รักสุดหัวใจ 14 กลัวเธอไปเจอคนไม่ดี

ตอนที่ 14 กลัวเธอไปเจอคนไม่ดี

"ไม่รีบน่ะ"

เย่เจิงเริ่มขมวดคิ้ว เขาเกิดมาดูดี ถึงไม่ได้มีอารมณ์ที่สงบและเย่อหยิ่งมากเท่าเย่จิ่นถัง แล้วก็ไม่ได้อำมหิตขนาดเย่จิ่นถังด้วย

เย่เจิงเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ดี อย่างน้อยก็หลายปีมานี้เย่เฉียวก็คิดแบบนั้น

"ฉันก็ยังพูดเหมือนเดิม ฉันกลัวว่าเธอไปเจอคนไม่ดี เธอฉลาดก็จริงแต่ดูคนไม่ค่อยออก เธออาจไม่รู้ว่าโดนหลอกอยู่ก็ได้"

"ในความคิดพี่ ฉันโง่มากเหรอ?" เย่เฉียวยิ้มอย่างเย็นชา

ท่าทีเย่เฉียวแข็งกระด้าง เย่เจิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาอยากจะถามว่าทำไมคืนแต่งงานถึงได้หายไปต่อหน้าผู้คนมากมายแถมสองวันเต็มด้วย

แต่ทันทีที่คำถามได้หลุดออกจากปากไป ทุกอย่างคงได้เปลี่ยนไปแน่

"พักผ่อนเยอะๆ นะ"

หลังจากที่เย่เจิงพูดจบก็ลุกขึ้นและเดินออกไป มองเย่เจิงออกจากห้องคนไข้ไป เย่เฉียวก็ไม่ได้สนใจที่จะกินข้าว เลยวางชามข้าวไว้บนโต๊ะข้างๆ

จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ขดตัวเป็นวงกลม และจมดิ่งลงไปในความโศกเศร้า

ไม่รักกันที่แท้มันเศร้าขนาดนี้ เมื่อไหร่เธอจะลืมเขาและกำจัดสิ่งเหล่านั้นไปได้สักที

เย่จิ่นถังที่มาถึงสนามบินและกำลังเตรียมผ่านจุดตรวจความปลอดภัย ก็มีสายจากเย่เฉียวโทรมา

เมื่อเห็นเย่เฉียวโทรมา เย่จิ่นถังก็ชะงักเล็กน้อย อาซานที่อยู่ข้างๆ ก็หยุดตาม และเหลือบมองไปที่ชื่อผู้โทรบนหน้าจอโทรศัพท์โดยไม่ได้ตั้งใจ อืม เป็นสายที่สำคัญจริงๆ

"ฮัลโหล"

เย่เฉียวที่แต่งตัวและเดินออกจากโรงพยาบาล มันง่ายที่จะเลี่ยงหมอ แต่ถ้าเขาไม่ออกไปตอนนี้ ไม่นานต้องมีคนมาหาเธอแน่

"ขึ้นเครื่องบินหรือยังน่ะ?"

เย่จิ่นถังขมวดคิ้วเล็กน้อย: "ยัง" เย่จิ่นถังพูดแล้วเดินไปอีกทาง

อาซานอยากจะหยุดเขา หรือเขาอยากจะกลับไปอีกครั้ง?

"ฉันอยากไปเอเชียกับคุณด้วย"

เย่จิ่นถังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเธอพูดอย่างนั้นก็เลิกคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

"เธออยู่ที่ไหน?"

"ทางเข้าโรงพยาบาล" เธอตอบเสียงเรียบ

"รอตรงนั้นไม่ต้องไปไหน" จากนั้นวางสาย

เย่เฉียวหาสถานที่ที่ดูไม่สะดุดตานักแล้วนั่งลง ไม่ได้กินข้าว วิ่งออกมาเลยเวียนหัวนิดหน่อย

เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมั่นใจนักว่าเย่จิ่นถังจะต้องมารับเธออย่างแน่นอน ถ้าเขาไม่มา แย่ที่สุดก็แค่หมอมาเจอแล้วพากลับไป

รองเท้าหนังเป็นประกายของชายคนนั้นปรากฏขึ้นในสายตาของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา มีแสงส่องลงมากระทบดวงตาของเธอ ภาพเงาของชายคนนั้นสว่างไสวรอบตัว มองแบบนี้ก็รู้สึกว่าท่าทางอารมณ์เขาแตกต่างมาก

เย่จิ่นถังก้มตัวลงมาช่วยพยุงเธอ

เขาขับรถมาเอง เย่เฉียวหิวจนขาอ่อนและหน้าเริ่มมืด

มือของเย่จิ่นถังคอยจับแขนของเธอไว้ เผื่อว่าเธอขาอ่อนแล้วล้มลงไป

หลังจากขึ้นรถ เย่จิ่นถังก็ไม่ได้ถามอะไรมากความ แต่พาเธอไปที่ร้านอาหาร สวมชุดของโรงพยาบาลต่อไปก็ดึงดูดสายตาแปลก ๆ มากมาย

เย่เฉียวขี้เกียจเกินจะสน หิวจนไส้กิ่วและคิดแค่อยากจะกินอะไรให้อิ่มท้องเท่านั้น

"ฉันจำได้ว่าเย่เจิงเอาโจ๊กมา ทำไมไม่กินล่ะ"

เย่เฉียวขมวดคิ้วมองอย่างเย็นชา: "คุณอยากให้ฉันกินยังไงล่ะ? ให้เขาป้อนฉันดีไหม?"

ใบหน้าของเย่จิ่นถังนิ่งขรึมทันที คนอย่างเย่เฉียวไม่เจ็บก็ไม่ได้บทเรียน เขาทำอย่างนั้นในแคลิฟอร์เนียครั้งก่อน สุดท้ายกลับมานิวยอร์กก็ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง

"เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?" น้ำเสียงของเย่จินถังเย็นลง

เย่เฉียวถึงได้สติ อืม เผลอยั่วโมโหเขาเสียแล้ว

"ฉันพูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย อย่าใส่ใจเลย" เย่เฉียวหยุนพูดเบาๆ และเย่จิ่นถังก็แค่นเสียง แอบออกจากโรงพยาบาล ตอนนี้ตระกูลเย่คงรู้แล้วว่าเธอหายไป

แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือของเย่เฉียวสว่างวาบ เย่เฉียวเหลือบมอง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็รับสาย

"ค่ะแม่"

ยวี่หลานดูโกรธมาก เย่เฉียวฟังคำพูดของแม่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรและรอให้เธอพูดจบ

"หนูแค่อยากออกมาเดินเล่นค่ะแม่ ไม่ได้เหรอคะ?" ประโยคสุดท้ายของเธอคำว่าไม่ได้เหรอ? ฟังแล้วดูขมขื่นอย่างอธิบายไม่ถูก เย่จิ่นถังได้ยินเธอคุยก็รู้สึกอัดอัดใจเช่นกัน

ยวี่หลานเงียบไปครู่หนึ่ง: "ถ้าลูกคิดอย่างนั้น แม่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก ตอนนี้ลูกยังป่วยอยู่นะ"

"ไม่เป็นไรค่ะ"

"แม่จะให้คนส่งหนังสือเดินทางลูกไป เอาที่อยู่มาสิ" ในที่สุดยวี่หลานก็ไม่ได้ห้ามเพราะเธอโตแล้ว

เธอควบคุมไม่ไหว และเริ่มควบคุมไม่ได้

ยวี่หลานส่งคนไปส่งหนังสือเดินทางและเอกสารของเธอ ตกกลางคืนเย่เฉียวเริ่มมีไข้ขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเป็นตั๋วพรุ่งนี้ เลยพักที่โรงแรมใกล้สนามบิน

"ไม่สบายตรงไหนก็บอกฉัน ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะไม่ให้เธอขึ้นเครื่องแน่" เย่จิ่นถังคงรู้ว่าเธออยากไปเพราะเย่เจิง

เธอรู้สึกเหมือนกำลังทุบหิน ทุกวันที่เจอเย่เจิง เธอก็ใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวด แน่นอนว่าเธอทนไม่ไหว

แต่เธอไม่ได้หวงแหนตัวเองมากนัก แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจ

เย่เฉียวส่งเสียงตอบสั้นๆแล้วหลับตาเข้านอน

เช้าวันรุ่งขึ้น ไข้ลดลง อยู่บนเครื่องบินกับเย่จิ่นถัง เย่จิ่นถังกำลังจะไปญี่ปุ่น ตอนแรกคิดว่าเย่เฉียวจะตามเขาไปด้วย

แต่เขาที่เพิ่งไปประชุมกลับมา ก็ไม่มีแม้แต่เงาในโรงแรมแล้ว ความกังวลก่อนหน้านี้ของเขามันเกิดขึ้นแล้ว

"เธออยู่ที่ไหน?"

"คุณหนูบอกว่าเธออยากออกไปซื้อของ ผมเองก็ไม่ได้สนใจ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะหนีไป"

อาซานรู้สึกถึงดวงตาเย่จิ่นถังที่ราวกับมีด พูดเขาลงเรื่อยๆ ใบหน้าเย่จิ่นถังบูดบึ้ง ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะจนเอกสารกระเด็น

"ไปเช็ค ไม่ว่านายจะใช้วิธีไหน ฉันต้องรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน!" น้ำเสียงของเย่จิ่นถังทั้งรีบเร่งและหนักหน่วง

ตามเขามาหลายปี นับเป็นครั้งแรกที่อาซานเห็นเขาเสียอารมณ์ขนาดนี้ ทั้งกระวนกระวายและตื่นตระหนกราวกับเจอศัตรู

อาซานพยักหน้าและไม่กล้ารีรอ ไม่คิดเลยว่าเย่จิ่นถังโกรธจะเป็นแบบนี้ ช่างน่ากลัวจริงๆ

เย่เฉียวนี่นะ ตามเขาไปญี่ปุ่น แต่หายวับไปในพริบตา นี่ไม่ใช่การหาเรื่องหรือไงกัน

เย่จิ่นถังโทรหาหลายครั้ง โทรศัพท์มือถือของเย่เฉียวก็ปิดอยู่ตลอด การตบตาและหลอกลวงของเย่เฉียวทำเขาโกรธ

เธอบินจากโตเกียวไปยังจิ่นเฉิงทางตอนใต้ของจีน เย่จิ่นถังนั่งอยู่ในห้องประชุมและจ้องมองที่โทรศัพท์มือถือครู่หนึ่ง

ผู้คนรอบๆ ตัวเขาคิดว่าเขาไม่พอใจกับงาน ต่างก็กลั้นหายใจอย่างประหม่า

"สิ้นสุดการประชุมของวันนี้ และเอกสารแบบฟอร์มที่เหลือส่งไปให้อาซาน" เย่จิ่นถังลุกขึ้นและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

คนในห้องเหลือมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าหัวหน้าผู้บริหารคนนี้เป็นอะไร

รูปร่างเรียวยาวของเย่จิ่นถังอยู่ตรงหน้าต่างบานยาว ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

"ตามหาเธอให้เจอ แล้วก็หาด้วยว่าเธอไปทำอะไรที่จิ่นเฉิง"

Options

not work with dark mode
Reset