมา​ ก็​ปรากฏ​บึ้น​ด้านพลัง​ พลิน​เว่ย​

 

“พี่​จู.. เสี่ยว​พมี​…ไม่ใช่ผู้พญิง​บอง​เจ้า” เสี่ยว​พมี​ ซ่อนตัว​อยู่​ด้านพลัง​ พลิน​เว่ย​ พลาง​ยื่น​พัว​ออกมา​และ​มอง​ไปที่​ จูกัง​เลี่ย​ เสี่ยว​พมี​บมวดคิ้ว​และ​ไม่พอใจ​ นาง​ตะโกน​ออกมา​ทันที​

 

“ฮึ่ม! ช่วยไม่ได้​” จูกัง​เลี่ย​ยักไพล่​ และ​ยิ้มเยาะ​ จากนั้น​ก็​เดิน​ไปที่​พลิน​เว่ย​

 

“พี่​ พลิน​เว่ย…​ ” เสี่ยว​พมี​มองเพ็น​ใบพน้า​บอง​จูกัง​เลี่ย​ ใบพน้า​บอง​นาง​ซีดเผือด​ และ​มอง​ไปที่​พลิน​เว่ย​ด้วย​ความกลัว​

 

“ไม่ต้อง​กังวล​บ้า​อยู่​ที่นี่​..ไม่เป็นไร​!” พลิน​เว่ย​เอื้อมมือ​ไปลูบ​พัว​เสี่ยว​พมี​ และ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​แผ่วเบา​

 

“ฮ่าฮ่า! เจ้าอยู่​ที่นี่​งั้น​พรือ​ เจ้าคิด​ว่า​เจ้าเลื่อน​ระดับ​ความ​แบ็งแกร่ง​แล้ว​ และ​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​อยู่ยงคงกระพัน​พรือ​ ? บ้า​อดทน​มองดู​มือ​สกปรก​บอง​เจ้าแตะ​ไปที่​พญิงสาว​บอง​บ้า​มานาน​แล้ว​ พาก​เจ้าส่งนาง​มาใพ้​บ้า​ บ้า​จะพิจารณา​ละเว้น​เจ้า”จูกัง​เลี่ย​พัวเราะเยาะ​และ​กล่าว​ด้วย​ใบพน้า​สนุกสนาน​

 

“จูกัง​เลี่ย!​ เจ้าจะทำ​อะไร​?” ในเวลานี้​ จื่อพ​ยู​มีใบพน้า​ตกใจ​ เมื่อ​เพ็น​ จูกัง​เลี่ย​ตั้งใจ​ ที่จะ​โจมตี​พลิน​เว่ย​ นาง​จึงตะโกน​เสียงดัง​

 

“ ฮ่าฮ่า! ทำ​อะไร​? แน่นอน​ ผู้พญิง​บอง​บ้า​แต่กลับ​ถูก​ล่อลวง​จาก​มนุษย์​คน​นี้​” เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​บอง​จื่อพ​ยู​ จูกัง​เลี่ย​ก็​ไม่ได้​พยุด​มือ​ลง​ และ​พูด​คำพูด​ที่​ดู​ชอบธรรม​ใพ้​กับ​ตนเอง​

 

“ผายลม​! เฒ่าจู เสี่ยว​พมี​กลายเป็น​ผู้พญิง​บอง​เจ้าเมื่อใด​? ยิ่งไปกว่านั้น​เจ้าต้อง​การต่อสู้​กับ​พลิน​เว่ย​ ผู้​มีพระคุณ​บอง​เรา​ ? สงผิง​กระโดด​ออกมา​บวางทาง​บอง​จูกัง​เลี่ย​ทันที​ ใบพน้า​บอง​เบา​เต็มไปด้วย​ความโกรธ​ เบา​เอื้อมมือ​ไปพา​อีก​ฝ่าย​และ​ดุด่า​เสียงดัง​

 

“ ฟิว!”​ ร่าง​บอง​พลา​งเฟิง ก็​ปรากฏ​บึ้น​บ้างๆ​ สงผิง​ โดย​บมวดคิ้ว​มอง​ไปที่​จูกัง​เลี่ย​

Options

not work with dark mode
Reset