“อย่าคิดว่าตระกูลโจวเอาเปรียบเจ้า สินสอดที่ตระกูลเซียวเตรียมมาให้ตระกูลโจวนั้น แน่นอนว่าตระกูลโจวต้องมีมากกว่า” โจวถิงยิ้มออกมา “ตระกูลเซียวของเจ้า ข้าล่ะมองไม่เห็นทางจริงๆว่าตระกูลเซียวจะทำยังไง”
เซียวเหยียนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ใช่ ผู้อาวุโสพูดถูก” เซียวเหยียนเงียบไปชั่วครู่และพูดขึ้นมา “แต่…ตอนนี้ผู้น้อยยังไม่ได้โด่งดังนัก ข้ายังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน!”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น โจวถิงก็แสดงสีหน้าเย็นชาออกมา “เจ้าหมายความว่ายังไง? เจ้าอยากกลับคำพูดงั้นรึ? เด็กน้อย อธิบายออกมาให้ชัดเจน ไม่งั้นแล้วแม้ว่าเจ้าจะเป็นคนของสำนักคังเฉียง แต่ข้าคนนี้ก็ไม่ปล่อยเจ้าไปแน่! หลานสาวของข้าไม่อาจจะถูกเอาเปรียบได้ง่ายๆ!”
“ผู้อาวุโสใจเย็นๆก่อน ข้าไม่ได้หมายถึงแบบนั้น” เซียวเหยียนเหงื่อตกและรีบอธิบายออกมาทันที “ข้าแค่คิดว่าเรายังเด็ก มันยังไม่ถึงวัยที่จะแต่งงาน ข้ายังไม่ประสบความสำเร็จอะไร มันไม่ยุติธรรมที่โจวซินเอ๋อร์จะมาแต่งงานกับข้าในตอนนี้ ข้าคิดว่าเมื่อข้าโด่งดังมากพอ ข้าจะจัดงานแต่งที่หรูหราให้กับนาง มันดีกว่าการเร่งรีบแต่งในตอนนี้ หากผู้อาวุโสไม่สบายใจ ข้าสามารถหมั้นกับโจวซินเอ๋อร์ก่อนได้ เมื่อถึงเวลาที่ควรข้าจะแต่งงานกับนางอย่างแน่นอน”
หลังจากนั้นเซียวเหยียนก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว “ผู้อาวุโสสบายใจได้ ในชีวิตนี้ข้าไม่มองใครอื่น นอกจากโจวซินเอ๋อร์อย่างแน่นอน”
เมื่อเห็นสีหน้าจริงใจของเซียวเหยียน โจวถิงก็ใจอ่อนขึ้นมาเล็กน้อย เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าเชื่อในคำพูดของเจ้าจากก้นบึ้งหัวใจ แต่อายุของเจ้าใช่ว่าจะน้อย ข้าคิดว่าเมื่อเจ้าแก่ตัวไป เจ้าจะได้มีลูก เจ้าจะไม่ต้องกังวลอะไรอีก สำหรับการแต่งงานแล้ว การแต่งงานกับองค์หญิงของราชวงศ์ แม้แต่ขอทาน แน่นอนว่ามันต้องเป็นงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่”
โจวซินเอ๋อร์คือเพชรของราชวงศ์โจว งานแต่งงานของนางจะไม่ยิ่งใหญ่ได้ยังไง?
“ข้ายังคงยืนยันคำพูดเดิม เจ้าต้องแต่งงานให้เร็วที่สุด เรื่องอื่นไม่ต้องกังวล อย่าคิดว่าข้าจะยื่นข้อเสนอนี้อีก หากเจ้าไม่ตกลง แม้ว่าเจ้าจะยกทั้งตระกูลเซียวให้กับเรา แต่ราชวงศ์ก็ไม่สนใจ!” โจวถิงดื้อด้านอย่างมาก เรื่องที่เขาตัดสินใจไปแล้ว เขาจะไม่เปลี่ยนใจ
ยิ่งเขารู้จักเซียวเหยียนมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตะลึงไปกับพรสวรรค์ของเซียวเหยียนมากเท่านั้น อัจฉริยะแบบนี้หากไม่รีบผูกมัดกับราชวงศ์ไว้แต่เนิ่นๆ คงทำให้โจวถิงกังวล
เขาไม่ได้สงสัยในความจริงใจที่เซียวเหยียนมีต่อโจวซินเอ๋อร์ แต่ทุกอย่างต้องจัดการให้เสร็จ หากมีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้น ราชวงศ์จะไม่เสียสุดยอดอัจฉริยะไปหรือไง ?
วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้เซียวเหยียนแต่งงานกับโจวซินเอ๋อร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ดังนั้นราชวงศ์จึงจะสบายใจได้
โจวถิงคิดเรื่องนี้มานานแล้ว เขาไม่ใช่แค่คิดในเรื่องความสุขของโจวซินเอ๋อร์ แต่ยังคิดถึงผลประโยชน์ของตระกูลด้วย หากเขาต้องแลกความสุขของโจวซินเอ๋อร์เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล งั้นเขาก็คงต้องทบทวนใหม่ เขาไม่อาจจะปล่อยให้ผลประโยชน์มาทำลายความสุขของโจวซินเอ๋อร์ได้
เมื่อได้ยินคำพูดของโจวถิง เซียวเหยียนก็เงียบไป หากเขาถูกคนอื่นบังคับแต่งงาน แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นพ่อของเขา แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อฟัง นี่ไม่ต้องนับโจวถิงเลย
โจวถิงเป็นบรรพบุรุษของโจวซินเอ๋อร์ เป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรโจว การปฏิเสธเขาก็อาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดได้
เซียวเหยียนไม่อาจจะตกลงหรือปฏิเสธได้ เขาไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไง
ในตอนที่เซียวเหยียนสับสนอยู่นั้น โจวซินเอ๋อร์ เซียวติงและเซียวจ้านเทียนก็มาถึง
“พี่เซียวเหยียน!”
โจวซินเอ๋อร์เห็นหน้าที่เหมือนกับหมูของเซียวเหยียนจากไกลๆ นางอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความแปลกใจ นางรีบวิ่งไปหาเซียวเหยียนและสลดขึ้นมาทันที “บรรพบุรุษโหดร้ายแบบนี้ได้ยังไง ท่านทำร้ายพี่เซียวเหยียนได้ยังไง? เร็วเข้า รีบกินยาฟื้นฟูก่อน”
โจวซินเอ๋อร์ไม่ได้สนใจโจวถิงที่อยู่ข้างๆ นางรีบเอาขวดยาออกมาจากแขนเสื้อ แล้วเปิดฝาออกเทยาที่ระเบิดกลิ่นหอมออกมา
เมื่อเซียวเหยียนกินยาฟื้นฟูเข้าไป โจวซินเอ๋อร์ก็หันไปมองโจวถิงและฮึดฮัดออกมา “บรรพบุรุษท่านทำแบบนี้กับพี่เซียวเหยียนได้ยังไง?”
เซียวติงและเซียวจ้านเทียน เห็นสภาพที่น่าอนาถของเซียวเหยียนก็สลดไปเช่นกัน ชัดแล้วว่าบาดแผลพวกนี้เกิดขึ้นจากโจวถิง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้
“หลานรักไม่ต้องกังวลไป พี่เซียวเหยียนของเจ้าบาดเจ็บแค่ภายนอก” โจวถิงพูดขึ้น “เขายังเด็ก การบาดเจ็บพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดา มันไม่ต้องกินยาฟื้นฟูด้วยซ้ำ ยิ่งกว่านั้นเราก็ไม่ได้สู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย มันจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ยังไงกัน?”
เห็นได้ว่าเขารักโจวซินเอ๋อร์มากแค่ไหน หากเป็นคนอื่น เขาคงตบอีกฝ่ายไปแล้ว เขาจะมาอดทนอธิบายเหตุผลให้อีกฝ่ายฟังได้ยังไง?
เซียวติงและเซียวจ้านเทียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หากมันเป็นบาดแผลภายนอก ก็พอรับได้
“แต่ท่านก็ไม่ควรลงมือหนักแบบนี้!” โจวซินเอ๋อร์แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา
โจวถิงอดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมา “จากที่เจ้าพูดมา งั้นครั้งหน้าข้าจะเบามือกว่านี้คงไม่เป็นไรสินะ?”
เซียวเหยียนตัวแข็งทื่อพร้อมปากที่เบะออกมา “ครั้งหน้ารึ?”
โจวซินเอ๋อร์ไม่ได้ยินที่โจวถิงพูดขึ้น และคิดว่าโจวถิงยอมรับว่าตัวเองผิด นางได้เผยรอยยิ้มออกมา “ดีแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน…” เซียวเหยียนอยากจะพูดบางอย่างออกมา แต่เมื่อเห็นสายตาของโจวถิงเขาก็ต้องกลืนคำพูดของเขาลงไป
“พี่เซียวเหยียน เจ้าจะพูดอะไรรึ?” โจวซินเอ๋อร์หันไปถามเซียวเหยียน
ภายใต้สายตาของโจวถิง เซียวเหยียนได้แต่รู้สึกกลัว เขารีบกลืนน้ำลายและส่ายหน้าทันที “ไม่ ไม่มีอะไร”
โจวถิงยิ้มออกมาอย่างพอใจและแอบคิดในใจ “เด็กดี!”
“ดี เซียวเหยียน ข้าขี้เกียจพูดไร้สาระกับเจ้าแล้ว ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง สิ่งที่ข้าเสนอไปก่อนหน้านี้เจ้าคิดว่ายังไง?” โจวถิงคิดให้เซียวเหยียนและโจวซินเอ๋อร์แต่งงานกัน แม้ว่าเขาจะพูดเรื่องอื่นเมื่อครู่ แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาที่เรื่องเดิม “ข้าขอออกตัวก่อน เจ้ามีโอกาสแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียว หากเจ้าพลาดไป มันก็จะไม่มีโอกาสให้กับเจ้าเป็นครั้งที่สอง ! ”
นี่คือคำขู่ เขาใช้โจวซินเอ๋อร์มาขู่เซียวเหยียน
แต่เซียวเหยียนไม่มีทางเลือกเลย
“ท่านบรรพบุรุษ พี่เซียวเหยียน พวกท่านพูดถึงเรื่องอะไรกัน?” โจวซินเอ๋อร์รู้สึกว่าบรรยากาศนั้นผิดปกติ นางอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
โจวถิงคิ้วขมวดและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หลานรัก เงียบก่อน ให้เซียวเหยียนพูดออกมาก่อน!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น โจวซินเอ๋อร์ก็อ้าปากจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายนางก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา นางโวยวายออกมาได้แม้ว่าจะทำให้โจวถิงโกรธก็ตาม ซึ่งมันก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่หากโจวถิงโกรธขึ้นมานางก็ยังคงกังวล จักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรโจว หากโกรธขึ้นมาแล้ว คงไม่มีใครในราชวงศ์ที่ห้ามเขาได้
เซียวเหยียนมองไปที่โจวซินเอ๋อร์ ในหัวของเขานั้นจำโจวซินเอ๋อร์ได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของนางมักเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่น่าเอ็นดู
แม้จะรู้ว่าโจวถิงแค่ขู่เขา แม้ว่าเขาจะปฏิเสธจริงๆ แต่โจวถิงก็ไม่มีทางห้ามเขาไม่ให้อยู่กับโจวซินเอ๋อร์ได้ แต่เซียวเหยียนไม่กล้าที่จะเสี่ยง แม้ว่าจะมีโอกาสแค่ 1 ใน 100 ที่จะเสียนางไป แต่เขาก็ไม่กล้ารับความเสี่ยงนั้น
ในโลกนี้มีเพียงสามคนที่เขาไม่อาจจะปล่อยไปได้ คนเหล่านั้นล้วนแต่มีความสำคัญในใจเขา คนแรกคือพ่อเขา เซียวติง คนที่สองคือโอวเสินเฟิง และอีกคนคือโจวซินเอ๋อร์!
เซียวเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองไปที่โจวถิง แล้วพูดขึ้นอย่างใจเย็น “ผู้อาวุโส ข้ารับปาก ภายใน 1 เดือน ผู้น้อยจะไปยังเมืองหลวง ภายใน 1 ปี ข้าจะจัดการเรื่องโจวซินเอ๋อร์ให้เสร็จสิ้น” หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่โจวซินเอ๋อร์และถามขึ้นมาเบาๆ “ซินเอ๋อร์เอ๋อ เจ้าจะแต่งงานกับข้ารึไม่?”
โจวซินเอ๋อร์อึ้งกับฉากนี้ นางแทบไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น
อยู่ๆสายตาของนางก็พร่ามัวลง นางพึมพำออกมา “พี่เซียวเหยียน…”
อยู่ๆก็เกิดความสุขที่นางไม่คาดคิดขึ้นมา
โจวซินเอ๋อร์ไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันนี้จะมาถึงเร็วแบบนี้ นางยังไม่ทันได้เตรียมตัวรับการขอแต่งงานเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นว่าโจวซินเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เซียวเหยียนก็เริ่มกังวล “ซินเอ๋อร์เอ๋อร์”
แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าโจวซินเอ๋อร์รักเขา แต่เมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวล
โจวซินเอ๋อร์ได้สติขึ้นมา ปากของนางสั่นไหวเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นมา “ อื้อ ! พี่เซียวเหยียน ซินเอ๋อร์เอ๋อร์เต็มใจ !”
“ขอบคุณ ขอบคุณมาก ซินเอ๋อร์” เซียวเหยียนกุมมือของโจวซินเอ๋อร์เอาไว้ ใบหน้าของเขาสดใสราวกับว่านี่คือวันที่ดีที่สุดของเขา
เซียวติงและเซียวจ้านเทียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความยินดี
“เหยียนเอ๋อร์จะแต่งงานทั้งๆที่อายุยังไม่ได้เยอะเลย!” เซียวติงตื่นเต้น “หยางจิง เจ้าเห็นหรือไม่ ลูกของเราจะแต่งงานแล้ว เขามีมุมมองเหมือนกับข้า และเขาต้องมีความสุขกว่าเราแน่ ! ”
สำหรับโจวซินเอ๋อร์แล้ว เซียวติงพอใจกับนางอย่างมาก นางดีต่อเซียวเหยียน นางคอยดูแลเขามาตลอดหลายปี
ไม่ว่าจะเป็นด้านนิสัย, พรสวรรค์หรือชาติตระกูลของโจวซินเอ๋อร์ ต่างก็โดดเด่นหมด โดยเฉพาะตระกูลของนางเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ การที่เซียวเหยียนได้แต่งงานกับโจวซินเอ๋อร์นั้น ถือว่าเป็นเกียรติของเซียวเหยียน และยกระดับตระกูลเซียวขึ้นมา