บทที่ 418 ดูดน้ำ
บทที่ 418 ดูดน้ำ
หลังสำรวจมองรอบด้านจนพบว่าไม่มีเส้นทางให้ใช้ลงไป อู๋ฝานจึงหยุดค้นหาและตั้งสมาธิไปยังการหลบเลี่ยงเศษซากที่ร่วงหล่นจากทางด้านบน ความว่องไวของเขาเป็นเลิศ เมื่อรวมกับวิชานางแอ่นถลาลมจึงยิ่งไม่ใช่เรื่องยาก
เพียงแต่คนอื่นในที่นี้ไม่ได้โชคดีและแข็งแกร่งเหมือนอู๋ฝาน ยิ่งเศษซากร่วงหล่นลงมาเท่าไหร่ก็ยิ่งมีผู้ฝึกตนโดนเล่นงานมากขึ้นเท่านั้น หากไม่ล้มตายก็บาดเจ็บสาหัส แรกเริ่มพวกเขาเลือกอยู่ต่อเพื่อดูว่าพอจะมีหนทางเข้าโพรงเมื่อครู่ได้หรือไม่ แต่แล้วเศษซากกลับร่วงหล่นลงมาอย่างรวดเร็วและมากขึ้นกว่าที่คาดคิด พวกเขาที่ไม่เคยมองทางเข้าออก หลังจากนั้นจึงพบว่าไม่อาจหาทางเข้าออกดังกล่าวเจออีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้หลายคนนึกเสียใจที่รั้งอยู่ต่อ แต่กว่าจะนึกเสียใจได้ก็สายเกินไปแล้ว ทางออกไปจากที่นี่ถูกหินซึ่งร่วงลงมากดทับและขวางกั้น พวกเขาไม่มีทางอื่นให้ใช้ออกไป ขณะนี้ทำได้เพียงแค่นึกเสียใจและสิ้นหวัง
ยกเว้นเพียงอู๋ฝาน
ในช่วงไม่ถึงสองนาที บรรดาผู้ฝึกตนที่เลือกอยู่ต่อ นอกจากอู๋ฝานต่างก็ถูกเศษซากหินหล่นลงมาทับตายไปทีละคนในสภาพชวนน่าสังเวช และต่อให้ชายหนุ่มรวดเร็วแค่ไหนตอนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บอยู่พอสมควร นับเป็นโชคดีที่ไม่ใช่อาการรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว
“ตายกันหมดแล้วเหรอ?” อู๋ฝานมองรอบ ๆ และพบว่าไม่มีใครรอดชีวิตยกเว้นแต่ตน ตอนนี้จึงพึมพำออกมา “ถึงเวลาลงมือแล้วสินะ”
จบคำร่างของอู๋ฝานจึงเริ่มเตี้ยลงเพราะกายส่วนล่างจมหายลงไปกับพื้น
วิชาดำดิน!
เพราะมีวิชานี้อู๋ฝานจึงกล้ารั้งอยู่ต่อจนถึงที่สุด!
เมื่อครู่ตอนที่เห็นโลงศพหล่นลงไปด้านล่างพร้อมกับเศษซากที่เริ่มร่วงจากด้านบนอย่างต่อเนื่อง เขาก็ตัดสินใจได้พร้อมขอให้ทั้งหลิ่วเหยียนเอ๋อร์และถังอวี่เฟยออกไปก่อน
ตอนนี้ไร้ผู้รอดชีวิตในสถานที่ อู๋ฝานจึงไม่กังวลที่จะต้องเปิดเผยความลับนี้ออกมา
หลังมุดดินจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเศษซากที่ร่วงหล่นลงมาจากทางด้านบน เขาสามารถมีสมาธิกับการค้นหาโลงศพต่อไป และตำแหน่งที่เลือกดำดินลงมาก็ยังเป็นบริเวณที่โลงศพหล่นลงไปพอดี
ขณะดำดินลึกลงมาอีกราวสิบเมตรกลับยังไม่เห็นร่องรอยของโลงศพ มันถึงขั้นทำเขาเกิดความสงสัยว่ามันใช้กลไกอะไรถึงพาไปยังสถานที่อื่นได้อย่างไร้ร่องรอย
ขณะอู๋ฝานครุ่นคิดว่าควรสำรวจต่อดีหรือไม่ บริเวณเท้ากลับรับรู้ถึงความว่างเปล่า ก่อนที่ทั้งตัวคนจะหลุดพ้นจากการดำดินร่วงหล่นสู่ผืนน้ำ
“ที่ไหนอีกเนี่ย?” อู๋ฝานมองสำรวจ
ขณะนี้เองที่อู๋ฝานได้เห็นสิ่งมีชีวิตคุ้นหน้าคุ้นตา มันคือสัตว์ร้ายแข็งแกร่งที่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไรซึ่งเคยเจอในสระน้ำก่อนหน้านี้
ตอนนี้อู๋ฝานจึงตระหนักว่าสระน้ำที่พบก่อนหน้านี้มีพื้นที่กว้างใหญ่เกินกว่าที่คาด กระทั่งมีเส้นทางเชื่อมต่อมาถึงที่นี่ ทั้งที่เขาดำดินลงมาจากใต้ดินแล้วแต่กลับมาโผล่พื้นที่ซึ่งมีน้ำจากสระดังกล่าว
ปัจจุบันสิ่งมีชีวิตดังกล่าวกำลังฉีกกระชากอะไรบางอย่าง อู๋ฝานเพ่งมองจึงเห็นว่าเป็นผู้ฝึกตนคนที่หล่นลงมาพร้อมกับโลงศพก่อนหน้านี้!
เขาถึงกับต้องถอนหายใจออกมา อีกฝ่ายอาศัยชีวิตของคนหมู่มากเหยียบย่ำปีนป่ายขึ้นมา สุดท้ายกลับต้องจบชีวิตลงโดยไม่อาจคว้าเอาสมบัติไปครอบครองได้
ข้าง ๆ สิ่งมีชีวิตดังกล่าว อู๋ฝานเห็นโลงศพสีดำสนิทอันเป็นเป้าหมายของการเดินทาง
แต่เรื่องราวยากลำบากเกินคาด เพราะข้างโลงศพคือสิ่งมีชีวิตแข็งแกร่ง หากบุกเข้าไปใกล้โลงศพคงทำมันตื่นตัวและเล่นงานตนได้ ไม่ว่ามันคือตัวอะไรก็ตาม แต่มันสามารถป้องกันมอนสเตอร์เลเวลสามสิบสามถึงสองตัวจนได้รับชัยชนะและยังอยู่รอด เพราะสภาพแวดล้อมเป็นน้ำทำให้เขาไม่อาจแสดงความแข็งแกร่งออกมาอย่างเต็มที่ ถ้าต้องสู้กับมันคงไม่มีหวังเอาชนะ
ทว่าจะยอมแพ้แค่ตรงนี้งั้นเหรอ?
อู๋ฝานแค่คิดก็พบว่ายากจะทำใจยอมรับ
ขณะกำลังครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรอยู่นั้น สิ่งมีชีวิตดังกล่าวพลันหันหน้ามามองอู๋ฝานอย่างดุร้าย เพียงสบตากันมันก็แหวกว่ายพุ่งทะยานเข้าหาด้วยความเร็วสูง
อู๋ฝานตกใจพยายามหลบหนีไปจากที่ตรงนี้ แต่ที่นี่คือใต้น้ำ เขาไม่อาจเร่งความเร็วตามใจนึกได้ แม้หนีอย่างไรก็ต้องถูกมันที่เป็นเจ้าแห่งผืนน้ำของที่นี่ไล่ตามทัน จนสุดท้ายถูกร่างของมันกระแทกด้านหลัง ความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่พุ่งขึ้นมาจากลำคอทำให้สุดท้ายเขาต้องกระอักเลือดคำโตออกมา นับเป็นโชคดีที่ปิดปากเอาไว้ได้ทันจึงสามารถรักษาลมหายใจเอาไว้
แต่สถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้นแม้แต่น้อย สิ่งมีชีวิตดังกล่าวไม่คิดปล่อยให้เขารอดพ้นไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอน
‘ไม่ได้ อยู่ในน้ำแบบนี้เราเอาชนะไม่ได้’ อู๋ฝานร้อนใจขึ้นมา น้ำเป็นสภาพแวดล้อมที่ถ่วงทั้งความเร็วและกำลัง ต่อให้มีพลังมากมายแค่ไหนแต่เมื่อไม่อาจนำออกมาใช้งานได้ก็จบ สุดท้ายเขาจะเป็นฝ่ายถูกมันเล่นงาน
แต่อยู่ในน้ำ? ในน้ำ!
ดวงตาอู๋ฝานทอประกายสว่างวาบขึ้นมาเพราะคิดหาทางออกได้แล้ว
อยู่ในน้ำไม่อาจต่อสู้กับมัน แต่หากไม่มีน้ำก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวแล้ว! อีกทั้งหลังไม่มีน้ำ มันก็จะเป็นเหมือนปลาบนฝั่งที่แม้แต่เอาชีวิตรอดยังเป็นเรื่องยาก เรียกได้ว่าไม่นับเป็นภัยคุกคามอีกต่อไป
คิดได้ดังนั้นอู๋ฝานจึงรีบนำขวดบรรจุสรรพสิ่งออกมาจากกระเป๋าหลัง พร้อมเริ่มใช้งานมันดูดกลืนน้ำทั้งหมดใส่ลงในขวด แม้พื้นที่ห้วงน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่โต แต่ขวดบรรจุสรรพสิ่งสามารถกักเก็บของเหลวได้อย่างไร้ขีดจำกัด ดังนั้นหากคิดดูดน้ำที่นี่จนหมดจึงไม่ใช่ปัญหา
จากนั้นอู๋ฝานจึงหลบเลี่ยงการโจมตีของมันพลางดูดน้ำในสระน้ำแห่งนี้ไปด้วย ระหว่างนั้นเขาถูกมันเล่นงานไปสองครั้ง ทำให้เกิดมึนงงและแบกรับความเจ็บปวดอยู่ประมาณหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะว่าร่างกายสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันสารพัด บางทีเขาคงตายไปแล้ว
นับเป็นโชคดีที่ขวดบรรจุสรรพสิ่งสูบน้ำอย่างรวดเร็ว เพียงเวลาแค่สามนาทีสระน้ำที่เคยมีน้ำมหาศาลกลับกลายเป็นแห้งเหือด อู๋ฝานสามารถยืนบนก้นสระน้ำได้ ขณะที่สิ่งมีชีวิตดุร้ายดังกล่าวที่พยายามไล่ตามฆ่าเขาก่อนหน้านี้ทำได้เพียงนอนนิ่งบนพื้นของสระน้ำที่แห้งกรัง แม้สายตาของมันยังปรากฏความดุร้าย ทว่าเกิดความสงสัยและหวาดกลัวแสดงออกให้เห็นด้วยเช่นกัน
“ไม่มีน้ำแล้ว อยากรู้จริง ๆ ว่าตัวประหลาดอย่างแกจะดุร้ายได้อีกแค่ไหน” อู๋ฝานพูดกับสิ่งมีชีวิตดังกล่าว
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขาเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าจนเกือบถูกสังหาร หากเป็นคนธรรมดาคงตายเพราะการโจมตีของมันไปตั้งแต่ไม่กี่ครั้งแรกแล้ว ทว่าสุดท้ายชีวิตก็เกิดจุดพลิกผัน ไม่แปลกหากตอนนี้เขาจะยิ้มยินดีออกมา
แม้สิ่งมีชีวิตตัวนั้นยังเผยสายตาดุร้าย แต่มันไม่อาจทำอะไรอู๋ฝานได้อีกต่อไปแล้ว
อู๋ฝานไม่ใส่ใจมันให้เสียเวลา เขามุ่งตรงไปยังโลงศพ ที่ตนดิ้นรนมาจนถึงที่นี่ก็เพราะโลงศพนี้อาจมีสมบัติซ่อนอยู่
“หวังว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง” อู๋ฝานพึมพำ ขณะเดินเข้าไปใกล้
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่ฝาของโลงศพปิดแน่นสนิทอีกครั้ง อู๋ฝานจึงต้องผลักมันเปิดออกอย่างระมัดระวัง ภายในถึงขั้นไม่มีน้ำรั่วซึมเข้าไปสักหยด แสดงให้เห็นว่าโลงศพมีการป้องกันน้ำที่สมบูรณ์แบบ
ภายในโลงศพมีโครงกระดูกสีขาวนอนอยู่ อีกฝ่ายควรเป็นเจ้าของแดนลับแห่งนี้ ข้างโครงกระดูกมีสิ่งของอีกหลายอย่าง และมีม้วนคัมภีร์อีกสามม้วน
“ทำไมถึงมีแต่ม้วนกระดาษ?” อู๋ฝานบ่นออกมา “ไม่คิดจะเหลืออย่างอื่นไว้เลยรึไง?”
แต่แม้ปากพร่ำบ่นเขาก็ยังคงเก็บม้วนคัมภีร์เหล่านั้นขึ้นมาและส่งมันเข้ากระเป๋าหลัง ได้รับอย่างไรก็ดีกว่าไม่ได้รับ หลังมั่นใจว่าไม่มีอะไรตกหล่น เขาจึงเดินมุ่งหน้าไปทางสิ่งมีชีวิตดุร้ายอีกครั้งหนึ่ง