"เจ้านายเย่ เป็นอะไรไป? สนใจคุณหนูเย่คนนี้มากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?" ถันหรงโม่ในโทรศัพท์ขดริมฝีปากยิ้มอย่างชั่วร้ายและเหยียดหยาม
"ก็หลายปีแล้ว"
"รักสินะ" ถันหรงโม่พูดชมเชยอย่างขนขื่น
"ช่วยฉันตามหาที หรงโม่ อย่าแม้แต่จะต่อสู้กับผู้หญิง มันน่าอาย" เย่จิ่นถังเน้นย้ำทีละคำด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและมีความจริงจังแฝงอยู่ในนั้น
ใบหน้าของถันหรงโม่อึมครึมทันทีก่อนวางสายไป
"นายน้อยถัน เป็นอะไรไปคะ เช้าขนาดนี้ ใครมายั่วโมโหคุณกัน?" มืออ่อนช้อยของหญิงสาวลูบคลำจากด้านหลังไล้มาที่แผ่นอกของเขา
ใบหน้าของถันหรงโม่เย็นชา: "ฉันวางเช็คไว้แล้ว วันหลังเราไม่ต้องมาเจอกันอีก"
ต่างจากความกร้อนแรงเมื่อคืนนี้ ผู้หญิงคนนั้นสะดุ้งเล็กน้อย เธอเป็นคนที่ได้รับความนิยม เป็นครั้งแรกที่ให้เขาแต่เขากลับปฏิบัติกับเธอแบบนี้
"นายน้อยถัน"
ถันหรงโม่สวมเสื้อผ้าแล้วหันศีรษะมาจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา: "ทำไม? อยากเห็นครอบครัวโดนทำลายงั้นสิ? เมื่อคืนเรานอนด้วยกันอย่างไร เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ?"
ลมหายใจของฝ่ายชายดูอันตราย ฝ่ายหญิงเองก็รู้ดีเลยยืนนิ่งไม่พูดอะไร
ถันหรงโม่หันหลังกลับ เดินไปไม่กี่ก้าวก็หันมา คราวนี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน: "เมื่อคืนฉันทำเธอจริงๆ งั้นเหรอ?"
ใบหน้าของฝ่ายหญิงซีดลงอย่างกะทันหัน เธอไม่รู้ว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้
มองดูถันหรงโม่จากไป ฝ่ายหญิงก็ทำได้เพียงกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
เย่เฉียวอาศัยอยู่ในบ้านเล็กๆ ทางใต้ของจิ่นเฉิงซึ่งกำลังจะถูกรื้อถอน ทางใต้ในเวลานี้มีฝนตกหนักและที่แบบนี้ก็ชื้นมากขึ้นไปอีก
เธอนั่งอยู่คนเดียวบนเก้าอี้ตัวเล็กหน้าประตูอย่างเหม่อลอย ประตูก็ถูกเปิดออก
ผ่านม่านฝนไป เธอเห็นเพียงร่มสีดำที่เปียกชื้น เป็นชายที่แปลกหน้า
"คุณคือใคร?"
"มีคนขอให้ฉันตามหาคุณ เขาถามว่าคุณจะไปหาเขาดีๆหรือจะให้เขามาเชิญเอง" เสียงของชายคนนั้นเย็นชาและไร้ซึ่งอารมณ์
เย่เฉียวตกตะลึง เย่จิ่นถังมีความสามารถมาก เธอมาซ่อนตัวถึงที่นี่ เขาก็ยังหาเธอเจอ
"คุณบอกเขาว่าฉันไม่ต้องการเจอเขา บอกเขาอย่ามารบกวนฉัน"
ถันหรงโม่เดินเข้าไปช้าๆ เมื่อกี้มองผ่านม่านฝนเห็นไม่ชัด หลังจากเข้ามาใกล้ก็รู้สึกทึ่งกับรูปร่างหน้าตาของเธอ
ข่าวลือคุณหนูเย่ที่งามจนลืมไม่ลงจริง วิสัยทัศน์ของเย่จิ่นถังดีมาก
"ถ้าเขามาหาคุณ คุณอาจโดนดีนะ" ถันหรงโม่ยิ้มอย่างเย็นชา เย่เฉียวเงยหน้าขึ้นมองเขา
"ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเขาเป็นเพียงผิวเผิน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายลูกน้อง ฉันไม่จำเป็นต้องฟังเขาทุกเรื่อง" คำพูดของเย่เฉียวไม่น่าพอใจนัก
แม้แต่ถันหรงโม่เองก็ขมวดคิ้ว เป็นผู้หญิงที่สวยแต่กลับอารมณ์ไม่ค่อยจะดี
"ฉันแค่เตือนคุณ ได้ยินมาว่าคุณป่วย ดังนั้นอย่ามาอยู่ในที่ชื้นและเย็นแบบนี้" ถันหรงโม่ไม่ค่อยพูดมากกับผู้หญิงที่ไม่เกี่ยวข้องในชีวิตของเขา
แต่เธอเป็นผู้หญิงของเย่จิ่นถัง เลยจำเป็นต้องพูดมากขึ้น
นิ้วของเย่เฉียวม้วนผมยาวของตัวเองที่เปียกชื้น เธอยิ้มได้อย่างสวยงาม ความโค้งของมุมปากกำลังพอดีแต่กลับเป็นยิ้มที่เย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์
ถันหรงโม่มองเธอที่ค่อยๆ ลุกขึ้นและชำเลืองมองเขา: "ให้เขามาฆ่าฉันแล้วกัน"
ยังไงเธอก็ไม่อยากอยู่อยู่ดี ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ลืมคนนั้นไม่ได้ ตายซะดีกว่า
"คุณหนูเย่" ถันหรงโม่เรียกด้วยเสียงที่หนักแน่น
เย่เฉียวหันกลับมาช้าๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ และหลับตา แม้ว่าใบหน้าจะดูไม่ดี ซีดไร้เลือด แต่ก็ยังยากที่จะซ่อนความงามของเธอ
"ฉันรู้ว่าคุณเช็คแล้ว แม่ที่ให้กำเนิดของฉันเคยอยู่ที่นี่"
เธอคิดอยู่เสมอว่าพ่อแม่ตัวเองคงทำเธอหายโดนบังเอิญ ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว
ลานเก่าที่ว่างเปล่าแบบนี้ พื้นดินเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและวัชพืชจำนวนมากที่ผุดตามรอยแยกของพื้นดิน คงโดนทิ้งจนเป็นบ้านร้างแล้ว
เหมือนกับเธอที่โดนทอดทิ้ง
ถันหรงโม่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ทำได้เพียงมองเธอเข้าไปในบ้านและปิดประตู เธอดูป่วยหนักมาก
เย่จิ่นถังน่าจะมาเร็วๆ นี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้คงไม่มีใครเอาอยู่
ถันหรงโม่ไม่ได้อยู่นาน หันหลังกลับ กางร่มและออกจากบ้านเล็กๆ ไป แตกต่างจากสองวันก่อนหน้านี้คือมีคนอีกสองสามคนมาอยู่นอกบ้าน
เมื่อเย่เฉียวออกไป พวกเขาก็จะคอยตามอยู่ไม่ไกล เธอรู้ว่าเป็นคนที่มาเมื่อวานเป็นคนจัดการ
หลังจากงานของเย่จิ่นถังในโตเกียวสิ้นสุดลง เขาก็รีบมาที่จิ่นเฉิง ถันหรงโม่โยนเอกสารให้เขาหนึ่งฉบับ บางมากแต่กลับหนักเท่าก้อนหิน
เย่จิ่นถังเปิดดู ด้วยสายตาที่นิ่งลึกและเงียบขรึม สีหน้าเขาราบเรียบดูเอกสารจนเสร็จ
"แล้วเธอเจอหรือยัง?"
"ยังหรอก แค่บ้านเปล่าที่กำลังจะถูกรื้อถอน เธอคาดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากในการอยู่ที่นั่น สภาพแวดล้อมแย่มาก ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ฝนตก ชื้นและหนาว เฮ้อ…"
สิ่งที่ถันหรงโม่พูดไม่ใช่การพูดเกินจริง แต่เดิมเป็นที่รกร้างอยู่แล้ว เธอเข้าไปอยู่ เวลานอนตอนกลางคืนไม่กลัวหรือไงกัน?
เย่จิ่นถังถอนหายใจ เธอทำเรื่องนี้ลับหลังตระกูลเย่ และไม่สนใจว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรหากตระกูลเย่รู้เรื่องนี้เข้า
เขาเคยคิดว่าเธอเป็นคนรักครอบครัวมาก เลยมีเงื่อนไขที่จะข่มขู่เธอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะโดดเดี่ยวเกินไปในชีวิตกว่า 20 ปีของเธอ เธอแค่ไม่ใช่คนเนรคุณ
"แล้วเจออะไรบ้าง?"
ถันหรงโม่เอนกายพิงโต๊ะอย่างเกียจคร้านและมองชายอีกคนอย่างนิ่งๆ : "มันไม่ใช่ของที่เจอได้ง่าย จิ่นถัง ฉันรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องสกปรก อย่าเข้าไปยุ่งเลยดีกว่า"
เย่จิ่นถังเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร ถันหรงโม่ถอนหายใจเบาๆ เขารู้ว่าเขากำลังจะต้องเข้าไปยุ่งแน่
"ฉันคิดว่านายตอบสนองความปรารถนาของตัวเองได้ดีที่สุด ฉันคิดผิดหรือเปล่า?" ถันหรงโม่กระตุกริมฝีปากยิ้ม
"ผู้หญิงคนไหนก็สามารถเข้ามาตอบสนองความปรารถนาได้ แต่เธอไม่ได้"
ถันหรงโม่ถอนหายใจแล้วพยักหน้า เข้าใจแล้ว ก็ผู้ชายก็แพ้ผู้หญิงสวย ใครใช้ให้คนเขาสวยขนาดนั้น ใบหน้าที่น่าดึงด๔ดแถมรูปร่างก็น่าหลงใหลด้วย
คงไม่มีใครคิดว่า เย่เฉียวที่ป่วยและอ่อนแอจะเกิดเรื่องขึ้นตอนนี้
บอดี้การ์ดที่จัดเตรียมไว้ให้เย่เฉียวเข้ามาอย่างเร่งรีบ เย่จิ่นถังรู้สึกคิ้วกระตุก
"คุณถันครับ คุณหนูเย่หายตัวไปครับ"
เพียงประโยคเดียว มือของเย่จิ่นถังก็สั่น ถันหรงโม่ยังไม่ได้พูดก็รู้สึกได้ถึงแรงลมกระโชกที่พัดผ่านต่อหน้าเขา เย่จิ่นถังคว้าคอเสื้อบอดี้การ์ดอย่างรุนแรงด้วยดวงตาที่เย็นชาจนน่าตกใจ
"อะไรคือเธอหายไป?"
"ฉันให้คนไปตามหาแล้ว อย่าโมโหไปเลย" ถันหรงโม่ยื่นมือออกเพื่อแยกออกจากกันแล้วโบกมือให้บอดี้การ์ดเดินออกไป