บทที่ 413 ทำไมถึงเป็นเขา?!
บทที่ 413 ทำไมถึงเป็นเขา?!
“อู๋ฝาน!”
“อู๋ฝาน!”
เมื่อเห็นอู๋ฝานถูกเล่นงานจนต้องถอย ทั้งถังอวี่เฟยและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ต่างร้องเรียกออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
อู๋ฝานไม่มีเวลามากพอที่จะหันไปมองทั้งสองด้านหลัง ตอนนี้เขารีบปรับสมดุลร่างกาย มือทั้งสองจับบริเวณหน้าอกจนสุดท้ายไม่อาจกลั้นไหว ต้องกระอักเลือดคำโตออกมาด้วยสีหน้าซีดเผือด
เถาหรูไห่เห็นอีกฝ่ายกระอักเลือดคำโต ตอนนี้จึงฉีกยิ้มเย็นเยือกก้าวเท้าเข้าหาพร้อมวาดฝ่ามือกลางอากาศ หมายจะสังหารอู๋ฝานให้ตายคาที่
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ร้อนใจ เธออยากพุ่งเข้าไปช่วยอู๋ฝานใจแทบขาด แต่ก็ทราบดีถึงความต่างชั้นระหว่างตนเองกับเถาหรูไห่ ต่อให้บุกไปถึงตรงนั้นก็ไม่อาจช่วยอะไรได้มาก กระทั่งจะกลายเป็นตัวถ่วงเขาด้วยซ้ำ นอกจากนี้ศิษย์ทั้งหลายของสำนักเที่ยงยุทธ์ก็ไม่อยู่เฉย หากเธอพุ่งตัวออกไป ทั้งถังอวี่เฟยและเป้ยอวี่ฉวนจะถูกจับกุมตัวหรืออาจกระทั่งถูกสังหาร!
‘อู๋ฝาน คุณต้องไม่เป็นไรนะคะ!’ หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ทำได้เพียงภาวนา
ตอนนี้หญิงสาวนึกเสียใจที่บอกเรื่องแดนลับของภูเขาเทียนเหลียงให้อู๋ฝานได้รู้ เธอไม่ควรพาอีกฝ่ายมาจนถึงที่นี่ ถ้าไม่มาตั้งแต่แรก เรื่องอันตรายตอนนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
อู๋ฝานไม่อาจหันไปสนใจหลิ่วเหยียนเอ๋อร์กับถังอวี่เฟยได้ เพราะตอนนี้เขาต้องรับมือกับเถาหรูไห่ที่เผยสีหน้าดุดัน ทั้งกำลังพุ่งเข้ามาหมายสังหาร อีกฝ่ายคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ชายหนุ่มเคยเจอ วิชาขาห่วงโซ่ที่เคยภูมิใจว่าแข็งแกร่งใช้งานได้ เมื่อเผชิญหน้าอีกฝ่ายกลับไม่อาจได้เปรียบแม้แต่น้อย กระทั่งยิ่งทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขายิ่งถดถอย
เพียงแต่…
อู๋ฝานมองเถาหรูไห่ที่กำลังบุกเข้ามาพร้อมยิ้มมุมปาก แม้เขาอาจไม่สามารถชนะได้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่อาจสังหารเขาได้เช่นกัน!
“ตึง!”
เถาหรูไห่บุกมาถึงตรงหน้า สองฝ่ามือขยับเคลื่อนไหวหมายเล่นงานอีกครั้ง อู๋ฝานรีบปัดป้อง และครั้งนี้เขาไม่ใช้งานวิชาขาห่วงโซ่ แต่เป็นการใช้มือทั้งสอง หากเทียบกับขาทั้งสองข้างแล้ว มือของอู๋ฝานไม่ได้มีกำลังต่อสู้มากนัก ทั้งหมดอาศัยเพียงแค่ความสามารถและความเร็วการตอบสนองเพื่อปัดป้องการโจมตี
แม้การตอบสนองของอู๋ฝานจะรวดเร็ว แต่เถาหรูไห่ก็ไม่ได้ช้า กระทั่งว่าฝ่ามือสังหารรวดเร็วยิ่งกว่าด้วยซ้ำ!
อู๋ฝานสกัดการโจมตีของคู่ต่อสู้ ทว่าในขณะนั้นเองอีกมือหนึ่งของเถาหรูไห่ก็เปลี่ยนทิศทางอย่างแยบยล เนื่องจากไม่อาจสกัดได้ชายหนุ่มจึงต้องรีบถอยหลบเลี่ยง แม้แบบนั้นก็ยังถูกเล่นงานจนต้องกระอักเลือดออกมาอีกครั้งหนึ่ง
แต่อู๋ฝานไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ เพราะการปะทะฝ่ามือของเถาหรูไห่ทำให้ต้องถอยหลบต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้วิชานางแอ่นถลาลมเร่งความเร็วมุ่งหน้าไปยังทางแยกที่ใช้เดินทางมาโดยไม่หันกลับมองแม้แต่น้อย
“คิดหนี?” เมื่อเห็นดังนั้น เถาหรูไห่จึงเผยแค่นเสียงเย็นชาไล่ตามไม่ลดละ
วันนี้เขาจะต้องสังหารอู๋ฝานทิ้งซะที่นี่ การปล่อยอีกฝ่ายเอาไว้มีแต่จะเป็นภัยคุกคามต่อสำนักเที่ยงยุทธ์จนสุดท้ายอาจมีจุดจบที่เลวร้าย!
“อู๋ฝาน!”
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ที่เห็นเช่นนั้นจึงคิดเข้าไปช่วย
แต่ขณะนี้เองที่เหล่าศิษย์จากสำนักเที่ยงยุทธ์เข้ามารายล้อมหมายโจมตี หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ทำได้เพียงยืนนิ่ง ๆ อยู่กับที่พลางปัดป้อง สายตาของเธอเผยความกังวลมองไปยังทิศทางที่อู๋ฝานใช้ถอยหลบเลี่ยง ขณะที่ข้างหน้าก็ต้องรับมือกับบรรดาศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์ที่ถาโถมโจมตีเข้าใส่
กลุ่มคนที่ดูอยู่รอบด้านต่างส่ายหน้าขณะมองเถาหรูไห่ไล่ล่าอู๋ฝาน
ชายหนุ่มถือเป็นคนตายแล้ว!
กลุ่มคนมีความคิดเห็นตรงกัน แม้อู๋ฝานแสดงศักยภาพออกมาเกินกว่าที่พวกเขาคาด แต่ความแข็งแกร่งยังด้อยกว่าเถาหรูไห่อย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งตอนนี้ยังได้รับบาดเจ็บ เป็นไปไม่ได้ที่จะหนีรอดจากการไล่ล่าของคู่ต่อสู้
หลังเถาหรูไห่ไล่ตามอู๋ฝานไปจนถึงทางแคบได้ไม่นาน กลุ่มคนก็ได้ยินเสียงดังเกิดขึ้น จากมุมมองของผู้ชมในพื้นที่เปิดกว้าง พวกเขาไม่อาจเห็นว่าในเส้นทางแคบ ๆ นั่นเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่คิดใส่ใจจะไปดูให้เห็นกับตาด้วยเช่นกัน อย่างไรพวกเขาก็เคยผ่านเส้นทางเหล่านั้นมาแล้ว เนื่องจากเป็นเส้นทางแคบ ๆ หากพวกเขาตามไปดูใกล้ ๆ คงถูกลูกหลงเล่นงาน ถ้าอยากรู้อยากเห็นจนได้รับบาดเจ็บขึ้นมาก็ถือว่าโง่เต็มทน
“ตึง ตึง ตึง!”
เสียงการต่อสู้ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“อ๊าก!”
“ไปตายซะ!”
ท่ามกลางเสียงต่อสู้ดังอึกทึก มันก็ยังมาพร้อมกับเสียงคำรามเปี่ยมด้วยโทสะ
“ฟังดูต่อสู้กันดุเดือดไม่น้อย น่าไปดูจริง ๆ”
“ถ้าอยากไปก็ไป ไม่มีใครห้าม แต่ถ้าถูกลูกหลงขึ้นมาก็อย่าโทษคนอื่น”
“ยังจะมีอะไรให้ดูอีก เจ้าสำนักเถามุ่งมั่นฆ่าอีกฝ่ายขนาดนั้น เดิมพันเลยว่าอีกไม่ถึงสองนาทีเขาก็กลับมาแล้ว ส่วนว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไง คงไม่ต้องอธิบายหรอกมั้ง”
“ก็ไม่ใช่พูดเกินจริงนะ ถึงจะไม่ชอบเถาหรูไห่สักเท่าไหร่ แต่ความแข็งแกร่งนั่นก็เป็นของจริง เจอขอบเขตแปรสภาพขั้นกลางไล่ล่า ต่อให้ชายคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บก็เทียบอีกฝ่ายไม่ได้อยู่แล้ว”
บรรดาผู้ชมเริ่มพูดคุยกันเอง ไม่มีใครคิดว่าเถาหรูไห่จะเพลี่ยงพล้ำ มีแต่คิดว่าอู๋ฝานจะตายเมื่อไหร่ก็เท่านั้น
“อ๊าก!”
เป็นอีกครั้งที่เสียงแผดร้องดังขึ้น เสียงนี้ดังจนแก้วหูของทุกคนในที่นี้เจ็บ เห็นได้ชัดว่าเป็นเสียงแผดร้องชวนสังเวชยิ่งกว่าครั้งก่อนหน้า
“นี่… ไม่ถูกต้อง ทำไมเสียงที่ได้ยินคล้ายจะเป็นของเจ้าสำนักเถาล่ะ?” ผู้ชมเริ่มสงสัยกันขึ้นมา
“ได้ยินผิดไปละมั้ง เสียงร้องชวนสังเวชขนาดนี้คงต้องถูกเล่นงานจนสาหัส ไอ้หนุ่มนั่นจะเอาอะไรไปทำร้ายเถาหรูไห่ได้? ไม่มีทาง!”
“ฉันว่าตัวเองก็ได้ยินเสียงของเถาหรูไห่เหมือนกันนะ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง?”
กลุ่มคนเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น เพราะเสียงแผดร้องชวนสังเวชยิ่งผ่านไปก็ยิ่งดัง บางคนมองว่าเสียงนี้น่าจะเป็นของเถาหรูไห่ แต่พวกเขาก็มั่นใจเช่นกันว่าเจ้าของเสียงร้องจะต้องเป็นอู๋ฝาน เพราะเจ้าของเสียงร้องจะต้องถูกเล่นงานจนสาหัส และจากสถานการณ์ผู้ถูกเล่นงานก็ควรมีแค่ชายหนุ่มคนเดียว
ท่ามกลางเสียงพูดคุยของกลุ่มคน เสียงการต่อสู้ในทางแคบเริ่มเบาลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเลือนหายไป
“เหมือนเจ้าสำนักเถาจะฆ่าไอ้หนุ่มนั่นได้แล้ว คิดเอาไว้ไม่ผิดว่าคงทนได้ไม่นาน”
“ทางฝั่งนี้ก็คงใกล้จบแล้วเหมือนกัน เถาหรูไห่จัดการชายคนนั้นเรียบร้อย กลับมาทางนี้เมื่อไหร่ก็คงกวาดล้างหอคันธะสงัดจนเกลี้ยงแน่”
“น่าเสียดาย ผู้หญิงหอคันธะสงัดสวยกันขนาดนี้ แต่กลับต้องมาทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี่ เถาหรูไห่ไม่เด็ดดมทว่าทำลายทิ้ง ใจเหี้ยมไม่น้อยเลย”
เสียงการต่อสู้เลือนหาย กลุ่มคนทราบดีว่าศึกในทางแคบจบลงแล้ว ส่วนใครจะชนะหรือแพ้ พวกเขาไม่คิดให้มากความ เถาหรูไห่อยู่ขอบเขตแปรสภาพขั้นกลาง หากคิดจัดการคนหนุ่มที่ไม่รู้ที่มาที่ไปก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องขำขัน
ด้านพวกหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ทั้งสามที่คอยสนใจการต่อสู้ในทางแคบอยู่ตลอด เมื่อพบว่าเสียงการต่อสู้เลือนหายรวมกับความเห็นของกลุ่มคนที่ดูอยู่ ใจพวกเธอจึงยิ่งกังวล หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ที่กำลังต่อสู้ถึงกับเสียสมาธิ เหล่าศิษย์สำนักเที่ยงยุทธ์ที่ปิดล้อมเล่นงานจึงสบโอกาสเล่นงานไปหลายฝ่ามือ ทำให้เธอต้องแบกรับอาการบาดเจ็บไม่ใช่น้อย
แต่ตอนนี้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตน สายตาของเธอยังเอาแต่จ้องไปยังทางแยกดังกล่าว ในใจนั้นภาวนาขอเพียงว่าอย่าได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอู๋ฝาน
ไม่นานก็ปรากฏร่างหนึ่งเดินออกมาจากทางแยก เมื่อเห็นคนที่เดินออกมาด้วยท่วงท่าไม่รีบร้อน บรรดาผู้ชมในพื้นที่ถึงกับต้องชะงัก
ทำไมถึงเป็นเขา?!
—————————————————-