ราชาซากศพบทที่ 330 ออกจากภูเขา

บทที่ 330 ออกจากภูเขา

บท​ที่​ 330

ออกจาก​ภูเขา​

 

ภายใต้​สายตา​ที่​ตกตะลึง​ของ​หลิน​เว่ย​ ก้อนหิน​ใหญ่​ที่​มีความ​ยาว​ 100 เมตร​ และ​ความ​หนา​มากกว่า​ 10 เมตร​ ลอย​ขึ้นไป​ใน​อากาศ​อย่าง​ช้า ๆเช่นเดียวกับ​เกาะ​ๆ ที่​ลอย​อยู่​ใน​อากาศ​

 

“เร็วๆ เข้า​ เก็บ​พวก​มัน​เข้าไป​” เมื่อ​ หลิน​เว่ย​อยู่​ใน​ความ​งุนงง​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ของ​ จิน​ห​ยู​ ดัง​เข้ามา​ใน​หู​ของ​เขา​

 

เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​นี้​หลิน​เว่ย​ก็​ฟื้น​คืนสติ​ และ​ลอย​ไป​ที่​ด้าน​ข้าง​ของ​ก้อนหิน​ เมื่อ​เห็น​สมุนไพร​จำนวนมาก​เติบโต​อยู่​บน​เกาะ​นั้น​ หลิน​เว่ย​ก็​รู้สึก​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ทันใดนั้น​พลังจิต​อัน​ทรงพลัง​ของ​เขา​ ก็​หลั่งไหล​ออกมา​

 

และ​ห่อหุ้ม​เกาะ​ที่​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ทั้งหมด​อย่าง​รวดเร็ว​ จากนั้น​เกาะ​ขนาดใหญ่​ ก็​หายวับ​ไป​ใน​สายตา​ของ​เขา​ และ​รวม​อยู่​ใน​พื้นที่​มิติ​โดย​เขา​

“ อย่า​มัวแต่​งุนงง​ เก็บ​มัน​เข้าไป​ อย่า​ทำให้​ข้า​เปลือง​พลัง​โดยใช่เหตุ​” หลิน​เว่ย​เพิ่ง​เก็บ​ชิ้นส่วน​แรก​ไป​ แต่​เขา​ได้ยิน​คำ​กระตุ้น​ของ​จิน​ห​ยู​อีกครั้ง​ เมื่อ​เขา​หัน​ศีรษะ​ไป​ก็​พบ​ว่า​มีก้อนหิน​ขนาด​เดียวกัน​กับ​ก่อนหน้านี้​ ลอย​อยู่​ใน​อากาศ​ หลิน​เว่ย​ไม่มีเวลา​ตอบสนอง​ เขา​จึงรีบ​รวบรวม​มัน​

 

ภายใน​เวลา​ไม่ถึงครึ่ง​ชั่วโมง​ด้วย​ความช่วยเหลือ​ของ​ จิน​ห​ยู​ การ​เก็บ​รวบรวม​สมุนไพร​ก็​เสร็จสิ้น​ก่อนกำหนด​ หลิน​เว่ย​ถือโอกาส​ออกจาก​หุบเขา​ ด้วย​ความ​ไม่รีบร้อน​ เนื่องจาก​ไม่มีใคร​อยู่​นอก​หุบเขา​ เหลือ​เพียง​หุบเขา​ที่​มีพื้นดิน​หาย​ไป​กว่า​สิบ​เมตร​

 

อย่างไรก็ตาม​ หลิน​เว่ย​ไม่ได้​ทำลาย​ค่าย​กล​ขนาดใหญ่​ใน​หุบเขา​ เนื่องจาก​ฐาน​ของ​ค่าย​กล​ถูก​สร้าง​ขึ้น​จาก​กำแพง​หิน​ของ​หุบเขา​ เมื่อ​หลิน​เว่ย​จากไป​แล้ว​ เมื่อ​คน​เหล่านั้น​พบ​กับ​ที่นี่​ และ​รับรู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ภายใน​ คง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ด่าทอ​คน​ที่​ทำ​เช่นนี้​

 

อย่างไรก็ตาม​ สิ่งเหล่านี้​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​หลิน​เว่ย​ ใน​ตอนนี้​หลิน​เว่ย​ยังคง​กลับ​ไป​ยัง​จุดเริ่มต้น​ นั่น​คือ​สถานที่​ ที่​เขา​เพิ่ง​ปีน​บันได​ขึ้น​มา เบื้องหน้า​ของ​เขา​ เม็ด​หิน​ที่นี่​กำลัง​หดตัว​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​ หลังจาก​รวม​เข้ากับ​แก่น​วิญญาณ​ของ​จิน​ห​ยู​ และ​มีพลัง​ปราณ​ที่​แข็งแกร่ง​ ในขณะที่​จ้องมอง​การเปลี่ยนแปลง​ของ​มัน​อย่าง​เงียบๆ​

 

“ ฟิว!”​ และ​เม็ด​หิน​กำลัง​ลอย​ไป​ที่​คิ้ว​ของ​หลิน​เว่ย​ เงาสีดำ​ก็​เคลื่อน​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​ตรง​เข้า​มายัง​หลิน​เว่ย​ มัน​คือ​สัตว์​อสูร​เสือดาว​เงา

 

สัตว์​อสูร​เสือดาว​เงานั้น​มีความ​รวดเร็ว​มาก​ สัตว์​อสูร​ขั้น​ศักดิ์สิทธิ์​ระดับ​สาม ด้านหลัง​ของ​มัน​ มีชายหนุ่ม​รูปร่าง​อ้วน​เล็กน้อย​ เดิมที​ดูเหมือนว่า​จะมีใบ​หน้าที่​ดู​ใจดี​ แต่​ตอนนี้​กลับ​แสดง​สีหน้าที่​ดุร้าย​

 

ด้วย​ความช่วยเหลือ​ของ​สัตว์​อสูร​เสือดาว​เงา มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​กำลังจะ​สัมผัส​เม็ด​หิน​ตรงหน้า​ หลิน​เว่ย​

 

เมื่อ​เห็น​สิ่งนี้​มุมปาก​ของ​หลิน​เว่ย​ก็​ยกขึ้น​เล็กน้อย​ และ​มีการ​เยาะเย้ย​ออกมา​ เขา​มองหน้า​ ราวกับ​กำลัง​มองดู​ตัวตลก​ อย่างไรก็ตาม​ ดูเหมือน​หลิน​เว่ย​จะแสดงท่าทาง​เงอะงะ​ และ​โง่เขลา​ เขา​ไม่ได้​เคลื่อนไหว​ใด​ ๆ เขา​ปล่อย​ให้​อีก​ฝ่าย​สัมผัส​เม็ด​หิน​สีทอง​

 

“ ช้าก่อน​!” ความคิด​ของ​ชาย​อ้วน​ จู่ๆ ก็​ผุด​ขึ้น​มาร้องทัก​ อย่างไรก็ตาม​ ทันใดนั้น​ เขา​รู้สึก​ได้​ว่า​มีพลัง​มหาศาล​อยู่​ใน​มือ​ของ​เขา​

 

“ตูม​ ชาย​คน​นั้น​และ​สัตว์​อสูร​เสือดาว​เงา ถูก​กระแทก​ออก​ทันที​ และ​กลายเป็น​เป็น​หลุม​ลึก​ขนาดใหญ่​ และ​เม็ด​หิน​สีทอง​ก็​หาย​ไป​

 

โชคดี​ที่​ชาย​คน​นี้​ เตรียม​การป้องกัน​ตลอดเวลา​ ดังนั้น​เมื่อ​เขา​และ​สัตว์​อสูร​เสือดาว​เงากลิ้ง​เข้าไป​ใน​หลุม​ขนาดใหญ่​ พวกเขา​ก็​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​มากมาย​นัก​ อย่างไรก็ตาม​ พวกเขา​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​ขมุกขมัว​ สภาพ​อเนจอนาถ​มาก​

 

“แค่​ก​ ๆ … !” สัตว์​อสูร​เสือดาว​เงาลุกขึ้น​ยืน​ และ​สำลัก​ฝุ่น​โคลน​ออกมา​ จากนั้น​ร่างกาย​ก็​สั่น​อย่าง​รวดเร็ว​ ฝุ่น​ทั้งหมด​บน​ตัว​ของ​มัน​ถูก​เขย่า​ออก​เป็น​ชิ้น​ ๆ และ​ทำให้​ขน​ของ​มัน​สว่าง​ขึ้น​

 

อย่างไรก็ตาม​ ชาย​อ้วน​ข้างๆ​เขา​ได้รับ​ความทุกข์ทรมาน​ และ​ถูก​ฝุ่น​ตกลง​ไป​ใน​ปาก​ของ​เขา​

 

“แหวะ​ … !”

 

“ แค่​ก!”​

 

“ ฮึก​!”

 

“ ……” ขณะที่​ชาย​ร่าง​อ้วน​พูดไม่ออก​ และ​กำลัง​ง่วนอยู่กับ​การ​ทำความสะอาด​โคลน​ใน​ปาก​ของ​เขา​ ก็​มีเสียง​หลายอย่าง​ที่​ตัดผ่าน​อากาศ​ ร่าง​ห้า​รีบ​วิ่ง​ขึ้น​มาจาก​บันได​ด้านล่าง​ จากนั้น​ก็​ล้อมรอบ​ หลิน​เว่ย​อย่าง​เงียบ ๆ​ เมื่อ​มอง​ไป​ที่​เม็ด​หิน​ตรงหน้า​หลิน​เว่ย​ ดวงตา​ของ​เขา​ก็​ร้อนผ่าว​ พวกเขา​ล้วน​มีสัตว์​อสูร​ขั้น​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​มือ​

 

“ต้องการ​อะไร​?” หลิน​เว่ย​เอื้อมมือ​ไป​คว้า​เม็ด​หิน​สีทอง​ ภายใต้​สายตา​ที่​ร้อนแรง​ของ​ฝูงชน​ จากนั้น​ด้วย​ท่าที​สบาย​ ๆ เขา​จึงวาง​เม็ด​หิน​สีทอง​ เพื่อ​เล่น​กับ​มัน​ เขา​มอง​ไป​รอบ​ ๆ และ​พูด​ด้วย​ความ​เยาะเย้ย​

“เด็กชาย​ หาก​สติ​ดี​ จงส่งเม็ด​หิน​มาให้​ข้า​ ไม่อย่างนั้น​ … ” นักรบ​ที่​ขี่​สัตว์​อสูร​หมาป่า​เพลิง​มรกต​ พลาง​ก้าว​ไป​ที่​ หลิน​เว่ย​ กล่าว​อย่าง​เย็นชา​

 

อย่างไรก็ตาม​ ก่อนที่​หลิน​เว่ย​จะอ้า​ปาก​หนึ่ง​ใน​ห้า​คน​กระตุ้น​สัตว์​อสูร​หมาป่า​เพลิง​มรกต​ ให้​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ อย่างไรก็ตาม​ คน​ที่​เหลือ​ตะโกน​ใส่เด็กหนุ่ม​ขี่​สัตว์​อสูร​หมาป่า​เพลิง​มรกต​ตัว​แร​กว่า​:

 

” จะรอ​อะไร​อีก​ล่ะ​ ” เม็ด​หิน​นี้​ คือ​สิ่งที่​ข้า​ชอบ​ หาก​ไม่ยินยอม​ก็​สังหาร​มัน​โดยตรง​เถิด​”

 

“ฮ่าฮ่า! เจ้าทั้งสอง​เป็น​ใคร​ หิน​นี้​เป็น​ของ​ข้า​ หาก​ไม่อยาก​ตาย​ จงออก​ไป​จาก​ที่นี่​ ผู้พูด​ไม่ได้​อยู่​ใน​กลุ่ม​ทั้ง​ห้า​คน​ แต่​เป็น​ชาย​อ้วน​ที่พึ่ง​ปีน​ขึ้น​มาจาก​หลุม​

 

“ …………”

 

“ …………”

 

ใน​แววตา​มีการ​ถกเถียง​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ ใน​หมู่คน​ทั้ง​หก​ ความโกรธ​ของ​พวกเขา​รุนแรง​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ และ​บรรยากาศ​ก็​ตึงเครียด​ขึ้น​มาทันที​ ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ถูก​ปกคลุม​ไป​ด้วย​อาวุธ​ และ​ลมหายใจ​ใน​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ก็​บ้าคลั่ง​ ดูเหมือนว่า​พร้อม​จะปะทะ​กัน​ทุกเวลา​

 

“ดูเหมือนว่า​ ทุกคน​จะต้องการ​ตกลง​กัน​เรื่อง​เม็ด​หิน​ ว่า​ผู้ใด​ต้อง​ได้​ไป​ อย่างไรก็ตาม​ ข้า​จะทิ้ง​หิน​นี้​ไว้​ และ​ขอตัว​ออก​ไป​ก่อน​” หลิน​เว่ย​รู้สึก​ว่า​บรรยากาศ​เริ่ม​แปลก​ไป​เล็กน้อย​และ​รีบ​พูด​

 

อย่างไรก็ตาม​ ไม่มีใคร​ตอบรับ​คำพูด​ของ​เขา​ ทั้ง​หก​คน​เฝ้าระวัง​และ​มอง​ไป​ที่​คนอื่น​ ๆ หลิน​เว่ย​จึงโยน​เม็ด​หิน​สีทอง​ใน​มือ​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​

 

“ หวือ​ … !”

 

ใน​ช่วงเวลา​ที่​หลิน​เว่ย​โยน​เม็ด​หิน​ออกมา​ ร่าง​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​ขึ้น​มาทีละ​คน​ และ​พุ่ง​ไป​ที่​เม็ด​หิน​สีทอง​ด้านบน​ หลิน​เว่ย​ฉวยโอกาส​ผละ​จาก​วงล้อม​และ​วิ่ง​ไป​ที่​บันได​ด้านล่าง​อย่าง​รวดเร็ว​

สำหรับ​การ​จากไป​ของ​หลิน​เว่ย​ ไม่มีใคร​พยายาม​หยุด​เขา​ ควรจะ​กล่าว​ได้​ว่า​ พวกเขา​ไม่ได้​มอง​ไป​ที่​หลิน​เว่ย​อีก​เลย​ ใน​ขณะนี้​พวกเขา​ทั้งหมด​ยุ่ง​อยู่​กับ​การต่อสู้​เพื่อ​แย่งชิง​เม็ด​หิน​ที่​ตก​ลงมา​ สำหรับ​ หลิน​เว่ย​พวก​นั้น​ ไม่มีค่า​พอให้​เสียเวลา​

 

เนื่องจาก​จิน​ห​ยู​ได้​ช่วย​เขา​ขจัด​ความกดดัน​ และ​เขา​ยังมี​ป้าย​หยก​ประจำตัว​ ดังนั้น​แรง​กด​บน​ขั้นบันได​ จึงไร้ผล​กับ​หลิน​เว่ย​ ความเร็ว​ของ​เขา​พุ่ง​ทะยาน​ตลอดทาง​ ภายใต้​ความสงสัย​ของ​ผู้คน​นับไม่ถ้วน​

 

หลิน​เว่ย​วิ่ง​ไป​ที่​บันได​ชั้น​ 56 อย่าง​รวดเร็ว​จากนั้น​ก็​หยุด​ลง​

 

เนื่องจาก​บน​บันได​ระดับ​นี้​ มีกวน​เจิ้น​ยืน​อยู่​ที่นี่​เหงื่อ​แตก​ และ​ปรับตัว​ให้​เข้ากับ​แรงกดดัน​ที่​มีต่อ​เขา​

 

 

 

 

Options

not work with dark mode
Reset